แม่เป้งไข่เจียว

credit  Life-entertain   bloggang.com
แม่เป้งไข่เจียว

ไม่ได้อัพเรื่องอาหารนานพอสมควรเพราะยุ่งเรื่องอื่น~
อาหารการกินก็ง่าย ๆ ประเภทควักตังค์จ่ายแล้วกินเลย
และไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยค่ะ เลยไม่ได้อัพบล็อกเรื่องกิน แฮ่ ๆ

แต่วันนี้มีอาหารที่อยากแนะนำ...
ที่อาจแปลกสำหรับบางคนก็ได้เน๊อะ...
เพราะมันคือ ไข่มดแดงกับแม่เป้งนะเองงงงง...



ทั้งจานนี้ซื้อมา 20 บาทเองค่ะ (ผสมกันมาทั้งไข่มดแดง+แม่เป้ง)
จริง ๆ กะจะทำยำไข่มดแดงแล้วแหละ..
แต่เห็นแม่เป้งติดมาด้วยหน่อยนึง...
เลยต้องจัดการให้หมดทั้งไข่มดทั้งแม่เป้ง..

ซูมใกล้ ๆ ทั้งไข่มดและแม่เป้ง (นางพญาไข่) ที่ยังไม่ตาย




ง่ายที่สุดกับเมนูนี้ จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากทำไข่เจียว

เตรียมวัตถุดิบนิดหน่อย:
1. ไข่มดแดง+แม่เป้ง
2. ไข่เป็ด
3. หอมแดง
4. น้ำปลา+ผงชูรส
5. น้ำมัน



วิธีทำ: จะกลายเป็นสอนจระเข้ว่ายน้ำเปล่าเนี่ย
เพราะมันง่ายและใคร ๆ ก็ทำเป็น 55
ต่อยเปลือกไข่ให้แตกลงในถ้วยนะค่ะ
จะใช้มือต่อยก็ได้ไม่ว่ากัน เหอ ๆ
แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา+ผงชูรส+เติมน้ำหน่อยนึง
ตีไข่กับเครื่องปรุงที่เราใส่ให้เข้ากัน
เสร็จแล้วก็ค่อยใส่ไข่มดแดงกับแม่เป้งและหอมแดงที่ซอยไว้ลงไปค่ะ



ตั้งกะทะใส่น้ำมัน...ให้ร้อน!!
แล้วจัดการทอดให้กรอบเลยค่ะ!!
ช่วงที่ทอดอาจได้ยินเสียงดังเปาะแปะ!! เปาะแปะ!!
ให้เข้าใจว่านั้นคือเสียง ไข่มดแดงแตก กับเสียงแม่เป้งด่า

เสร็จแล้ว แม่เป้งไข่เจียว ของเรา
กินกับข้าวเหนียวจะได้บรรยากาศชายทุ่งมาก ๆ เลยค่ะ
รับประกันว่าเมื่อกิน แม่เป้งไข่เจียวกับข้าวเหนียว เสร็จ!!
คุณจะง่วงนอน (-..-) และหลับสนิท~ จริง ๆ นะ จะบอกให้



ข้าวเหนียวไม่ว่าจะกินกับอะไรก็ทำให้ง่วงนอนได้เสมอ

o ขนมชั้น o

credit  พิรุณร่ำ  bloggang.com
o ขนมชั้น o

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง

* แป้งท้าวยายม่อม 2 ถ้วยตวง

* น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง

* น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง

* กะทิ 6 ถ้วยตวง

* น้ำดอกอัญชัญ 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำใบเตยคั้นสด,หรือใช้สีผสมอาหารตามแต่สีที่ต้องการ)

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

1. นำดอกอัญชันล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นใส่น้ำแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อเตรียมน้ำดอกอัญชัญ กรณีต้องการทำสีเขียวจากใบเตย ก็นำเอาใบเตยไปล้างให้สะอาดและนำไปปั่นใส่น้ำและกรองด้วยผ้าขาวบาง กรณีต้องการสีอื่น อาจใช้สีผสมอาหารแทน

2. นำน้ำลอยดอกมะลิไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ผสมน้ำตาลทรายลงไป คนจนละลายดีเสร็จแล้วทิ้งไว้ให้เย็น

3. นำแป้งทั้งสองชนิด ผสมกับกะทิ นวดให้เหนียว จากนั้นใส่น้ำลอยดอกมะลิที่ผสมน้ำตาลแล้ว (ขั้นตอนที่ 2) ลงไปผสมให้เข้ากัน

4. แบ่งแป้งที่ผสมแล้วออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกแบ่งไว้ทำสีขาว และส่วนที่สอง ไว้ทำสีม่วงโดยเติมน้ำดอกอัญชัน (น้ำใบเตยหรือสีผสมอาหาร)ลงไปคนให้เข้ากัน

5. นำถาดที่ต้องการ (หรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้) ใส่บนลังถึงตั้งบนไฟแรง ๆ พอน้ำเดือดเปิดฝา ตักแป้งสีขาวเทใส่ลงในถาดเกลี่ยให้ทั่วถาดบางที่สุด ปิดฝาเพื่อให้สุกประมาณ 5 นาที เปิดดูแป้งจะมีลักษณะใส จากนั้นตักแป้งสีม่วง (หรือสีที่ผสมลงไป) ใส่ลงไป อีก ทำสลับกันจนแป้งหมด (เคล็ดลับ : ควรใช้ภาชนะที่มีความจุเท่ากันในการตวงแป้งเทแต่ละชั้น เพื่อที่จะได้แป้งที่มีความหนาเท่า ๆ กัน)

6. นึ่งจนขนมสุกทั้งหมด แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจึงตัดเป็นชิ้นเพื่อเสริฟ (เคล็ดลับ : ก่อนที่จะเทแป้งเพื่อทำชั้นต่อไปทุกครั้ง จะต้องแน่ใจว่าขนมในชั้นล่างนั้นสุกแล้วจริง ๆ ไม่เช่นนั้น แป้งชั้นนั้นจะไม่สุกเลย ถึงแม้จะใช้เวลานึ่งนานเท่าใดก็ตาม)

ข้อมูลจาก:Ezy thaicooking

ไก่ไข่เทอริยากิ

credit  มอซอ  bloggang.com
ไก่ไข่เทอริยากิ

ทีแรกตั้งใจว่าจะทำไก่เทอริยากิทานกับข้าวสวย แต่ก็ดันอยากจะใส่ไข่ลงไปด้วย เลยเผลอนึกไปถึงทงคัซสึ (ข้าวหน้าหมูทอดหรือข้าวหน้าไข่ตุ๋น)
เลยคิดว่าแค่ใส่ไข่ลงไปไม่น่าจะมีอะไร

ส่วนผสมก็ใช้เท่าที่พอมีในครัว

กระเทียมสับ
ไข่ไก่
แครอทหั่นพอทาน
เนื้อไก่
พริกแห้ง

และเครื่องปรุงนอกจากน้ำมันแล้ว ก็มีเพียงน้ำมันหอย และส่วนสำคัญน่าจะเป็นซอสเทอริยากิ



ไม่แน่ใจว่าซอสเทอริยากิแต่ละยี่ห้อรสชาดจะต่างกันหรือเปล่า





ตีไข่ผสมรวมกับเนื้อไก่ก่อนดีกว่า อืม ดูๆแล้วเหมือนจะหมักไก่เลย



ตั้งเตาไฟกลางๆไม่แรงมาก ลงน้ำมันผัดกับกระเทียมสับและแครอท อยากให้แครอทไม่แข็งเกินไป ขอลงก่อนเลยละกัน



ใส่น้ำมันหอยเพื่อปรุงรสเล็กน้อยให้กับแครอท



ผัดให้น้ำมันหอยเข้ากับแครอท



เท ไข่ลงกะทะ แล้วรีบคนให้ทั่วๆ อันนี้ต้องระวังไม่ให้ไฟแรงไปเพราะเดี๋ยวกลายเป็นไข่เจียวไปซะก่อน อยากให้ไข่ออกแนวไข่ตุ๋น แล้วรีบตามด้วยซอสเทอริยากิ





และ ท้ายสุดใส่พริกแห้งลงไปผัดด้วยส่งท้าย ไม่ต้องใช้น้ำปลา น้ำตาลแต่อย่างใด อืม ยากสุดก็ตรงที่ไม่ให้แห้งเกินไปกลัวเป็นไข่เจียว และต้องให้เนื้อไก่ต้องสุกด้วย




ใน ที่สุดก็ออกมากึ่งๆ หน้าตากึ่งๆไข่ผัดถั่วงอกที่กินตามโต๊ะจีนหรือออเดิฟ แต่รสชาดนี่สิไหงดันออกมาน้องๆ ปูผัดผงกระหรี่เลย ใจจริงชอบปูผัดผงกระหรี่แต่ทำไม่เป็น คราวนี้เลยชอบๆๆๆๆๆ

และแล้วก็ได้เมนูใหม่ประจำตัวอีกเมนู ที่ทำไม่ยากแต่ทานกับข้าวสวยร้อนๆได้สบายเลย

My Cooking : Salmon + ต้มจืด + น้ำผลไม้

credit  athena_b    bloggang.com
My Cooking : Salmon + ต้มจืด + น้ำผลไม้

	นานที ปีหน จะเข้าครัวซะที เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาว่างอยู่บ้านเท่าไหร่ หรือถ้าได้อยู่ก็ขี้เกียจมาก ไปซื้อเขาทานสะดวกมากกว่า จานชามมากมายก็ไม่ต้องไปล้าง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แวะไปซื้อของวัตถุดิบมาทำอาหารดีกว่า ตามใจปาก เพราะว่าเสาร์/อาทิตย์นี้ ได้กลับบ้านมา 2 วันเลย ประวัติของตนเองไม่เคยทำอาหารจริงๆจังๆหรอก เพราะนิยมซื้อทานเป็นหลัก และที่บ้านเองก็ไม่ค่อยมีใครทำอาหารด้วย ตื่น เช้ามาบอกคุณพ่อคุณแม่ว่า ไม่ต้องออกจากบ้านไปซื้อของทานหรอก เดี๋ยววันนี้จะแสดงฝีมือทำอาหารเอง 555 แต่มีข้อแม้นะ ไม่ทราบว่าจะอร่อยหรือเปล่า แต่ก็เอาเหอะน่า ลองชิมดู มาดูเมนูแรก ต้มจืด จริงๆก็ไม่เห็นจะมีอะไรยากเย็น เลย อยากใส่อะไร ก็ใส่ลงไปในหม้อ ก็เท่านั้น นำวุ้นเส้นไปแช่น้ำก่อน เตรียมหมูสับ และต้มน้ำให้เดือด จากนั้นก็แค่นำหมูปั้นเป็นก้อน หรือไม่ก็ตักแบ่งไปต้มก่อน รอให้หมูลอยก็สุกแล้ว จากนั้นก็มาล้างผักต่างๆ เห็ด แครอท อะไรที่อยากทาน แล้วก็นำมาหั่น หรือไม่ก็ใช้มือเด็ดๆเอาก็ได้ พอหมูสุกแล้ว ก็นำผักที่เตรียม และวุ้นเส้น ใส่หม้อเลย แล้วก็ปรุงรสตามใจฉัน น้ำตาล ซอสแม็กกี้ ก็ใส่เข้าไป จบเสร็จแล้ว ทานคู่กับน้ำจิ้มซอสสุกี้ อร่อย เมนูต่อไป แซลมอน สุดโปรด ล้างปลาแซลมอลให้สะอาดก่อน เอ..... แล้วจะทานปลาแซลมอนกับอะไรดีหล่ะ งั้นก็ขอทานแบบตามใจฉันอีกเช่นกันค่ะ เพราะชอบทานแป๊ะก้วย กับลูกเดือยมาก จริงๆแล้ว แป๊ะก้วย กับลูกเดือย เขานิยมนำมาทำเป็นของหวาน แต่ไม่ ฉันอยากทานคู่กับของคาว ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ไปซื้อลูกเดือยแห้งก่อน จากนั้นนำมาแช่น้ำไว้ 1 คืน เพื่อให้มันพองๆ ฟูๆ แล้วค่อยนำไปต้มในหม้อ ว้าวน่าทาน เหนียว นุ่ม นึบ ระหว่างที่ตนเองทำกับข้าวอยู่นั้น ก็หยิบลูกเดือยมาทานเล่นๆตลอดไปด้วย ไปซื้อแป๊ก้วยมา แม้ค้าเขาบอกว่าแกะไส้ที่ขมๆออกให้แล้ว แค่นำไปต้มอย่างเดียวก็ใช้ได้แล้ว โอเคค่ะ จากนั้นก็นำปลาแซลมอนไปต้มในหม้อให้สุก จริงๆแม่ค้าบอกว่าทานได้เลย แบบ Sushi ก็ได้ แต่ไม่เอาอะค่ะ กลัว ไปต้มก่อนดีกว่า เสร็จแล้ว น่าทานมากๆ ตกแต่งอีกนิดหน่อย นำมะนาว และ แครอท มาตกแต่ง ทำเอง หิวเอง จากนั้นก็เสริฟพร้อม ซอสมะเขือเทศ กับ แม็กกี้ ก็อร่อยแล้ว มาดูเครื่องดื่มเย็นๆ กันดีกว่าค่ะ น้ำผลไม้ปั่น รับรองได้คุณค่าครบครัน ก่อนอื่นนำเมล็ดแมงลักแห้ง มาแช่น้ำก่อน ให้ฟูๆ นำผลไม้ได้แก่ ฝรั่ง แอ๊ปเปิ้ล สัปรส มะนาว มาหั่น เตรียมนมเปรี้ยว ครึ่งกล่องก็พอ เตียมผง Protein Mix Strawberry ใส่ทุกอย่างลงเครื่องปั่น ยกเว้นเมล็ดแมงลัก แยกไว้ก่อน ตอนกดเครื่องปั่น เอา.....ทำไมผลไม้ไม่ยอมหมุน ทั้งๆที่เครื่องทำงาน ปรากฏว่า ผลไม้ที่หั่นไว้ตอนแรกใหญ่เกินไป ก็เลยต้องนำมาหั่นให้ชิ้นเล็กกว่านี้ค่ะ สำหรับเมล็ดแมงลัก ตักมาใส่แก้วที่จะนำไปทานโดยประมาณ ปั่นเสร็จแล้ว ได้น้ำปั่นสีชมพูของ Strawberry รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยสัปรส แหม...โดน comment ว่า ทำไมชิ้นสัปรสมันใหญ่โตขนาดนี้ จบ เล้วค่ะ เมนูแบบบ้านๆค่ะ สำหรับมือใหม่หัดเข้าครัว คงจะอีกนานกว่าจะมีเวลาว่างมาทำอะไรแบบนี้อีก แต่เเอาเป็นว่าทุกคนในบ้าน คุณพ่อ คุณแม่ และตนเอง ทานกันหมดค่ะ