| | |
|
คอกเทลเป็นเครื่องดื่มผสมที่ให้รสชาติหลากหลาย แต่คอกเทลที่เลือกมาให้ 4 สูตรนี้เป็นคอกเทลเขย่าอารมณ์เซ็กจริง ๆ | |||||
87 – Sperm ฟังชื่อคอกเทลชอตนี้แล้วจั๊กกะจี้หัวใจจังเลย แต่เชื่อไหมว่าคอกเทลชอตนี้กลับเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาว ๆ เป็นอย่างยิ่ง ใครสั่งชอตนี้มากินต้องให้บาร์เทนเดอร์มาหยดสเปอร์มต่อหน้าด้วยนะถึงจะสนุก 87 – Sperm ประกอบด้วยเหล้า Sambuca, blue curacao, เป็นชอตสีฟ้าใสที่มี bailey เป็นครีมอยู่ด้านบน และเมื่อหยด grenadine หรือน้ำหวานกลิ่นทับทิมสีแดงลงไปจะเหมือนเจ้าตัวสเปอร์มตัวเล็ก ๆ ที่แหวกว่ายซุกซน ดำดิ่งลงไปนอนนิ่ง ๆ อยู่ก้นแก้ว รสชาติเย็น ๆ มีกลิ่นครีมผสมในระดับ 35 ดีกรี เวลาดื่มนั้นต้องกระดกทั้งชอตรวมทั้งสเปอร์มลงคอให้หมดถึงจะซาบซ่าน | |||||
Velvet Bliss คอกเทลสีม่วงสดใสเซ็กซี่แก้วนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบความรุนแรง เพราะมีเหล้าดีกรีแรงถึง 4 ตัวด้วยกันคือ Vodka,triple sec,strawberry vodka, blue curacao ถ้วยนี้เมื่อสีแดงสตรอเบอรี่มาเจอกับสีฟ้าเลยแปลงกายเป็นสีม่วงที่ให้รสชาติ อมเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยมะนาว | |||||
คอกเทล Love Spell เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะทั้งชายและหญิงที่ยังอยู่ในวัยรักและถูกรัก หรือใช้ในหลายวาระ ไม่ว่าจะเป็นงานCelebrate หรือจะให้เป็นดริ้งค์ระหว่างอาหารก่อนที่จะเสิร์ฟสเต็กจานอร่อยก็ได้ เพราะรสชาติจะคล้ายดื่มไวน์แต่เป็นไวน์สีฟ้าสดใส ด้วยส่วนผสมจากVodka, blue curacao, cointreauและเติมพรายฟองเซ็กซี่ด้วยsparkling wine หยอดด้วยน้ำมะนาวเล็กน้อยให้รสชาติ ซู่ ๆ ซ่า ๆ เย็น ๆ ถึงใจดีจริง แต่ถ้าดื่มหลายแก้วคุณอาจจะสะกดคำว่ารักไม่ถูกก็ได้ มาสะกดคำว่า L-O-V-E กันเถอะ !!!! | |||||
Orgasm ใครไม่รู้เข้าใจตั้งชื่อคอกเทลถ้วยนี้จังเลย ชื่อน่ะว่าเด็ดแล้ว ถ้าได้ลิ้มลองจะรู้ว่าสวรรค์อยู่แค่เอื้อม Orgasm เป็นคอกเทลที่คิดให้ผู้หญิงดื่มรสชาติจะไม่รุนแรงแถมมีรสหวานติดปลายลิ้นต่างหาก บาร์เทนเดอร์จะเขย่า Kahlua, bailey irish cream, ameretto and vodka ให้เข้าด้วยกัน เทใส่ถ้วยแล้วเหมือนนมผสมครีม แต่เจ้าครีมทะลึ่งลอยตัวอยู่ข้างบนปล่อยให้นมเสียเปรียบไปอยู่ข้างล่าง ข้อเตือนสำหรับผู้ที่ดื่มคอดเทลOrgasm นั้นจะต้องระวังฟองครีมสีขาวที่อาจจะเลอะตามริมฝีปาก อย่างไรเสียคุณจะต้องกระดกรวดเดียวและใช้ลิ้นเลียริมเสียหน่อยให้สะอาด WOW!!!ถึงสวรรค์เลย เขย่าคอกเทลโดย : CLUB 87 โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ |
สำหรับคอไวน์ระดับสุดยอดย่อมต้องรู้จักไวน์ชื่อนี้ เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพที่ได้มาจากการผลิตอันมีจำนวนเพียงอย่างมากเพียงห้าหกพัน ขวดต่อปี จากองุ่นที่ให้ผลผลิตจากเนื้อดินที่สุดพิเศษบนพื้นที่ไม่กี่เฮ็คตาร์ล้วน อุดมไปด้วยแร่ธาตุใต้ดิน กลิ่นหอมจากดอกไวโอเล็ตและเห็ดทรัฟเฟิลที่มีเฉพาะในที่ดินผืนนี้ ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นองค์ประกอบให้LA ROMANEE-CONTI กลายเป็นไวน์ที่บรรดานักสะสมจากทุกมุมโลกปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของ มีไว้ในครอบครอง อันแสดงถึงความมานะพยายามที่น่าชื่นชม | |||||
ด้วยไวน์ชื่อนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ยุคกลาง มีการถ่ายทอดศิลปะในการเก็บองุ่น เวลาที่เก็บซึ่งต้องเก็บระหว่างช่วงเวลา07.00-12.00น.เท่านั้น การคัดเลือก การบ่มในถังไม้โอ้คที่คัดเลือกมาจากป่าเฉพาะที่ การควบคุมอุณหภูมิในห้องบ่ม การดูแลพัฒนาการของเมรัย การผลิตในจำนวนจำกัดล้วนแต่เป็นการทำงานที่ปราณีตละเอียดอ่อน ยากที่จะหาใครเหมือน ความรู้เหล่านี้กลายเป็นศาสตร์และศิลป์เป็นมรดกสุดวิเศษตกทอดกันต่อ มาจากบรรพบุรุษสู่ทายาทผู้สืบทอด อันเป็นเอกลักษณ์และกลายเป็นคุณลักษณะพิเศษกว่าไวน์จากแคว้นเดียวกัน และส่งให้LA ROMANEE-CONTIกลายเป็นไวน์ที่นักสะสมระดับโลกถวิลหากำหนัดที่จะเป็นเจ้าของ ไว้เชยชมละเลียดลิ้มรสทีละหยาดหยด แล้วจึงสรรหาถ้อยคำมาสรรเสริญในทุกอณูของรสชาติ จวบจนเมรัยหยดสุดท้ายเดินทางผ่านปลายลิ้นลงสู่ลำคอ ทิ้งเพียงกลิ่นอายหอมกรุ่นที่ยังคงค้างอวลล่องลอยอยู่ในฆานประสาทอย่างยาก ที่จะลืมเลือน | |||||
ในปีคศ.2002ไวน์ LA ROMANEE-CONTI ออกสู่ท้องตลาดได้ถึง 6,000ขวด และมีการขายด้วยการบรรจุคละกันในกล่องจำนวนหนึ่งโหล และแน่นอนว่าในแต่ละโหลจะมีLA ROMANEE-CONTI ชนิดมีหมายเลขเฉพาะ อันเป็นขวดสำหรับนักสะสมเพียงขวดเดียวต่อหนึ่งโหล ลองคำนวณอย่างง่ายๆก็หมายความว่าจะมีไวน์สำหรับสะสมในปีนี้เพียงห้าร้อยขวด เท่านั้น สำหรับราคาของไวน์ปีคศ.1999 อันเป็นปีที่ดีเยี่ยมปีล่าสุดนั้น ราคาที่ขายออกจากผู้ผลิตราคาแรกอยู่ที่ขวดละ13,570บาท ราคาที่ขายยกโหล(คละคุณภาพ)ราคาโหลละ162,840บาท หากแต่ราคาประมูลในท้องตลาดเริ่มต้นกันถึงขวดละ 44,000 บาททีเดียว และแน่นอนราคาที่ว่าย่อมไม่ใช่ราคาที่ซื้อขายกันในปัจจุบัน | |||||
หากปีนี้การเก็บองุ่นเริ่มเร็วขึ้นถึงหนึ่งเดือนอันเนื่องมาจากความ ร้อนที่วิปริตสูงกว่าปีใดๆ แต่กลับส่งผลให้องุ่นปีนี้กลายเป็นองุ่นที่มีรสชาติสุดวิเศษ แต่จำนวนผลิตกลับ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าจำนวนการผลิตLA ROMANEE-CONTI 2003 จะออกสู่ตลาดได้เพียง 3,500 ขวดเท่านั้น แน่นอนเรื่องราคานั้นย่อมต้องสูงกว่าปีที่ผ่านมาแม้จะเป็นน้องใหม่ หากแต่น้องใหม่ปีนี้จะเป็นไวน์ปีที่วิเศษที่สุดในรอบศตวรรษเลยที่เดียว สร้างความเร้าใจให้นักสะสมเริ่มจับตามองกันตั้งแต่เนิ่นๆทีเดียว | |||||
|
| |||||
เพียงก้าวเท้าออกจากลิฟท์ที่พาเรามาจนถึงชั้นสูงสุดของอาคาร สเตท ทาวเวอร์ บนถนนสีลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารSirocco เมื่อเดินออก จากตัวอาคารออกสู่ลานกว้างภายนอก จะรู้สึกถึงแรงลมที่พัดปะทะใบหน้าและลำตัว ด้านซ้ายมือเป็นเวทีสำหรับวงแจ๊สที่จะบรรเลงระหว่างช่วงอาหารมื้อค่ำ ก่อนที่จะลงบันใดไม่กี่ขั้นสู่ระดับของร้านอาหาร พนักงานต้อนรับแนะนำให้ไปเริ่มอุ่นกระเพาะที่ Sky Bar ที่ตั้งอยู่ด้านริมสุดของอาคารซึ่งเป็นบาร์สำหรับเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย และชมทิวทัศน์ด้านทิศใต้ของกรุงเทพฯยามตะวันรอน แลเห็นตำบลบางกระเจ้าเป็นหัวแหลมยื่นล้ำลงไปในสายน้ำที่ไหลโอบพื้นที่สี เขียวขนาดมหึมา จนความมืดค่อยๆโรยตัวพร้อมๆกับเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยที่หมดลงพอดีได้เวลา อาหารมื้อสำคัญ | |||||
พ่อครัวของที่นี่เป็นชาวอิตาเลียนที่ฝีมือล้ำเลิศ เคยฝากผลงานให้บรรดาอัครมหาเศรษฐีของโลกได้ลิ้มรสฝีมือของเขามาแล้วเมื่อ ครั้งที่เขาเป็นพ่อครัวใหญ่ที่โรงแรมมีชื่อที่สุดของภูเก็ต ที่เหล่าบรรดาผู้มีชื่อเสียงของโลกต้องไปพักผ่อนกันที่นั่น อาหารของที่นี่จึงเป็นอาหารแบบฝรั่งเศสแต่ด้วยวัตถุดิบที่สั่งสดๆวันต่อวัน จากทุกแหล่งที่ดีที่สุดของโลก ไม่ว่าซี่โครงแกะอ่อนจากนิวซีแลนด์ ฟัว กราส์หรือตับห่านสดจากเมืองตูลูส ฝรั่งเศส ปลาหิมะจากอัฟริกาใต้ เนื้อสันในจากออสเตรเลีย และปูทะเลขนาดพรีเมี่ยมเนื้อหวานแน่นของไทยเป็นอาทิ รายการอาหารของที่นี่มีน้อยอย่างไม่มากจนลานตาเลือกไม่ถูก ด้วยพ่อครัวผู้กำหนดเมนูต้องการให้ผู้บริโภค ได้รับประทานแต่อาหารจานที่อร่อยสุดยอดเท่านั้น | |||||
| |||||
เนื้อสันในชิ้นโตจากออสเตรเลียย่างด้วยถ่านสุกนอกแต่ข้างในยังเป็นสี ชมพูฉ่ำแบบมีเดียมแรร์ หั่นเป็นชิ้นหนาวางเรียงอวดความน่ากินมาบนสลัดผักและเคียงด้วยมันฝรั่งทอด เนื้อนุ่มหวานหอมชูรสด้วยไวน์แดงรสออกฝาดนิดๆ ช่วยให้เจริญอาหารค่อยๆละเลียดกินในบรรยากาศสะบายๆ เพลิดเพลินจนหมดจานอย่างไม่รู้สึกตัว นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างของอาหารจานเด็ด ที่ไม่อาจบรรยายได้จนหมดต้องรอให้ไปพิสูจน์ลองเลือกรับประทานนอกจากนี้ หากดูเมนูแล้วยังไม่แน่ใจ ยังมีพนักงานมารยาทน่ารักคอยแนะนำพร้อมบรรยายลักษณะอาหารแต่ละจานด้วยความ คล่องแคล่ว จนอยากจะสั่งมาลองเสียให้ครบทุกจาน ทั้งไวน์ที่สรรแล้วก็มีให้เลือกได้ตามใจชอบทั้งแบบไวน์รสดีปีเยี่ยม หรือจะสั่งแบบเป็นแก้วเพราะไปกันน้อยคนก็มีไว้บริการ | |||||
พอพระอาทิตย์ชิงพลบวงดนตรีแจ๊สฝีมือนักดนตรีต่างชาติก็บรรเลง ขับกล่อมด้วยนักร้องผิวสีเสียงทุ้มไพเราะเข้ากับบรรยายกาศ แสงไฟสว่างพร่างพราวเป็นจุดเล็กจุดน้อย กระพริบจากเบื้องล่างและอาคารสูงเบื้องหน้าไกลออกไปเป็นระยะๆ ส่งประกายระยิบระยับราวกับพลอยสีเนื้อดีสีต่างๆ จนเผลอว่าเหมือนไม่ได้นั่งอยู่ในเมืองไทย หันมองไปรอบๆตัวซึ่งบัดนี้แทบทุกโต๊ะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ทั้งจากบ้านใกล้เรือนเคียงและข้ามทวีป ล้วนกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้า เป็นสิ่งยืนยันว่าของดีของอร่อยให้อยู่ไกลเพียงไหนก็ต้องมีคนดั้นด้นไปจนพบ และสำหรับตัวเราแล้วช่างน่าภาคภูมิใจ เพราะของดีที่ชาวต่างชาติต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมานั้น อยู่เพียงแหงนหน้าขึ้นมอง.......เท่านั้น ข้อมูล Sirocco สถานที่ ชั้นที่ 64 อาคารสเตท ทาวเวอร์ ถนนสีลม โทรศัพท์ บรรยากาศ เป็นห้องอาหารที่อยู่บนอาคารสูงระฟ้า ในบรรยากาศOpen Air สามามองทิวทัศน์ที่สวยงามของกรุงเทพฯโดยเฉพาะยามค่ำคืนที่สวยงามมาก บริการ ดินเนอร์ เวลา 18.00 – 23.00 น. |
