“นัฐพร” ไอศกรีมรสไทย ชื่นใจ คลายร้อน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2553 16:16 น.
บรรยากาศร้านนัฐพร
       ย่างเข้าสู่เดือนเมษายนอย่างเต็มตัว อากาศทวีความร้อนระยับแบบถึงขีดสุด ทำเอา “ผ่านมาแวะกิน” ต้องหาวิธีคลายร้อนแบบยกใหญ่ ทั้งเปิดแอร์ เปิดพัดลมกระหน่ำให้เกิดความเย็น ช่วยลดอุณภูมิอากาศให้คลายลมร้อนลงไปบ้าง และหากหาของกินเย็นๆ อย่างไอศกรีมใส่ท้อง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคลายร้อนได้ดีนักเชียว
นัฐพร รุ่งโรจน์สุวรรณ ชวนกินไอศกรีม
       ดังนั้นในมื้อนี้เราจึงขอหลบลมร้อน มาเพิ่มความเย็นกับการกินไอศกรีมหวานๆ เย็นๆ ให้ชื่นใจ กันที่ร้าน “นัฐพร” ที่นี่ขายไอศกรีมโฮมเมดแบบไทยๆ อยู่ที่แพร่งภูธรมานานกว่า 70 ปี มีคุณนัฐพร รุ่งโรจน์สุวรรณ ทายาท รุ่นที่ 3 เป็นเจ้าของร้าน ที่สืบทอดการทำไอศกรีมสูตรโบราณแบบไทยๆ มาเป็นอย่างดี และยังมีการคิดค้นไอศกรีมรสใหม่ๆ ขึ้นมาอีก ไอศกรีมของที่นี่เน้นใส่ใจเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาทำ และไม่มีการใส่สารกันเสีย เรียกว่ากินแล้วชื่นใจ แถมปลอดภัยต่อร่างกาย และก็มีรสไอศกรีมกว่า 9 รสชาติให้ได้เลือกกินตามใจชอบ
ไอศกรีมกะทิ (บน) ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน (ล่าง)
       “ผ่านมาแวะกิน” มาที่ร้านนี้ทีไรก็ไม่พลาดที่จะสั่ง ไอศกรีมกะทิ เป็นไอศกรีมรสเด่นดั้งเดิมที่ขายคู่กับร้านมานาน ทางร้านเลือกใช้มะพร้าวจากทับสะแกที่คัดมาเป็นพิเศษ นำมาคั้นเป็นน้ำกะทิแบบสดๆ แล้วนำมาผสมกับส่วนผสมพิเศษของทางร้าน พร้อมกับปั่นออกมาเป็นไอศกรีมกะทิสีขาวเนื้อเนียน ที่กินแล้วหวานหอมเข้มข้นมันกะทิ เย็นสดชื่นใจ
      
       อีกรสที่ชื่นชอบ คือ ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน เป็นการนำเอามะพร้าวอ่อนน้ำหอมที่สั่งตรงมาจากสามพรานเท่านั้น ใช้ทั้งน้ำและเนื้อมาปั่นรวมกับส่วนผสมจนได้ไอศกรีมมะพร้าว ที่ตัวเนื้อไอศกรีมคล้ายเชอเบท กินแล้วสดชื่นปาก สัมผัสได้ถึงรสชาติของมะพร้าวแท้ๆ ที่หวานหอม แถมมีเนื้อมะพร้าวอยู่ในตัวไอศกรีมด้วย
ไอศกรีมมะม่วง (บน) ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ (ล่าง)
       ส่วนถ้าใครชอบกินรสผลไม้แนะนำ ไอศกรีมมะม่วง ตัวไอศกรีมเป็นเนื้อเนียนสีเหลืองนวล ซึ่งทางร้านเลือกนำเอาเนื้อมะม่วงมหาชนกมาปั่นเป็นไอศกรีม ชิมแล้วออกรสมะม่วงหอมหวานชื่นฉ่ำปาก และอีกหนึ่งรสที่ชวนกิน คือ ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ ที่ใช้สตรอเบอร์รี่สดๆ นำมาปั่นกับส่วนผสมของไอศกรีม ได้ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่สีหวานรสเปรี้ยวอมหวานเย็นฉ่ำชื่นใจ
      
       นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมรสอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น รสนมสด กาแฟ ช็อคโกแลต ชานม รวมมิตร และหน้าผลไม้ทุเรียน ก็จะมีไอศกรีมรสทุเรียนอ อกมาให้กินอีกด้วย และไอศกรีมของที่นี่ก็ยังมีเครื่องให้เลือกสั่งใส่มาด้วยอีกมากมาย อาทิ มันเชื่อม ข้าวโพด ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วลิสง เม็ดบัว ลูกชิด ข้าวเหนียว สนนราคาไอศกรีมขายถ้วยละ 20 บาท แต่ถ้ารสผลไม้และมะพร้าวอ่อน ถ้วยละ25บาท แล้วถ้าอยากซื้อไอศกรีมกลับบ้านก็มีขายด้วย รสกะทิ 2 ก.ก. 200 บาท รสผลไม้ 2 ก.ก. 320 บาท และรสอื่นๆ 2 ก.ก. 280 บาท “ผ่านมาแวะกิน” ว่าร้อนๆ แบบนี้ พากันมากินไอศกรีมหวานๆ เย็นๆ ช่างเป็นอะไรที่ช่วยคลายร้อนให้ชื่นใจดีจริง
      
             
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “นัฐพร” ตั้งอยู่ที่ 94 ถ.แพร่งภูธร ศาลเจ้าพ่อเสือ พระนคร กทม. การเดินทางถ้ามาจากสะพานปิ่นเกล้า ให้วิ่งมาที่เลียบคลองหลอด ตรงมาจนถึง 4 แยกกระทรวงมหาดไทย ให้เลี้ยวซ้าย เข้าถ.บำรุงเมือง แล้วเลี้ยววอยตรงซอยแรกเข้าถ.แพร่งภูธร ตรงเข้ามาจะเห็นร้านนัฐพรอยุ่ทางซ้ายมือหัวมุมตึก มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-17.00 น. ทางร้านรับออกงานด้วย โทร. 08-1437-7377, 08-9826-5752

"ก๋วยจั๊บสามทุ่ม"น้ำซุปเด็ด สูตรแต้จิ๋ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2553 13:31 น.
บรรยากาศร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม"
       "ผ่านมาแวะกิน" เพิ่มกลับมาจากการเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยการกลับสู่กรุงเทพฯในครั้งนี้ เลือกที่จะเดินทางด้วยรถไฟและเมื่อมาถึงสถานีชุมทางบางซื่อ ซึ่งเป็นจุดที่ "ผ่านมาแวะกิน"ต้องลง ก็เป็นเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำพอดิบพอดี
      
       ด้วยความหิวโหยแกว่งท้องมาหลายชั่วโมง จึงสอดส่องหาอาหารรองท้องกันสักหน่อย และก็เหลียวไปเห็น ร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม" ร้าน ก๋วยจั๊บ(กวยจั๊บ)น้ำข้นซึ่งตั้งอยู่ริมทางรถไฟบางซื่อ ที่มีผู้คนต่อคิวเข้าแถวรอซื้อกันยาวเหยียด งานนี้ไม่ต้องคิดนานก็สาวเท้าเข้าไปมุดหาที่นั่งของร้านกันทันที
สารพันเครื่องใส่ก๋วยจั๊บ
       ร้านนี้เขาเป็นเจ้าเก่าแก่ประจำย่านนี้ ขายกันมากว่า24ปี โดยก่อนหน้านี้รุ่นพ่อของคุณหมวย พัชรินทร์ ชีววินิจ เคยขายที่จังหวัดตรัง และเมื่อย้ายเข้ามาขายในกรุงเทพ ก็ยังคงสืบทอดสูตรก๋วยจั๊บน้ำข้น สูตรเด็ดแต้จิ๋วที่รสชาติกลมกล่อม น้ำซุบเข้มข้น หนักเครื่อง เส้นเหนี่ยวนุ่ม อร่อย ไว้ได้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
      
       สั่งเพียงไม่นานก็ได้ ก๋วยจั๊บน้ำข้น ( ธรรมดา 25 พิเศษ 30) ชามโต สูตรแต้จิ๋วมาวางอยู่ตรงหน้า ก๋วยจั๊บที่นี่เขามีความแตกต่างจากที่อื่นเพราะโดดเด่นที่น้ำซุป ที่ใช้เครื่องพะโล้ เป็นวัตถุดิบใช้ เวลาเคี่ยวครึ่งวัน ไข่ก็เลือกใช้ไข่ไก่ คัดสรรค์วัตถุดิบเองทุกอย่าง
ก๋วยจั๊บชามโต
       ส่วนเครื่องในจำพวก ไส้ ปอด ตับ เลือด ก็เช่นกัน ก็มีวิธีการทำให้สะอาดไม่มีกลิ่นเหม็น เมื่อผสมผสานเข้ากับเส้นก๋วยจั๊บอันเหนียวนุ่มด้วยกรรมวิธีลับเฉพาะของทาง ร้าน บวกกับหมูสามชั้นทอดกรอบ จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกลมกล่อมเข้นข้นของร้าน ที่ทำให้มีลูกค้ามาต่อแถวยาวๆ รอกินกันทุกเย็น ใครที่ลงรถไฟหรือผานไปแถวสถานีรถไฟบางซื่อหากหิวก็ลองแวะเวียนไปได้ที่ร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม"
       

นั่งโซ้ยกันริมทาง
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       

       ร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม" ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ (สายเหนือ-สายตะวันออกเฉียงเหนือ) ถนนเทอดดำริ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.การเดินทาง ไปยังร้านก๋วยจั๊บสามทุ่ม จากแยกเตาปูน มุ่งหน้าไปทางโลตัสประชาชื่น ข้ามสะพานปูน แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเทอดดำริ ประมาณ 10 เมตร จะเห็นร้านก๋วยจั๊บสามทุ่มสูตรแต้จิ๋ว อยู่ฝั่งเดียวกับสถานีรถไฟบางซื่อ สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถของสถานีรถไฟบางซื่อและบริเวณใกล้เคียง เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00 - 24.00น.ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ โทร 0-85060-8501

รูปสวย รวยรสหวานเย็น "คุณป้อม ขนมปังเย็น"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2553 15:33 น.
หน้าร้านคุณป้อม ขนมปังเย็น
       สมัยเด็กหวานเย็น น้ำแข็งไส เป็นเมนูยฮดฮิตที่ "ผ่านมาแวะกิน" กินเป็นประจำยามหน้าร้อน ซึ่งไม่ว่าได้กินครั้งใด ก็เย็นฉ่ำชื่นใจอยู่เสมอ
      
       ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งท้ายหน้าร้อนในปีนี้ เราจึงขอย้อนวัยไปหม่ำขนมปังเย็นที่ทั้งน่ารักและน่ากิน ที่ร้าน "คุณป้อม ขนมปังเย็น" ร้านเด่นประจำตลาดท่านา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
      
       จุดเริ่มต้นของร้าน มาจากที่ คุณป้อม สมทรง สินสืบผล ได้ย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่นครชัยศรี โดยเริ่มทำรถเข็นขายกาแฟ นมสด ขนมปังสังขยา บริเวณหน้าศาลเจ้า จากนั้นก็ค่อยๆ ขยายและปรับปรุงจนมาเป็นร้านปัจจุบัน ส่วนเมนูขนมปังเย็นนั้น แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นแบบธรรมดา คือเอาขนมปังหั่นเป็นชิ้นใส่จาน โรยน้ำแข็งไส ใส่น้ำหวานและนมข้น ต่อมาก็ได้ประยุกต์เอาน้ำแข็งเข้าเครื่องปั่นกับน้ำหวานและนมจนเหมือนปุย หิมะ ก่อนที่จะเสิร์ฟให้ลูกค้า
หมูระเริงรสน้ำแดง(บน) สองเรารสนม(ล่าง)
       ในส่วนของการแต่งหน้าขนมปังเย็นนั้น เริ่มมาจากที่คุณป้อมอยากจะทำอะไรให้เป็นที่ดึงดูดใจลูกค้า และเป็นเอกลักษณ์ของร้าน จึงเริ่มมีการแต่งหน้าให้คล้ายกับขนมเค้กแล้วตั้งชื่อแยกเป็นเมนู แต่ละเมนูจะมีขนมปังหั่นเป็นชิ้นใส่ถ้วย โดยใช้ขนมปังที่มีความหวานอยู่ในตัวเอง เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย จากนั้นโรยด้วยน้ำแข็งปั่น แล้วแต่งเป็นหน้าต่างๆ ตามที่สั่ง และลูกค้ายังสามารถเลือกรสชาติน้ำแข็งปั่นได้ทั้งหมด 7 รสชาติ คือ น้ำแดง น้ำเขียว กาแฟ ชาเย็น โกโก้ โอวัลติน และนมสด
      
       ชื่อของขนมปังเย็นนั้น คุณป้อมก็ตั้งตามการตกแต่งหน้าของแต่ละเมนู เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกสั่งของลูกค้า โดยจะมีทั้งหมด 9 เมนู คือ หมูระเริง ปลาหลับ กระต่ายน้อย สองเรา เจ้าหมี ฝูงเป็ด เป็ดคู่ กุหลาบ และ องุ่น (ถ้วยละ 25 บาท) และยังมีเมนูพิเศษ รังนก (40 บาท) ที่สวยงามด้วยรังนกจำลอง เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า
ปลาหลับรสน้ำเขียว(บน) องุ่นรสโกโก้ (ล่าง)
       เมื่อได้ลองกินคำแรกแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที มีทั้งความหอม ความหวาน และความเย็น รวมอยู่ในคำเดียวกัน รสชาติของน้ำแข็งปั่นก็เข้มข้น กินคู่กับของแต่งหน้าชิ้นต่างๆ แล้วเข้ากันได้เป็นอย่างดี ตัวน้ำแข็งปั่นก็เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เอาเข้าปากแล้วไม่ต้องเคี้ยวก็ละลายได้เลย
      
       นอกจากเมนูขนมปังเย็นแล้ว ทางร้านยังมีของอร่อยไว้ให้เลือกอีกหลายเมนู อาทิ ซาลาเปา (ลูกละ 10 บาท) ขนมจีบ (30/50/100 บาท) ขนมปังสังขยา (25 บาท) กาแฟเย็น (20 บาท) ฟรุตสลัด (15 บาท) เป็นต้น และหากอยากจะซื้อขนมปังเย็นกลับไปอร่อยที่บ้าน ทางร้านก็มีกล่องโฟมให้ใส่ ซึ่งตัวน้ำแข็งจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง เรียกได้ว่าจะยกครัวมากินที่ร้าน หรือจะซื้อกลับบ้าน ก็เอร็ดอร่อย ถูกใจทุกคนแน่นอน
บรรยากาศสบายๆ ในร้าน
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน "คุณป้อม ขนมปังเย็น" ตั้งอยู่ที่ตลาดท่านา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม การเดินทางจากกรุงเทพฯใช้ถนนเพชรเกษม หรือถนนบรมราชชนนี ก่อนถึงตัวเมือนครปฐมประมาณ 10 กิโลเมตร จะมีสะพานทางแยกเข้าอำเภอนครชัยศรี ขับตรงไปเรื่อยๆ จะเจอแยกท่านา ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงไปอีกเล็กน้อย จะพบทางเข้าตลาดท่านาทางซ้ายมือ ตรงเข้าไปเรื่อยๆ วนผ่านตลาด ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ติดกับศาลเจ้า ใกล้ทางออกอีกฝั่ง สามารถจอดรถได้ในศาลเจ้า ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น. (หน้าร้านเปิดถึง 21.00 น.)โทร. 0-3422-8379 

“พันวา เฮ้าส์” คลอเคล้าคลื่น รื่นรสอาหารไทย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 มีนาคม 2555 15:36 น.
ห้องอาหารพันวา เฮ้าส์ เป็นอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีส
       ในความรู้สึกของ “ตระเวนกิน” การที่ได้เดินทางท่องเที่ยว เป็นเหมือนการได้ไปชาร์จแบตเตอรี่ เติมพลังให้กับร่างกายและจิตใจ อย่างที่เมื่อเรามีเวลาว่างได้มีวันหยุดยาวกับเขาสักครั้ง จึงไม่รีรอที่จะขอเลือกไปเที่ยวทะเลที่จ. ภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย มีชายหาดสวยๆ น้ำทะเลใสๆ รวมถึงยังมีที่พักอันสะดวกสบายให้ได้เลือกไปพักผ่อนกันอย่างเต็มที่
      
       และในการมาเที่ยวของ “ตระเวนกิน” ในครั้งนี้เราก็เลือกที่จะมาพักผ่อนที่โรงแรมเคป พันวา ภูเก็ต ซึ่ง มีธรรมชาติที่สวยงามชวนให้มาพักผ่อน มีหาดส่วนตัวให้ได้ลงเล่นน้ำ รวมถึงที่นี่ยังมีห้องอาหารอร่อยๆ ให้บริการด้วย ซึ่งถ้าไม่ใช่แขกที่มาพักที่โรงแรมก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ด้วย
โต๊ะนั่งด้านใน
       ห้องอาหารที่ว่ามีชื่อ “พันวา เฮ้าส์” เป็นห้อง อาหารไทยที่มีความสวยงาม เป็นอาคาร 2 ชั้นที่ตั้งอยู่ติดริมชายหาด ตัวอาคารมีความเก่าแก่และงดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมที่ผสมผสานของเมืองภูเก็ต ภายในจัดเป็นห้องมีโต๊ะอาหารให้เลือกนั่งกินในอารมณ์แบบสบายๆ เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน และยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้เลือกนั่งรับลมทะเลเย็นสบาย พร้อมกับชมวิวทะเลอันงดงามยามเย็น
      
       ในส่วนของเรื่องาอาหารที่ห้องอาหารพันวา เฮ้าส์ บริการเป็นอาหารไทยที่มีเมนูอันหลากหลายทั้งอาหารไทยพื้นบ้าน อาหารไทยพื้นถิ่น และเมนูซีฟู้ดที่นำมาปรุงเป็นอาหารไทยรสเลิศให้ได้ลองลิ้มกัน
น้ำพริกกุ้งเสียบ
       สำหรับมื้อนี้ “ตระเวนกิน” ได้เลือกสั่งเมนูอาหารไทยจานเด่นมาลิ้มลองกัน เริ่มด้วยเมนูอาหารไทยพื้นถิ่น ที่ถ้ามาเยือนภูเก็ตแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะต้องสั่ง น้ำพริกกุ้งเสียบ (170 บาท++) มากินกันให้ได้ น้ำพริกกุ้งเสียบเสิร์ฟมาเป็นชุดพร้อมเครื่องเคียงมากมาย ตัวน้ำพริกกุ้งเสียบที่นี่เขาเลือกใช้ กะปิอย่างตีมาตำ ปรุงรสกับน้ำตาลปีบ น้ำมะนาว กระเทียม พริกขี้หนูสด และใส่กุ้งเสียบลงไป ลิ้มรสน้ำพริกถึงเครื่องถึงใจอร่อยจังฮู้ กินเคียงกับมะเขือยาวชุบแป้งทอด บร็อคโคลี่ต้ม ดอกกะหล่ำต้ม ถั่วฝักยาวต้ม ถั่วงอกหัวโตดอง แตงกวา มะเขือเปราะ และสะตอสด
ยำส้มโอ
       เมนูต่อมาเป็น ยำส้มโอ (170 บาท++) ที่อุดมไปด้วยเครื่องเทศไทยหลายอย่าง นำส้มโอมายำกับไก่บด กุ้ง ไข่ไก่ต้มสุก ตะไคร้หั่น หอมแดงซอย ข่าหั่นหยาบ ขิงหั่นหยาบ กุ้งแห้งปั่นและปรุงรสคลุกเคล้ากับน้ำยำสูตรพิเศษ กินแล้วยำส้มโอรสชาติกลมกล่อมเข้ากับเครื่องสมุนไพรต่างๆ ได้อย่างลงตัวเข้ากันดีจริง
ฉู่ฉี่กุ้ง
       ตามมาด้วยเมนูนี้ ฉู่ฉี่กุ้ง (230 บาท++) เป็นกุ้งลายเสือที่นำมาทอดให้พอสุก แล้วก็ทำฉู่ฉี่แบบครบเครื่องแกง และนำกุ้งลงไปคลุกให้ทั่วกับเครื่องแกงฉู่ฉี่ โรยหน้าด้วยมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้าแดง ชิมฉู่ฉี่กุ้งหอมกลิ่นเครื่องแกงฉู่ฉี่ขึ้นจมูก กุ้งเนื้อหวานผสานรสชาติเครื่องแกงฉู่ฉี่ที่เข้มข้นหอมมันกะทิ
กั้งน้ำปลาหวาน
       ถัดมาชิมเมนูซีฟู้ดที่นำมาปรุงเป็นอาหารไทยจานเด็ด อย่างกั้งน้ำปลาหวาน (400 บาท++) ที่เลือกนำเอากั้งหินตัวโตกำลังดีมาคลุกแป้งและทอดจนสุกเหลือง แล้วก็ทำน้ำปลาหวานตามสูตรเฉพาะมาราดบนกั้งหิน โรยหน้าด้วย หอมเจียว พริกทอด และผักชี กินกั้งเนื้อแน่นหวานเข้ากับรสชาติน้ำปลาหวานหอมหวาน ถูกปากดีแท้
ปลากะพงต้มยำแห้ง
       จากนั้นมากินเมนูปลาจานเด่น ปลากะพงต้มยำแห้ง (310 บาท++) เป็นเนื้อปลากะพงแล่ติดหนังนำมาคลุกแป้งให้ทั่วแล้วทอดจนเหลือง และก็ทำต้มยำแห้งที่ครบเครื่องต้มยำแบบไทยแท้ แล้วก็นำเนื้อปลาที่ทอดไว้แล้วลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน และจัดใส่มาในตัวปลาอย่างสวยงาม ลิ้มรสแล้วถูกใจปากมาก ตรงที่เนื้อปลาสดและเครื่องต้มยำแห้งเข้าถึงเนื้อในปลาได้รสชาติจัดจ้านถึง เครื่องต้มยำจริงๆ
กรรเชียงปูทอด
       ส่งท้ายด้วยเมนูซีฟู้ด กรรเชียงปูทอด (170 บาท++) เป็นกรรเชียงปูสดๆ นำมาคลุกกับแป้งโกกิ แล้วทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ ให้จิ้มกินกับน้ำจิ้มบ๊วย กินกรรเชียงปูทอดชิ้นโตเคี้ยวเต็มปากเต็มคำดีเนื้อปูหวานสดดี
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมทะเลเย็นๆ
       ถึงแม้จะกินเมนูจานเด็ดมาก็หลายเมนูแล้ว แต่ขอบอกว่ายังมีอาหารไทยจานเด่นอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีก อาทิ ไก่ห่อใบเตย (160 บาท++) แกงเผ็ดเป็ดย่าง (220 บาท++) พะแนงไก่ (180 บาท++) เนื้อปูผัดพริกไทยอ่อน (220 บาท++) แกงเขียวหวานกุ้ง (220 บาท++)
      
       นอกจากนี้ยังมีอีกสารพันเมนูอาหารไทย ที่หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนภูเก็ตแล้วอยากหาร้านอาหารนั่งสบายๆในบรรยากาศ บ้านหลังงาม ท่ามกลางเสียงคลื่นคลอเคล้า ห้องอาหาร “พันวา เฮ้าส์” ของโรงแรมเคป พันวา ภูเก็ต ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “ห้องอาหารพันวา เฮ้าส์” ตั้ง อยู่ภายในโรงแรมเคป พันวา ภูเก็ต เลขที่ 27 หมู่ 8 ถ.ศักดิเดช ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต เปิดบริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 18.30-23.00 น. โทร. 0-7639-1123 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.capecollection.com

“ครัวคุณหญิง” ข้าวต้มเพื่อสุขภาพ อิ่มอร่อย ราคาเยา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 เมษายน 2555 10:08 น.
บรรยากาศที่นั่งภายในร้าน
       ในยุคแพงทั้งแผ่นดิน ของกินของใช้ต่างขึ้นราคากันถ้วนหน้า แต่เงินในกระเป๋าของเราๆท่านๆกลับไม่ได้เพิ่มตาม ดังนั้นการจะกินจะใช้อะไรจำเป็นต้องประหยัดรัดเข็มขัดให้เหมาะสมกับฐานะ
    
       สำหรับร้านข้าวต้ม “ครัวคุณหญิง” ที่“ผ่านมาแวะกิน” มีโอกาสได้ลองไปแวะเวียนลองลิ้มชิมรส ขอบอกว่านี่เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เหมาะสมกับยุคสมัย ชื่อร้านแม้ฟังดูไฮโซ แต่กับขายอาหารราคาย่อมเยา ที่สำคัญคือมีรสชาติอร่อยลิ้นชวนลิ้มลอง
อาหารนานาชนิดที่มีให้เลือกชิม
       ร้านครัวคุณหญิงทางร้านเน้นขายข้าวต้มเพื่อสุขภาพในบรรยากาศโล่งโปร่งสบาย มีให้เลือกทั้งข้าวต้มขาว (5 บาท) ที่ใช้ข้าวหอมมะลิมาต้มกับใบเตย ได้กลิ่นหอมสีสวย ส่วนอีกชนิดคือข้าวต้มสี (5 บาท) ที่ใช้ข้าวกล้อง ต้มพร้อมกับลูกเดือย ข้าวบาร์เล่ย์ และเผือก เวลาเคี้ยวก็ได้ทั้งความอร่อยและได้สุขภาพด้วย ซึ่งนอกจากข้าวต้มทั้งสองอย่างแล้ว ก็ยังมีข้าวสวย (5 บาท) ให้เลือกกินอีกด้วย
    
       ส่วนกับข้าวกับปลา ทางร้านก็มีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย แต่ละวันจะมีให้ชิมถึง 40 เมนู ที่จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เมื่อเดินเข้ามาถึงร้านก็มองเห็นวางเรียงรายให้เลือกกันที่ด้านหน้า กับข้าวที่อยู่ในแต่ละถาดนั้นขายกันในราคายืนพื้นที่จานละ 15 บาท
(แถวบน) หมูกรอบ และไข่เยี่ยวม้ากระเพรากรอบ (แถวล่าง) ปลาอินทรีย์ผัดขิง และเป็ดพะโล้กับไส้เป็ด
       มาลองชิมเมนูแรกกันเลย เริ่มที่ หมูกรอบ (15 บาท) ใช้หมูสามชั้นมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ให้เข้าที่ ก่อนจะนำไปคลุกกับแป้งแล้วทอดให้สุก ชิมแล้วเนื้อหมูนุ่มหอม ออกรสเค็มเล็กน้อย กินกับข้าวต้มแล้วอร่อยดี ส่วนเมนู ไข่เยี่ยวม้ากระเพราะกรอบ (15 บาท) ก็เลือกใช้ไข่เยี่ยวม้าคุณภาพดี นำไปทอดให้เหลืองสวย จากนั้นก็ทำผัดกระเพราหมูสับมาราดลงไป โรยหน้าด้วยใบกระเพราทอดกรอบ จานนี้รสชาติเข้มข้น หอมกระเพรา
    
       ปลาอินทรีย์ผัดขิง (15 บาท) เมนูนี้เป็นเนื้อปลาอินทรีย์สดหั่นเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำมาผัดกับขิงและขึ้นฉ่าย ปรุงรสให้พอดี ลองชิมจะได้กลิ่นและรสของขิงหอมขึ้นจมูก ส่วนเนื้อปลานุ่มแน่นไม่คาว อีกจานเป็น เป็ดพะโล้กับไส้เป็ด (15 บาท) ทางร้านเลือกใช้เนื้อเป็ดมาตุ๋นกับเครื่องพะโล้พร้อมๆ กับไส้เป็ด ลิ้มรสชาติเป็ดเนื้อนุ่ม ไส้เป็ดเคี้ยวกรุบถูกใจ
(แถวบน) ปูผัดผงกะหรี่ และยอดฟักแม้วผัดน้ำมันหอย (แถวล่าง) ปลาหมึกยัดไส้ทรงเครื่อง และซี่โครงหมูอบ
       ต่อกันด้วย ปูผัดผงกะหรี่ (15 บาท) เมนูนี้ก็อร่อยเด็ดเหมือนกัน จากปูม้าสดๆ ที่นำมาผัดกับเครื่องผงกะหรี่แบบไทยๆ แทะเนื้อปูไปก็หอมผงกะหรี่ รสชาติกลมกล่อมเข้าเนื้อดี และยังมี ยอดฟักแม้วผัดน้ำมันหอย (15 บาท) ให้ลองชิม ยอดฟักแม้วอ่อนๆ เด็ดให้ยาวพอประมาณ นำมาผัดกับน้ำมันหอย ใส่กระเทียมและพริกลงไปเพิ่มรสชาติเผ็ดน้อยๆ
    
       ส่วนเมนู ปลาหมึกยัดไส้ทรงเครื่อง (15 บาท) ก็เต็มอิ่มกับหมึกกล้วยขนาดกำลังดี ยัดไส้ด้วยหมูสับปรุงรส ก่อนจะนำไปนึ่งให้สุก ราดด้วยน้ำแดงที่ใส่แครอท ข้าวโพดอ่อน และหน่อไม้ฝรั่งลงมาด้วย เคี้ยวปลาหมึกเนื้อแน่นกับไส้ที่ได้รสชาติ แถมด้วยผักเครื่องเคียงที่เข้ากันดี อีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้คือ ซี่โครงหมูอบ (15 บาท) ใช้ซี่โครงหมูอ่อนมาอบพร้อมกับเครื่องซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ลองชิมแล้วเนื้อหมูนุ่มเปื่อยละลายในปาก รสชาติเค็มๆ หวานๆ
ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง
       และนอกจากเมนูต่างๆ ที่มีอยู่ในถาดให้เลือกกันแล้ว ก็ยังมีเมนูตามสั่งอื่นๆ ให้ลองชิมกันอีก อย่างเช่นเมนู ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง (30 บาท) ใช้ไข่ไก่นำมาปรุงรสเล็กน้อยแล้วตุ๋นให้สุก ก่อนจะใส่กุ้งลวก หมูสับลวก ไข่แดงเค็ม และเห็ดหอม โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ไข่ตุ๋นถ้วยนี้กลิ่นหอมมาแต่ไกล ลองชิมแล้วเนื้อไข่นุ่มเนียนได้รสชาติ ส่วนเครื่องต่างๆ ก็เข้ากันดี กินกันแบบเต็มปากเต็มคำ
    
       หรือจะเป็น ต้มยำรวมมิตร (50 บาท) ที่เสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อนๆ เป็นต้มยำน้ำข้นใส่นมสด ครบเครื่องแบบต้มยำไทยๆ หม้อนี้ใส่มาทั้งกุ้ง ปลาหมึก และเนื้อปลา แล้วยังใส่มะเขือเทศ เห็ดฟาง โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่งเพิ่มกลิ่นหอม ลองซดน้ำต้มยำร้อนๆ ได้รสเปรี้ยวเค็มเผ็ดจัดจ้านแบบไทยๆ แต่หากใครไม่ชอบต้มยำรวมก็เลือกสั่งอย่างอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำกุ้ง ต้มยำไก่ ต้มยำปลา เป็นต้น
ต้มยำรวมมิตร
       เมนูตามสั่งอื่นๆ ก็มีให้เลือกชิมอีกหลากหลาย อาทิ ผัดฉ่าทะเล (50 บาท) ผัดเผ็ดซี่โครงเมียน้อย (50 บาท)ปลากะพงนึ่งมะนาว (100 บาท) แปะซะปลาช่อน (120 บาท) เป็นต้น นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ ทางร้านก็มี หมูสะเต๊ะ (ไม้ละ 3 บาท) ปิ้งกันร้อนๆ ให้ลิ้มลองความอร่อยอีกด้วย
    
       และนี่ก็คือหนึ่งในร้านอาหารราคาประหยัดที่เหมาะสมกับยุคแพงทั้งแผ่นดินเป็นอย่างยิ่ง
    
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
    
       “ครัวคุณหญิง” ตั้งอยู่ในโครงการบางใหญ่ซิตี้ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี การเดินทาง ถ้ามาจากถนนรัตนาธิเบศร์ ให้ตรงมายังถนนกาญจนาภิเษก (ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) เมื่อถึงสามแยกบางใหญ่ให้ขึ้นสะพานวนขวามายังถนนกาญจนาภิเษก แล้ววิ่งตรงไปเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือจะเห็นห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า ให้เลี้ยวเข้าไป ก่อนจะเข้าอาคารที่จอดรถจะมีทางให้เลี้ยวซ้ายออกนอกห้าง ให้เลี้ยวซ้ายออกมา แล้วตรงไปอีกประมาณ 100 เมตร จะเห็นร้านครัวคุณหญิงอยู่ทางซ้ายมือ สามารถจอดรถได้ริมถนน ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 17.00-24.00 น. โทร. 08-4108-8686, 08-0993-1149