| |||||
ข้าวห่อใบบัวของร้านนี้ ต้องบอกว่ามีการประยุกต์ โดยใช้ทั้งสูตรแบบโบราณดั้งเดิม และสูตรใหม่ที่ทางร้านคิดค้นเพิ่มเติมขึ้นมา จนออกมาเป็นข้าวห่อใบบัวที่มีถึง 5 หน้าให้ได้ลิ้มรสชาติกัน โดยการทำข้าวห่อใบบัวของร้านนี้ เขาพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกใบบัว ที่จะใช้เฉพาะใบบัวหลวงจากธรรมชาติที่คัดเอาใบบัวที่ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป มีขนาดกลาง นำมาล้างให้สะอาด เอาไปตากแดด อบฆ่าเชื้อและนึ่งให้ใบบัวสุกก่อนจะนำมาห่อกับข้าว | |||||
สำหรับข้าวห่อใบบัวที่เราได้ลองลิ้มในมื้อนี้ก็คือ ข้าวห่อใบบัวหน้าหมู (40 บาท) ที่นอกจากจะมีข้าวแล้วยังมีเนื้อหมูที่ใช้หมูส่วนเนื้อแดงหมักปรุงรสชาติ นึ่งจนสุก ใส่มาบนข้าว มีกุนเชียงทอด และแครอทนึ่งด้วย ลิ้มรสชาติข้าวห่อใบบัวออกกลิ่นหอมใบบัวอ่อนๆ ข้าวเป็นเม็ดไม่แข็งไม่นุ่มจนเกินไป รสชาติเข้มข้นกำลังดี มีน้ำจิ้ม 3 รส เปรี้ยว หวาน เผ็ด ให้กินคู่กันเพิ่มรสชาติ และมีน้ำซุปกระดูกหมูใส่ฟักมาให้ซดด้วย | |||||
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
homeowners insurance Claim
home insurance Claim
state farm car insurance Claim
comprehensive insurance Claim
commercial insurance Claim
cheap auto insurance Claim
cheap health insurance Claim
indemnity Claim
car insurance companies Claim
progressive quote Claim
usaa car insurance Claim
insurance near me Claim
term life insurance Claim
auto insurance near me Claim
state farm car insurance Claim
comprehensive insurance Claim
progressive home insurance Claim
house insurance Claim
progressive renters insurance Claim
state farm insurance quote Claim
metlife auto insurance Claim
best insurance companies Claim
progressive auto insurance quote Claim
cheap car insurance quotes Claim
allstate car insurance Claim
rental car insurance Claim
car insurance online Claim
liberty mutual car insurance Claim
cheap car insurance near me Claim
best auto insurance Claim
home insurance companies Claim
usaa home insurance Claim
list of car insurance companies Claim
full coverage insurance Claim
allstate insurance near me Claim
cheap insurance quotes Claim
national insurance Claim
progressive home insurance Claim
house insurance Claim
health insurance quotes Claim
ameritas dental Claim
state farm renters insurance Claim
medicare supplement plans Claim
progressive renters insurance Claim
aetna providers Claim
title insurance Claim
sr22 insurance Claim
medicare advantage plans Claim
aetna health insurance Claim
ambetter insurance Claim
umr insurance Claim
massmutual 401k Claim
private health insurance Claim
assurant renters insurance Claim
assurant insurance Claim
dental insurance plans Claim
state farm insurance quote Claim
health insurance plans Claim
workers compensation insurance Claim
geha dental Claim
metlife auto insurance Claim
boat insurance Claim
aarp insurance Claim
costco insurance Claim
flood insurance Claim
best insurance companies Claim
cheap car insurance quotes Claim
best travel insurance Claim
insurance agents near me Claim
car insurance Claim
car insurance quotes Claim
auto insurance Claim
auto insurance quotes Claim
long term care insurance Claim
auto insurance companies Claim
home insurance quotes Claim
cheap car insurance quotes Claim
affordable car insurance Claim
professional liability insurance Claim
cheap car insurance near me Claim
small business insurance Claim
vehicle insurance Claim
best auto insurance Claim
full coverage insurance Claim
motorcycle insurance quote Claim
homeowners insurance quote Claim
errors and omissions insurance Claim
general liability insurance Claim
best renters insurance Claim
cheap home insurance Claim
cheap insurance near me Claim
cheap full coverage insurance Claim
cheap life insurance Claim
“ข้าวห่อใบบัว อบ-อุ่น” หอมนุ่ม ชวนกิน
“บอยโพนยางคำ” อร่อยล้ำ เนื้อโคขุนปิ้งย่าง
| ||
สำหรับสาวกคนกินเนื้อวัว คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงของ “เนื้อโคขุนโพนยางคำ” จาก จ. สกลนคร ที่ได้ชื่อว่าเป็นเนื้อโคขุนคุณภาพดีของเมืองไทย เกิดจากโคเนื้อลูกผสมระหว่างสายพันธุ์พื้นเมืองของไทย กับโคเนื้อสายพันธุ์แท้จากฝรั่งเศส จนได้ออกมาเป็นเนื้อโคขุนโพนยางคำ ที่ถือว่าเป็นเนื้อโคธรรมชาติ ปราศจากฮอร์โมนหรือสารเร่งการเจริญเติบโต ทำให้ได้เนื้อวัวโคขุนที่มีคุณภาพ เป็นเนื้อที่มีรสชาติอันถูกปากโดนใจคนรักเนื้อทั้งหลาย
| ||
“ตระเวนกิน” เองก็พิสมัยในรสชาติของเนื้อโคขุนโพนยางคำเป็นอย่างมาก หากว่าใครชวนไปกินเนื้อโพนยางคำเป็นไม่มีการปฏิเสธเด็ดขาด เหมือนที่ในมื้อนี้มีพี่คนสนิทชวนไปกินเนื้อโพนยางคำแบบปิ้งๆ ย่างๆ มีหรือที่จะพลาดรีบตกปากรับคำ และเตรียมท้องไปอิ่มแบบเต็มที่ยังร้าน “บอยโพนยางคำ” ที่ตั้งอยู่แถวรัชดา เปิดมานานกว่า 4 ปีแล้ว มีคุณบอย มงคล พอกพูนขำ เป็นเจ้าของร้านที่จะมาคอยดูแลบริการลูกค้าด้วยตัวเอง
| ||
เมื่อ มาถึงร้านบอยโพนยางคำต้องบอกเลยว่า บรรยากาศร้านของที่นี่ชวนนั่งแบบสบายๆ เป็นหลังคาสูงโปร่งเปิดโล่งรับลมเย็นตามธรรมชาติ จัดโต๊ะเก้าอี้นั่งแบบไม่แออัดมากนัก แถมยังมีโปรเจกเตอร์จอยักษ์เปิดบริการให้ความบันเทิงลูกค้าด้วย
| ||
ใน ส่วนของเรื่องอาหารทางร้านบอยโพนยางคำ เน้นบริการเมนูเนื้อโคขุนโพนยางคำ แบบสไตล์ปิ้งๆ ย่างๆ โดยเมนูอาหารของร้านมีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท คือ แบบแรกเป็นเมนูบุฟเฟต์เนื้อโคขุนโพนยางคำอิ่มอร่อยไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา กับโคขุนโพนยางคำชุดปิ้งเนยบนกระทะร้อนเตาถ่าน หรือจะเป็นชุดตะแกรงย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่คุณบอยออกแบบคิดค้นเอง ซึ่งเป็นตะแกรงย่างแบบไม่มีควัน หรือถ้าจะเลือกกินแบบจิ้มจุ่มทางร้านก็มีบริการ ในเมนูบุฟเฟต์สามารถขอชุดอุปกรณ์ทั้ง 3 อย่างได้เลยโดยทางร้านไม่คิดค่าเตาใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเมนูบุฟเฟต์มีราคา 189 บาทต่อคนเท่านั้น และอีกแบบเป็นเมนูพรีเมี่ยม และอาหารตามสั่ง สามารถสั่งเพิ่มเติมได้นอกเหนือจากรายการบุฟเฟต์
| ||
สำหรับ เนื้อโคขุนที่ทางร้านบอยโพนยางคำนำมาบริการให้แก่คนรักเนื้อได้กินกันนั้น ทางร้านได้คัดสรร และเลือกเฟ้นเนื้อโคขุนโพนยางคำที่มีคุณภาพดี ส่งตรงมาจากสหกรณ์โพนยางคำโดยเฉพาะ และก็มีเนื้อโคขุนโพนยางคำหลากหลายส่วนให้เลือกกินตามใจชอบ
| ||
มา ดูกันว่าหากเราเลือกสั่งเป็นเมนูบุฟเฟต์ที่อิ่มได้แบบไม่อั้นนั้นมีอะไรกัน บ้าง ทางร้านจะมีเมนูเนื้อให้เลือกสั่งแบบจานๆ หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อเสือร้องไห้ เนื้อลูกมะพร้าว เนื้อหนอก เนื้อน่องลาย เนื้อตะพาบ เนื้อลูกเต๋า (จะหมักน้ำหมักสูตรพิเศษของทางร้าน) ทางร้านจะสไลด์เนื้อเป็นชิ้นพอดีคำ นำมาปิ้งย่างบนกระทะแบนๆ มีเนยเค็มมาให้ใส่ลงไป ปิ้งเนื้อย่างร้อนๆ ช่างส่งกลิ่นหอมของเนยอ่อนๆ เนื้อสุกกำลังพอดีส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหนึบถูกปากมากๆ เลย
| ||
ใน ส่วนของหมูก็มีให้เลือกกินด้วย มีทั้งเนื้อหมูส่วนสันคอ หมูสามชั้น หมูลูกเต๋าเป็นหมูส่วนสันนอกหมักน้ำปรุงสูตรเด็ดของทางร้าน รวมไปถึงยังมีซีฟู้ด ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอยเชลล์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หมึกสด มาให้ปิ้งย่างด้วย หรือจะสั่งกุ้งเผาตัวโตที่ทางร้านจะปิ้งมาให้ได้กินแบบสบายๆ และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ในเมนูบุฟเฟต์ยังมีอาหารรสเยี่ยมอื่นๆ ให้ได้เลือกอร่อยกันอีก อาทิ ซูชิ เนื้อแดดเดียว หมูแดดเดียว ส้มตำ ลาบก้อย น้ำตก ปีกไก่ทอด ต้มแซบ คอหมูย่าง ไส้ย่าง ข้าวผัดกระเทียม ไอศกรีม ขนมหวานลอดช่องเผือก ผลไม้ตามฤดูกาล
| ||
แล้ว การกินเนื้อปิ้งย่างให้อร่อย แน่นอนว่าก็ต้องไม่พลาดน้ำจิ้มที่จะมาจิ้มเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อได้รสชาติ อร่อยยิ่งขึ้น ซึ่งที่นี่มีน้ำจิ้มรสแซบเด็ดให้เลือกถึง 5 แบบด้วยกัน มีน้ำจิ้มปิ้งเนย น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มจิ้มจุ่ม น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มแจ่วรสจัด
| ||
และสำหรับเมนูพรีเมี่ยมนั้นก็คือ ทางร้านได้คัดสรรเนื้อโคขุนส่วนพิเศษมาให้เลือกสั่งแบบจานๆ มีเนื้อที่ชวนกิน ไม่ว่าจะเป็น เนื้อริบอายพรีเมี่ยม (190 บาท) เป็นเนื้อส่วนริบอายสไลด์หมักน้ำหมักสไตล์ญี่ปุ่น โรยงาขาว เสิร์ฟมาพร้อมกับกระเทียมพริกไทย
| ||
เนื้อหัวไหล่ (180 บาท) เป็นเนื้อส่วนหัวไหล่สไลด์มาเป็นชิ้น หมักด้วยน้ำหมักญี่ปุ่นเหมือนกัน เนื้อซี่โครง (150 บาท) เป็นเนื้อส่วนซี่โครงที่เลาะเอากระดูกออกแล้ว และยังมีลิ้นโคขุน (100 บาท) เป็นลิ้นวัวสไลด์มาเป็นชิ้นบางๆ หมักงามาด้วย ซึ่งเนื้อแต่ละตัวล้วนแล้วแต่สดหวาน เคี้ยวนุ่มถูกปากคนชอบเนื้อกันไป รวมไปถึงยังมีอาหารอีสาน และซีฟู้ดตามสั่งให้เลือกอิ่มหนำกันด้วย และในต้นเดือนมีนาคมนี้ทางร้านจะมีไวน์แดงให้บริการ ดื่มคู่กับเนื้อในราคาแก้วละ 80 บาท
| ||
เรียกว่าหากใครเป็นคอกินเนื้อปิ้งๆ ย่างๆ ที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ด หากพากันมาที่ร้าน “บอยโพนยางคำ” บอกได้คำเดียวเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรัก (กิน) เนื้อจริงๆ
| ||
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “บอยโพนยางคำ” ตั้งอยู่ที่ซ.รัชดา 32 (อาภาภิรมย์/กรมส่งเสริมการส่งออก) หรือจะเข้าทางซ.รัชดา 36 (เสือใหญ่) ก็ได้ การเดินทางใช้ถ.รัชดาภิเษก เลี้ยวเข้าซ.รัชดา 36 (ซอยเสือใหญ่) ตรงไปทางซ.สันนิบาตเทศบาล (รัชดา 36 แยก 19) ตรงไปจนเกือบถึงสะพานเหล็กที่จะข้ามไปวังหิน ให้สังเกตทางด้านซ้ายมือจะเห็นร้านบอยโพนยางคำตั้งอยู่มีป้ายรูปวัวสีเหลือง เป็นจุดสังเกตุ หรือถ้ามาจากโชคชัยสี่/วังหิน สามารถเข้าทางซ.ลาดพร้าววังหิน 61 (ซ.ร.ร.บุญฤดี) ก็ได้ (เฉพาะวันหยุดข้าราชการ และวันธรรมดาก่อน 16.00 น. เพราะเป็นวันเวย์) มีลานจอดรถด้านข้างร้าน หรือจอดริมถนนก็ได้ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น.
ที่มา manager
“ธัช คาเฟ่” หอมกรุ่น อิ่มอุ่น ริมทาง
| ||
เวลา ที่รถติดมากๆ แล้วเกิดอาหารหิวขึ้นมาจะทำอย่างไร หลายๆ คนก็คงจะคิดหาทางออกที่แตกต่างกันไป บ้างก็แวะเข้าปั๊ม หรือร้านสะดวกซื้อ เพื่อหาของกินกระจุกกระจิกรองท้องไปก่อน แต่ถ้าเป็น “ผ่านมาแวะกิน” แล้วละก็ คงจะหาของอร่อยกินให้เต็มกระเพาะไปเสียเลย
อย่างที่ร้าน “ธัช คาเฟ่” ที่อยู่ริม ถ.สุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งแต่แรกนั้นก็ขายเพียงเฉพาะกาแฟ และเบเกอรี่เท่านั้น ต่อมาก็มีลูกค้าเรียกร้องอยากจะกินอะไรที่หนักท้องบ้าง ก็เลยมีการเพิ่มเติมเมนูตามสั่งขึ้นมา โดยที่นี่เป็นร้านอาหารฮาลาล ไม่มีเนื้อหมูมาเจือปนในทุกๆ เมนู และไม่ใส่ผงชูรสในทุกๆ จาน จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย
| ||
หิวๆ มาแบบนี้ เราขอเริ่มมื้อนี้ก่อนด้วยเมนู สลัดปลาแซลมอนรมควัน (89 บาท) จานนี้ใช้ผักสลัดปลอดสารชนิดต่างๆ แต่งหน้าสวยงามด้วยมะเขือเทศราชินี และพริกหวานสามสีหั่นเป็นแว่น รวมถึงชิ้นปลาแซลมอนรมควันที่วางมาด้านบน แต่ที่พิเศษของจานนี้ก็คือ น้ำสลัดซีฟู้ดสูตรเด็ด ที่หน้าตาเหมือนกันสลัดครีมทั่วไป แต่พอลองชิมแล้วต้องบอกคำเดียวเลยว่าสุดยอด เพราะกลิ่นและรสชาตินั้นเหมือนน้ำจิ้มซีฟู้ดเลยทีเดียว
| ||
และขอเติมความเผ็ดอีกจานด้วย สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล (79 บาท) จานนี้ก็จัดจ้านไม่แพ้กัน ด้วยการนำเส้นสปาเก็ตตี้ที่ลวกสุกแล้วมาผัดหับปลาหมึกสด และกุ้งสด ใส่ข้าวโพดอ่อน เห็ดฟาง แครอท ส่วนความเผ็ดมาจากพริกตำ พริกไทยสด ใบกะเพรา กระชาย และใบมะกรูด ที่ให้กลิ่นหอมฟุ้ง รสชาติเผ็ดถึงใจ
| ||
แล้วเปลี่ยนมากินเมนูแบบฝรั่งกันหน่อย ทีโบนสเต๊ก (139 บาท) ที่ได้เนื้อทีโบนชิ้นโต มาหมักด้วยสูตรเฉพาะ เมื่อย่างจนสุกแล้วก็จะราดด้วยน้ำเกรวี่สีน้ำตาลอ่อน เสิร์ฟพร้อมกับสลัดผัก และมันฝรั่งอบโรยเครื่องเทศ เมนูนี้คงถูกใจคนชอบเนื้อไม่น้อย เพราะได้รสชาติของเนื้อนุ่มๆ ที่มีความหอมอยู่ในตัว
| ||
อิ่มจากของคาวแล้ว ขอลองเบเกอรี่กันหน่อย เพราะที่ร้านนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องเค้กโฮมเมดที่ไม่เหมือนใคร เริ่มกันที่ เค้กช็อคโกแลต (ชิ้นละ 45 บาท) ที่เป็นเค้กหน้าแข็ง ทำจากช็อคโกแลตแท่ง และเนยสด ตัวเนื้อเค้กนั้นนุ่มหอม กินไปพร้อมๆ กับหน้าเค้กแล้วก็ไม่ขม ไม่หวานจนเกินไป
| ||
ต่อกันด้วย เค้กผลไม้ (ชิ้นละ 45 บาท) เป็นเค้กเนื้อเบา ที่แต่ละชั้นจะแทรกด้วยครีมเนื้อเนียน และเนื้อผลไม้ต่างๆ ชิมแล้วนุ่มนิ่ม ได้รสผลไม้ ส่วนอีกอย่างเป็น ทีรามิสุ (ชิ้นละ 45 บาท) แตกต่างจากที่อื่นด้วยการแทรกเนื้อเค้กลงไปในชั้น จนได้ทีรามิสุที่นุ่ม เบา หอมกลิ่นกาแฟ รสชาติไม่ขมไม่หวานนัก
| ||
ส่วนอีกอย่างที่อร่อยไม่แพ้กันก็คือ มอคค่าเย็น (45 บาท) ที่ใช้เมล็ดกาแฟสดอโรมา มาคั่วและบดเองที่ร้าน ชงผสมกับโกโก้ ได้รสชาติเข้มข้นถูกใจ แต่ถ้าไม่ชอบกาแฟ ก็ขอแนะนำ ชาเขียวนมสด (40 บาท) ที่ชงจากใบชาเขียวแท้ๆ ให้กลิ่นหอมหวน หรือจะเป็น น้ำมะนาวโซดา (39 บาท) ที่นำมะนาวคั้นสดมาผสมกับโซดา ให้รสเปรี้ยวซ่า ชื่นใจ
| ||
ส่วนเมนูแนะนำอื่นๆ อย่างเช่น สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (79 บาท) สลัดซีฟู้ด (89 บาท) เค้กเนื้อผลไม้ (55 บาท) หรือ สมูทตี้โยเกิร์ต (49 บาท) ก็อร่อยถูกใจไม่แพ้กัน เราจึงอยากแนะนำให้แฟนๆ มาลองชิมกันที่ร้าน “ธัช คาเฟ่” แห่งนี้
***************************************************************************
“ธัช คาเฟ่” ตั้งอยู่ที่ 523-525 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย ระหว่าง ซ.อินทามระ 33-35 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. การเดินทาง จากห้าแยกลาดพร้าววิ่งตรงมาทาง ถ.วิภาวดี-รังสิต ขาเข้า จนถึงแยกสุทธิสาร ให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกประมาณ 150 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ ใกล้กับโลตัสเอ็กเพรส สามารถจอดรถได้หน้าร้าน หรือในโลตัส มีบริการ Wi-fi ฟรี ร้านเปิดทุกวัน (หยุดเดือนละ 2 พุธ) เวลา 10.00-22.00 น. ส่วนบริการอาหารตามสั่ง เปิดเฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.30-22.00 น
ที่มา manager
เนื้อๆ เน้นๆ ที่ “บ้านตำรับเนื้อตุ๋น”
แต่นั่นคงไม่ใช่กับร้าน “บ้านตำรับเนื้อตุ๋น” แถว ซอยประชาชื่น 40 ที่เน้นการตกแต่งร้านแบบโมเดิร์น ใช้โทนสีร้อนแรง เพราะร้านนี้จัดเป็นหนึ่งในร้านเมนูเนื้อที่รสชาติยอดเยี่ยมไม่เบา ซึ่งชื่อร้านเขาก็บอกทนโท่อยู่แล้วว่ามีทีเด็ดอยู่ที่เมนูเนื้อ เพราะฉะนั้น ผู้นิยมเนื้ออย่างเราจึงขอเปิดประเดิมอารมณ์เนื้อๆ เน้นๆ ด้วยการสั่ง ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่เนื้อรวม (40 บาท) เส้นหมี่ลวกถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อสดนุ่ม กรอบ | ||||
จากนั้น “ผ่านมาแวะกิน” ขอต่อรสชาติเนื้อๆ เน้นๆ ด้วย เกาเหลาเนื้อตุ๋น (30 บาท) ที่รวบรวมทั้ง เนื้อตุ๋น เนื้อเปื่อย เนื้อปลีน่องสด เนื้อส่วนที่เรียกว่าลูกมะพร้าว มาไว้ในชาม พร้อมด้วยผักบุ้ง ถั่วงอก คึ่นช่าย ผักชี ผักกาดหอม รสชาติเข้มข้นถึงน้ำถึงเนื้อ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันดี เมนูสุดท้ายเราขอสลับอารมณ์เป็น เส้นใหญ่ลูกชิ้นปลากราย (30 บาท) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนไม่กินเนื้อ เมนูนี้เป็นน้ำใส รสชาติหวานน้ำซุป ที่มีส่วนผสมของผงปรุงรส น้ำตาลทราย หัวไชเท้า รากผักชี โดดเด่นที่ลูกชิ้นปลากราย ซึ่งทางร้านใช้ลูกชิ้นปลากรายลูกเล็กที่ได้จากแหล่งวัตถุดิบเลื่องชื่อ รับประกันความสดใหม่ เคล็ดลับอย่างหนึ่งของชามนี้คือการลวกลูกชิ้นปลากราย จะลวกเมื่อลูกค้าสั่งเท่านั้น จะไม่ต้มไว้เพราะจะทำให้ลูกชิ้นด้านแข็ง ทิ้งทวนด้วยการสั่ง เกาเหลาเนื้อตุ๋น (30 บาท) ที่รวบรวมทั้ง เนื้อตุ๋น เนื้อเปื่อย เนื้อปลีน่องสด เนื้อส่วนที่เรียกว่าลูกมะพร้าว มาไว้ในชาม พร้อมด้วยผักบุ้ง ถั่วงอก คื่นช่าย ผักชี ผักกาดหอม รสชาติเข้มข้นถึงน้ำถึงเนื้อ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆเข้ากันดี | ||||
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
Subscribe to:
Posts (Atom)