ต้มจับฉ่ายเพื่อสุขภาพ

ต้มจับฉ่ายเพื่อสุขภาพ credit คุณ pumorg bloggang.com






ต้มจับฉ่ายเพื่อสุขภาพ








บำรุงกันหน่อย..เมนูนี้ไม่ได้ทำมาเกือบปีแล้ว
ทำง่ายด้วยอร่อยด้วย













วัตถุดิบ - เครื่องปรุง : หมูสามชั้น
ผักที่บ้านมีอยู่แล้ว : หัวไชเท้า , กระหล่ำปลี , กระเทียม - พริกไทย , เห็ดหอม
ผักที่ซื้อเพิ่มจากตลาดจีน : Mustard Green , Sher Li Hon
ส่วนเครื่องปรุง : เกลือ , ซุปหมูคนอร์ , ซีอิ้วขาว , ซอสปรุงรสฝาเขียว ,
ฮอยซินซอส , ซีอิ้วดำหวาน , น้ำตาลเล็กน้อย









- หั่นหมูสามชั้นขนาดเหมาะให้ชิ้นหนา ๆ หน่อย
- โขลกกระเทียม - เมล็ดพริกไทย นำไปคลุกกับหมูสามชั้นที่หั่นเตรียมไว้
- ใส่น้ำมันพืชผัดกับหมูสามชั้น ปรุงรสด้วยซอสต่าง ๆ พอให้เนื้อหมูตึง ๆ
- ตั้งหม้อน้ำซุป ( ใส่น้ำเล็กน้อย ) ให้เดือด + ซุปก้อนคนอร์
- ใส่หัวไชเท้า - และนำหมูที่เราผัดเทใส่ในหมูน้ำซุป เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนหมูนิ่ม
- ใส่ผักตามลงไป ต้มจนกระทั่งผักนุ่ม ชิมรส , ลดไฟอ่อน









ต้มไว้วันถัดไปผักจะนิ่มขึ้น น้ำซุปอร่อยขึ้น









ต้มจับฉ่ายหมูสามชั้นเห็ดหอมทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ค่ะ

หลายอิ่ม... กับคนน่ารักที่ทำงาน ... ที่ฟูจิ

หลายอิ่ม... กับคนน่ารักที่ทำงาน ... ที่ฟูจิ  credit คุณ APPLEAIR bloggang.com

ก๊อกๆๆๆ 555(เล่นกับตัวเอง) สวัสดีทุกคนนะคะ วันนี้ช่วงเช้างานยังไม่เข้า อืมไม่ใช่เข้าไปแล้วจิ แต่ลูกค้าน่ารักมากๆ แต่พนักงานเราสิ ไม่รักองค์กรเลย แต่มีพี่ๆ แผนกที่เค้าคอยช่วยเปิ้ลตลอด โชคดีจังที่ยังมีคนๆ อีกมากมายบนโลกนี้ และมื้อนี้เปิ้ลได้ไปทานอาหารกลางวันกับพี่ๆ เพื่อนๆ อีกแผนกค่ะ วันนั้นจำได้เลย ไปถ่ายงานให้ Markating ไว้เสนองานนาย พี่ๆ จัดซื้อโทรมาชวนไปทาน คิดเลย โครตน่ารักกกกกกกกกกก ไม่ได้ทำงานด้วยกัน อยู่คนละชั้น คนละแผนก แต่คิดถึงเปิ้ลเสมอๆ อยู่ใกล้ๆ ทีมนี้รับรองมีแต่ความสุขล้นใจจริงๆ ที่สำคัญสาวสวยทั้งนั้น 555 ทานแบบว่าอิ่มมากๆ งั้นไปดูรูปดีก่า



ตอนนี้น้ำหนักขึ้นมาแล้ว 2 โล เพราะกินๆๆๆ นี่แหละค่ะมีเพื่อนทานข้าวเยอะ ก็ทำให้เปิ้ลทานได้เยอะ



หลายๆ คนคงจะทานกันบ่อยๆ ไม่บรรยายละกันนะคะ คือสั่งมาแบบเยอะมากๆ นี้คือชุดที่เปิ้ลทานละกัน คือรักๆๆ พวกพี่เค้าอยู่ใกล้ๆ เค้าเป็นผู้ใหญ่แล้วคือตามใจเด็กๆ มาก ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนสั่งได้เลย กิกิ



สั่งเรือมา 2 ชุด อิอิ กรี๊ดดดดดดดของโปรดเราทั้งนั้น






น้องๆ ก็น่ารัก ชอบชวนซื้อโน้นนี่นั้น 5555 ถ้าน้องมาอ่านคงจะพูดว่า น้องหรือพี่เปิ้ลชวนกันค่ะ 5555555






อาหารญี่ปุ่น เป็นอะไรที่เปิ้ลทานได้ไม่เคยเบื่อเลยสักคั้งค่ะ



สเต็กแซลมอน ไม่ได้ทานค่ะ ชอบทานแบบดิบๆ โฮะๆๆ




สลัดทูน่าแบบยำไทย อร่อยเปรี้ยวเผ็ด ถูกด้วยจานนี้ ถูกมากๆ






ปลาหมึกย่างซีอิ้ว อร่อย หอมๆๆ ไม่เหนียวฮะ



จานนี้ทานไป 2 ชิ้น เพราะสั่งมาหลายจาน




งั้น ขอลงไว้แค่นี้ก่อนนะฮะ เดี่ยวขอไปทักทายพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ blog ก่อนนะฮะ คิดถึงๆๆ อย่างอลเปิ้ลนะคะ ช่วงนี้ไม่ว่างแต่พยายามจะมารายงานตัวทุกอาทิตย์ละกันน ขอบคุณขอความหลังไมค์ดีดีของพี่ๆ ด้วยนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆนะคะ การที่เราคิดดี ทำดี มันทำให้เราเจอแต่คนที่ดี ราก็จะมีความสุขมากๆ จริงๆ นะคะ วันนี้ออกแนวไร้สาระ กิกิ เรื่อยเปื่อยไปหน่อยนะฮะ ( ฮุฮุ ) ไปละ ฟริ้ววววววววววววววววววววววววววววววว

ข้าวผัดใบโหระพากับปลาอินทรีทอดน้ำปลาทานแล้วไม่ทำให้อ้วน !

ข้าวผัดใบโหระพากับปลาอินทรีทอดน้ำปลาทานแล้วไม่ทำให้อ้วน !



จาน นี้ได้ไอเดียมาจากเพสโต้ซอสแบบฝรั่ง ทว่าปรับมาใช้ใบโหระพาไทยราคาถูกมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการปวดท้อง และช่วยขับลม เปลี่ยนจากแอนโชวี่เป็นกะปิ (ถ้าใครจะใช้เนื้อปลาร้าก็ไม่ว่ากัน) และเลือกใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์แทนเมล็ดสน ทำเป็นซอสก่อนนำมาผัดกับข้าวหอมมะลิจนร่วนแต่นิ่ม กลิ่นหอมยั่วน้ำลาย เคียงด้วยชิ้นปลาอินทรีทอดน้ำปลาแบบไทย ๆ จึงอร่อยถูกปากชนิดเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

☆ ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

เตรียม 30 นาที ปรุง 20 นาที

-ข้าวสวยร้อน ๆ 2 ถ้วย
-ซอสโหระพาสำหรับผัดข้าว ¼ ถ้วย (สูตรด้านล่าง)
-กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-พริกขี้หนูสับ 5 เม็ด
-หอมเล็กซอย 5 หัว
-ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-ใบโหระพาสำหรับโรยหน้า
-เม็ดมะม่วงหิมพานต์บดสำหรับโรยหน้า

-ส่วนผสมซอสโหระพาสำหรับผัดข้าว (ใช้ผัดได้ 4 ครั้ง)

-ใบโหระพาไทย 2 ถ้วย
-กะปินาบไฟพอสุก 2 ช้อนโต๊ะ
-กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 10 หัว
-หอมแขกปอกเปลือกสับหยาบ 1/4 ถ้วย
-น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
-เกลือ ¼ ช้อนชา
-พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
-เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุกบดหยาบ ¼ ถ้วย

☆ ส่วนผสมปลาอินทรีทอดน้ำปลา

-เนื้อปลาอินทรีสดหั่นชิ้นสเต็ก 2 ชิ้น
-น้ำปลาดี 4 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-พริกไทยป่นเล็กน้อย
-น้ำมันสำหรับทอดปลา ½ ถ้วย

☆ วิธีทำ

1.หมักปลากับน้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกไทย ไว้

2.ทำซอสสำหรับผัดข้าว โดยปั่นทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด พักไว้

3.ตัก ซอสที่ได้ 1/4 ถ้วย คลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ ให้เข้ากัน พักไว้ ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่น้ำมัน แล้วใส่หอมลงผัดจนสุก จึงใส่กระเทียมลงไปผัดให้เหลือง เร่งไฟแรงใส่ข้าวที่คลุกซอสไว้ลงผัดจนร่วน ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ปิดไฟ ใส่หอมซอยและพริกขึ้นหนูลงไปเคล้า ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบโหระพา และเม็ดมะม่วงหิมพานต์บดหยาบ พักไว้

4.เติมน้ำมันสำหรับทอดปลาลงในกระทะตั้งไฟกลางให้ร้อน ใส่ปลาลงไปทอดจนสุก ตักขึ้นเคียงจานข้าว รับประทานคู่กัน

Tip

● กะปิที่ใช้ ควรเป็นกะปิชนิดดี ทำจากเคย สังเกตได้จากเนื้อกะปิจะไม่เนียนมากนัก มีกลิ่นหอม เมื่อชิมจะมีรสเค็มอ่อนๆ ติดหวานเล็กน้อย


Credit  :  Health & Cuisine ปีที่ : 11 ฉบับที่ : 125 เดือน : มิถุนายน 2554

“Wagyuyaki” สเต็กรสเด็ด สวรรค์ของคนรักเนื้อ

“Wagyuyaki” สเต็กรสเด็ด สวรรค์ของคนรักเนื้อ






บรรยากาศภายในร้านวากิวยากิ




เนื้อวัวมีหลายประเภท หลายเกรด หลายราคาให้ได้เลืองลิ้มรสกันตามใจชอบ แต่ถ้าจะพูดถึงเนื้อวัวที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในวงการเนื้อว่ามีรสชาติอันดีเยี่ยม เนื้อหวานนุ่มฉ่ำละมุนลิ้น และมีราคาค่อนข้างสูง หนึ่งในนั้นก็คือ “เนื้อวากิว” ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น

สำหรับคนชอบกินเนื้อทั้งหลาย เชื่อว่าหลายคงก็คงอยากจะลองลิ้มรสชาติของเนื้อวากิวกันว่าจะอร่อยสมคำร่ำ ลือไหม?? ซึ่งถ้าหากใครอยากจะลิ้มรสเนื้อวากิวอันแสนอร่อย

ขอบอกว่า ไม่ต้องบินไปกินไกลถึงญี่ปุ่นแล้ว เพียงแค่ขับรถมาที่ซอยสุขุมวิท 24 ตรงเข้ามาก็จะเจอกับร้านอาหารน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน ชื่อว่า “Wagyuyaki Steak House” (วากิวยากิ สเต็กเฮ้าส์) ที่นี่ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบกินเนื้อสเต็กก็ว่าได้






ลีลาเชฟปรุงอาหาร



หากมาที่ร้านวากิวยากิแล้ว จะสัมผัสได้ถึงความเป็นสเต็กเฮ้าส์แบบญี่ปุ่นโมเดิร์น ตกแต่งร้านสไตล์คอนเท็มโพรารี่ ตัวร้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างมีโต๊ะนั่งโซนเทปันบาร์ที่จะได้เห็นเชฟปรุงอาหาร มีมุมเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ให้ได้นั่งดื่มเครื่องดื่มอันหลากหลาย

มี โซนโต๊ะนั่งมุมสบายๆ ซึ่งที่โต๊ะจะมีเตาปิ้งย่างแบบไร้ควันให้บริการด้วย และยังมีห้องส่วนตัวบริการ ส่วนชั้นบนมีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุม และมีเคาน์เตอร์บาร์เช่นกัน

เมนูเนื้อสเต็กของร้านวากิวยากิ ทางร้านได้นำเข้าเนื้อวากิวแท้ๆ ส่งตรงมาจากฟาร์มที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และได้คัดสรรเนื้อวากิวที่ดี มีคุณภาพ ลักษณะของเนื้อมีความนุ่มมาก มีไขมันแทรกเป็นริ้วเหมือนลายหินอ่อน ซึ่งเป็นไขมันแบบไม่อิ่มตัว อุดมไปด้วยโอเมกา-3 และโอเมกา-6





เนื้อวากิวที่ทางร้านสั่งตรงมาจากญี่ปุ่น



และนอกจากเนื้อวากิวแล้วทางร้านก็ยังมีเนื้อวัวนำเข้าจากอีกหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อจากอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ให้คอรักเนื้อได้อร่อยกันตามใจชอบ รวมถึงยังมีเนื้อหมู ไก่ และซีฟู้ด ที่จะเลือกสั่งเมนูมาให้เชฟปรุงเป็นแบบสเต็ก หรือจะเลือกไปปิ้งย่างเองที่โต๊ะก็ได้





เนื้อวากิว เซอลอยน์สเต็ก



มีเมนูสเต็กจานเด่น และเมนูจานเด็ดที่น่ากินของทางร้านมาแนะนำอยู่หลายเมนูด้วยกัน เริ่มด้วยจานเด่นที่มาแล้วต้องไม่พลาดสั่ง เนื้อวากิว เซอลอยน์สเต็ก (ราคาตามน้ำหนักชิ้นเนื้อ 100 กรัม 1,500 บาท) เป็นเนื้อวากิวส่งตรงจากญี่ปุ่น ชิ้นใหญ่กำลังดี

เชฟนำมากริลล์บน กระทะ ใส่เกลือนิดหน่อย กริลล์จนเนื้อสุกได้ที่ (หรือตามแต่จะสั่ง) แล้วสไลด์เป็นชิ้นมาให้กินแบบพอดีคำ พร้อมกับมีผักย่างเป็นเครื่องเคียง

กิน คู่กับซอสญี่ปุ่นที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ หอมกับกระเทียมซอยและหอมหัวใหญ่ปรุงรส และมายองเนสผสมไข่ขาวกับหอมใหญ่ คีบชิ้นเนื้อวากิวเข้าปากเคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงความหอมของเนื้อและรสชาติ เนื้อที่นุ่มหนึบหนับหวานฉ่ำปากมากๆ





สลัดเนื้อวากิว



จานต่อมานำเสนอ สลัดเนื้อวากิว (500 บาท) ทางร้านเลือกใช้แต่ผักไฮโดรโพนิกส์สดกรอบหลายชนิด มาพร้อมกับน้ำสลัดใสสไตล์ญี่ปุ่นสูตรเด็ดของทางร้าน กินคู่กับเนื้อวากิวที่สไลด์มาเป็นชิ้นพอดีคำที่นำไปผัดกับซอสสูตรพิเศษที่ ทางร้านปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ เมนูนี้ถูกปากทั้งสลัดผักสดกรอบชุ่มน้ำสลัดรสดี เนื้อวากิวช่างนุ่มลิ้นได้รสชาติน้ำซอสรสกลมกล่อมที่ซึมถึงในเนื้อ





แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวากิว



จากนั้นมาชิม แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวากิว (250 บาท) เป็นการนำเอาเนื้อวากิวมาบดผสมกับเครื่องปรุงแล้วปั้นเป็นก้อนแบบ แฮมเบอร์เกอร์ และเอามากริลล์จนสุก แล้วราดด้วยซอส ที่ปรุงรสตามสูตรเด็ดของทางร้าน ใส่เห็ดเข็มทอง และเห็ดหอมด้วย และมีผักสลัดมาให้กินเคียง ลิ้มรสแฮมเบอร์เนื้อวากินเคี้ยวแน่นหนึบปากได้รสชาติที่ดี เข้ากันดีกับซอสรสกลมกล่อมลิ้น





ฮันนี่ริป



มากินเนื้ออย่างอื่นที่ไม่ใช่เนื้อวัวบ้าง ฮันนี่ริป (200 บาท) เป็นซี่โครงหมูที่คัดมาอย่างดีเอาไปทอดแล้วนำมาผัดคลุกเคล้ากับซอสญี่ปุ่น และน้ำผึ้ง โรยหน้าด้วยงาขาว เสิร์ฟมาร้อนๆ ชิมซี่โครงหมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นน้ำผึ้งขึ้นจมูก และออกรสน้ำผึ้งหวานลิ้นจริงๆ





สเต็กไก่สมุนไพร



ต่อด้วยเมนู สเต็กไก่สมุนไพร (250 บาท) ทางร้านนำเนื้อไก่ส่วนสะโพกมาคลุกแป้งทอด แล้วก็มีน้ำราดที่ปรุงด้วยเครื่องสมุนไพรไทย ตะไคร้ ใบมะกรูด กระเทียม ที่นำมาผัดกับเนย พริกไทย โชยุญี่ปุ่น สาเกญี่ปุ่น นำมาราดบนเนื้อไก่ กินแล้วเนื้อไก่นุ่มชุ่มรสซอสหอมกลิ่นเครื่องเทศมากๆ





คานิซุป



แล้วมาซดซุปร้อนๆ คานิซุป (150 บาท) เป็นซุปมิโซะที่มีปูถึงครึ่งตัวใส่มาด้วย รสชาติซุปหอมๆ ออกเค็มนิดๆ กินเข้ากันดีกับเนื้อปูสดๆ


ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีก อาทิ สลัดซีฟู้ด (300 บาท) สเต็กปลาแซลมอน (450 บาท) เนื้อยูเอส สตริปลอยน์สเต็ก (ราคาตามน้ำหนักชิ้นเนื้อ 100 กรัม 450 บาท) เนื้อนิวซีแลนด์ ริปอายยากิ (ราคาตามน้ำหนักชิ้นเนื้อ 100 กรัม 300 บาท) ฯลฯ รวมถึงยังมีโปรโมชั่นเครื่องดื่มในช่วงเวลา 17.00-20.00 น.


“Wagyuyaki Steak House” (วากิวยากิ สเต็กเฮ้าส์) ตั้งอยู่ที่ 45/1 ซ.สุมขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท คลองตัน คลองเตย กทม. การเดินทางถ้านั่งรถไฟฟ้าBTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินมาที่ ซ.สุขุมวิท 24 และตรงเข้ามาในซอยจะเห็นร้านวากิวยากิตั้งอยู่ซ้ายมือ

จุดสังเกต ตรงข้ามกับ Le Raffine' Service Aprartment มีที่จอดรถด้านในร้าน เปิดทุกวัน เวลา 17.00-01.00 น. กลางเดือน มิ.ย. นี้ ทางร้านจะเปิดขายอาหารกลางวันญี่ปุ่นเป็นเซ็ท ตั้งแต่ 11.00 น. เป็นต้นไป โทร. 0-2258-5746

ถ้าหากว่ามากินอาหารที่ร้านแล้วบอกว่าอ่านมาจากน สพ. ASTVผู้จัดการรายวัน ทางร้านยินดีมอบส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่มให้ 10% ถึง 30 มิ.ย. นี้


ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์


ภุมวารสิริวิบูลย์ค่ะ

ข้าวหมูแดง

credit  lovejustinkung  bloggang.com
ข้าวหมูแดง

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอเสนอเมนู ข้าวหมูแดง ทำได้ง่าย ๆ ด้วยโลโบ้ค่ะ

วิธีทำ ก็แสนง่าย มีบอกไว้ข้างหลังซองแล้วนะคะ

นี่คือหมูแดง ที่อบเสร็จแล้ว เราหมักค้างคืนในตู้เย็นเลยค่ะ เพื่อให้น้ำหมูแดง ซึมเข้าเนื้อหมูให้มากที่สุด




หั่นใส่จานเตรียมไว้



น้ำหมูแดง ใช้ผงโลโบ้เหมือนเดิม แต่เราปรับสูตรเองเพิ่มอีกนิดหน่อยค่ะ (ใช้ผงโลโบ้เพียงแค่ 1 ช่้อน แต่ได้น้ำหมูแดง ที่เข้มขันมาถึง 1 หม้อเลยทีเดียว)






แท่น แทน แท๊น... น่ากินไหมคะ ผักเยอะมาก เพราะชอบกินผักมากค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มข้าวหมูแดง ก็ประกอบด้วย

ซีอิ๊วดำ 6 ช้อน + น้ำส้มสายชู 4 ช้อน + พริกขี้หนูซอย ตามชอบ