homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

หวานเย็นชื่นใจกับ"บอง บอง" บุฟเฟต์ไอศกรีม

หวานเย็นชื่นใจกับ"บอง บอง" บุฟเฟต์ไอศกรีม 
บรรยากาศภายในห้อง บอง บอง


       "ไอศกรีม" หรือที่หลายคนมักเรียกติดปากสั้นๆ ว่า "ไอติม" เป็นของกินเย็นๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้คนอายุเท่าไหร่ ตั้งแต่เด็กน้อย ผู้ใหญ่ ยันคนเฒ่าคนแก่ คงจะไม่มีใครที่จะปฏิเสธถึงความชื่นชอบในตัวไอศกรีม ที่หากว่าได้กินไอศกรีมคราใดเป็นได้ชื่นฉ่ำ สดชื่นหัวใจ และมีความสุขกันทั่วหน้ายามที่ได้สัมผัสถึงความละเมียดละไมของไอศกรีมหวานๆ เย็นๆ อันมีหลากหลายรสชาติให้เลือกกินกัน




ไอศกรีมสารพัดรสใส่ท็อปปิ้งตามใจชอบ


       มาในมื้อนี้ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เลย ขอตามใจตัวเองที่ชื่นชอบกินไอศกรีมเอามากๆ และขอเอาใจนักกินที่รักไอศกรีมทั้งหลาย ด้วยการพาทุกคนไปตระเวนกินไอศกรีมเย็นๆ หวานๆ กันแบบชนิดที่ว่าได้กินไอศกรีมกันได้แบบอิ่มนี้ไม่อั้น กินเท่าไหร่ก็ได้ตามใจปรารถนากับ "ไอศกรีมบุฟเฟต์" ที่ทาง "ห้องบอง บอง" ของโรงแรม แกรนด์ สุขุมวิท โซฟิเทล ได้จัดไอศกรีมบุฟเฟต์ขึ้นมาเพื่อเอาใจคนชอบกินไอศกรีมโดยเฉพาะเลย




ไอศกรีมลูกโตในถ้วยโคนกรอบๆ


       ไอศกรีม บุฟเฟต์ของที่นี่ ต้องบอกว่ามีไอศกรีมหลากหลายสไตล์ และหลายรสชาติมาให้ได้เลือกลิ้มรสกันแบบไม่อั้นจริงๆ ซึ่งตัวไอศกรีมที่นำมาให้ลองลิ้มกันนี้ เป็นไอศกรีมโฮมเมดที่นำเข้ามาจากนิวซีแลนด์ โดยมีไอศกรีมที่คัดรสชาติยอดนิยมมาให้ได้ลิ้มรสชาติกันอยู่ประมาณ 8 รสชาติ โดยให้นักกินไอติมได้เลือกสั่งกันตามชอบใจ ซึ่งจะมีพนักงานคอยตักไอศกรีมให้ตามที่สั่ง




ลูกค้าสามารถตักท็อปปิ้งได้ตามชอบใจด้วยตัวเอง


       สำหรับรสชาติของไอศกรีมที่ชวนลองลิ้มนั้นมีอยู่หลายรสด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Vanilla Classic ไอศกรีมรสยอดนิยมที่จะได้สัมผัสกับเนื้อไอศกรีมเนียนนุ่ม ฉ่ำความเย็น หอมหวานกลิ่นวนิลานุ่มๆ Boysenberry Dream เป็นไอศกรีมเนื้อเนียนเย็นฉ่ำไปด้วยรสชาติของเบอร์รี่หอมหวาน ส่วนใครที่ชื่นชอบรสสตรอเบอร์รี่หวานๆ ก็มี Strawberry Surprise ที่มีเนื้อไอศกรีมสีชมพูสดใสชวนกิน




หวานเย็นฉ่ำชื่นใจกับไอศกรีม


       แต่ถ้าใครชอบไอศกรีมที่มีรสชาติเข้มๆ ก็ต้องรสนี้เลย Cafe Espresso เป็นไอศกรีมที่ออกรสกาแฟเข้มข้น หวานหอมกลิ่นกาแฟโดนใจ อีกหนึ่งรสเป็น Chocolite ที่เป็นไอศกรีมเนื้อเนียนนุ่ม หวานเข้มข้นรสช็อคโกแลตเอามากๆ แถมยังเป็นไอศกรีมไขมันต่ำ ที่หากกินมากแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนลงพุง และอีกหนึ่งไอศกรีมไขมันน้อย ก็คือ Mango Sorbet เป็นไอศกรีมรสมะม่วงที่มีสีเหลืองสดใสชวนลิ้มรส เนื้อไอศกรีมเนียนละเมียดนุ่มลิ้น ออกหวานอมเปรี้ยวนิดๆ




สารพัดท็อปปิ้งที่มีให้เลือก


       ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีไอศกรีมรสอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น Rum n’ Raisin เป็นไอศกรีมรสรัมเรซิ่นที่มีลูกเกดเป็นส่วนผสมด้วย อีกหนึ่งรสชาติเป็น Hokey pokey เป็นไอศกรีมรสวนิลา แต่ว่าจะมีเม็ดลูกกวาดเล็กๆ เคี้ยวกรุบๆ หวานๆ อยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย และก็ยังมีไอศกรีมรสชาเขียวอีกหนึ่งรส ที่มาเสริมเพิ่มทัพให้ความอร่อย เป็นไอศกรีมเนื้อเนียนสีเขียว หอม หวานได้รสชาติชาเขียวแท้ๆ




ไอศกรีมหลากหลายรสชาติที่ชวนกิน


       และ นอกจากจะมีไอศกรีมหลากรสให้เลือกแล้ว ยังมีท็อปปิ้งสารพัดอย่างอีกกว่า 30 ชนิด ให้ได้เลือกใส่ราดหน้าบนไอศกรีม เพื่อเพิ่มอรรถรสในการกินไอศกรีมกันได้แบบไม่อั้น แถมตักได้ด้วยตัวเองแบบตามใจชอบอีก อาทิ ลูกเชอร์รี่, วิปปิ้งครีม, อัลมอนด์สไลด์, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ลูกเกด, ฟรุ๊ตสลัด, เอ็ม แอนด์ เอ็ม, วอฟเฟิล, ช็อคโกแลตเม็ด, มะพร้าวอบ, คิทแคท, ซอสวนิลา, ซอสสตรอเบอร์รี่, ซอสช็อคโกแลต , คาราเมล และอื่นๆ อีกมากมาย



  



เรียก ว่าไอศกรีมบุฟเฟต์นี้ อิ่มถูกปากโดนใจคนรักไอศกรีมกันแบบเต็มๆ ในราคาแค่ 150 บาทต่อคนเท่านั้น ซึ่งสามารถมาอิ่มแบบไม่อั้นกับไอศกรีมบุฟเฟต์นี้ได้ในทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 13.00-17.00 น. ตั้งแต่วันนี้-29 ก.พ. นี้ เห็นทีว่าคนที่รักและชื่นชอบกินไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจ คงจะพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
     
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
       "ห้องบอง บอง"ตั้ง อยู่ที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรม แกรนด์ สุขุมวิท โซฟิเทล 99 ถ.สุขุมวิทซอย 6 คลองเตย กทม. การเดินทางถ้านั่งรถไฟฟ้าให้มาลงที่สถานีนานา แล้วเดินมาทางออกที่ 4 ลงมาทางซ.สุขุมวิท 6 เดินตรงเข้าซอยประมาณ 200 ม. จะเห็นโรงแรมตั้งอยู่หัวมุมมีป้ายให้เห็นชัดเจน แต่ถ้าขับรถมาต้องขับรถเข้ามาทางสุขุมวิท ซ. 4 ตรงเข้ามาในซอยจะมีป้ายบอกทางมาโรงแรมฯ สำหรับบุฟเฟต์ไอศกรีมที่ห้องบอง บอง ให้บริการทุกวันเสาร์ เวลา 13.00-17.00 น. (ตั้งแต่วันนี้-29 ก.พ.นี้)




ที่มา manager

ซีฟู้ด รสเด่นที่กระติ๊บข้าว

ซีฟู้ด รสเด่นที่กระติ๊บข้าว



ขับ รถเลยผ่านแยกเกษตร-นวมินทร์ หลายครั้งหลายหนแล้ว ไม่เคยได้แวะไปลิ้มรสอาหารเมนูเด็ดเด่นของร้าน กระติ๊บข้าว แม้แต่ครั้งเดียว หนนี้ไม่มีพลาด แม่พลอยขับรถมุ่งหน้าลงอุโมงค์แยกเกษตร ขับตรงไปยังถนนเกษตร–นวมินทร์จนสุดถนน แล้วกลับรถเพื่อไปลิ้มรสอาหารร้านกระติ๊บข้าว ที่มีพิกัดริมถนน สังเกตเสากลางถนนระบุหมายเลข 261 ร้านอยู่บริเวณนั้น สามารถหาที่จอดได้ทั้งข้างในและริมถนน


หอยจ๊อ

ร้านกระติ๊บ ข้าว มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากทั้ง ใต้ อีสาน และอาหารเวียดนาม แต่ไปทั้งที แม่พลอยอยากพาไปลิ้มรสอาหารจานเด็ดเด่นของร้าน เน้นไปทางแนวซีฟู้ด น้อยคนนักจะรู้จัก ความเด่นของเมนูซีฟู้ดร้านนี้ เน้นวัตถุดิบสดใหม่ จากแหล่งทางภาคใต้ ที่นำมาสู่นักชิมชาวกรุง เริ่มต้นแม่พลอยขอแนะนำเมนูเด่นหาทานยาก เป็น หอยตะเภาลวก น้ำจิ้มซีฟู้ด หอยตะเภา เป็นหอยท้องถิ่นจังหวัดตรัง บ้างก็เรียกหอยท้ายสำเภา หรือ หอยท้ายเภา ลักษณะเปลือกหอยเป็นสามเหลี่ยม คล้ายเรือสำเภา ส่วนเนื้อหอยตะเภาออกหวานนุ่ม ไม่เหนียว ในทุกหนึ่งปี มีฤดูกาลหอยตะเภา เพียง 4 เดือน คือ ช่วงพฤศจิกายน–กุมภาพันธ์ ฉะนั้นใครอยากลิ้มรสต้องรีบเสียแล้ว อย่ารอช้า


เนื้อปลาเก๋าผัดขึ้นฉ่าย

ปู ม้าถอดเสื้อ เมนูขึ้นชื่อของร้าน ถึงขั้นขึ้นป้ายชูประเด็นเป็นเมนูเด่นที่นักชิมส่วนใหญ่จำได้ จนพาเรียกชื่อร้านกระติ๊บข้าวเป็น ปูม้าถอดเสื้อไปแบบอัตโนมัติ ปูม้าสด นึ่งแล้วแกะก้ามปู กระดองปู ออกมาให้เห็นถึงเนื้อปูม้า ขาว เนื้อแน่น ทานได้เลยไม่ต้องพึ่งพาเพื่อนที่มีจิตอาสามาช่วยแกะปูเลย เสิร์ฟปุ๊บ หยิบจิ้มทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสกลมกล่อมได้เลย ทานเพลิน ไม่เสียเวลาแกะ


กุ้งผัดพริกขี้หนู

กุ้ง ผัดพริกขี้หนู ใช้กุ้งทะเล หั่นตามขวางพอดีคำ ผัดกับพริกขี้หนู รสชาติออกเผ็ดนำ แต่ไม่สูญเสียความกรอบความหนึบของเนื้อกุ้งได้ ยิ่งทานยิ่งชอบ ถัดจากกุ้งขอแนะนำเมนู เนื้อปลาเก๋าใหญ่ผัดขึ้นฉ่าย เดิมทีเราคุ้นเคยกับเมนูปลาเก๋า ที่นำไปผ่านกรรมวิธีนึ่ง เท่านั้น แต่เมนูนี้ ผัดได้รสชาติค่อนข้างดี ความเด่นรสอยู่ที่เนื้อปลาเก๋าแน่นสด ถ้าไม่ชอบแนวนี้ แต่ชอบแนวออกเผ็ด ต้องลองแกงเหลืองปลาเก๋า รสชาติเผ็ดเข้มข้นถูกปากคนชอบทานอาหารรสดีนักเชียว


หอยตะเภาลวก

ถ้า ชอบของทอด แนะนำ หอยจ๊อ ที่แน่นด้วยไส้ในเป็นเนื้อปู กุ้ง และ หมู ปรุงรสได้อร่อย ทานตอนร้อน ๆ ได้ความกรอบของฟองเต้าหู้ทอดที่เหลืองนวล ส่วน ทอดมันปลากราย ปรุงรสได้ความกลมกล่อมของเครื่องแกง และเนื้อปลากรายแท้ที่เคี้ยวแล้วรู้สึกได้ถึงความเหนียวแน่นหนึบ ไม่มีผิดหวังในรสชาติ


ทอดมันปลากราย

ปิด ท้ายด้วยการแนะนำเมนู ข้าวผัดปลาเค็ม ที่ผัดได้ร่วนหอมกลิ่นข้าวติดก้นกระทะ ได้ความกรอบของปลาเค็มชิ้นเล็กทอดกรอบ และก้านคะน้าอ่อน คลุกเคล้ามาเป็นสีเขียวเด่นในจาน เมนูนี้แม่พลอยขอติดดาวความอร่อยให้อีกหนึ่งเมนู


ข้าวผัดปลาเค็ม

ร้านกระติ๊บ ข้าว เปิดบริการในเวลา 11.00– 22.00 น. และหยุดบริการทุกวันจันทร์ที่ 4 ของเดือน สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2946-2535 และ 08-9744-4666.

เรื่อง แม่พลอย / ภาพ สุพัตรา เมตะศิริ

ที่มา เดลินิวส์

"ยิ้ม-ยิ้ม" ตำนานอาหารจีนแต้จิ๋ว 3 ชั่วคน /สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 สิงหาคม 2554 22:08 น. 
โดย : สันติ เศวตวิมล
"ปลาดิบ" หรือ "ฮื้อแซ" ยังแขวนโชว์เหมือนที่ซัวเถา
       เพราะว่า...คนจีนแต้จิ๋วอยู่เมืองไทยมากที่สุด อาหารแต้จิ๋วที่ "กรุงเทพ" อร่อยที่สุดในเมืองไทย ภัตตาคารแต้จิ๋ว "ยิ้ม-ยิ้ม" ต้นตำรับ "ฮื้อแซ"
      
       นักเลงเปิบ...ใครบ้างจะไม่รู้จักภัตตาคาร "ยิ้ม-ยิ้ม" ที่อยู่ถนนพาดสาย เยาวราช
      
       ภัตตาคารร้านนี้ เป็นภัตตาคารแต้จิ๋วร้านแรกในเมืองไทย คะเนอายุขาย ก็มากกว่าหนึ่งร้อยปี
      
       ขายมาแล้วสามชั่วคน คือสมัยอากง นั่งสำเภาหัวแดงที่เรียกเป็นภาษาจีนว่า "อั้งม้อจุง" แล้วก็มาตั้งร้านอาหาร จากนั้นก็ถึงรุ่นที่สองที่เป็นจีนใหม่ เกิดในไทย แล้วปัจจุบันก็คือคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นรุ่นที่สาม อายุอานามก็ปาเข้าไปเกือบจะ 90 อยู่รำไร
ศิลปะแล่ปลาดิบแบบแต้จิ๋ว เก่าแก่กว่า "ซาซิมิ" ญี่ปุ่น
       หลายอาทิตย์ก่อน "ป้าช้อย" แกอยากจะย้อนอดีตความหลัง สมัยพ่อของป้าแกเป็นสรรพากรเก็บภาษีอยู่ในกรุงเทพ เคยพาป้ามากินอาหารแต้จิ๋วร้านนี้ ตั้งแต่สมัยสงครามเลิกใหม่...ใหม่
      
        ตอนผมเป็นหนุ่มเริ่มทำงานมีกะตังค์ใช้ เก็บเงินได้จนมั่นใจก็จะต้องแวะมากินอาหารแต้จิ๋วที่ "ยิ้ม-ยิ้ม" เรียกได้ว่า
      
        ถ้าเป็นนักเลงกิน...นักเลงเปิบ ถ้าไม่รู้จักภัตตาคาร "ยิ้ม-ยิ้ม" ละก็ไม่ต้องมายิ้มให้กัน
      
        สมัยเมื่อสี่...ห้าสิบปีก่อนที่ผมกิน ภัตตาคารยิ้ม-ยิ้มอยู่ติดกับถนนในซอยพาดสาย แต่ผมเรียกว่า "ไต๋แปะ"
"ฮื้อแซ" เกิดครั้งแรกในเมืองไทยที่ร้านนี้
       ที่เรียกเช่นนั้นก็ต้องคนอายุอานามขึ้นเลขห้า...เลขหก แล้วต้องเป็นคนกรุงเทพขนาดจะรู้ว่า...บริเวณนั้นเป็นโรงระบำจ้ำบ๊ะ ที่มีชื่อเรียกว่า "ไต๋แปะ"
      
        พวกหนุ่ม...หนุ่มสมัยนั้นมีใครบ้างไม่แวะมาดู...จ้ำบ๊ะชนช้าง...คู่แข่งของ "นายหรั่ง เรืองนาม" ที่ตั้งระบำโป๊อยู่ใต้ถุนตลาดบำเพ็ญบุญ
      
        ผมน่ะอุดหนุนทั้งสองวิก ค่าดูยังจำได้เก็บคนละห้าบาท ดูแล้วก็ออกมาฟาดปลาดิบจีนที่เรียกว่า "ฮื้อแซ" เขาบอกว่ากินแล้วมันโป๊วดี จะได้มีแรงไปทำอะไรก็ไม่ต้องบอกกัน
       ภัตตาคาร "ยิ้ม-ยิ้ม" เป็นขวัญใจของนักกิน...นักเที่ยวตั้งแต่สมัยรุ่นปู่มาจนถึงรุ่นลูก...รุ่น หลาน อาหารแต้จิ๋วที่นี่อร่อยเป็นสิบ...สิบรายการ
      
        มาที่นี่ผมก็จะต้องเริ่มด้วย "ฮื้อแซ" ปลาดิบจีนล้างปากก่อน จากนั้นก็ต้องว่าด้วย "แพะเย็น" กินกับมายองเนส...หน่อไม้ฝรั่งกระป๋อง
      
        พอได้ที่แล้วจะต้องตามด้วย "หูฉลามน้ำแดง" แล้ว "หมูหันแต้จิ๋ว" ตามมาติด...ติด ก่อนที่จะปิดท้ายด้วย "ข้าวผัดปลาเค็ม" (ปลาทิโปตาเดียว) ก็จะต้องสั่ง "ปลาเต๋าเต้ย" หรือ "ปลาจาระเม็ดหนึ่งบ๊วย" มากระตุ้นต่อมน้ำลายต่อ
       แล้วจะต้องไม่ลืมสั่ง "กระเพาะหมูกรอบ" มาจุ่มน้ำแกงผักกาดดองเพื่อจะได้ข้าวผัดปลาเค็มได้คล่องคอ
      
        ไปกับป้าช้อยคราวนี้ ถึงได้รู้ว่าภัตตาคาร "ยิ้ม-ยิ้ม" เขาย้ายขึ้นมาอยู่ชั้นสองร้านอาหารจีน "ตั้งใจหยู" สังเกตง่าย ก็คือต้องขึ้นบันไดโบราณขึ้นไปกิน
      
        จำได้ว่าสมัยก่อนตรงนี้เป็นภัตตาคาร "ไต๋แปะ"
      
        ภัตตาคารยิ้ม-ยิ้มมาเซ้งอยู่หลายสิบปีแล้ว แต่ผมเองก็ชักจะเลือน...เลือน ไม่เหมือนตอนหนุ่ม...หนุ่ม จะกินอาหารอร่อยต้องมาเยาวราช แต่สมัยนี้ร้านอาหารเก่า...เก่าอย่าง "ยิ้ม-ยิ้ม" น่ะยังอร่อยคงเส้นคงวา
       ส่วนร้านข้างถนนที่มีมากมายเกลื่อนไปหมด มีร้านอร่อยนับร้านได้...ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนเยาวราชแท้ซะเมื่อไหร่กัน
      
       ตำนานร้าน "ยิ้ม-ยิ้ม" ภัตตาคารแต้จิ๋ว 100 ปี
      
       "นายเต็ง เตียวเฮียง" รุ่นปู่เมื่อ 100 ปี มาตั้งภัตตาคารยิ้ม-ยิ้ม ทำ "ฮื้อแซ" ปลาดิบจีนเป็นคนแรก
      
       "นายประภาพ ชวาลากุล" กับนาง "จารุวรรณ" รุ่นที่สามอายุอานามก็ 90 กว่าปีผู้บริหารตอนนี้
      
       อย่างที่เรียนว่า จู่...จู่ "ป้าช้อย" ก็ชวนไปกินอาหารจีนแต้จิ๋วอร่อยที่ภัตตาคาร "ยิ้ม-ยิ้ม" อิ่มจะยิ้มไม่ออก เพราะมันแน่นท้อง...จุกทวาร
      
       แต่ก็ต้องเขียนเล่า เพราะร้านนี้คือร้านตำนานอาหารแต้จิ๋วในเมืองไทย อย่างที่ผมใช้สำนวนจัดรายการวิทยุคลื่น 99 เอฟเอ็มอสมท. ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ว่า
      
       ...ยู มัส อีท บีฟอร์ ยู ดาย รีบ...รีบไปกินกันซะ ก่อนที่ไม่รู้ว่าคนขายหรือคนกินจะตายก่อนกัน...
      
       *****************************************
      
       "ยิ้ม-ยิ้ม ภัตตาคาร" ถนนพาดสาย หลังห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง เยาวราช โทรศัพท์ 0-2224-2203, 0-2224-2205 โทรสาร 0-2224-2262

"ห่านย่าง หยงกี่" ห่านย่าง...ดังที่สุดของฮ่องกง/สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 สิงหาคม 2554 17:50 น. 
โดย : สันติ เศวตวิมล
แผ่นป้ายโฆษณารับรองความอร่อยของ "การท่องเที่ยวฮ่องกง"
       ใครไปฮ่องกง คงจะไม่พลาดห่านเจ้านี้ ที่เล่าลือกันว่าอร่อยที่สุดของเกาะแห่งนี้
      
       มีคนถามผมบ่อย...บ่อยว่า ไปฮ่องกงแล้วควรจะไปกินอะไร
       "ป้าช้อย" บอกผมว่า ไปฮ่องกงต้องไปกินห่านย่าง
       ผมเองก็เห็นด้วยกับคุณป้า เพราะไปฮ่องกงแล้วไม่ไปกินห่านย่าง ก็ดูเหมือนว่าจะตกหล่นอะไรไปอย่าง
       หรือถ้าไปกินห่านย่าง แล้วไม่ได้กินห่านย่างที่ภัตตาคาร "หยงกี่" แล้วก็ไม่รู้จะไปฮ่องกงกันทำไม
       (คำว่า "หยงกี่" ผมเรียกตามขี้ปากผม แต่ถ้าเป็นขี้ปากฝรั่งจะเรียกว่า "ยงเก่" (YOUNGKEE) แต่มีคนไทยบางคนผ่าไปเรียก "โหยงเก๋" ก็ว่ากันไป ความจริงมันก็คือร้านเดียวกัน)
"ห่านย่าง" สับลงในจานหนึ่งตัว
       "ภัตตาคารหยงกี่"...ป้าช้อยแกกินตั้งแต่เงินฮ่องกงแค่สอง...สามบาท ก็ประมาณห้าสิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมเองก็กินใกล้เคียงกับคุณป้า
       ไปฮ่องกงครั้งแรกเมื่อปี 1970 สิ่งแรกที่ทำก็คือไปกินห่านย่างร้านนี้ เพราะได้ยินได้ฟังคนเล่ามาก็มากว่า...ห่านย่างร้านนี้อร่อยที่สุดในโลก
       ประสบการณ์ครั้งนั้นก็ต้องว่ามันแปลก
       ประการแรกก็คือห่านย่างที่นี่หนังมันกรอบเนื้อมันนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องยาจีนชนิดบ้านเราไม่ใช้กัน และที่สำคัญน้ำจิ้มของเขาพิศดาร คือเอาน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำบ๊วย รสชาติจึงออกเปรี้ยว...หวานถูกลิ้นคนไทยที่ชอบรสนี้นัก
      
       สมัยเมื่อสาม...สี่สิบปี ร้าน "หยงกี่" ซึ่งอยู่ฝั่งฮ่องกง ถนนควีนส์ โรด คนไทยรู้จักกันดี เพราะอยู่ใกล้กับธนาคารกรุงเทพ สาขาฮ่องกง
       คนไทยไปกินจึงสะดวกสบาย หาง่าย ชวนคนไทยที่ทำงานในธนาคารไปกินกันตอนกลางวัน สะดวกสบายดี ถ้าไปร้านนี้ไม่ถูกก็ให้ถามคนไทยทำงานที่นั่น ไม่มีวันหลง
       หรือถ้าจะหลง ก็คงจะหลงรสชาติเจ้าห่านย่างที่ต้องว่า อร่อยพิศดารกว่าบ้านเราที่เห็นกันอย่างชัดเจนก็คือ เขาใช้ห่านย่าง แต่บ้านเราใช้เป็ด
       และที่สำคัญห่านที่เขาเอามาย่างนั้น ไม่ใช่ห่านดินกินหญ้าอย่างบ้านเรา แต่เขาใช้ห่านพันธุ์พิเศษที่เรียกว่า..."ห่านหัวสิงโต"
       เป็นห่านพันธุ์ที่นักเปิบบางคน...บางท่านเรียกว่า "ห่านฮ่องเต้" เพราะว่ามันมีหัวมันใหญ่โตเหมือนสวมหมวกฮ่องเต้อย่างไร...อย่างนั้น
       เรื่องนี้ "ป้าช้อย" แกมีคำอธิบายขยายความ เพราะให้รู้กันว่ามันเป็นห่านไม่ธรรมดา อย่างนี้ครับ
ตู้กระจกแขวนห่านย่างโชว์หน้าร้าน "หยงกี่"
       อยู่แต้จิ๋ว "ต้มพะโล้"
       อยู่กวางตุ้ง "ย่างไฟ"
       อันว่า "ห่านหัวสิงโต" ที่ร้น "หยงกี่" นั้น ความจริงมันก็คือห่านพันธุ์พิเศษที่คนจีนเขาขุนเลี้ยงมาเป็นพันปี พวกจีนแต้จิ๋วเอาไปต้มพะโล้ มีขายแถวซัวเถา แต่จีนบ้านเราไม่ยักกะเอามาเลี้ยง
       พอพวกกวางตุ้งเห็นเข้า ก็เลยเอาไปย่างแล้วก็พบว่าอร่อยแตกต่างไปจากการต้มพะโล้ ร้าน "หยงกี่" เป็นผู้ทำก่อน ตั้งแต่สมัยยังหาบขาย จนกระทั่งขึ้นร้านภัตตาคารใหญ่โต
"ห่านหัวสิงโต"
       ความจริงจะว่าไปแล้ว "หยงกี่" ไม่ใช่ร้านเดียวที่ย่างห่านอร่อย ยังมีร้านย่างห่านอร่อยมากมายหลายเจ้าในฮ่องกง อย่างร้านแถวหน้าโรงเบียร์ "ซานมิเกล" แถวนิวเทอรริเทอรี่ใกล้ชายแดน ร้านนี้ก็อร่อย
       ร้านหยงกี่อยู่ฝั่งฮ่องกงซึ่งเป็นย่านธุรกิจผู้คนมากมาย ก็เลยขายดิบขายดี เป็นที่รู้จักมากกว่าร้านอื่น
       แต่ "ป้าช้อย" แกเล่าว่า เวลาป้าทำทัวร์ไปกินอาหารอร่อยที่ฮ่องกง ถ้าลูกค้าไม่ขอมา ป้าจะพาไปกินร้านอื่น แล้วก็ถูก...อร่อยกว่าที่ "หยงกี่" เพราะตอนนี้ขายดิบขายดีเกินไป จนดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง
       บ้านเราห่านย่างไม่มี แต่เป็ดย่างละอร่อยไม่หนีกันซะเท่าไหร่ อย่างร้านเป็ดย่างร้านชื่อ "ตงเพ็ง" ในซอยโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว เจ้านี้วันหนึ่งขายเป็นร้อยตัว
       แต่ถ้าตรุษ...สารทฟาดเป็นพันตัว ขายเป็ดย่างมากที่สุดในเมืองไทย ไม่ต้องไปฮ่องกง มาที่นี่...อร่อยเหมือนกันแต่ถูกกว่าเจ้าค่ะ จ๊ะบอกให้...
      
       (เสาร์อาทิตย์นี้ที่ร้าน "แม่ช้อย ดอยหลวง" เมนูจะมี "มัสมั่นเนื้อ-ไก่" ป้าช้อยแกจะโชว์ฝีมืออาหารไทยอร่อยที่สุดในโลกที่เขาโหวตกัน แถม "ผัดหมี่ฮกเกี้ยน" แบบภูเก็ต กับ "ผัดก๊วยเตี๋ยวปูม้า" แบบจันทบูรณ์ กรุณาสั่งจองที่หมายเลข 02 969 0028 กับ 081 553 8475 สอบถามกับ "ยี่หวา ยาหยี่" ร้านอยู่ซอยเรวดี 62 ถนนเลียบเมืองนนทบุรีเจ้าค่ะ)

"อริยาศรมวิลล่า "สปา" อาหารมังสวิรัติ/สันติ เศวตวิมล

โดย :สันติ เศวตวิมล
"บ้านหลังแรก" ที่ก่อสร้างไทยปนยุโรป
       เลขที่ 1 สุขุมวิทซอย 1 ที่นี่เป็นบ้านแรกบนถนนสุขุมวิท และก็เป็น "สปามังสวิรัติ" อาจจะแห่งแรก...
      
       พวก...พวกบอกผมว่า บ้านสวนทุกเรียนในซอยเรวดี นนทบุรีของผมมีบรรยากาศเหมือน "อริยาศรมวิลล่า"
      
       ฟังแล้วผมก็สงสัยว่า มันเหมือนกันอย่างไร?
      
       เพื่อนก็เลยต้องพาผมไปดูกับตาให้หายสงสัย
      
       พอไปแล้วความสงสัยก็เลิกสงสัย แต่กลายเป็นใหลหลง จนต้องเก็บมาเขียนเล่า เผื่อว่า...ท่านผู้อ่านชอบบรรยากาศและอาหารแบบนี้
      
       "อริยาศรมวิลล่า"...เป็นชื่อบ้านสวยแบบโบราณ สร้างกลางธรรมชาติต้นไม้...ใบหญ้าใกล้กับคอลงแสนแสบ เป็นที่เล่ากันว่า
"ห้องอาหารมังสวิรัติ" กลางดงไม้ธรรมชาติ
       เป็นบ้านหลังแรกที่สร้างบนถนนสุขุมวิทเมื่อเจ็ด...แปดสิบปีที่ผ่านมา
      
       ตั้งแต่สมัยแถวนี้ยังเป็นทุ่งนา เรียกกันว่า "ทุ่งบางกะปิ"
      
       เวลาจะเดินทางจะต้องใช้เรือ
      
       เจ้าของบ้านคือ "พระเจริญวิศวกรรม" คณะบดีคณะวิศวกรรมฯ คนแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณพระท่านมาซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามโลก
      
       พอตอนเกิดสงครามก็ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่หนีสงคราม
"เรือนสปา" แบบไทยล้าานนาร่มรื่น
       ตอนที่คุณพระมาสร้าง ใครเห็นแล้วจะต้องแปลกใจ เพราะจะเป็นบ้านไทยก็ไม่ใช่ บ้านฝรั่งก็ไม่เชิง
       ที่ต้องสร้างแปลก...แปลกแบบนี้ เพราะคุณพระได้ชื่อว่า "นักวิศวกรรมคนแรกของชาติ" ก็เลยต้องสร้างให้แปลกแตกต่างไปจากบ้านทั่วไป คือเอาความงามแบบไทย...ไทย มาผสมปนเปกับความแข็งแรงมั่นคงอย่างฝรั่ง
      
       ผมเห็นแล้วยังทึ่ง!!
      
       อายุจะเข้าร้อยปีแต่ก็ยังมั่นคงดีจะอยู่ได้อีกร้อยปีก็คิดว่าคงจะ อยู่ได้ ถ้าคิดเป็นมูลค่าบ้านและที่ดิน คงจะได้เป็นร้อย...ร้อยล้าน
       แต่หลานคุณพระคือคุณ "ปริม เชนะกุล" เอามาทำเป็น...สปาร้านอาหารมังสวิรัติเสียนี่!!
      
       เรื่องนี้ก็เป็นเพราะว่าคุณปริมกับสามีคือคุณเดวิส ชาวอังกฤษเป็นนักมังสวิรัติ แล้วก็เป็นนักปฏิบัติธรรม
      
       พออายุมากเข้าก็เข้าหาปริเวก
      
       ก็เลยเสกให้บ้านซึ่งสร้างไว้ จนอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นบ้านหลังแรก เลขที่ 1 ของถนนสุขุมวิท รวมทั้งย่าเป็นคนรักต้นหมากรากไม้ ปลูกพันธุ์แปลก...แปลกมากมายเต็มบ้านที่มีเนื้อที่เป็นไร่
       สองคนผัวเมียอยู่ไปก็จะเหงา ก็เลยตัดสินใจเอามาสร้างเป็นสปา เพื่อใช้เป็นที่บำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บแบบธรรมชาติ แล้วก็เลยเริ่มทำเป็นร้านอาหารมังสวิรัติแบบไทยปนฝรั่ง
      
       ประกอบกับคุณเดวิสก็เคยทำงานบริหารโรงแรม สโมสรระดับชาติ มีความสามารถในเรื่องอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนมหวาน เบเกอรี่ที่ทำเอง "โฮมเมด"
      
       ผมกินอาหารหวานดาวของที่นี่สามารถติดดาวของ "ป้าช้อย" ได้ คือถ้าให้ดาวกันก็ต้องสี่ดาว คือ ดาวอร่อย ดาวสะอาด ดาวราคายุติธรรม และดาวบริการ
       ส่วนอาหารที่ผมชอบมากอยากให้คุณไปลองก็มี
      
        4 หมี่กรอบ ตำรับไทยแท้ แต่ไม่มีกุ้งเพราะเป็นมังสวิรัติแต่จัดได้ไม่ผิดหวัง
        5 ลูกมะเดื่อฝรั่ง (FIG) อบบลูชีส เป็นตำราคุณแม่สอนให้ "มิสเตอร์เดวิส"
      
        6 แอปเปิ้ล ครัมเดิล (APPLE CRUMDLE) ฝีมือของคุณเดวิส ทั้งแอปเปิ้ลเค้กแบบอังกฤษ ไอศครีมโฮมเมดรวมทั้งมัสตาร์ด
      
        อาหารมังสวิรัตที่ "อริยาศรมวิลล่า" มีเป็นสิบ...สิบรายการ อร่อยทั้งนั้น
      
        แต่ห้ามพลาดฝีมือทำขนมของคุณเดวิสอย่างเด็ดขาด
      
        ผมชักอยากจะทำบ้านสวนของผมที่ซอยเรวดี นนทบุรีเป็นวิลล่า เป็นอาศรมบ้าง แต่ก็คงจะมีปัญหา เพราะ "ป้าช้อย" แกตั้งใจไว้ว่า
      
        ...ร้านกาแฟ ไแม่ช้อย ดอยหลวง" ขายกาแฟถึงจะเป็นมังสวิรัต แต่อาหารที่ขายจะต้องเป็นมังสาภิรัติ ไม่งั้นจะเสียคอนเซ็ปต์ (CONCEPT)...เปิบพิสดารครับ
       *****************************************
      
       อริยาศรมวิลล่า 65 สุขุมวิท กทม. โทรศัพท์ 081 837 1573
       E-MAIL:INFO@ARIYASOM.COM/WWW"ARIYASOM.COM)
      
       (หมายเหตุ "มังสาภิรัติ" หมายถึงอาหารที่มีเนื้อสัตว์ครับ)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 สิงหาคม 2554 16:36 น.