homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

โซ้ยเตี๋ยวรสเด็ด ที่ "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด"

บรรยากาศร้านต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด
       นานที "ผ่านมาแวะกิน" จะได้ผ่านมาแถวซอยลาดพร้าว 71 พอดีต้องมาทำธุระกับเพื่อนสาว หลังจากที่ทำธุระกันเสร็จก็ตั้งใจว่าจะรีบตรงดิ่งกลับบ้าน แต่ช่วงจังหวะที่ขับรถผ่านเห็นในซอยมีร้านขายอาหารมากมาย ซึ่งแต่ละร้านล้วนแต่ขายของกินที่ยั่วยวนน้ำย่อยในกระเพาะให้ตื่นตัว จนเกิดเป็นอาการหิวและอยากกินขึ้นมาเสียอย่างนั้น
      
       งานนี้ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกว่าพวกเราต้องขอตามใจปากและท้อง รีบหาที่จอดรถแล้วเดินตรงดิ่งไปยังร้านอาหารที่อยากกิน และร้านที่เป็นเป้าหมายของมื้อนี้ก็คือร้าน "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด" เพราะเห็นชื่อร้านแล้วมันยั่วปาก และอยากรู้ว่าก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟกุ้งทอดนั้นเป็นอย่างไร และจะมีรสชาติเด็ดแค่ไหน
เส้นใหญ่น้ำเย็นตาโฟ
       พอเดินเข้ามาถึงในร้านก็รีบจัดแจงหาที่นั่ง มองเห็นป้ายเมนูอาหารแล้วก็สั่งก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟขึ้นชื่อของทางร้านมาชิม กันทันที โดยสั่งมาเป็น เส้นใหญ่น้ำเย็นตาโฟ (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) เย็นตาโฟของที่นี่สีสันชวนกิน แถมยังปรุงรสชาติใส่พริกน้ำส้ม น้ำตาล มาให้เสร็จสรรพเรียกว่าไม่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มเลย แล้วพอชิมน้ำซุปก็สัมผัสได้ถึงความหวานกลมกล่อมของน้ำซุปที่ทางร้านต้มด้วย กระดูกหมูล้วนๆ แถมใส่เครื่องยาจีนในน้ำซุปด้วย บวกกับเมื่อคลุกเคล้าให้เข้ากับซอสเย็นตาโฟที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเองตามสูตร เด็ดเฉพาะแบบสดใหม่ทุกวัน ได้กลิ่นหอมของเต้าหู้ยี้อ่อนๆ และได้รสชาติของซอสที่เข้มข้นกลมกล่อมถูกปากมากๆเลย
      
       และเครื่องที่ใส่มาในเย็นตาโฟชามนี้มีหลายอย่าง มีทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย เต้าหู้แผ่น ปลาหมึกกรอบ เลือด เผือกทอด และความพิเศษที่เป็นจุดเด่นไม่เหมือนร้านไหนคือ จะมีกุ้งทอดใส่มาด้วย เป็นกุ้งขาวที่นำมาคลุกกับแป้งที่ปรุงรสไว้แล้วแล้วทอดจนเหลืองกรอบ ได้กินกุ้งทอดที่หอมกลิ่นแป้งและกุ้งเนื้อแน่นกรอบเป็นอะไรที่เข้ากันดีกับ เย็นตาโฟรสเด็ด
บะหมี่น้ำต้มยำ
       ส่วนอีกชามที่สั่งมาเป็น บะหมี่น้ำต้มยำ (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) เป็นต้มยำน้ำใสที่ทางร้านจะปรุงต้มยำมาแบบครบเครื่อง ใส่ถั่ว ใส่มะนาว ใส่พริก ส่วนเครื่องที่ใส่มาก็มีหมูสับ ฮือก้วย ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นรักบี้ เผือกทอดและกุ้งทอด กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำก็รสดีถูกปากไม่แพ้เย็นตาโฟ
กุ้งทอด (บน) เผือกทอด (ล่าง)
       แล้วนอกจากก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้ว ก็ยังมีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) ซึ่งมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกหลากหลายมีทั้ง เส้นเล็ก, เส้นใหญ่, เส้นหมี่, บะหมี่, เกี้ยมอี๋ และวุ้นเส้น (40 บาท) เกาเหลา (40 บาท) หรือว่าจะสั่งกุ้งทอด (จานละ 40 บาท) กุ้งทอด+เผือกทอด (40 บาท) เผือกทอด (จานเล็ก 20 บาท จานใหญ่ 40 บาท) เป็นเผือกที่หั่นเป็นเส้นๆ ผสมกับถั่วปรุงรส แล้วห่อด้วยฟองเต้าหู้ทอดจนเหลืองกรอบ มากินแกล้มกับก๋วยเตี๋ยวก็เข้าท่าดีไม่หยอก เพราะทั้งกุ้งทอดและเผือกทอดของที่นี่มีกินอร่อยกรุบกรอบปาก จิ้มกินกับน้ำจิ้มหวานถูกปากกันไป เอาเป็นว่าถ้าใครได้ผ่านมาที่ซ.ลาดพร้าว 71 แล้วเกิดหิวขึ้นมา ก็ลองแวะมาโซ้ยก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดกันให้อิ่มท้องกันได้ที่ร้าน "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด"

หม่ำเค้กในร้านสไตล์น่ารักๆที่ "Surya"

บรรยากาศด้านหน้าร้าน Surya
       เค้กกับผู้หญิงดูจะเป็นของคู่กัน แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นศัตรูกันด้วย เพราะความอร่อยหอมหวานเป็นรสชาติที่คุณผู้หญิงหลายคนชื่นชอบ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเกรงกลัวกับความอ้วนที่อาจจะมาเยือน แต่กระนั้นก็ยังมีผู้ชายหลายคนที่นิยมหม่ำเค้กเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้"ผ่านมาแวะกิน"จึงไปแสวงหาร้านเค้กรสชาติดีมากำนัลแด่แฟนานุแฟนนักกินทั้งหลาย
      
       ร้านนี้มีชื่อว่า"เซอย่า"(Surya) ตั้งอยู่ในอาคารแบงค็อกเมติเพล็กซ์ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย โดยคุณวัชรรักษ์ สินทัตตโสภณ เจ้าของร้านบอกว่า "Surya" เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า พระอาทิตย์ บรรยากาศของร้านจึงเหมือนนั่งกินเค้กจิบชากาแฟสบายๆภายในสวนที่ร่มรื่นภาย ใต้แสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่จัดตกแต่งไว้อย่างน่ารัก
Blueberry Cheese pie + Cherry Oreo Cheese pie + Exotic Fruit Tea
       สำหรับเค้กก็เป็นสูตรของที่ร้านโดยเฉพาะ ดัดแปลงมาจากที่คุณวัชรรักษ์ได้ไปเรียนมาจากโอเรียลเต็ล โดยเน้นเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบเลือกของที่ดีที่สุด ขนมที่ร้านก็จะเน้นที่ไม่หวานมากด้วย เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่กลัวอ้วนเป็นที่สุด อีกทั้งตัวเค้กจะใส่อยู่ในถ้วย หากจะถือตักกินก็กินได้ง่ายสะดวกไม่เลอะเทอะอีกด้วย
      
       Cherry Oreo Cheese pie (62 บาท) ตัวเค้กเป็นครีมชีสเนื้อนุ่มเบาคล้ายมูส ด้านล่างรองด้วยชั้นคุ้กกี้โอริโอที่เอามาบด ด้านบนราดหน้ามาด้วยเชอร์รี่ตักเข้าปากแล้วได้รสเปรี้ยวของเชอร์รี่ผสมกับ ครีมชีส เคี้ยวกรึบนุ่มด้วยเนื้อโอริโอรสช็อคโกแลต เข้ากันเป็นอย่างดี
Dark Chocolate Mousse + Tiramisu
       ตัวถัดมาเป็นเค้กที่ขายดีมากๆ คือ Blueberry Cheese pie (62 บาท) ที่รองด้านล่างมาด้วยคุกกี้วนิลาบด ชั้นถัดมาคือครีมชีสเนื้อนุ่มเบา ชั้นด้านบนเป็นหน้าบลูเบอร์รี่ที่ให้รสเปรี้ยวบลูเบอร์รี่ ครีมชีสหนึบ พายกรอบ รสชาติไม่หวานมาก เหมาะกับผู้หญิงสมัยนี้เป็นที่สุด
      
       ตามมาด้วย Tiramisu (52 บาท) ที่ถือว่าเป็น Signature ของร้านเซอย่านี้เลยก็ว่าได้ ตัวกาแฟเลือกมาเป็นอย่างดีโดยใช้เป็นกาแฟชง ผสมเหล้าเล็กน้อย ด้านล่างสุดเป็นเค้กสปัน แล้วราดด้วยกาแฟกับเหล้าลงไปในเนื้อเค้ก ตามด้วยครีมทีรามิสุที่เน้นความเบาของครีมเช่นกัน ด้านบนโรยด้วยผงโกโก้จากเบลเยี่ยม ตักเข้าปากแล้วหอมกาแฟขึ้นจมูก เนื้อเค้กเนียนเบานุ่มเย็น
บรรยากาศน่ารักๆในร้าน Surya
       และสุดท้ายคือ Dark Chocolate Mousse (62 บาท) เป็นเค้กเนื้อแน่นนุ่ม หอมช็อคโกแลตเข้มข้น และที่สำคัญ หวานไม่มากด้วย โดยช็อคโกแลตเป็นช็อคโกแลตจากสวิส มีส่วนผสมของครีม ไข่ ช็อคโกแลต เอามาตีผสมให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยช็อคโกแลตขูดดูสวยงามน่าหม่ำ
      
       เอาล่ะกินเค้กไปแล้วก็ต้องมีเครื่องดื่มให้เข้ากันด้วย นั่นคือ Exotic Fruit Tea (48 บาท) ซึ่งเป็นชาไม่มีคาเฟอีนจากนิวซีแลนด์ มีรสผลไม้หลากหลายชนิดผสมอยู่ ผสมไซรับหอมหวานสดชื่น
      
       นอกจากนี้ทางร้านยังมีอีกหลายเมนูเค้ก คุกกี้ ชา กาแฟ ให้เลือก เช่น Chocolate Soft-Fudge Cake (62 บาท), Banoffee (52 บาท), Cookie Banana ( 25 บาท), Chocolate Chip Cookie (25 บาท), Brownie (35 บาท), Greentea Mousse & Azuki (58 บาท) ใครที่ผ่านมาผ่านไปแถวสถานีรถไฟฟ้าเอกมัยก็อย่าลืมแวะนั่งกินเค้ก จิบเครื่องดื่ม ผ่อนคลายในบรรยากาศน่ารักๆได้ที่ร้าน "Surya"

"ก.เอ๋ย ก.กาแฟ" ร้านกิ๊บเก๋ ชวนดื่ม-กิน

บรรยากาศภายในร้าน “ก.เอ๋ย ก.กาแฟ”
       เป็นอย่างไรกันบ้าง หยุดปีใหม่ที่ผ่านมา มิตรรักนักกินไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างเอ่ย?? "ผ่านมาแวะกิน" ไม่ได้ออกเดินทางไปเที่ยวปีใหม่ที่ไหน แต่เรากลับเดินทางไปหาร้านอาหารน่านั่ง น่ากินรับขวัญปีใหม่แทน โดยได้รับคำแนะนำจากพี่ที่รู้จักว่ามีร้านกาแฟเปิดใหม่ย่านฝั่งธนบุรีชวนให้ ไปสัมผัสอย่างแรง เป็นร้านกาแฟน่ารักๆ ตกแต่งร้านกิ๊บเก๋มีสไตล์ แถมมีชื่อร้านเท่ๆ ว่า "ก.เอ๋ย ก.กาแฟ"
       

“ก.เอ๋ย ก.กาแฟ” ร้านนี้ชวนนั่ง
       เรารีบตรงดิ่งไปที่ร้าน "ก.เอ๋ย ก.กาแฟ" ตามคำแนะนำทันที พอไปถึงร้านก็ต้องสะดุดตาและสะดุดใจกับบรรยากาศร้านอันเก๋ไก๋ มีตู้ไปรษณีย์สีแดงสดใสอยู่หน้าร้าน มีโปสการ์ดขายให้ส่งได้ทันที พอเดินเข้ามาด้านในอารมณ์เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ดูไม่วุ่นวาย เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีโต๊ะเก้าอี้ไม้หลากหลายแบบให้เลือกนั่งในหลายมุมสบาย ตามสไตล์การตกแต่งของเจ้าของร้าน คือคุณกร ธนกร แสงสินธุ์ และคุณนุ่น สุภวรรณ แย้มเวช ที่ชื่นชอบการเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเมืองปาย อัมพวา สามชุก วังเวียง เชียงคาน แล้วก็ได้เก็บเอาบรรยากาศ และเสน่ห์ของที่เที่ยวเหล่านั้น มารวมไว้ภายในร้านผ่านการตกแต่ง ทำให้เหมือนกับว่าเราได้เดินทางไปสัมผัสกับสถานที่เที่ยวเหล่านั้นไปด้วย และถ้าใครชื่นชอบอ่านหนังสือ บนชั้นสองของร้านมีมุมขายหนังสือดีๆ น่าอ่านมากมาย หรือถ้าอยากออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ บนชั้นสามมีโต๊ะปิงปองให้เล่นฟรี แล้วก็มีอินเตอร์เน็ตWi-Fi บริการด้วย
คาปูชิโน่ร้อนและเอสเปรสโซ่เย็น
       นั่นคือบรรยากาศของร้านที่น่ารักชวนนั่ง มาถึงเรื่องของอาหารการกินที่นี่เป็นร้านกาแฟจึงเน้นเรื่องของกาแฟเป็นหลัก ถ้าใครที่ชื่นชอบดื่มกาแฟร้อนๆ ขอแนะนำให้สั่ง คาปูชิโน่ร้อน (30 บาท) มาดื่มกันจะได้สัมผัสถึงรสชาติของกาแฟรสเข้มข้นไม่หวานมาก ซึ่งทางร้านเลือกใช้กาแฟอราบิก้าอย่างดีที่คัดมาเป็นพิเศษมาชง บวกกับมีโฟมนมนุ่มๆ ให้ละเลียด ส่วนอีกแก้วเป็น เอสเปรสโซ่เย็น (35 บาท) เหมาะจะสั่งมาดื่มเพิ่มความสดชื่น ยามได้ดื่มกาแฟเย็นๆ รสเข้มกลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟอ่อนๆ ช่างชื่นใจจริงๆ
ผัดไทยเส้นจันทน์หรรษาเวลาหิวอร่อยฉิ่วกุ้งสด และข้าวไก่ทอดซอสเทอริยากิ+มิโซะซดชุ่มคอ
       แล้วถ้าจะสั่งแต่กาแฟมาดื่มก็เกรงว่าจะไม่อยู่ท้อง ที่นี่จึงมีอาหารเมนูเด็ดที่มีชื่อเก๋ๆ ไว้คอยบริการด้วย อย่างที่น่ากินก็มี ผัดไทยเส้นจันทน์หรรษาเวลาหิวอร่อยฉิ่วกุ้งสด (45 บาท) มีให้เลือกเป็นเส้นจันทน์ หรือเส้นมะละกอ เราเลือกเส้นมะละกอที่นำไปคลุกแป้งทอดแล้วนำมาผัดกับเครื่องผัดไทยแบบครบ เครื่อง ใส่น้ำซอสผัดไทยสูตรเด็ดของทางร้านแบบโบราณที่เน้นน้ำมะขามเปียก และเด่นตรงที่มีถั่วลิสงที่ทางร้านคั่วบดเองมาเป็นเครื่องปรุง ชิมผัดไทยจานนี้ถูกปากตรงที่เส้นมะละกอกรุบกรอบเข้ากับเครื่องผัดไทยรสกล่อม กล่อมโดนใจดีแท้
      
       ข้าวไก่ทอดซอสเทอริยากิ+มิโซะซดชุ่มคอ (45 บาท) เมนูนี้มีเนื้อไก่ส่วนสันในหมักกับเครื่องปรุงและคลุกเกล็ดขนมปังทอดจน เหลืองกรอบ และมีซอสเทอริยากิรสเด็ดมาให้กินคู่กับเนื้อไก่ที่กรอบนอกนุ่มใน และมีซุปมิโซะร้อนๆ มาให้ซด พร้อมกับมีผักดองมาให้กินแกล้มด้วย
ต้มยำกุ้งสะดุ้งโหยง+ไข่เจียวแฮม
       แต่ถ้าอยากซดน้ำแซบๆ ต้องนี่เลย ต้มยำกุ้งสะดุ้งโหยง+ไข่เจียวแฮม (55 บาท) เป็นต้มยำกุ้งน้ำข้นที่เปรี้ยว แซบ เผ็ดได้ใจเพราะใช้พริกขี้หนูจิ๋วจากแดนใต้ใส่มา กินคู่กับข้าวหอมมะลิร้อนๆ และไข่เจียวแฮมนุ่มๆ หอมๆ อร่อยจนต้องขอยกนิ้วให้
บรรยากาศชั้น 2 มีหนังสือขายมากมาย
       และนอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ ข้าวหมูอบสยบหิว+มิโซะ (45 บาท) ข้าวผัดปู+มิโซะ (40 บาท) ข้าวราดกระเพราเร้าใจ+แกงจืดหมูสาหร่ายสบายคอ (55 บาท) เครื่องดื่มก็มี อิตาเลียนโซดา (35 บาท) สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต (45 บาท) ชาเขียวนมสดเย็น (35 บาท) และอีกหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่ชวนให้มาอิ่มหนำในอารมณ์สบายๆ กันได้ที่ร้าน "ก.เอ๋ย ก.กาแฟ"

“ก๋วยเตี๋ยวแคะ” ไร้ชื่อ รสมือภัตตาคาร

บรรยากาศโต๊ะนั่งร้านก๋วยเตี๋ยวแคะ
       หลังจากผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่มาได้สักพัก “ผ่านมาแวะกิน” เพิ่งจะมีโอกาสได้เดินทางไปทำบุญฉลองปีใหม่เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเอง มา โดยเราได้ไปทำบุญไหว้พระที่วัดหัวลำโพง ตรงสามย่าน แล้วก็เลยไปทำบุญบริจาคโลงศพที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน พอได้ทำบุญแล้วก็ช่างรู้สึกดีแก่จิตใจ และอิ่มเอิบบุญเอามากๆ แต่ว่าหลังจากที่อิ่มบุญอิ่มใจแล้ว แต่ว่าท้องมันไม่อิ่มไปด้วยน่ะสิ เพราะว่ากระเพาะน้อยๆ มันดันร้องจ๊อกๆ หิวโหย อยากหาของกินมาดับความหิวให้อิ่มท้องไปด้วย
      
       งานเข้าแบบนี้จะไม่ตามใจปากท้องก็ไม่ได้ เราเลยรีบเดินออกมาจากที่ทำบุญ ซอกแซกหาของกินแถวๆ นั้นมาสนองความหิวกันดีกว่า และหลังจากที่ได้เดินลัดเลาะเข้ามาตรงซอยหลังวัดลำโพง ติดกับโรงเรียนวัดหัวลำโพง เราก็มาเจอะเจอเข้ากับร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งเข้า เห็นมีผู้คนนั่งกินมากมาย ครั้นเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวแคะ ที่ดูชวนกินไม่น้อยเลย เราเลยตกลงใจขอฝากท้องกับก๋วยเตี๋ยวแคะร้านนี้ก็แล้วกัน
คุณพรรณี ชอบนิทัศน์ เจ้าของร้าน
       ร้านก๋วยเตี๋ยวแคะร้านนี้ นั้นเป็นร้านเล็กๆ ไม่มีชื่อร้าน แต่คนส่วนใหญ่ที่อยู่แถวนี้ก็มักเรียกกันติดปากว่าร้าน “ก๋วยเตี๋ยวแคะ” นี่แหละ โดยมี คุณพรรณี ชอบนิทัศน์ เป็นเจ้าของร้าน หลังจากที่ได้พูดคุยกันก็ทำให้รู้ว่าร้านนี้เปิดขายก๋วยเตี๋ยวแคะมานานร่วม 20 ปีแล้ว
      
       ก๋วยเตี๋ยวแคะของที่นี่ต้องบอกว่าเป็นแบบสูตรของคนจีนแคะแท้ๆ ที่คุณพรรณีสืบทอดสูตรเด็ดนี้มาจากคุณยาย และความโดดเด่นของก๋วยเตี๋ยวแคะของร้านนี้ก็อยู่ตรงที่ลูกชิ้นแคะนี่แหละที่ มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งลูกชิ้นแคะของที่นี่คุณพรรณีลงมือทำเองแบบสดใหม่ทุกวัน และทำในปริมาณที่ไม่มาก เรียกว่าหมดแล้วหมดเลย ไม่มีเพิ่มและไม่มีเก็บเป็นของเหลือค้างคืน
ก๋วยเตี๋ยวแคะเส้นหมี่น้ำ
       สำหรับลูกชิ้นแคะที่ทางร้านทำเองและใส่มาในก๋วยเตี๋ยวก็มี ลูกชิ้นเต้าหู้ยัดไส้ ที่ถือว่าเป็นลูกชิ้นตัวเอกของก๋วยเตี๋ยวแคะเลย ทำมาจากหมูสับ เนื้อกุ้งแห้ง เนื้อหมึกแห้ง เนื้อปลากราย ที่ผสมคลุกเคล้าปรุงรสเข้าด้วยกัน แล้วนำมายัดเป็นไส้ใส่มาในเต้าหู้ขาว และนำไปนึ่งจนสุก ชิมรสชาติแล้วต้องบอกว่าหอมกลิ่นเต้าหู้อ่อนๆ ขึ้นจมูก ตัวเต้าหู้นุ่มนิ่มเข้ากับไส้เนื้อนุ่มที่ออกรสกลมกล่อมถูกปากดี
ก๋วยเตี๋ยวแคะเส้นใหญ่แห้ง
       ลูกชิ้นตัวต่อมาคือ ลูกชิ้นทอด เป็นลูกชิ้นลูกกลมทำมาจากหมูสับ กุ้งแห้ง หมึกแห้ง และเนื้อปลากราย ที่ผสมปรุงรสคลุกเคล้าให้เข้ากัน และปั้นด้วยมือเป็นลูกกลมนำไปลวก แล้วก็นำมาทอดอีกที กินแล้วได้รสชาติของลูกชิ้นรสดีที่เคี้ยวแบบเต็มปากเต็มคำ
      
       อีกหนึ่งลูกชิ้นที่ทางร้านทำเอง คือ ลูกชิ้นหมู เป็นลูกชิ้นที่ทำมาจากหมูสับ ผสมกับเนื้อปลากราย กุ้งแห้ง และหมึกแห้ง ที่นวดเคล้าปรุงรสให้เข้มข้น เน้นใส่พริกไทยด้วย ปั้นเป็นลูกด้วยมือเช่นกันแล้วนำมานึ่ง กินแล้วลูกชิ้นเนื้อนุ่มเคี้ยวเด้งหนึบออกรสเข้มข้นพริกไทย และก็ยังมีลูกชิ้นอีก 2 อย่างที่ใส่มาในก่วยเตี๋ยว คือ ลูกชิ้นปลา และฮือก้วย ที่ถึงแม้ว่าทางร้านจะไม่ได้ทำเอง แต่ก็เลือกมาจากร้านที่ทำลูกชิ้นอย่างดี กินแล้วไม่คาว
เกาเหลาลูกชิ้น
       และนั่นคือเครื่องลูกชิ้นที่ใส่มาในก๋วยเตี๋ยวแคะของที่นี่ ขอบอกว่าจะสั่งก๋วยเตี๋ยวแคะมากินแบบน้ำก็อร่อยเข้าท่าดี เพราะจะได้ซดน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ ที่รสชาติกลมกล่อมหวานน้ำต้มกระดูก หรือถ้าจะสั่งแห้งมากินก็เลิศลิ้นไม่แพ้กัน ซึ่งเส้นก๋วยเตี๋ยวของที่นี่ก็มีให้เลือกอยู่หลายอย่างมีทั้ง เส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ บะหมี่เหลือง และเกี๊ยมอี๋ แต่ถ้าใครไม่ชอบกินเส้นก็สั่งเป็นเกาเหลาลูกชิ้นล้วนๆ มากินกันไปเลย และราคาก๋วยเตี๋ยวแคะของที่นี่ขายอยู่ที่ธรรมดา ชามละ 30 บาท พิเศษ 35 บาท เรียกได้ว่าหากได้มาลองลิ้มแล้วเป็นได้อิ่มแบบสบายท้องในราคาย่อมเยา

“ขนมเบื้องญวน สุอาภา” คงคุณค่าความอร่อยแบบโบราณ

คุณสุอาภากับร้านขนมเบื้องญวนสูตรโบราณ
       “อยากกินของอร่อย ต้องใจเย็นๆ” สโลแกนนี้ใช้ได้ดีกับของกินที่“ผ่านมาแวะกิน”ไปประสบพบเจอในครั้งนี้ นั่นคือร้าน “ขนมเบื้องญวน สุอาภา” ร้านรถเข็นเล็กๆที่ตั้งขายอยู่ริมถนน ตรงแยกตลาดพลู ย่านฝั่งธนบุรี ที่มีคุณสุอาภา บรรดาลสุขสันต์ ยืนทำขนมเบื้องญวนขายด้วยตัวเอง พร้อมๆกับมีลูกค้าจำนวนมากมานั่งคอย ยืนคอยอยู่
      
       พูดถึงความเป็นมาของร้านนี้คุณสุอาภา บอกว่าขายขนมเบื้องญวนนี้มานานกว่า 17 ปีแล้ว เป็นแบบสูตรโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดสูตรเด็ดนี้มาจากรุ่นคุณแม่ ใช้เตาถ่านในการทำแบบโบราณ เพราะสามารถควบคุมความร้อนได้ดีและร้อนระอุทั่วกระทะดีกว่าเตาแก๊ส ทำให้ขนมเบื้องณวนมีความหอมชวนกิน
เตาถ่านช่วยให้ขนมเบื้องญวนหอมอร่อยมากขึ้น
       ในส่วนการทำจะมีเครื่องที่เป็นหัวใจหลักอยู่ 2 อย่าง คือ แป้ง กับไส้ คุณสุอาภาใช้แป้งข้าวเจ้าผสมขมิ้นนวดให้เข้ากัน และเติมน้ำจนได้เป็นแป้งขนมเบื้องญวนใสๆสีเหลือง ส่วนไส้จะมีถั่วงอก เต้าหู้เหลืองที่ผัดพอร้อน มีถั่วลิสงที่ทางร้านคั่วเอง ไชโป๊หวาน และหน้ากุ้งที่ทำด้วยมะพร้าว และเนื้อกุ้งสด นำมาผัดและปรุงรสด้วยน้ำตาล
      
       นอกจากนี้ที่สำคัญคือ คุณสุอาภาจะเตรียมวัตถุดิบที่จะทำมาขายแบบสดใหม่ วันต่อวัน ไม่มีการนำเอาของเหลือค้างมาขายอย่างเด็ดขาด และแต่ละวันทำมาขายแบบไม่มาก เรียกว่าหมดแล้วหมดเลย
      
       สำหรับขนมเบื้องญวนของที่นี่มีให้เลือกสั่งกินอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ มีแบบ ไข่นิ่ม ไข่กรอบ และแบบแป้ง ในราคาเท่ากันหมดคือ 30 บาทต่อชิ้น
       

ขนมเบื้องญวนแบบไข่นิ่ม(บน) แบบไข่กรอบ (ล่าง)
       เริ่มด้วย แบบไข่นิ่ม ทำโดยการนำแป้งขนมเบื้องญวนมาตีรวมกับไข่เป็ด ร่อนลงไปบนกระทะ แล้วใส่ไส้ลงไปคือ ถั่วงอก ถั่วลิสง เต้าหู้ ไชโป๊หวาน หน้ากุ้ง และโรยหน้าด้วยต้นหอม ห่อเป็นสี่เหลี่ยม เสิร์ฟคู่กับอาจาดที่ทางร้านทำเอง มีน้ำส้มสายชู น้ำตาลปี๊ป เกลือ นำมาเคี่ยวให้ได้ที่ ใส่แตงกวา พริกเหลืองและหอมแดงซอย ลิ้มรสชาติขนมเบื้องญวนแบบไข่นิ่มแล้วโดนใจปากตรงที่แป้งจะนิ่มจะหอม บวกกับได้รสชาติไส้ที่กลมกล่อมออกหวานมันหน้ากุ้ง กินเข้ากันดีกับน้ำอาจาดที่ออกเปรี้ยวๆ หวานๆ
      
       ส่วน แบบไข่กรอบ วิธีการทำก็คล้ายกับแบบไข่นิ่มแต่เมื่อห่อเสร็จแล้วนั้นจะเอาไปทอดด้วย น้ำมันหมูและไฟที่แรงทอดพอให้เหลืองกรอบ กินแล้วจะสัมผัสได้ถึงความกรอบนอกนุ่มในของแป้งและไส้รสดี
ขนมเบื้องญวนแบบแป้ง
       และอีกแบบคือ แบบแป้ง ที่ต้องใช้เวลาทำนานกว่าแบบอื่นเพราะต้องใช้ไฟอ่อน โดยนำแป้งอย่างเดียวไม่ผสมไข่ร่อนบนกระทะ และรอจนแป้งร่อนอกอมาเอง แบบแป้งนี้กินแล้วจะได้ความรู้สึกถึงแป้งที่หอมบางกรอบมากๆ
คุณสุอาภา ผู้คงไว้ด้วยรสชาติขนมเบื้องญวนอันเป็นเอกลักษณ์
       ใครมีโอกาสผ่านไปแถวตลาดพลูหากอยากลิ้มลองขนมเบื้องญวนสูตรโบราณรสชาติถูกปากก็สามารถไปแวะกินได้ที่ ร้าน“ขนมเบื้องญวน สุอาภา” ซึ่งร้านนี้ไม่มีที่ให้นั่งกิน ต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น และต้องใจเย็นๆ รอนานสักนิดถึงจะได้กินของอร่อย