homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซอสแอปเปิ้ล

เล่าเรื่องอาหาร โดย ป้าหึ่ง # 1
ก็ได้ล่วงเลยผ่าน เทศกาลแห่งความมันส์ในแบบไทยๆที่เรียกว่า “สงกรานต์”มาได้สักพักนึง “ป้าหึ่ง” เองก็เชื่อว่าหลายคนก็ได้กลับมาสะสางงานหลังจากหยุดไปยาวกันอย่างเมามันส์ วันนี้ ป้าหึ่งก็เลยจะพาพักผ่อนหย่อนใจ หลังจากเลิกงาน แต่คราวนี้พิเศษหน่อยค่ะ เพราะเรามี Sponsor ที่น่ารักมากมายก็คือ “น้ำตาลมิตรผล”นั่นเอง แหมไหนๆก็มี Sponsor ทั้งทีงานนี้ป้าหึ่งก็ขอไปร้านที่มันดูดีมีชาติตระกูลนิดนึง  ก็เลยพามาร้านเด็ดร้านนึงแถวย่านอารีย์ คิดว่าหลายคนคงรู้จักดีคือ “ร้านปลาดิบ (Pla Dib)” ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 7
Pla Dib เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์มีคอนเซ็ปต์การตกแต่งในสไตล์ Minimalism คือดูเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเป็นกันเองออกสไตล์กึ่งญี่ปุ่นหน่อย ภายในโชว์โครงสร้างเพดานเปลือยและผนังปูนที่เน้นถึงความดิบ ใช้เฟอร์นิเจอร์งานไม้ดีไซน์เรียบแต่เก๋มากๆ

พอถึงหน้าร้านก็พบ กับสาวน้อยแก่นเซี้ยวมายืนต้อนรับด้วยรอยยิ้ม นามว่า “คุณโอ๊ค” Vikanda Pirom วิกันดา ภิรมย์ ต้องบอกก่อนว่าคุณโอ๊คเธอเป็นเจ้าของร้านปลาดิบ หลังจากที่ป้าหึ่งใช้ความสนิทส่วนตัวกอดแข้งกอดขาร้องไห้ขอร้องเธออยู่นาน
 
จนคุณโอ๊คเธอยอมที่จะเปิดเผยเคล็ดลับวิธีทำเมนูเด็ดของร้านถึง 3 เมนู แต่วันนี้ป้าหึ่งนำมาให้ได้ชมกันก่อน 1 Menu ซึ่งก็คือ
ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซอสแอปเปิ้ล
(Smoke BarB-Q Rib with Apple Sauce)

 
ส่วนผสมซอสบาร์บีคิว ซอสพริก  1 ถ้วยตวง
 ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วยตวง
 น้ำผึ้ง      3/4 ถ้วยตวง
 ซอสเปรี้ยว  1 ช้อนโต๊ะ
 ริควิดสโมก 1 ช้อนโต๊ะ
 ซีอิ้ว          1 ช้อนโต๊ะ
 มิตรผลไซรัป (Mitr Phol Syrup) 1 ช้อนโต๊ะ


ส่วนผสมแอปเปิ้ลซอส แอปเปิ้ล 1 ลูก
 น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ปั้นให้เข้ากันใส่เกลือเล็กน้อย


วิธีการทำซี่โครงหมุย่างบาร์บีคิว ซอสแอปเปิ้ล
นำ ซี่โครงหมูอ่อนหมักเกลือพริกไทยเล็กน้อย นำไปเข้าเตาอบไฟปานกลางประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จแล้วนำไปย่างกับเตาย่างไฟอ่อนๆ เพื่อจะได้กลิ่นความหอมในการย่างมากขึ้น หลังจากนั้นก็ทำซอสบาร์บีคิวที่มีส่วนผสมของ มิตรผลไซรัป (Mitr Phol Syrup) เพื่อเพิ่มความหอม เพราะน้ำเชื่อมตัวใหม่นี้ มีกลิ่นหอมมาจากอ้อยธรรมชาติ 100 % ใช้ก็ง่าย สะดวก ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและพลังงานในการเคี่ยวน้ำเชื่อม เหมือนเมื่อก่อน ที่ต้องเตรียมน้ำตาลมาละลายน้ำ   หลังจาก ได้ซอสบาร์บีคิวแล้ว ทาลงบนซี่โครงที่กำลังย่างอยู่ในเตาย่าง จนสุกได้ที่แลัวนำเสิร์ฟพร้อมซอสแอปเปิ้ลที่เตรียมไว้

แหมทำเสร็จแล้วป้า หึ่งก็ต้องขอชิมกันหน่อยล่ะค่ะ กระดูกหมูที่ทางร้านใช้เนี่ยต้องบอกเลยว่าคัดสรรมาอย่างดีค่ะ เลือกกระดูกหมูที่เป็นกระดูกอ่อนครึ่งนึงให้ท่านได้บริหารกราม เคี้ยวกรุบกรอบกันไป แล้วก็เป็นกระดูกที่สามารถแทะได้อีกครึ่งนึง ได้สองอรรถรสในจานเดียว กลิ่นของอาหารจานนี้เตะจมูกปากซะเทียบหน้าหงาย เพราะกลิ่นเย้ายวนของเครื่องเทศผสมผสานกับกระดูกหมูมันสุดๆจริงๆ ส่วนรสชาติก็เข้มข้น หวานกำลังดีมีรสซ่อนเปรี้ยวนิดๆ แหมเรียกได้ว่ากินกันไม่มีเบื่อค่ะ
เท่านี้ก็ได้ ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซอสแอปเปิ้ล สูตรเด็ดของร้านปลาดิบ ไปลองทำกันแล้วค่ะ
แต่ แหมจะให้ดียังไงก็ต้องไปลองต้นตำรับเค้าเองเลยที่ “ร้านปลาดิบ” แล้วคราวหน้าป้าหึ่งจะนำอีกสองเมนูที่เหมาะกับสุขภาพอย่างเราๆ มาเปิดเผยนะค่ะ ทาง มิตรผล เค้าฝากบอกมาอีกว่า ถ้าอยากได้สูตรอะไรเพิ่มเติม เอาไปฝึกทำกันละก็ ร่วมสมัครเป็น Fan ได้ที่นี่ได้เลย
www.facebook.com/sugarinspiration  แต่วันนี้คงต้องขอลาไปก่อนค่ะ อย่าลืมติดตามป้าหึ่งน่ะคะ บ๊ายบาย

ปล.ขอบคุณ Sponsor ของป้าด้วยนะค่ะ
โหระพาดอทคอม

ปลาจอนโดรีซัลซ่ามะม่วง (Grilled John Dory with Mango Salsa)


กลับมาพบกันอีกแล้วนะค่ะหลังจากที่เราพาไป ร้านปลาดิบ กับป้าหึ่ง

ในขณะที่ประเทศไทยกำลัง “เล่นกีฬาสี” แบ่งสีโน่นสีนี้กันอย่างสนุกสนาน เราไม่สนใจก็ยังคงต้องพาไปกิน กิน และก็กินกันต่อไปค่ะ

คิดว่าทุกคนยังจำกันได้นะค่ะว่า คราวที่แล้ว น้ำตาลมิตรผล Sponsor ผู้ใจดี ได้ให้โอกาสป้าหึ่ง พาคุณๆไปชิมและเปิดเมนู “ร้านปลาดิบ (Pladib)  และป้าหึ่งยังติดค้างเมนูจากร้านปลาดิบ อีก 2 เมนูนะค่ะ แต่ตอนนี้ขอเคลียร์ปัญหาคาใจอย่างนึงก่อนค่ะ หลายคนคงสงสัยว่าป้าหึ่งเป็นใคร ก็ขอชี้แจงตรงนี้ให้รู้กันไปเลย ป้าหึ่ง ก็เป็นแค่ป้าสวยๆคนนึงไม่ได้มีเชื้อเจ้าแต่อย่างใด แต่บังเอิญที่คนที่ชอบทานและชอบเขียนแถมมีจิตใจดีงาม จึงชอบนำร้านดีๆมาฝากลูกๆหลานๆกัน  ก็อย่ามัวพูดพร่ำทำเพลงกันอยู่เลย เรามาเริ่มที่เมนูสอง แหมป้าหึ่งก็ได้นั่งเลียบๆเคียงๆ ถาม “คุณโอ๊ค” เจ้าของร้านปลาดิบ ว่ามีเมนูอะไรที่เด็ดๆ อีกบ้างที่อยากจะนำเสนอ คุณโอ๊คถึงจะนิ่งอึ้งไปเป็นนาที เพราะเมนูร้านนี้เธอบอกเลยว่าเด็ดทุกเมนู ไม่ใช่เมนูที่หาทานได้ตามร้านทั่วไป ลูกค้าประจำแต่ละท่านที่มาก็มีเมนูในดวงใจไม่เหมือนกัน เธอเลยไม่รู้จะนำเสนอ เมนูไหนดี โอ๊ย!! ฟังดูดีมากๆป้าหึ่งเองก็ยังสงสัยว่ามันขนาดนั้นเลยเหรอ บอกตรงๆถึงแม้ป้าหึ่งจะสนิทกับShe แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป้นไม้ค่ะ ด้วยความแสนรู้ของป้าหึ่งก็ได้มองสำรวจไปรอบๆ ก็พบจริงๆว่าแต่ละโต๊ะสั่งอาหารไม่เหมือนกันเลย แต่มีเมนูนึงที่สะดุดตาป้าหึ่งมากๆ เห็นแว่บๆ ก็พอจำแนกได้ว่าเป็นปลาเนื้อขาว ป้าหึ่งไม่รอรี ถามคุณโอ๊คทันที ก็ได้รับคำตอบว่าเป็น "ปลาจอนโดรีซัลซ่ามะม่วง" ไม่ถึงสิบนาที "ปลาจอนโดรีซัลซ่ามะม่วง" ก็มาจอดที่โต๊ะป้าหึ่ง

ต้องขอบรรยายหน้าตากันก่อนเลยค่ะ จานนี้พระเอกก็จะอยู่ที่เจ้าปลาจอนโดรี ปลา จอนโดรีนั้นเป็นปลาทะเลเนื้อขาว พบได้ในทะเลแถบยุโรป เป็นปลาที่รูปร่างประหลาด ลำตัวแบนเป็นรูปวงรี เนื้อปลามีสีขาว เนื้อแน่น อร่อย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการนำมาทอดน้ำมัน เพราะเวลาทอดแล้วเนื้อก็ยังแน่นไม่เละเหมือนปลาทั่วไป ซอสที่ราดก็ใส่ มะม่วงสุก  แตงกว่าญี่ปุ่น มะเขือเทศ หั่นเป็นลูกเต๋า ทำให้สีสันสดใส เหลือง เข๊ยว แดง สลับกัน ดูและเพลินตามากๆค่ะ มาพูดถึงรสชาติกันบ้างดีกว่า เนื้อปลาจอนโดรีที่ ร้านปลาดิบใช้นั้นสดมาก เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาวที่ไม่น่าพิศมัยหลงเหลืออยู่เลย ซอสที่ราดก็รสชาติเข้มข้นใช้ได้แถมยังหอมพริกไทยดำ แต่ถึงแม้รสชาติจะเข้มข้นขนาดนี้ แต่มิได้กลบรสชาติอ่อนของปลาแต่อย่าใด มะม่วงสุกเองก็เข้าได้กับปลามากๆ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวจริงๆ 

อ๊าว รอช้าอยู่ใย ได้เวลามาเปิดเผยเมนู กันสักทีสำหรับ



"ปลาจอนโดรีซัลซ่ามะม่วง" Grilled John Dory with Mango Salsa

นำปลาจอนโดรีชุบแป้งทอดในน้ำมันให้สุกพอเหลืองจากนั้นก็นำมาพักไว้ แล้วราดด้วยสลัดมะม่วงที่ปรุงเอาไว้ แต่งด้วยวิปปิ้งครีม
ส่วนผสม
มะม่วงสุก  แตงกว่าญี่ปุ่น มะเขือเทศ หั่นเป็นลุกเต๋า ปริมาณเท่าๆกัน

วิธีทำ
ใส่ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ เล็กน้อย พริกไทยดำ 1 ช้อนชา และน้ำส้มบอลซามิก 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน มิตรผลไซรัป (Mitr Phol Syrup) 1 ช้อนชา

แค่นี้วิปปิ้งครีมสุดอร่อย ที่รสชาติกลมกล่อมด้วยกลิ่นอ้อยธรรมชาติและส่วนประกอบอื่น ๆ ก็พร้อมเสิร์ฟ แล้วค่ะ

เป็น ไงบ้างล่ะค่ะกับเมนู ที่ 2 ของร้านปลาดิบกับป้าหึ่ง แต่ยังไม่หมดเท่านั้น ต้องรอติดตาม เมนูที่ 3 จะเป็นอะไรนั้นต้องรอลุ้นกันค่ะ แต่ก่อนจากกันนี้ ป้าหึ่งก็ขอแอบเชียร์ Sponsor ที่น่ารักของป้าหึ่งกันหน่อย ใครที่ถ้าอยากได้สูตรอาหาร เคล็ดลับต่างๆนา เข้าไปที่นี่ได้เลยจ๊ะ
www.facebook.com/sugarinspiration วันนี้ป้าหึ่งพิมพ์ซะเมี่อยนิ้วไปหมดแล้ว ขอตัวก่อนละกันนะค่ะ พบกันอีกเมื่อชาติต้องการค่ะ ^^
ปล.ขอบคุณ Sponsor ของป้าด้วยนะค่ะ
ขอขอบคุณ โหระพาดอทคอม

ออมเลตชนิดนุ่ม








ส่วนผสม










ปลาแซลมอน น้ำหนัก 175 กรัม 1 ชิ้น
เนยสดชนิดเค็ม 4 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม 12 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 4 ฟอง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
พริกไทยดำป่น 1/4 ช้อนชา
เชดด้าชีสขูด 1/3 ถ้วย
วอเตอร์เครสสำหรับแต่ง
อะลูมินั่มฟอยล์

วิธีทำ
1. ห่อเนื้อปลาแซลมอนด้วยอะลูมินั่มฟอยล์ นำเข้าเตาอบที่อุ่นเตาแล้วอุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส อบนาน 10 นาทีหรือจนสุก ยกออกจากเตา แกะอลูมินั่มฟอยล์ แล้วลอกเอาหนังปลาและเลาะก้างออก จากนั้นใช้ส้อมซุยเนื้อปลาให้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถ้วยพักไว้

2. ใส่เนย 2 ช้อนโต๊ะ กับวิปปิ้งครีม 4 ช้อนโต๊ะลงในกระทะ ตั้งไฟอ่อนพอละลาย จากนั้นใส่เนื้อปลาแซลมอนที่ทำลงไป คนพอเข้ากัน ยกลงพักไว้ให้เย็น

3. ต่อยไข่ใส่อ่างผสมที่แป้ง แยกไข่ขาวและไข่แดง โดยตีไข่แดงกับวิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะในอ่างผสม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย แล้วเทลงในเนื้อปลาที่ทำไว้ คนพอทั่ว

4. ตีไข่ขาวลงในอ่างผสมอีกใบที่แห้ง ตีด้วยตะกร้อแรงๆจนขึ้นฟูและตั้งยอดแข็ง แล้วเทลงในเนื้อปลาที่ผสมกับไข่แดง คนเบาๆให้ทั่ว พักไว้

5. ผสมเชดด้าชีสกับวิปปิ้งครีมที่เหลือลงในอ่างผสม คนให้เข้ากัน พักไว้

6. ใส่เนยที่เหลอลงในกระทะเทฟล่อนใบเล็ก ตั้งไฟอ่อน พอเนยละลายและร้อน เทส่วนผสมเนื้อปลาที่ผสมกับไข่แดงและไข่ขาวลงไป ทอดพอสุกจนผิวด้านล่างเป็นสีน้ำลาล เทส่วนผสมชีสกับวิปปิ้งครีมลงด้านหน้า นำเข้าเตาอบ อบเฉพาะไฟบนที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10 นาที หรือจนไข่ฟูขึ้น ยกออกจากเตา

7. จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยวอเตอร์เครส เสิร์ฟ
ขอบคุณ โหระพาดอทคอม

คอกเทลแซนวิซแฟนซี




ส่วนผสม
ส่วนผสมแซนวิซไส้ไข่กวนกับแฮม     
1.ขนมปังโฮลวีตตัดขอบทั้ง 4 ด้าน  14  แผ่น 
2.ไข่ไก่  3  ฟอง 
3.วิปครีม (แบบที่ยังไม่ได้ตีให้ขึ้น) หรือนมข้นจืด  2-3  ช้อนโต๊ะ 
4.เนย  1  ช้อนโต๊ะ 
5.แฮมต้มสุก  3  ชิ้น 
6.พริอไทยและเกลือสำหรับปรุงรสตามใจชอบ     
7.ผักกาดหอม     

ส่วนผสมแซนวิซไส้กุ้ง     
1.ขนมปังโฮลวีตตัดขอบทั้ง 4 ด้าน  14  แผ่น 
2.กุ้งปอกเปลือกลวกสุก  900  กรัม 
3.คึ่นฉ่ายหั่นละเอียด  1  ถ้วย 
4.มายองเนส  6  ช้อนโต๊ะ 
5.มัสตาร์ด  1  ช้อนชา 
6.เนย  3  ช้อนโต๊ะ 
7.ไส้กรอกแบบกลมหั่นบาง  1  ถ้วย 


วิธีการทำแซนวิซไส้ไข่กวนกับแฮม1.ตีไข่กับวิปครีมหรือนมข้นจืดเล็กน้อย ใส่พริกไทยและเกลือ คนให้เข้ากัน
2.ตั้ง กะทะก้นแบน ใช้ไฟอ่อนปานกลาง ใส่เนย แล้วเทส่วนผสมของไข่ลงไป คนไข่เบาๆ จนจับกันเป็นก้อนเล็กๆ จะได้ไข่เป็นปุยๆ อ่อนนุ่มแล้วยกลง
3.นำผักกาดหอมวางบนขนมปังตามด้วยแฮมต้มสุกและไข่กวนปิดด้วยขนมปังโฮลวีตแต่ละคู่ และตัดทแยงมุมเป็นชิ้นสามเหลี่ยม

วิธีการทำแซนวิซไส้กุ้ง1.หั่นกุ้งเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่มายองเนส มัสตาร์ดและคึ่นฉ่าย พอเข้ากันแล้วนำไปแช่เย็น
2.ทาเนยบนขนมปัง
3.ตักไส้กุ้งที่แช่เย็นไว้นั้น ทาขนมปังให้ทั่วแผ่น ตกแต่งด้วยไส้กรอก ประกบด้วยขนมปังอีกแผ่น ตัดทแยงมุมเป็น 2 ชิ้น 

ตามติดความอร่อยแบบมีสไตล์อย่างนี้ได้ที่ www.goodfoodgoodlife.in.th

ซุปไก่บล็อกโคลี่




ส่วนผสม
นมพร่องมันเนย  120  กรัม 
แป้งข้าวโพด  2  ช้อนโต๊ะ 
เนื้อไก่ฉีกหรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ  55  กรัม 
น้ำสต๊อกไก่หรือน้ำต้มกระดูกไก่  1  ถ้วย 
เนย  2  ช้อนชา 
บล็อกโคลี่  1/2  ถ้วย 
มันฝรั่ง  1/4  ถ้วย 
แครอทสุก  1/4  ถ้วย 
เกลือ  1/2  ช้อนชา 
พริกไทยเล็กน้อย     


วิธีการทำ1.ผัดบล็อกโคลี่ มันฝรั่งและแครอทที่ลวกสุกแล้วกับเนย พอให้ได้กลิ่นหอม
2.เติมน้ำสต๊อกไก่ เนื้อไก่ แล้วปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตั้งไฟร้อนพอเดือด
3.เติมนมแล้วคนเบาๆต่อเนื่อง พอเริ่มเดือดให้ละลายแป้งข้างโพดกับน้ำ ค่อยๆเทลงในซุป คนให้เข้ากันรอให้เดือด ตักเสริฟร้อนๆ 

ตามติดความอร่อยแบบมีสไตล์อย่างนี้ได้ที่ www.goodfoodgoodlife.in.th