คำว่า “โอชา” ที่แปลว่า “อร่อย” นั้นใช้กับอาหารเลิศรสทั้งหลายที่เมื่อผ่านการลิ้มลองแล้วก็ต้องบอกว่า “อร่อยมาก” อย่างร้านไหนที่ใช้ชื่อว่าโอชา ก็สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าต้องอร่อยแน่นอน เหมือนร้านที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะพาไปลองชิม ก็ใช้ชื่อว่า “ปฐมโอชา” ที่เมื่อลองชิมแล้วต้องบอกว่าโอชาในเรื่องก๋วยเตี๋ยวเป็ดจริงๆ ร้าน “ปฐมโอชา” เปิดมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 (ลองนับดูกันเล่นๆ ว่ากี่ปี) โดย คุณนิวัฒน์ รุ่งรักไทย เป็น ผู้ก่อตั้ง ซึ่งนอกจากชื่อที่มาจาความโอชาแล้ว คำว่าปฐมที่นำมาใช้นั้นก็มาจากการที่คุณนิวัฒน์เป็นชาวนครปฐมที่ขึ้นชื่อ เรื่องเป็ดนั่นเอง | ||||
สำหรับน้ำซุปที่ใช้ทำก๋วยเตี๋ยวจะเคี่ยวจากกระดูกเป็ดผสมกับกระดูก หมู และเนื้อเป็ด เคี่ยวพร้อมกับเครื่องยาจีนและเครื่องเทศไทย ปรุงรสตามสูตรของทางร้าน ก็จะได้น้ำซุปแดงยาจีนที่หอมชวนกิน ส่วนเป็ดนั้นเลือกใช้เป็ดไทย เป็นเป็ดแก่นำมาต้มกับน้ำ แล้วสับเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ตุ๋นกับน้ำซุปให้เข้าเนื้อ | ||||
ดูเครื่องเคราส่วนผสมกันไปแล้ว ก็ต้องลองชิมของจริงว่าจะโอชาแค่ไหน เริ่มจากเมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต้มยำ (45 บาท) ที่มีเส้นให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และบะหมี่ ใส่เครื่องเคราทั้งเป็ดตุ๋น หมูกรอบ หมูสับ กุ้งแห้ง หนังหมู เลือดเป็ด เห็ดหอม ไส้ กึ๋น และตับ ใส่น้ำซุปแดงยาจีน ปรุงรสใส่น้ำตาลทราย พริกป่น ถั่วป่น และมะนาว ลองชิมรสชาติแซ่บอร่อยโดนใจ | ||||
ส่วนใครที่อยากลองลิ้มเนื้อล้วนๆ ให้อิ่มใจ ก็ต้องสั่ง เป็ดตุ๋น (60 บาท) ที่มีให้เลือกทั้งเนื้อเป็ด ปีก ขา คอ และลิ้น หรือจะเลือกผสมกันก็ได้ ชิมแล้วเนื้อนุ่ม ไม่แข็งไม่สาบ หอมกลิ่นยาจีน หรือจะชิม ไส้เป็ด (60 บาท) ที่เคี้ยวแล้วเด้งกรุบกินเพลิน | ||||
อร่อยโอชา ถูกใจถูกปากแบบนี้ ก็ต้องมาชิมก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นกันที่ร้าน “ปฐมโอชา” ซึ่งนอกจากจะมีที่สาขา ถ.กาญจนาภิเษกแห่งนี้แล้ว ก็ยังมีอีกสาขาที่ ถ.ราชพฤกษ์ อีกด้วย | ||||
ร้าน “ปฐมโอชา” ตั้งอยู่ที่ 443 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. การเดินทางจาก ถ.บรมราชชนนี ให้เลี้ยวเข้าสู่ ถ.กาญจนาภิเษก มุ่งหน้าเดอะมอลล์บางแค ผ่านเดอะมอลล์ ขึ้นสะพานข้ามถนนเพชรเกษม วิ่งตรงไป จากนั้นให้กลับรถที่สะพานกลับรถ แล้วชิดซ้าย สังเกตซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนนก่อนถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม มีป้ายให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. โทร. 0-2803-5431, 08-1832-2768 ส่วนสาขา ถ.ราชพฤกษ์ มุ่งหน้าออก ถ.บรมราชชนนี จะอยู่ทางซ้ายมือ โทร. 08-1912-4245, 08-9494-0696 สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ ร้านปฐมโอชา สาขา ถ.กาญจนาภิเษก ปิดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 - 4 มกราคม 2555 ส่วนสาขา ถ.ราชพฤกษ์ เปิดทุกวัน |
“ปฐมโอชา” เลิศรสก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น
"น้ำทับทิม" ป้องกันสมองเสื่อม
credit karnoi bloggang.com
ทับทิม
เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณป้องกันอาการหลง ๆ ลืม ๆ ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ
ในส่วนของเมล็ดยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตัวการก่อมะเร็ง
นอกจาก
ทับทิมแล้ว เครื่องดื่มแก้วนี้ยังต้องการส่วนผสมเพื่อเพิ่มคุณค่าเข้าไปอีก
มีทั้งแตงโม มะนาว ส้ม และสับปะรด ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินซี
ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และทำให้แผลหายเร็วอีกด้วย
สรุปส่วนผสมที่ต้องเตรียม คือ....
- ทับทิม
- แตงโม
- มะนาว
- ส้ม
- สับปะรด
ขั้น
ตอนในการทำ เริ่มจากการแกะเมล็ดทับทิมออกจากผล แล้วใส่รวมกันในผ้าขาวบาง
บีบคั้นเอาแต่น้ำ ส่วนผลไม้ชนิดอื่นๆ นำไปคั้นเอาแต่น้ำเช่นกัน
เมื่อได้ส่วนผสมทั้งหมดแล้วให้นำไปผสมรวมกัน
จากนั้นนำไปเขย่ารวมกับน้ำแข็งก้อนใหญ่เพียงชั่วครู่
ก็จะได้เครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวานที่เย็นจับใจ ดื่มได้ทันที
ที่มา : ที่นี่ดอทคอม
พิษปลาปักเป้า
credit bangkokseen1 bloggang.com
พิษปลาปักเป้า
ปลาปักเป้ามีพิษก็เพราะว่ากินอาหารตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นพืช หอยเม่น
หอยทะเล หนอนทะเล ซึ่งมีเชื้อแบคทีเรีย
ทำให้ปลาปักเป้าเกิดการสร้างพิษสะสมในตับ ไข่ ต่อมเพศ หนัง กระเพาะ
และลำไส้ เรียกว่าทั้งตัวเต็มไปด้วยพิษ
แต่ปริมาณพิษจะรุนแรงสุดที่รังไข่กับตับ
กินเข้าไปจะรู้สึกชาและคันที่ริมฝีปาก ลิ้นและปลายนิ้วกระตุก ระคายคอ
ปวดท้อง อ่อนเพลีย ชีพจรเต้นเบา และเสียชีวิตในที่สุด
การกินปลาปักเป้าต้องรู้หลักและวิธี
คือจะต้องชำแหละไม่ให้เครื่องในและน้ำดีในตัวปลาสัมผัสแตะต้องกับเนื้อปลา
คือต้องเป็นคนทำเป็นจริงๆ ถึงจะปลอดภัย
เมื่อปี พ.ศ. 2485 มีผู้สกัดสารพิษจากปลาปักเป้าที่เรียกว่า
เตโตรโดทอกซิน ซึ่งสะสมอยู่ในไข่ ตับ น้ำดี กระเพาะ ลำไส้ ผิวหนัง
รวมทั้งอาจมีอยู่ในเนื้อปลาด้วย หากรับประทานเข้าไป อย่างเร็ว 10 นาที หรือ
อย่างช้าไม่เกิน 4 ชั่วโมง พิษก็จะแสดงอาการ
และที่สำคัญพิษนี้จะทนต่อความร้อนมาก แม้ว่าจะใช้
ความร้อนที่อุณหภูมิสูงถึง 70 องศาเซลเซียล นาน 10 นาที
ก็ไม่อาจทำลายพิษนี้ได้
สำหรับสารเตโตรโดทอกซินจะทำลายระบบปราสาทของคนที่กินปลาปักเป้า
โดยขัดขวางการเคลื่อนที่ของโซเดียมอิออนที่อยู่บริเวณผนังเซลล์ปราสาท
และทำให้เส้นปราสาทไม่ทำงาน โดยผู้ป่วยที่รับพิษมีอาการ 4 ขั้น
ขั้นที่ 1 เริ่มจากอาการชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้ว คล้ายฉีดยาชา คลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน กระสับกระส่าย
ขั้นที่ 2 จะมีอาการชา และอาเจียนมากขึ้น แขนขาอ่อนแรงหรือเดินไม่ได้
ขั้นที่ 3 แขน ขา เคลื่อนไหวไม่ได้ กล้ามเนื้อกระตุก คล้ายอาการชัก พูดลำบากออกเสียงเป็นอัมพาต แต่ผู้ป่วยยังมีสติอยู่
ขั้นที่ 4 มีอาการหายใจไม่ออก เพราะกล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจเป็นอัมพาต ลำตัวเขียวคล้ำ หมดสติ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็จะเสียชีวิต
ปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษดังกล่าวเลย
สำหรับผู้ที่กินปลากปักเป้าแล้วเกิดพิษนั้น ไม่ได้มาจากการแพ้
แต่เพราะกินสารพิษเตโตรโดทอกซิน อาการจะมาหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่า
รับสารพิษเข้าร่างกายมากหรือน้อย และกินส่วนใดของปลา เช่นถ้ากินไข่
หรือตับจะได้รับสารพิษมาก หากกินเนื้อและหนังจะได้รับสารพิษน้อยกว่า
ดังนั้นหากกินสารพิษเข้าไปในปริมาณมาก ก็จะเกิดอาการพิษทุกราย
ไม่มีการยกเว้นว่าแพ้หรือไม่แพ้ปลาปักเป้ารวมถึงการกินปลาปักเป้าในฤดูวาง
ไข่ ซึ่งเป็นฤดูที่ปลาผลิตสารพิษสูงตามไปด้วย
ทางที่ดีถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุด ไม่ควรรับประทานจะดีกว่า ปลอดภัยที่สุด
“ข้าวมันไก่เจ๊วา” อร่อยโดนใจคนชอบไก่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2547 15:37 น.
มื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ขอฮัมเพลงนี้ของพี่เจมส์ไปพร้อมๆกับการกินข้าวมันไก่เจ้าอร่อย ถึงจะรู้ว่าเป็นมารยาทที่ไม่ค่อยงามนัก แต่ก็อดใจไม่ไหวจริงๆ เพราะ “ข้าวมันไก่เจ๊วา” ที่อยู่ตรงข้ามเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยฯ นั้นอร่อยไม่แพ้ใครเลย และนอกจากจะมีข้าวมันไก่แล้ว ยังมีของดีของเด็ดในร้านอีกหลายเมนูให้ลิ้มลอง เอาล่ะ !! ไม่พูดพล่ามทำเพลง ขอสาธยายให้รู้กันเลยว่าที่บอกอร่อยๆนั้นเป็นยังไง เพราะขืนมัวชักช้าเดี๋ยว วัยรุ่นเซ็ง | |||||
ส่วนข้าวมันที่หอมนุ่มจนสามารถทานเล่นๆ ได้เลยนั้น แทนที่จะใช้น้ำกะทิมาทำ ก็เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืชและเจียวกระเทียมหอมๆ เข้าไปแทน ยิ่งได้น้ำจิ้มรสเข้มข้นที่ทางร้านทำขึ้นเองก็แซบสะระตี่เข้าไปใหญ่ เรียกว่าเผ็ด เปรี้ยว หวาน กำลังดี พร้อมกับซดน้ำซุปร้อนๆ ซึ่งก็ใช้น้ำต้มไก่นั่นเองมาทำ จึงได้รสชาติความหอมมันเข้ากั๊น เข้ากัน จนต้องร้องขอน้ำจิ้มและน้ำซุปเพิ่มอีกถ้วย | |||||
ไปต่อกันที่ ข้าวหมูอบ (25-30 บาท) นี่ก็ใช้เนื้อหมูส่วนสะโพกหมักกับเครื่องเทศทั้งผงพะโล้ พริกไทย รากผักชี ให้ค่อยๆ ซึมเข้าเนื้อหมูแบบทั่วถึง แล้วนำไปอบอีกเป็นชั่วโมง เนื้อหมูจึงเปื่อยยุ่ยได้ที่ แค่แตะรสลิ้นก็เพลินไปถึงไหนๆ ยิ่งได้กลิ่นหอมฉุยเตะจมูกเป็นระยะๆ ฉับพลันทันใดข้าวหมูอบก็หายวับไปกับตา แต่มาหนักตรงกระเพาะแทนเพราะความอิ่มแบบเต็มที่นี่เอง สำหรับใครที่อยากทานเป็นเมนูดับเบิ้ลทานหนึ่งได้ถึงสอง จะเป็นไก่ต้มคู่ไก่ทอด ไก่ทอดคู่หมูอบ หมูอบคู่ไก่ต้ม หรืออะไรก็แล้วแต่แค่ 35 บาทเท่านั้น และนอกจากจะมีเมนูข้าวแล้วยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวสารพัน ทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ ต้มยำ น้ำใส เย็นตาโฟ หรือถ้าอยากจะซื้อกลับบ้านเป็นพิเศษ ก็มีไก่ต้มกิโลละ 150 บาท ส่วนหมูอบหรือไก่ทอดก็ราคา 40-100 บาท เรียกว่าอยากทานอะไรแบบไหนก็สั่งได้เลย * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ร้าน “ข้าวมันไก่เจ๊วา” อยู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งตรงข้ามเซ็นเตอร์วัน อยู่เชิงสะพานลอยคนข้ามถนน เรียกว่าลงจากสะพานลอยก็เจอร้านเลย ร้านเปิดตั้งแต่ 07.00-21.30 น. โทร. 0-2245-8900, 0-26409891 |
“แดรี่ โฮม” บ้านนี้อาหารอบอวลชวนกิน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 4 กรกฎาคม 2547 17:55 น. | |
อย่างครั้งนี้มีโอกาสผ่านไปทางถนนเส้นมวกเหล็ก จ.สระบุรี ก็ถามไถ่ผู้ที่คุ้นเคยในพื้นที่ถึงร้านอาหารน่าสนใจ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าน่าจะลองไปนั่งร้านชื่อ “แดรี่ โฮม” สักหน่อย เพราะร้านนี้เขามีอาหารและของกินเล่นรสดีให้กินเพียบ ได้ความดังนั้นก็ตรงดิ่งไปยังร้าน แดรี่ โฮม พอถึงร้านเห็นบรรยากาศร้านที่ตกแต่งด้วยไม้เก๋ๆ ดูอบอุ่นชวนนั่ง เราก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ยิงสั่งเมนูจากเด็กเสิร์ฟเป็นชุด เริ่มด้วยของกินเล่นอย่าง ชีสทอดกรอบ (50 บาท) ชีสมอสซาเร่ล่าปั้นเป็นก้อนกลมชุบแป้งสูตรเด็ดของทางร้านทอดจนสุกหอม ส่งก้อนชีสเข้าปาก กรอบนอกนุ่มใน รสกลมกล่อมนัก | |||||
อาหารที่ทยอยเสิร์ฟมาดูเหมือนจะทวีความหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมนูต่อมาที่ “ผ่านมาแวะกิน” เลือกสั่งก็คือ ขาหมูเยอรมัน (250 บาท) ซึ่งถึงแม้ว่าเยอรมันจะโชว์ฟอร์มได้ย่ำแย่ ตกรอบแรกในบอลยูโร 2004 แต่ว่าขาหมูเยอรมันจานนี้กับให้รสตรงข้ามกับฟอร์มการเล่นของนักเตะเยอรมัน อย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือรสชาติยอดเยี่ยม หนังหมูนั้นกรอบนัก ส่วนเนื้อในก็นุ่มแต่ว่ามีความแน่นแฝงอยู่ในตัว เรียกว่ากินกับไวน์หรือสารพัดเบียร์นานาชาติที่ร้านนี้มีไว้เอาใจคอเบียร์ ก็ถือว่าเข้ากันดีมั่กๆ | |||||
แดรี่ โฮม มีไอศกรีมแปลกรสชาติดีให้เลือกหลายอย่าง ที่เด่นและน่าลิ้มลองก็มี ลิ้นจี่ไวน์ขาว สตอเบอรี่ไวน์แดง เชอรี่บรั่นดี ตาปูชิโน เลือกสั่งเลือกกินกันตามใจเถอะ รับรองไม่ผิดหวัง สุดท้ายก่อนจากร้าน แดรี่ โฮม “ผ่านมาแวะกิน” ไม่พลาด ที่จะสั่งนมสด(แต่ไม่ใช่นมจากเต้า)ที่มาจากฟาร์มโคนมของทางร้าน ที่มีทั้ง รสจืด หวาน สตอเบอรี่ และช็อคโกแลต ซึ่งแต่ละอย่างต่างก็มีความเด่นแตกต่างกันไป แต่ที่พิเศษก็คือ นมสดพวกนี้ได้มาด้วยกระบวนการที่ปลอดสารพิษทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในตัววัว การรีดนม หรือในอาหารอย่างหญ้า เรียกว่าดื่มนมส่งท้ายถือเป็นการสั่งลาร้าน แดรี่ โฮม ได้เป็นอย่างดี * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * | |||||
|
Subscribe to:
Posts (Atom)