โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
9 ธันวาคม 2554 22:22 น. |
|
|
เคทีไม่รู้เลยว่า การนอนทั้งที่สวมคอนแท็กเลนส์ และใช้น้ำประปาล้างเลนส์เป็นครั้งคราว อาจทำให้ตาบอดได้ |
|
 |
เดลิเมล์ - หลายคนสารภาพว่าเคยนอนหลับทั้งยังสวมถอดคอนแท็กเลนส์ แต่หลังจากได้อ่านเรื่องนี้ พฤติกรรมนี้อาจหายไปหรืออย่างน้อยเพลาลง
เคที ริชาร์ดสัน วัย 24 ปี
พบว่าเลนส์ที่ไม่สะอาดอาจนำไปสู่อาการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการติดเชื้อที่กระจก
ตา และหากไม่รักษาอาจทำลายสายตาถาวร หรือในกรณีเลวร้ายที่สุดคือตาบอด
นักข่าวสายธุรกิจจากนอริช อังกฤษ
ยอมรับว่าบ่อยครั้งเธอหลับไปทั้งยังใส่คอนแท็กเลนส์ชนิดนิ่มแบบใส่-ถอดทุก
วันและต้องเปลี่ยนใหม่ทุกเดือนที่เธอใส่มาตั้งแต่อายุ 14 ปี
เคทียังเล่าว่า บางครั้งบางคราวเธอใช้น้ำประปาแทนที่จะเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับล้างเลนส์โดยเฉพาะ
จนมาเช้าวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม เคทีตื่นมาพร้อมอาการปวดตาข้างซ้าย
ซึ่งเธอคิดว่าเป็นอาการเยื่อตาอักเสบจึงไปซื้อยามาหยอดแต่อาการกลับแย่ลง
“น้ำตาไหลไม่หยุด รอบม่านตาแดงก่ำ ไม่นานฉันปวดตาเมื่อเจอแสง จนต้องนั่งในห้องมืดๆ เปิดทีวียังไม่ได้เลย”
เช้าวันรุ่งขึ้น อาการปวดยิ่งแย่ลง ตาเคทีคันและอักเสบจนลืมไม่ขึ้น
บ่ายวันนั้นเธอไปหาหมอประจำและหมอส่งเธอเข้าโรงพยาบาลทันทีเนื่องจากคาดว่า
เคทีเป็นโรคกระจกตาติดเชื้อจากเชื้อรา
ปกติแล้วดวงตาจะมีของเหลวหล่อเลี้ยง
ซึ่งประกอบด้วยเอนไซม์ปกป้องจากสารแปลกปลอม
นอกจากนั้นการกะพริบตายังป้องกันไม่ให้มีสิ่งใดติดอยู่บนพื้นผิวของดวงตา
แต่บางครั้งเชื้อโรคที่อยู่ในอากาศหรือน้ำสามารถฝ่าฟันทะลุชั้นป้องกันของเซลล์บนกระจกตาได้
แบคทีเรีย pseudomonas
เป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการกระจกตาอักเสบที่พบมากที่สุด
ขณะที่แบคทีเรียอันตรายที่สุดคือ acanthamoeba
พบในน้ำประปาโดยเฉพาะในพื้นที่ที่น้ำกระด้าง
และเจริญเติบโตอยู่ภายในกล่องใส่เลนส์ที่สกปรก
การติดเชื้อรามักเกิดกับคนที่เพิ่งกลับจากประเทศที่มีสภาพอากาศร้อน
ดร.ไซมอน คิลวิงตัน นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ อังกฤษ
อธิบายว่าสาเหตุที่คนอังกฤษมีความเสี่ยงกระจกตาติดเชื้อที่เกิดจากโปรโตซัว
acanthamoeba มากกว่าคนบนแผ่นดินใหญ่ในยุโรป
เนื่องจากอังกฤษใช้แทงค์กักเก็บน้ำแพร่หลายกว่า
ดร.คิลวิงตันเสริมว่า Pseudomonas และ acanthamoeba
เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสภาพแวดล้อม แต่เกิดมากในห้องน้ำ ดังนั้น
การล้างหรือแช่เลนส์ด้วยน้ำประปาจึงอาจสร้างปัญหาได้ และจริงๆ
แล้วห้องน้ำไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมในการใส่เลนส์เลยด้วยซ้ำ
ดร.คิลวิงตันยังเตือนว่าการสวมเลนส์คู่เดิมนานเกินเดือนอันตรายเช่นเดียวกัน
พาร์เวซ ฮอสเซน ผู้บรรยายอาวุโสวิชาจักษุวิทยา
มหาวิทยาลัยเซาธ์แทมป์ตัน อังกฤษ
ขานรับว่าคอนแท็กเลนส์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการกระจกตาติดเชื้อ
ซึ่งส่วนใหญ่เนื่องจากการทำความสะอาดและเก็บรักษาผิดวิธี
นอกจากนี้ อาการกระจกตาติดเชื้อยังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่อาจไม่สังเกตเห็นจนกว่าจะมีอาการปวด
ซึ่งปกติแล้วจะยิ่งปวดมากขึ้นหลังจากถอดเลนส์
อาการปวดรุนแรง การสูญเสียการมองเห็น
การรักษาที่ใช้เวลายาวนานซึ่งอาจรวมถึงการผ่าตัด
ตลอดทั้งผลกระทบที่มีต่องานและชีวิตทางสังคม
อาจทำให้ผู้ป่วยซึมเศร้าอย่างรุนแรงได้
นอกจากการแพ้แสงและปวดแล้ว อาการอื่นๆ ยังรวมถึงน้ำตาไหล
มองภาพไม่ชัด และทั้งหมดนี้จะเลวร้ายลงนอกจากได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม
กรณีของเคทีนั้น แพทย์สั่งให้หยอดยาหยอดตาสเตียรอยด์ทุก 5
นาทีในช่วง 3 ชั่วโมงแรก ก่อนขยายเป็นทุกครึ่งชั่วโมงตลอดทั้งคืน
และทุกชั่วโมงในวันรุ่งขึ้น และยังต้องปิดตาไว้ระหว่างรักษาด้วย
ทั้งนี้ งานศึกษาฉบับหนึ่งจากเนเธอร์แลนด์ในปี 1999
พบว่าผู้สวมเลนส์ชนิดนิ่มมีแนวโน้มกระจกตาติดเชื้อมากกว่าผู้สวมคอน
แท็กเลนส์ชนิดแข็งที่ก๊าซซึมผ่านได้ถึง 3 เท่า
และผู้ที่สวมเลนส์นอนมีแนวโน้มมีอาการนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 20 เท่า
เคทีนั้นยืนยันกับตัวเองว่าจะไม่ผิดพลาดซ้ำสอง
หลังจากใช้เวลารักษาและงดใส่เลนส์ 3 สัปดาห์เพื่อให้สายตากลับมาเป็นปกติ
เธอบอกว่ากำลังคิดผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธีเลสิค
“ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าสายตาฉันแย่ลงเร็วมากและอาจแย่กว่านี้ถ้ามารักษา
ไม่ทัน เพราะมีโอกาสตาบอดได้ น่ากลัวมาก ถ้ารู้เรื่องนี้แต่แรก
ฉันคงระวังมากกว่านี้”