homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

ฟื้นฟูสุขภาพแบบเร่งด่วนหลังอดนอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
health.kapook.com/view37942.html KAPOOK

ฟื้นฟูสุขภาพแบบเร่งด่วนหลังอดนอน (Twenty-four seven)

เมื่อ ไรที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนตามเวลาจะทำให้ร่างกายเสียสมดุล ส่งผลให้เจ็บป่วยง่าย สังเกตอาการเหล่านี้ อาทิ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ท้องผูก ความดันสูง-ต่ำ ไม่สม่ำเสมอซึมเศร้า หากอดนอนมาก ๆ อาจทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ จนเกิดอาการประสาทหลอนได้ แต่หากเมื่อไรที่คุณมีเหตุจำเป็นให้ต้องอดนอน ก็ต้องหันมาใส่ใจเรื่องอาหารมื้อเย็นที่จะช่วยให้เราอยู่ดึกโดยไม่หมดพลังงานไปซะก่อน

อาหารที่เหมาะกับคนอดนอนคือ อาหารอุ่น ๆ ย่อยง่าย อย่าง ข้าวต้ม โจ๊ก ปลา ผัก หากระหว่างนั้นรู้สึกหิว ให้กินผลไม้หรือโยเกิร์ต ข่มใจไม่ดื่มกาแฟให้ได้ เพราะจะไปกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว วิงเวียนศีรษะ
แม้แต่นมวัวก็ไม่ควรดื่ม เพราะมีไขมันสูง ใช้เวลาในการย่อยนาน 3-4 ชั่วโมง จะเป็นการรบกวนกระเพาะอาหาร
เมื่อ ตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกไม่สดใส แนะนำให้อาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่นจัด ๆ ประมาณ 3 นาที แล้วอาบน้ำเย็นอีก 2 นาทีสลับกันไป 3 รอบ ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น อาหารมื้อแรกควรเลือกทานข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ น้ำส้มคั้นสด ๆ องุ่นแดงทั้งเปลือก

วิธีเหล่านี้เป็นแค่การแก้ไขปัญหา ทางที่ดีไม่ควรอดนอนเลยดีกว่านะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
health.kapook.com/view37942.html KAPOOK

เปิดเคล็ดลับชะลอชรา แนะสูตรฟื้นสุขภาพทุกช่วงวัย

credit kapook.com


เปิดเคล็ดลับชะลอชรา ผู้เชี่ยวชาญแนะสูตรฟื้นสุขภาพทุกช่วงวัย (ไทยโพสต์)

เมื่อ อายุเริ่มล่วงเข้าสู่วัยกลางคน หลายคนเริ่มปรากฏอาการของความชราภาพให้เห็น กระทั่งลุกจากเก้าอี้ก็ยังยาก ขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นก็ยืนพักหายใจหอบ บางคนเกรงว่าตัวเองกำลังแก่เร็วเกินอายุจริง บางคนตัวยังไม่แก่แต่สังขารบางส่วนของร่างกายเริ่มส่อวี่แววของความสึกหรอ แม้ร่างกายยังดูเป็นปกติดี แต่ความจำและความสามารถในการคิดทำท่าเสื่อมลงตั้งแต่อายุแค่ 45

หลายคนอยากรู้ว่า อาการของตัวเองเมื่อเทียบกับวัย ถือว่าเข้าใกล้ความแก่แล้วหรือไม่ อาการอย่างไหนถือว่าปกติ แบบไหนถือว่าไม่ปกติ

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ในแต่ละช่วงวัยของคนเรานั้น สิ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่ปกติ จะผันแปรแตกต่างกันไป อวัยวะบางส่วนอาจเข้าสู่ภาวะชราภาพเร็วกว่าอายุจริงราว 5-10 ปี แต่ทั้งหมดนี้มีเคล็ดลับที่จะฟื้นฟูสภาพให้กลับคืนมาได้


ข้อต่อและหลัง

ช่วงอายุ 30-50 ปี

ปกติ : บางครั้งตื่นนอนรู้สึกปวดคอหรือปวดหลัง, หลังแข็งเมื่อขับรถนานเกิน 2 ชั่วโมง, ปวดขาเมื่อเดินนานครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง, อยากเดินไปมาหลังจากนั่งบนเก้าอี้แข็ง ๆ สักหนึ่งชั่วโมง

ไม่ปกติ : ปวดตามข้ออย่างรุนแรงหลังเดินหอบหิ้วถุงช็อปปิ้ง, ลุกนั่งเก้าอี้หรือรถเก๋งอย่างยากลำบาก

ทิม อัลลาร์ไดซ์ แห่งสมาคมโรคกระดูกอังกฤษ บอกว่า อาการเหล่านี้แสดงว่าข้อต่อหรือหลังเริ่มเสื่อมสภาพ อาจเกิดจากการบาดเจ็บ หรือขาดการออกกำลังกาย หรือนั่งผิดท่า รวมทั้งโรคอ้วน

คำแนะนำ : อย่านั่งอยู่ในท่าเดียวเป็นเวลานาน หรือนั่งตัวงองุ้มขณะใช้โน้ตบุ๊ก, เมื่อไปออกกำลังกายควรสวมรองเท้าที่ออกแบบโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดที่ข้อ, หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวในท่าเดิมซ้ำ ๆ มากเกินไป เช่น วิ่งระยะทางไกล ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาที่ข้อ

ช่วงอายุ 50-70 ปี

ปกติ : เวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนมีอาการเจ็บตรงนั้นปวดตรงนี้, เอี้ยวคอมองกระจกข้างรถยนต์ไม่สะดวก, ปวดหลังเมื่อนั่งนาน, ปวดขาหรือปวดหลังเมื่อเดินนานครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง

ไม่ปกติ : ปวดข้อจนตื่นกลางดึก, ไม่สามารถเอี้ยวคอมองกระจกข้างรถได้เลยเพราะคอแข็งหรือปวดคอ, นั่งเก้าอี้เตี้ยหรือโซฟาไม่ได้เพราะปวดเข่า ปวดสะโพก หรือปวดหลัง, ปวดข้อหรือหลังอย่างแรงเมื่อเดิน

ทิม อัลลาร์ไดซ์ บอกว่า เมื่ออายุเลย 50 ปีขึ้นไป กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นจะไม่แข็งแรง เริ่มเสื่อมสภาพ แต่นั่นก็ไม่เป็นเหตุให้ใช้ชีวิตประจำวันยากลำบากขึ้น แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นแสดงว่าข้อต่อได้เสื่อมสภาพก่อนวัย

คำแนะนำ : ออกกำลังกายในลักษณะเพิ่มความยืดหยุ่น ฝึกโยคะ รำมวยจีน, กินน้ำมันปลา ซึ่งช่วยลดการอักเสบและอาการปวดข้อได้

อายุ 70 ปีขึ้นไป

ปกติ : ปวดเข่าเมื่อลงบันได, เดินได้ 20 นาทีต้องพัก, หอบหิ้วถุงช็อปปิ้งไม่ไหว ต้องใช้รถเข็น, ชอบนั่งเก้าอี้มากกว่าโซฟาเพราะลุกขึ้นได้ง่ายกว่า, เวลาจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ต้องใช้แขนช่วยดันตัวเองเพราะขาอ่อนแรง

ไม่ปกติ : หายใจไม่ทันเวลาเดินหิ้วถุงเบา ๆ เป็นระยะทางสั้น ๆ, ต้องให้คนอื่นช่วยพยุงลุกจากเก้าอี้

อัลลาร์ไดซ์บอกว่า คนในวัยนี้มักมีอาการข้อเข่าเสื่อม ปวดเข่าเมื่อขึ้นลงบันไดหรือถือสิ่งของ และอาการหายใจไม่ทันก็ควรระวัง เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดหัวใจ

คำแนะนำ : ออกกำลังกายเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา, คนในวัยนี้จะรู้สึกอยากอาหารน้อยลง ทำให้ดื่มน้ำน้อยและกินน้อย ร่างกายขาดน้ำ ควรดื่มน้ำและกินให้มากขึ้นเพื่อให้มีแรง


ความจำ

ช่วงอายุ 30-50 ปี

ปกติ : นึกชื่อใคร ๆ ไม่ออก, จำไม่ได้ว่าวางข้าวของไว้ตรงไหน, ลืมเบอร์โทรศัพท์

ไม่ปกติ : นึกไม่ออกว่าจอดรถไว้ตรงไหน, จดจำใบหน้า สีสัน รูปร่าง หรือถ้อยคำได้ยาก, วางของผิดที่ เช่น เอากุญแจรถใส่ไว้ในตู้เย็น

ดร.แคทริโอนา มอร์ริสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความจำของมหาวิทยาลัยลีดส์ บอกว่า ปัญหาเรื่องความจำเป็นส่วนหนึ่งของภาวะชราภาพ จึงไม่ต้องกังวลเมื่อเริ่มหลงลืม สมองจะหดตัวเมื่อแก่ลงจนถึงอายุ 80 ปี น้ำหนักของสมองจะลดลง 15% หากมีปัญหาเรื่องความจำอย่างรุนแรง อาจเป็นสัญญาณของโรคสมองเสื่อม

คำแนะนำ : ถ้าเราไม่ใช้งานสมองก็จะฝ่อ ควรทำกิจกรรมที่กระตุ้นสมอง และควรทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง เช่น เข้าร้านอาหารที่ไม่เคยเข้า เพราะใยประสาทจะสร้างการเชื่อมต่อใหม่ ๆ เมื่อเรากำลังเรียนรู้หรือทำอะไรใหม่ ๆ

ช่วงอายุ 50-70 ปี

ปกติ : ลืมนัดกับหมอ, เดินเข้าไปในห้องแล้วนึกไม่ออกว่าตัวเองเข้ามาทำไม

ไม่ปกติ : ร้องขอชามาดื่มสักถ้วย ลืมไปว่าตัวเองได้ดื่มไปแล้ว, ไม่รู้ว่าคนไหนเป็นลูกหรือหลาน แต่ยังจำวัยเด็กของตัวเองได้ดี, วางของผิดที่ เช่น เอากาต้มน้ำใส่เข้าตู้เย็น

ดร.โอลิเวอร์ ค็อกเคอเรล นักประสาทวิทยาแห่งเดอะลอนดอนคลินิก บอกว่า เรามักสูญเสียความจำระยะสั้นได้ง่าย แต่ถ้ามีปัญหาความจำอย่างหนักก็อาจเป็นสัญญาณของโรคสมองเสื่อม ซึ่งพบมากในคนวัย 65 ขึ้นไป

คำแนะนำ : การออกกำลังกายช่วยเก็บรักษาความทรงจำ และลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมได้

อายุ 70 ปีขึ้นไป

ปกติ : มักหลงลืมเหมือนตัวอย่างข้างต้น

ไม่ปกติ : ความจำสับสน เช่น ไม่สามารถชงชาได้ เพราะนึกไม่ออกว่าเขาชงกันอย่างไร, เปิดเตาแก๊สทิ้งไว้หลังทำอาหารเสร็จ

ดร.มอร์ริสัน บอกว่า ปัญหาความจำจะมีลักษณะไม่ต่างกันในคนต่างช่วงอายุ เพียงแต่จะรุนแรงขึ้น คนอายุ 65 มีอัตราของโรคสมองเสื่อม 5% เมื่ออายุ 80 อัตรานี้จะเพิ่มเป็น 20%

คำแนะนำ : ใช้หัวคิดบ่อย ๆ เช่น พูดคุย หรือเล่นปริศนาอักษรไขว้

หากเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ต้องควบคุมน้ำตาลในเลือด เพราะผู้ป่วยโรคนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสองเท่าที่จะมีปัญหาความจำ น้ำตาลในเลือดที่สูงเรื้อรังจะทำลายเซลล์สมอง


ฟัน

ช่วงอายุ 30-50 ปี

ปกติ : สีของฟันเปลี่ยนเล็กน้อย สูญเสียเคลือบฟัน เหงือกอักเสบ

ไม่ปกติ : ฟันหลุด ฟันโยก ปวดฟัน เลือดออกตามไรฟัน

ดร.ไนเจล คาร์เตอร์ แห่งมูลนิธิสุขภาพฟันอังกฤษ บอกว่า เมื่ออายุมากขึ้นฟันของเราจะเกิดคราบเปื้อนโดยธรรมชาติ เพราะผลึกในเคลือบฟันได้แตกหลุดไป ทำให้ชาหรือไวน์แทรกซึมได้

แต่การสูญเสียฟันในช่วงวัยนี้ถือเป็นภาวะชราก่อนวัย ซึ่งมักเกิดเพราะโรคเหงือก การบดหรือขบฟันเพราะความเครียดจะทำให้ฟันสึกก่อนวัย

คำแนะนำ : การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะช่วยลดโอกาสของการเป็นโรคเหงือกได้ และควรใช้ไหมขัดฟัน

ช่วงอายุ 50-70 ปี

ปกติ : เหงือกร่น, ฟันคล้ำ โดยเฉพาะโคนฟัน, ฟันหลุดบางซี่

ไม่ปกติ : ฟันดูเหลืองจัด, ฟันคลอน

ดร.คาร์เตอร์บอกว่า อาการเหงือกร่นทำให้ฟันดูยาวขึ้น ถ้าเหงือกร่นจนถึงคอฟันหรือเกือบถึงรากฟันในบริเวณเหนือเคลือบฟัน ฟันอาจหลุดได้ เพราะรากไม่ได้รับการปกป้อง

คำแนะนำ : คำแนะนำ : ต้องใช้วิธีการป้องกันตามหลักอนามัยช่องปากก่อนที่จะมาถึงจุดนี้

อายุ 70 ปีขึ้นไป

ปกติ : ใส่ฟันปลอม, ฟันเป็นคราบเปื้อน, ฟันบิ่น, ฟันหลุด

ไม่ปกติ : เจ็บปาก ซึ่งเกิดเพราะปากแห้งเนื่องจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด โดยเฉพาะยาโรคหัวใจ ความดันโลหิต และโรคซึมเศร้า

คำแนะนำ : ใช้เจลหรือสเปรย์ช่วยลดอาการปากแห้ง


การออกกำลังกาย

ช่วงอายุ 30-50 ปี

ปกติ : หายใจหอบเล็กน้อยหลังจากเดินขึ้นบันได 3 ขั้น

ไม่ปกติ : เหนื่อยหอบอย่างมากเมื่อเดินขึ้นบันได 3 ขั้นจนขึ้นต่อไปไม่ไหว ปวดหัว ตาลาย หยุดหายใจปุบปับ หรือก้าวลงจากลังสูง 2 ฟุตได้ยาก

กล้ามเนื้อหัวใจจะหดตัวเฉลี่ย 0.3 กรัมต่อปีเมื่อล่วงเข้าวัยกลางคน ส่งผลต่อการสูบฉีดโลหิต ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง และมีอาการหอบฮัก

การออกกำลังกายส่งผลดีต่อหัวใจ การไม่ออกกำลังกายเป็นเหตุให้ผู้คนราว 1 ใน 5 เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

คำแนะนำ : ควรออกกำลังกายหนักปานกลางวันละ 30 นาที เช่น เดินจนรู้สึกเหนื่อย สัปดาห์ละอย่างน้อย 5 วัน การออกกำลังควรทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 10 นาที

ช่วงอายุ 50-70 ปี

ปกติ : หายใจหอบเล็กน้อยเมื่อขึ้นบันได 2 ขั้นต่อเนื่องกัน

ไม่ปกติ : หน้ามืดเมื่อออกแรง หรือลุกขึ้นยืน เช่น ลุกจากท่านั่งยองขณะทำสวน

ดร.ทอม คริสป์ แพทย์ด้านการกีฬาแห่งคลินิกบูปา บอกว่า อาการหน้ามืดตาลายบ่งบอกว่า หัวใจและการหมุนเวียนโลหิตไม่สามารถปรับสภาพได้ และคนคนนั้นอาจเป็นโรคหัวใจร่วมหลอดเลือด ถ้าเส้นเลือดหัวใจตีบร่างกายก็จะใช้เวลาปรับสภาพนานขึ้น

คำแนะนำ : เดินจ้ำ, ทำสวน, เดินสายพาน, ไม่นั่งนานเกิน 30 นาที ไม่ว่าเป็นการนั่งหน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์ หรือนั่งขับรถ

อายุ 70 ปีขึ้นไป

ปกติ : หายใจหอบเล็กน้อยเมื่อขึ้นบันได 1 ขั้น, สามารถยืนด้วยสองเท้าโดยหลับตา และตัวไม่ส่ายไปมาได้เป็นเวลาแค่ 10-15 วินาที

ไม่ปกติ : ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ควรไปพบแพทย์

คำแนะนำ : ทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย


หู

ช่วงอายุ 30-50 ปี

ปกติ : ฟังคำพูดไม่ได้ยินท่ามกลางเสียงดังรอบตัว

ไม่ปกติ : ต้องเงี่ยหูฟังเวลาคุยกับคนอื่นในร้านอาหาร, รู้สึกว่าคนอื่นพูดพึมพัม, ฟังเสียงแหลมสูง หรือเสียงของเด็กและผู้หญิงได้ลำบาก

การสูญเสียการได้ยินเนื่องจากอายุ เกิดจากเซลล์ "ขน" ในหูชั้นในได้ตายไป แต่การมีคนในครอบครัวมีอาการนี้ หรือการได้ยินเสียงดังตลอดเวลา หรือการสูบบุหรี่ ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เรื่องพวกนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาก่อนอายุ 55 ปี

คำแนะนำ : การสูญเสียการได้ยินก่อนวัย มักเกิดจากการฟังเพลงเสียงดัง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้หูฟังเพื่อลดเสียงดังรอบข้าง เราจะได้ไม่ต้องเปิดเพลงดังลั่น

ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป

ปกติ : ฟังเสียงปกติในชีวิตประจำวันไม่ค่อยได้ยิน โดยเฉพาะในสถานที่เสียงดัง, ลูกหลานร้องว่าเปิดโทรทัศน์หรือวิทยุเสียงดังเกินไป

ไม่ปกติ : หูอื้อ หูตึง ฟังอะไรแทบไม่ได้ยิน

เมื่ออายุเกิน 55 ปี เป็นเรื่องธรรมดาที่จะสูญเสียการได้ยินเนื่องจากความสูงวัย และเมื่อมีอายุถึง 70 ปี ผู้คนราว 70% จะมีอาการนี้ แต่ในบางกรณีซึ่งพบได้ยากนั้น การสูญเสียการได้ยินของหูข้างหนึ่ง พร้อมมีอาการหูอื้อ คลื่นไส้ ตาลาย อาจเป็นสัญญาณของเนื้องอกในหูชั้นใน

คำแนะนำ : ใช้เครื่องช่วยฟัง

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้คนมักไม่ยอมใช้เครื่องช่วยฟังจนกระทั่งวัยล่วงเข้า 70 ตอนกลาง แต่ถ้าเราใช้แต่เนิ่น ๆ สมองจะปรับตัว ถ้ามัวแต่รอจนแก่ เซลล์สมองจะตีความเสียงด้วยความยากลำบาก


ดวงตา

ช่วงอายุ 30-50 ปี

ปกติ : ไม่สามารถอ่านตัวอักษรขนาดเล็กได้, ต้องการแสงสว่างมากในการอ่าน

ไม่ปกติ : เห็นภาพมัว, กรอบการมองเห็นแคบลง

โซนัล รูกานี แพทย์วัดสายตา สถาบันคนตาบอดแห่งชาติ อังกฤษ บอกว่า การอ่านตัวหนังสือขนาดเล็กได้ยาก เป็นสัญญาณของการสูญเสียการมองเห็น เนื่องจากเลนส์ตามีความยืดหยุ่นน้อยลง

การมองเห็นภาพพร่ามัวอาจเป็นสัญญาณของโรคต้อ มักเกิดกับคนในวัย 70 แต่บางคนเริ่มมีอาการตั้งแต่วัย 50 เนื่องจากโรคเบาหวาน ขณะที่โรคต้อหินมักเกิดในวัย 70

คำแนะนำ : การสูบบุหรี่เร่งให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับดวงตา จึงควรเลิกสูบเสีย

ช่วงอายุ 50-70 ปี

ปกติ : มองภาพพร่ามัว มีจุดบังการมองเห็น เลนส์ตากลายเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำตาล

ไม่ปกติ : มองเห็นภาพเบลออย่างปุบปับ, มองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นหยัก

ในช่วงวัยนี้มักเกิดโรคเบาหวาน ซึ่งทำให้เห็นภาพเบลอ เนื่องจากความผันผวนของระดับน้ำตาล

การมองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นหยักเป็นสัญญาณของอาการกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการตาบอด

กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพมักเกิดขึ้นในวัย 70 การสูบบุหรี่ หรือการมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ อาจทำให้กล้ามเนื้อเสื่อมเร็วขึ้น

คำแนะนำ : ตรวจสอบดวงตาคราวละหนึ่งข้าง เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถมองเห็นเส้นตรงในแนวดิ่งได้ หากตรวจพบแต่เนิ่น ๆ จะสามารถป้องกันโรคกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพได้ ระวังการกินไขมัน และพยายามกินกรดไขมันโอเมกา-ทรี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพได้

อายุ 70 ปีขึ้นไป


ปกติ : มองเห็นภาพมัว, ตาแห้ง, มีน้ำตาไหล

ไม่ปกติ : มองเส้นตรงเป็นเส้นหยัก ในอังกฤษ คนวัยเกิน 70 ราว 40% เป็นโรคต้อ และเกือบครึ่งมีอาการกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ

คำแนะนำ : ควรตรวจวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้ตาบอด





ขอขอบคุณข้อมูลจาก


KAPOOK เคล็ดลับสุขภาพ การดูแลสุขภาพ ทุกช่วงวัย

ปวดศีรษะอาจเป็นมากกว่าแค่เรื่องสมอง

credit sanook.com palungjit.com
เมื่อเกิดอาการปวดศีรษะใครหลายๆ คนมักคิดว่าคำตอบของอาการปวดที่เกิดขึ้นต้องมีที่มาเพราะเรื่องของ "ระบบสมอง" อย่างแน่นอน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ! ความคิดนั้นอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่ถูกต้อง เพราะเหตุของการปวดศีรษะมีมากกว่าเรื่องของสมอง แต่เป็นปัญหาเชื่อมต่อจากจิตใจที่เราอาจคาดไม่ถึง
จากบทสรุปของแพทย์ระบบประสาทภายหลังจากการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุอย่าง ละเอียด และพบว่าอาการปวดศีรษะไม่ได้เกิดจากปัญหาทางกายภาพที่เกี่ยวกับสมองซึ่ง เปรียบได้กับเป็น (Hardware) ของคนเรา แต่อาจมีสาเหตุจากปัญหาด้านจิตใจที่เป็นเสมือน (Software) ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษา



"อาการปวดศีรษะ" มี ความ สัมพันธ์กับความเครียด ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระดับตามจิตของมนุษย์ ได้แก่ จิตรู้สำนึกและจิตใต้สำนึก โดยถ้าเปรียบเทียบจิตของมนุษย์เราเป็นห้องภายในบ้าน จิตรู้สำนึก จะเปรียบได้กับเป็นห้องรับแขกและจิตใต้สำนึก เสมือนห้องเก็บของหรือห้องใต้ดิน เช่น เมื่อมีคนทำให้เรารู้สึกโกรธ แต่เราบอกว่าไม่เป็นไร ไม่โกรธ ให้อภัย สิ่งนี้คือจิตรู้สำนึก แต่ในความเป็นจริงแล้วอารมณ์โกรธ ความไม่พอใจ ยังคงมีตกค้างอยู่ภายในจิตใต้สำนึก
ซึ่งถ้าความฝังใจต่างๆ ถูกสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จิตใต้สำนึกหรือห้องเก็บของก็จะกลายเป็นโกดังเก็บของขนาดใหญ่ที่กักเก็บเอา ขยะทางความคิด มลพิษทางอารมณ์ของมนุษย์เราไว้จำนวนมาก และสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกเมื่อมีความฝังใจสะสมอยู่มาก หากมีเหตุการณ์หรือคำพูดใดที่เข้ามาสะกิดใจแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ทางความรู้สึกขึ้นได้ เช่น ทำให้โกรธง่าย น้อยใจร้องไห้ง่าย เป็นต้น

สำหรับการรักษาผู้ที่มีอาการปวดศีรษะจากความเครียดสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ
1. การรักษาในระดับจิตรู้สำนึก Counseling หรือจิตบำบัด กรณีของผู้ที่ปวดศีรษะจากความเครียดด้วยปัญหาที่ระบุได้ชัดเจน เช่น ทำงานหนัก ปัญหาหนี้สิน ครอบครัว เรื่องส่วนตัว เรื่องสังคม เป็นต้น
2. การรักษาในระดับจิตใต้สำนึก ในกรณีของผู้ที่มีความฝังใจสะสมอยู่เดิม และส่งผลให้เกิดความเครียดในปัจจุบัน จึงต้องใช้วิธีการรักษาด้วยการสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy) เป็นลักษณะของการล้างใจ (Mental Detox) และสำหรับสะกดจิตบำบัดเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์ที่ในปัจจุบันเรียกได้อีกชื่อ ว่า การโปรแกรมจิตใต้สำนึกใหม่ (Neuro - Linguistic Programming : NLP) ด้วยการเคลียร์ ล้าง และโปรแกรมจิตใต้สำนึกใหม่ให้กับผู้ที่มี ความเครียด นอนไม่หลับเรื้อรัง กลัวเกินเหตุ อารมณ์ฉุนเฉียวง่ายโดยไม่มีเหตุผล มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น ผู้ที่คิดลบกับตนเองตลอด ซึ่งการรักษาจะใช้ภาษาและดนตรีบำบัดเข้ามามีส่วนร่วม
โดยจะใช้เพลง ที่มีท่วงทำนองเหมาะสมสื่อนำให้ผู้ป่วยเข้าสู่โหมด คลื่นสมองเทต้า (Theta Brainwave) เนื่องจากคลื่นสมองเทต้า เป็นภาวะที่มนุษย์เราจะอยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธี (Hypnotherapy) เพื่อเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกให้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ สามารถดำเนินต่อไปสร้างผลดีให้กับชีวิต เพราะถ้าหากเกิดความเครียดในระดับจิตใต้สำนึกและไม่ได้รับการบำบัดที่ต้นตอ ปัญหานั้นอาจส่งผลมากกว่าแค่ความเครียด มีผลกระทบกับชีวิตเรื้อรังเป็นความกดดัน มีปัญหาสุขภาพ และทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ตามมาได้อีกด้วย การโปรแกรมจิตใต้สำนึกใหม่ นอกเหนือจากเพื่อบำบัดต้นตอของความเครียดที่ส่งผลกับปัญหาการปวดศีรษะแล้ว ยังสามารถทำเพื่อโปรแกรมชีวิตในมุมบวกซึ่งจะมีผลอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น การพัฒนาศักยภาพการทำงาน, การสร้างความคิดให้เด็กรักในการเรียน

แนว ทางในการรักษาผู้ที่มีอาการปวดศีรษะทั้งในระดับจิตรู้สำนึกและระดับจิตใต้ สำนึก สามารถนำ ดนตรีบำบัด (Music Therapy) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาได้ โดยพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ดนตรีบำบัด คือ การนำดนตรีหรือองค์ประกอบอื่นๆ ทางดนตรี มาประยุกต์ใช้เพื่อปรับพัฒนา รักษา ด้านจิตใจ อารมณ์ ที่มีหลักการและหลักเกณฑ์ในแต่ละโหมดของสภาวะทางจิตใจ กับผู้ที่มีอาการปวดศีรษะจากความเครียดโดยไม่ต้องใช้ยา เพราะดนตรีก็เป็นเสมือนยาที่ได้จากการฟังเช่นเดียวกัน


ทั้งนี้ ปัจจุบันเราเลือกใช้ดนตรีบำบัดจากการฟังเพลงเพื่อรักษาผู้ป่วย เนื่องจากเป็นการบำบัดที่สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ต้องใช้เครื่องดนตรี สามารถปฏิบัติได้ง่าย แค่คัดสรรให้คลื่นเสียงไปปรับคลื่นสมองให้สู่สมดุล สำหรับคลื่นสมองของคนเราสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

- คลื่นเบต้า (Beta wave) อยู่ในภาวะที่รู้สึกตัว แต่มีความเครียด หงุดหงิด
- คลื่นอัลฟ่า (Alpha wave) คืออยู่ในภาวะที่รู้สึกตัว ผ่อนคลาย สบายใจ เช่น ช่วงที่สวดมนต์ นั่งสมาธิ

- คลื่นเทต้า (Theta wave) เป็นช่วงที่อยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น เช่น เวลาที่นอนหลับไม่สนิทและฝัน ขณะขับรถและมีหลับใน เป็นต้น


- คลื่นเดลต้า (Delta wave) เป็นคลื่นสมองที่ช้าที่สุด เกิดขึ้นในขณะนอนหลับ เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังพักผ่อนอย่างเต็มที่ หลับลึกโดยไม่มีความฝัน

เพลงที่นำมาใช้ส่วนใหญ่จะเป็นไปเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายและเพื่อให้นอนหลับ ได้สนิท แต่สิ่งสำคัญที่สุดของดนตรีบำบัดด้วยการฟังเพลง คือ การเลือกแนวเพลงจะต้องได้รับการคัดสรรจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คลื่นเสียงของเพลงตรงกับคลื่นสมองที่ต้องการบำบัดและถูกต้องกับช่วง เวลาในการใช้ชีวิต

นพ. สุกมล วิภาวีพลกุล
จิตแพทย์
รพ. พญาไท 2

  • สนับสนุนเนื้อหา


ปวดศีรษะอาจเป็นมากกว่าแค่เรื่องสมอง SANOOK

“ตุ๊ก” อาหารไทยเลิศรสหลากเมนู

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2555 15:00 น. 
บรรยากาศภายในร้าน
       ข้าวแกงถือเป็นอาหารธรรมดาสามัญ แต่ก็มีความไม่ธรรมดาอยู่ที่สามารถกินกันได้ในทุกวัน เพราะมีหลากหลายเมนูให้เลือกสรรตามความชอบของแต่ละคน อย่างร้านข้าวแกงที่ “ผ่านมาแวะกิน” อยากจะแนะนำให้ไปลองลิ้มกันนั้น ก็มีเมนูที่หลากหลาย เอาใจคนทุกเพศทุกวัย นอกจากนั้นยังมีความเด็ดอยู่ที่มีข้าวแกงบุฟเฟ่ต์อยู่ในร้านด้วย
      
       ร้านนี้มีชื่อว่า “ตุ๊ก” ชื่อสั้นๆ จำง่าย และความอร่อยเด็ดก็ทำให้ติดใจเช่นกัน ร้านนี้จะเรียกว่าเป็นร้านอาหารไทยตามสั่งก็ได้ โดยเปิดกันมาได้ 20 ปีแล้ว และแม้ว่าร้านจะเปิดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แต่ก็มีการแยกช่วงกัน อย่างในช่วงเช้า เวลา 06.00-08.30 น. จะขายข้าวแกงต่างๆ ซึ่งแต่ละวันจะมีข้าวแกง 12 เมนูออกมาให้ลองชิมกัน และจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ทุกวัน ซึ่งจะขายข้าวราดแกงในราคา 25-40 บาท
บุฟเฟ่ต์นานาเมนูอร่อย
       ส่วนช่วงกลางวัน (เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์) เวลา 10.30-13.30 น. จะขายข้าวแกงบุฟเฟ่ต์ ราคา 50 บาท/คน ซึ่งในบุฟเฟ่ต์นั้นก็จะมีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ประมาณ 7 อย่างในแต่ละวัน รวมทั้งมีขนมจีน ข้าวสวย และน้ำเปล่าบริการฟรี เมนูอร่อยที่มีในบุฟเฟ่ต์อย่างเช่นขนมจีนน้ำพริก,น้ำยา,น้ำเงี้ยว,ไตปลา และขนมจีนซาวน้ำ สลับสับเปลี่ยนกันไป ส่วนพวกที่เป็นกับข้าวก็อย่างเช่น ผัดผัก อาหารยำ ของทอด แกงเขียวหวาน แกงส้ม พะแนง แกงเลียง
      
       นอกจากนี้ก็ยังมีก๋วยเตี๋ยวน้ำ เกี๊ยวน้ำ กวยจั๊บ ต้มเลือดหมู แกงจืด ต้มยำ และยังมีขนมหวานไทยๆ อีก 3-5 อย่างให้ลองชิม โดยมีลอดช่องนมสดที่อร่อยเด็ดเป็นของยืนพื้น ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ โดยในแต่ละวันก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนเมนูกันไป เรียกว่ามาเมื่อไหร่ก็จะได้ชิมเมนูใหม่ๆ ตลอด
ข้าวผัดป่า
       ส่วนนอกเหนือจากช่วงที่ขายข้าวแกงและบุฟเฟ่ต์แล้ว ทางร้านก็ยังมีอาหารตามสั่งให้เลือกอีกกว่า 100 เมนู โดยเมนูเด็ดๆ ที่คัดมาแล้วว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้าอย่างเช่น ข้าวผัดป่า (50 บาท) เป็นข้าวผัดที่เมื่อได้เห็นแล้วต้องบอกว่าไม่เคยลองชิมที่ไหน เพราะใส่ทั้งชะอม ข้าวโพดอ่อน มะเขือเปาะ ถั่วฝักยาว กุ้งแห้ง กุ้งสด พริกสด ผัดกับข้าวสวยแล้วปรุงรสเล็กน้อย ชิมแล้วกลมกล่อม ออกเผ็ดเล็กน้อย หอมกลิ่นชะอม
      
       แกงเขียวหวาน (ถ้วยละ 70-130 บาท) เมนูนี้เน้นที่เนื้อปลากรายที่ทางร้านโขลกเอง กับเครื่องแกงสูงเด็ดที่เน้นความหอมเครื่องเทศ แล้วก็ใช้กะทิสด ใส่มะเขือเปาะ หรือยอดมะพร้าว หรือฟัก ตามแต่จะสั่ง จากนั้นก็ใส่พริกขี้หนูบุบโรยหน้าเพิ่มความหอม แกงเขียวหวานถ้วยนี้รสชาติเข้มข้นหอมมัน เคี้ยวปลากรายเนื้อเด้งหนึบ กินคู่กับขนมจีน (จานละ 20 บาท) ก็ยิ่งอร่อยถูกใจ
แกงเขียวหวาน
       ส่วน ปลาส้มตำ (ครึ่งตัว 130 บาท ทั้งตัว 230 บาท) เมนูนี้ก็แปลกไม่น้อย เพราะใช้เนื้อปลาช่อน ปลาดอรี่ หรือปลาทับทิมแล้วแต่เลือกมาคลุกแป้งแล้วทอดให้เหลืองกรอบ โรยเกลือเพิ่มรสชาติอีกนิด ส่วนส้มตำก็คือส้มตำไทยรสจัดแต่ไม่เผ็ด ตักเสิร์ฟคู่กับเนื้อปลา แล้วโรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลองชิมเมนูนี้แล้วเนื้อปลากรอบนอกนุ่มในไม่มีกลิ่นคาว เข้ากันดีกับส้มตำที่รสชาติเข้มข้นแต่ไม่เผ็ด
      
       เมนูสุดท้าย ถือว่าเป็นของเด็ดที่ต้องมาลองชิม หมี่กรอบ (50-100 บาท) เมนูนี้ใช้เส้นหมี่มาทอดกรอบแล้วคลุกกับเครื่องปรุงสูตรของทางร้าน โดยจะคลุกกันจานต่อจาน แล้วเสิร์ฟพร้อมกระเทียมดอง ใบกุยฉ่าย ผักชี ถั่วงอก และกุ้งชุบแป้งทอด ลองชิมหมี่กรอบรสชาติกลมกล่อม อร่อยพร้อมกับเครื่องเคียงที่ครบครัน
ปลาส้มตำ
       ร้าน “ตุ๊ก” ยังมีเมนูอร่อยให้มาลองชิมกันอีกมากมาย อาทิ ข้าวกะเพราปลาทู (40 บาท) ราดหน้าทะเล (50 บาท) ปลาดุกกะเพราะกรอบ (70 บาท) ผัดไทย (50 บาท) เป็นต้น แล้วก็ยังมี ซาลาเปา (ลูกละ 12 บาท) ที่มีทั้งไส้หมูสับ หมูแดง ฟักทอง ครีม และถั่วดำ และในช่วงเจก็มีซาลาเปาเจด้วย
      
       หากใครอยากมาชิมของอร่อยก็มากันได้ที่ร้านเลยทันที แต่ถ้าต้องการให้ไปส่งทางร้านก็มีบริการเดลิเวอรี่ในละแวกใกล้ๆ ร้าน แต่ถ้าอยู่ไกลออกไปทางร้านขอคิดค่าบริการเพิ่มเติม ส่วนคนที่จะจัดงานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ ทางร้านก็รับจัดเลี้ยงนอกสถานที่คิดคนละ 170 บาท ตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป ซึ่งก็มีเมนูและรายการอาหารให้เลือกอีกหลากหลาย
หมี่กรอบ
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “ตุ๊ก” ตั้งอยู่ที่ 465-467 ถ.พระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. การเดินทางจากแยกบางลำพูมุ่งหน้ามายังวัดบวรนิเวศฯ ตรงมาถึงแยกสะพานวันชาติแล้วตรงมาอีกเล็กน้อย สังเกตทางซ้ายมีจะเห็นป้ายรถเมล์ป้ายแรก (นับจากแยกสะพานวันชาติมา) ร้านจะอยู่บริเวณป้ายรถเมล์เป็นห้องแถวติดริมถนน สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 06.00-19.00 น. โทร.0-2281-0652, 0-2629-2220 ทางร้านรับจัดเลี้ยงภายนอก และมีบริการเดลิเวอรี่ในละแวกร้าน (ถ้าอยู่ไกลก็บริการส่งแต่เสียค่าบริการเพิ่ม)

ต้นตำรับ “ไก่ทอดเดชา” หาดใหญ่ รับรองความอร่อยมากว่า 30 ปี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2554 17:24 น.
ศูนย์ข่าว หาดใหญ่ -“ไก่ทอดเดชา” อีกหนึ่งเมนูติดอันดับความอร่อยของเมืองหาดใหญ่ และมีให้เลือกสรรความอร่อยได้อีกหลายเมนู ทั้งอาหารทะเล อีสาน ที่สำคัญเป็นร้านอาหารฮาล้าล ไทยทานได้มุสลิมทานดี รับรองความอร่อยยาวนานกว่า 30 ปี ลองแวะมาชิมกันได้ ทั้ง 3 สาขา เปิดให้ลิ้มความอร่อยทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-22.00 น.
       ร้านไก่ทอดเดชา เชื่อว่า หลายๆ คนคงรู้จัก เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อที่หาดใหญ่อีกเมนูหนึ่ง รับประกันความอร่อยมายาวนานกว่า 30 ปี ตั้งอยู่ที่ บนถนนชีอุทิศ (ริมคลองเตย) นี่คือสาขาแรก ด้วยความอร่อยจึงต้องขยายสาขาเพิ่มทั่วเมืองหาดใหญ่ คือถนนสายช่องเขา และ ถ.รัตนอุทิศ หรือ เขต 8 หาดใหญ่ใน ร้านนี้ไม่ได้ขายเพียงแค่ข้าวเหนียวไก่ทอดที่เป็นเมนูหลัก ยังมีอาหารทะเล และอาหารอีสานอย่างลาบ ส้มตำ พร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้าทั้งไทย-เทศ และรับลูกทัวร์จากประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ไปดูเมนูแรกกันเลย
       เมนูหลัก ไก่ทอดเดชา เมนูนี้ยกให้เป็นพระเอกประจำร้าน เพราะนำมาตั้งเป็นชื่อร้านกันเลยทีเดียว เคล็ดลับอยู่ที่ความสดของไก่ ตัวไก่ทอดไม่อมน้ำมัน ชอบทานช่วงไหนของไก่สั่งมาทานกับข้าวเหนียวอุ่นๆ โรยด้วยหอมเจียวกรอบๆ รับรองเคี้ยวเพลินและอิ่มท้อง
       ส้มตำปูม้า รสไม่จัด 3 รส เปรี้ยว หวาน เค็ม ความเผ็ดสามารถสั่งได้ ปูม้าจะนำไปนึ่งให้สุกก่อน เนื้อปูหวานอร่อย
       ข้าวหมกไก่ทอด ข้าวหุงได้นิ่มและไม่มัน มีกลิ่นหอมเครื่องเทศอ่อนๆ ไก่ทอดหนังกรอบเนื้อนุ่มอร่อย
       ยำปลาหมึกสด รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวนำตามสเต็ปแบบยำยำ หอมมะนาว เนื้อปลาหมึกสดกรอบ
       ต้มแซ่บทะเล น้ำต้มแซ่บหอมพริกแห้ง ต้องทานตอนร้อนๆ ถึงจะได้รับรสแซ่บ รสจัดนิดหน่อย สำหรับคนที่ชอบทานรสจัดเล็กๆ เมนูนี้ขอให้ลองสั่ง
       ชวนชิมลาบเนื้อ เชื่อว่า รสชาติถูกปากคนไทย เป็นรสกลมกล่อมพอดิบพอดีลงตัวไม่ขาดไม่เกินทานคู่กับโหระพา แตงกวา ถั่วฝักยาวกรอบๆ หมดจานไม่รู้ตัว
       นอกจากนี้ ยังมีอาหารซีฟูด ที่อยากแนะนำ คือ ปลากะพงทอดราดซอสน้ำปลา เนื้อปลาสด หวานอร่อย ทอดลงในน้ำมันที่ร้อนจัดทำให้ปลากะพงกรอบน่ารับประทานยิ่งขึ้น ก่อนที่จะนำซอสน้ำปลาที่เคี้ยวจนกลมกล่อม ราดลงบนตัวปลา รสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัวปลากะพงกรอบนอกนุ่มใน
      
       อีกเมนู คือ กุ้งแม่น้ำราดซอสมะขาม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ตัวกุ้งผ่าซีกก่อนลงนำไปทอด แล้วราดด้วยซอสมะขาม โรยด้วยกระเทียมเจียว
คุณยุทธนา และตี เจ้าของร้านไก่ทอดเดชา
       จะเป็นอาหารมื้อเที่ยง หรือมือเย็น ก็สามารถอร่อยกันได้ทั้งครอบครัว ถ้าอยากลิ้มลองกันแล้วก็ออกเดินทางกันเลย เส้นทางไปง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใกล้กับโรงเรียนศรีนครหาดใหญ่ ถนนชีอุทิศ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือโทรศัพท์ 081-098-3751, 087-2895008 คุณยุทธนา และ ตี เปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ 11.00-22.00 น.
      
       บทความโดย ธำรงลักษณ์ มานะการ