homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

เมนูเปี่ยมคอลลาเจน แต่ต้องรู้วิธีกิน...

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 มีนาคม 2555 07:01 น. 
By Lady Manager
       เพราะเรื่องอาหารการกินสำคัญสุดๆ จะสุขภาพดีผิวดี ก็อยู่ที่แต่ละมื้อที่คุณๆ ทานนี่แหละ และหากอยากผิวสวยเด้ง ก็คงต้องหมั่นหา “คอลลาเจน” มาทานกันสักหน่อย
      
       
หลายท่านคุ้นเคยดีกับคำว่า “คอลลาเจน” (Collagen) เพราะได้ยินตามคำโฆษณาสินค้ามามากมาย ทั้งคอลลาเจนที่เป็นอาหารเสริมแบบเม็ด, แบบน้ำบรรจุเป็นขวด ไปจนถึงครีมทาผิวก็ยังผสมคอลลาเจน... ทว่าอาจจะยังไม่ทราบว่า แท้จริงแล้วคอลลาเจนก็แฝงกายอยู่ในอาหารที่คุณทานนี่เอง หากเลือกทานกันดีๆ ก็ไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อหา คอลลาเจนแบบอาหารเสริมด้วยซ้ำ
      
       
“จริงๆ แล้ว หลักการกินให้ผิวสวยง่ายๆ เลยคือ เมื่อไหร่ที่คอลลาเจน ลา ...ตีนกาจะเกิด เพราะฉะนั้นเราต้องกินอาหารที่ได้คอลลาเจน แต่ได้คอลลาเจนอย่างเดียวไม่พอ หลักการกินคอลลาเจนคือ ต้องให้มันดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไปสร้างเป็นคอลลาเจนที่ผิวได้จริงๆ เพราะฉะนั้นจะต้องรู้จักเพื่อนของคอลลาเจน นั่นคือ วิตามินซี ให้จำง่ายๆว่า วิตามินซี (Vitamin C) มันจะไปช่วยดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปในร่างกาย”
      
       นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เกริ่นนำถึงเรื่องของ คอลลาเจน

       ต้มยำไก่ ซุปเปอร์ขาไก่ เมนูเปี่ยมคอลลาเจนและวิตามินซี
       คุณหมออธิบายต่อว่าคอลลาเจนมักอยู่ใน โปรตีนที่เป็นเนื้อสีขาว เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ที่หาทานกันได้บ่อย จนคุณหมอแนะนำให้เป็นซุปสวยใกล้ตัวก็คือ ต้มยำไก่, ซุปเปอร์ขาไก่ เพราะนอกจากจะเปี่ยมคอลลาเจนแล้ว ยังมีวิตามินซีที่ช่วยดูดซึมคอลลาเจนได้ด้วย
      
       
“ในอาหารที่มีทั้งคอลลาเจน และวิตามินซี มันจะต้องมีรสเปรี้ยว และมีเรื่องของโปรตีน ที่เป็นคอลลาเจนด้วย เช่น ต้มยำไก่, ต้มซุปเปอร์ขาไก่ แบบไทยๆ นี่แหละ เป็นซุปที่เรียกว่า ซุปสวยเลย เพราะมันจะมีทั้งเรื่องของตัวคอลลาเจนจากน้ำซุปไก่จากกระดูกอ่อนไก่ และมีเรื่องของวิตามินซีจากมะนาวที่บีบลงไปด้วย แล้วไหนจะสมุนไพรอีก เพราะฉะนั้นต้มยำไก่, ต้มยำขาไก่, ต้มยำปีกไก่ นี่แหละ เป็นซุปสวยเลย
      
       สังเกตว่า ต้มน้ำซุปพวกนี้ ตักมันหน้าออกพอทิ้งไว้สักครู่ให้เย็น เราจะเห็นน้ำซุปนั้นกลายวุ้นๆ นั่นแหละ เป็นคอลลาเจนแล้ว”
      
       
ส่วนอิลาสติน (Elastin) ที่เรามักได้ยินควบคู่กันมากับคอลลาเจนนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์อายุรวัฒน์อธิบายว่า สองสิ่งนี้ได้จากอาหารประเภทเดียวกันนี่แหละ
      
       
“อาหารที่ให้คอลลาเจน ก็จะให้อิลาสตินด้วยเช่นกัน ซึ่งคอลลาเจนและอีลาสตินนั้น คล้ายแต่ไม่เหมือน ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพคือ หากเราดึงหนังที่หลังมือขึ้นมา ตัวที่ทำให้หนังที่หลังมือคงอยู่ตัวได้คือ คอลลาเจน แต่พอเราปล่อยมือ แล้วหนังที่ดึงมามันเด้งกลับที่เดิม อันนั้นคือ อิลาสติน
      
       
นั่นคือ คอลลาเจนจะเหมือนโครงกระดูกผิว ที่ทำให้ผิวมันคงรูปอยู่ได้ แต่อิลาสตินคือ ตัวที่ทำให้มันยืดหยุ่นได้ แต่พออายุมากขึ้นแล้ว มันจะไม่ค่อยมีทั้งสองตัวนี้ เลยทำให้เมื่อดึงผิวที่หลังมือออกมาแล้ว จะยืดแล้วยืดอีก เด้งกลับช้า”
       งดแป้ง ทานแต่โปรตีน ได้คอลลาเจนสูงและผิวใสจริงหรือ?
       ปัจจุบันเทรนด์ลดความอ้วนด้วยวิธีงด ทานแป้ง เน้นทานแต่โปรตีน (เช่น ทานแต่สเต็ก แทบทุกมื้อ) กำลังได้รับความนิยม เพราะนอกจากเชื่อว่าทานแล้วจะไม่อ้วน ยังมีผลพลอยได้คือ ได้รับคอลลาเจนจากเนื้อสัตว์ที่ทานเข้าไปอีกต่างหาก สำหรับเรื่องนี้คุณหมอหนุ่มอธิบายว่า
      
       
“การทานที่เน้นโปรตีนจากเนื้อ สัตว์ต่างๆ ก็ถือว่าได้คอลลาเจนครับ แต่การทานแบบนี้อาจจะไปรบกวนไตของเราได้ ถ้าไม่มีแป้ง หรือสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) เลย แล้วได้รับโปรตีนเยอะเกินไป ไตก็จะต้องทำงานหนัก จะสังเกตได้ว่า เวลาไปตรวจสุขภาพ หากไตคุณทำงานไม่ดี มันจะมีตัวโปรตีนไข่ขาว ที่เรียก อัลบูมิน (Albumin) หลุดออกมาจากไต ปนอยู่ในปัสสาวะได้
      
       ซึ่งอัลบูมินนี้จะออกมาได้ในกรณีที่หนึ่ง-ไต ทำงานไม่ดี สอง-เรากินโปรตีนเยอะเกินไป หัวกรองไตก็จะทำงานได้ไม่ค่อยดี ลองสังเกตง่ายๆ ว่า หากเรากินโปรตีนเยอะๆ ปัสสาวะจะเป็นฟองเลย มื้อไหนกินไข่ขาว, กินหมูกระทะ หรือขาหมูเยอะๆ ปัสสาวะจะเป็นฟองเลย เพราะร่างกายเราจะขับขยะโปรตีนออกมาในรูปของแอมโมเนีย (Ammonia) ทำให้ปัสสาวะมีกลิ่นฉุน และเป็นฟอง”
       

       ดังนั้นได้คอลลาเจนจากสเต็กก็จริง แต่ต้องทานอย่างอื่นด้วย เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะได้โปรตีนเยอะเกินไป จนเกิดผลเสียได้เช่นกัน
      
       โดยส่วนตัว ผมคิดว่าอาหารไทยจะดีกว่าอาหารฝรั่งตรงที่ว่า เรารู้จักเอาทั้งเนื้อที่เป็นโปรตีนและผักมารวมตัวกันได้อย่างเพอร์เฟค อย่างสเต็ก ฝรั่งเขาไม่สันทัดที่จะเอาผักมาผัดกับหมู เขาก็กินเนื้อก้อนหนึ่ง แกล้มกับผักสลัดขยุ้มหนึ่งกันเลี่ยน แค่นั้นเอง ซึ่งตรงนี้ ถ้าสลัดที่ทานแกล้ม เป็นสลัดผักสด ในผักสดมันก็จะมีไฟเตต (Phytate) ที่เป็นตัวยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม และวิตามินอีกหลายตัวเลย ดังนั้นแม้จะได้ผักกับเนื้อก็ตาม แต่ก็อาจไม่ได้คุณค่าเต็มที่เพราะมันอยู่ที่วิธีการปรุงด้วย ฉะนั้นหากจะทานเสต็กก็ควรจะต้องทานกับผักลวกอย่างนี้เป็นต้น”

      
       “เรื่องของการทานให้ได้คอลลาเจน ผมแนะนำเป็นแบบไทยๆ เช่น ต้มซุปเปอร์ขาไก่, ปีกไก่, ต้มยำไก่ก็ยังได้ เพราะมันมีวิตามินซี ที่ช่วยดึงคอลลาเจนเข้าไป หรือจะเป็นต้มยำซีฟู้ด, ต้มยำสาหร่ายทะเลก็ยังได้ เพราะสาหร่ายทะเลก็มีคอลลาเจนที่มาจากทะเลน้ำลึกเช่นกัน หรือทานปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน พวกนี้มีคอลลาเจนเพียบเลย เพราะเรากินกระดูกอ่อนได้ หรือแม้แต่ปลาเล็กๆ น้อยๆ ที่มีก้าง ที่กินได้ เราก็จะได้คอลลาเจนเหมือนกัน”
      
       
คอลลาเจนแบบเม็ด จำเป็นต่อคุณแค่ไหน ?
       

       “การที่คนจะได้รับคอลลาเจนเพียงพอหรือไม่ ต้องดูที่ไลฟ์สไตล์ (lifestyle) อย่างเช่น คนทำงานออฟฟิศ (office) อาจจะไม่มีเวลาไปนั่งกินผัดปลาฉลาม หรือว่าไม่มีเวลาไปนั่งกินซุปเปอร์ขาไก่, ปีกไก่บ่อยนัก แต่มันก็มีวิธีกินง่ายๆ เช่น หากจะกินก๋วยเตี๋ยว ก็กินก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมู พวกนี้เราก็จะได้น้ำซุปที่ทำจากกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ถ้าอยากจะกินเป็นเม็ด ก็จะต้องแน่ใจว่า เรากินอาหารสดเพียงพอ
      
       
เพราะอย่าลืมว่าคอลลาเจนคือ โปรตีน เมื่อทานเข้าไปแล้วมันถูกน้ำย่อย ซึ่งเป็นกรดเกลือ หรือไฮโดรคลอริก (Hydrochloric acid) ของเราสลายอยู่แล้ว คอลลาเจนที่เหลือจริงๆ น้อยมาก อาจดูดซึมได้ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าจะให้ผลดีจริงๆ ก็อาจจะต้องทานร่วมกับวิตามินซีชนิดเม็ด หรือกินจากอาหารสดร่วมด้วย” คุณหมอกฤษดาอธิบายปิดท้าย
       *แถมท้าย* ตัวอย่างอาหารเปี่ยมคอลลาเจน
       สัตว์น้ำ -> ปลาทะเลน้ำลึก, ปลาทู, ปลากระเบน, กระดูกปลาฉลาม ซึ่งคอลลาเจนจะพบในกระดูกของปลา หรือพบบริเวณตาปลาที่มีลักษณะเป็นเหมือนวุ้นใส
       

       สัตว์บก -> พบมากในกระดูกอ่อนไก่, กระดูกอ่อนหมู
       

       พืชผัก ผลไม้ -> สาหร่าย ทะเล, เทา หรือเตา ซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืด, เห็ดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเข็มทอง, เห็ดหูหนู, หัวบุก, ถั่วเหลือง, แตงกวา, ขึ้นฉ่าย, มะกอก, ส้มโอ, แก้วมังกร, แอปเปิล (คอลลาเจนที่พบในพืชผัก ผลไม้ จะน้อยกว่าที่พบในสัตว์)

เมนูเปี่ยมคอลลาเจน แต่ต้องรู้วิธีกิน...

credit
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 มีนาคม 2555 07:01 น.
By Lady Manager
       เพราะเรื่องอาหารการกินสำคัญสุดๆ จะสุขภาพดีผิวดี ก็อยู่ที่แต่ละมื้อที่คุณๆ ทานนี่แหละ และหากอยากผิวสวยเด้ง ก็คงต้องหมั่นหา “คอลลาเจน” มาทานกันสักหน่อย
      
       
หลายท่านคุ้นเคยดีกับคำว่า “คอลลาเจน” (Collagen) เพราะได้ยินตามคำโฆษณาสินค้ามามากมาย ทั้งคอลลาเจนที่เป็นอาหารเสริมแบบเม็ด, แบบน้ำบรรจุเป็นขวด ไปจนถึงครีมทาผิวก็ยังผสมคอลลาเจน... ทว่าอาจจะยังไม่ทราบว่า แท้จริงแล้วคอลลาเจนก็แฝงกายอยู่ในอาหารที่คุณทานนี่เอง หากเลือกทานกันดีๆ ก็ไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อหา คอลลาเจนแบบอาหารเสริมด้วยซ้ำ
      
       
“จริงๆ แล้ว หลักการกินให้ผิวสวยง่ายๆ เลยคือ เมื่อไหร่ที่คอลลาเจน ลา ...ตีนกาจะเกิด เพราะฉะนั้นเราต้องกินอาหารที่ได้คอลลาเจน แต่ได้คอลลาเจนอย่างเดียวไม่พอ หลักการกินคอลลาเจนคือ ต้องให้มันดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไปสร้างเป็นคอลลาเจนที่ผิวได้จริงๆ เพราะฉะนั้นจะต้องรู้จักเพื่อนของคอลลาเจน นั่นคือ วิตามินซี ให้จำง่ายๆว่า วิตามินซี (Vitamin C) มันจะไปช่วยดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปในร่างกาย”
      
       นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เกริ่นนำถึงเรื่องของ คอลลาเจน

       ต้มยำไก่ ซุปเปอร์ขาไก่ เมนูเปี่ยมคอลลาเจนและวิตามินซี
       คุณหมออธิบายต่อว่าคอลลาเจนมักอยู่ใน โปรตีนที่เป็นเนื้อสีขาว เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ที่หาทานกันได้บ่อย จนคุณหมอแนะนำให้เป็นซุปสวยใกล้ตัวก็คือ ต้มยำไก่, ซุปเปอร์ขาไก่ เพราะนอกจากจะเปี่ยมคอลลาเจนแล้ว ยังมีวิตามินซีที่ช่วยดูดซึมคอลลาเจนได้ด้วย
      
       
“ในอาหารที่มีทั้งคอลลาเจน และวิตามินซี มันจะต้องมีรสเปรี้ยว และมีเรื่องของโปรตีน ที่เป็นคอลลาเจนด้วย เช่น ต้มยำไก่, ต้มซุปเปอร์ขาไก่ แบบไทยๆ นี่แหละ เป็นซุปที่เรียกว่า ซุปสวยเลย เพราะมันจะมีทั้งเรื่องของตัวคอลลาเจนจากน้ำซุปไก่จากกระดูกอ่อนไก่ และมีเรื่องของวิตามินซีจากมะนาวที่บีบลงไปด้วย แล้วไหนจะสมุนไพรอีก เพราะฉะนั้นต้มยำไก่, ต้มยำขาไก่, ต้มยำปีกไก่ นี่แหละ เป็นซุปสวยเลย
      
       สังเกตว่า ต้มน้ำซุปพวกนี้ ตักมันหน้าออกพอทิ้งไว้สักครู่ให้เย็น เราจะเห็นน้ำซุปนั้นกลายวุ้นๆ นั่นแหละ เป็นคอลลาเจนแล้ว”
      
       
ส่วนอิลาสติน (Elastin) ที่เรามักได้ยินควบคู่กันมากับคอลลาเจนนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์อายุรวัฒน์อธิบายว่า สองสิ่งนี้ได้จากอาหารประเภทเดียวกันนี่แหละ
      
       
“อาหารที่ให้คอลลาเจน ก็จะให้อิลาสตินด้วยเช่นกัน ซึ่งคอลลาเจนและอีลาสตินนั้น คล้ายแต่ไม่เหมือน ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพคือ หากเราดึงหนังที่หลังมือขึ้นมา ตัวที่ทำให้หนังที่หลังมือคงอยู่ตัวได้คือ คอลลาเจน แต่พอเราปล่อยมือ แล้วหนังที่ดึงมามันเด้งกลับที่เดิม อันนั้นคือ อิลาสติน
      
       
นั่นคือ คอลลาเจนจะเหมือนโครงกระดูกผิว ที่ทำให้ผิวมันคงรูปอยู่ได้ แต่อิลาสตินคือ ตัวที่ทำให้มันยืดหยุ่นได้ แต่พออายุมากขึ้นแล้ว มันจะไม่ค่อยมีทั้งสองตัวนี้ เลยทำให้เมื่อดึงผิวที่หลังมือออกมาแล้ว จะยืดแล้วยืดอีก เด้งกลับช้า”
       งดแป้ง ทานแต่โปรตีน ได้คอลลาเจนสูงและผิวใสจริงหรือ?
       ปัจจุบันเทรนด์ลดความอ้วนด้วยวิธีงด ทานแป้ง เน้นทานแต่โปรตีน (เช่น ทานแต่สเต็ก แทบทุกมื้อ) กำลังได้รับความนิยม เพราะนอกจากเชื่อว่าทานแล้วจะไม่อ้วน ยังมีผลพลอยได้คือ ได้รับคอลลาเจนจากเนื้อสัตว์ที่ทานเข้าไปอีกต่างหาก สำหรับเรื่องนี้คุณหมอหนุ่มอธิบายว่า
      
       
“การทานที่เน้นโปรตีนจากเนื้อ สัตว์ต่างๆ ก็ถือว่าได้คอลลาเจนครับ แต่การทานแบบนี้อาจจะไปรบกวนไตของเราได้ ถ้าไม่มีแป้ง หรือสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) เลย แล้วได้รับโปรตีนเยอะเกินไป ไตก็จะต้องทำงานหนัก จะสังเกตได้ว่า เวลาไปตรวจสุขภาพ หากไตคุณทำงานไม่ดี มันจะมีตัวโปรตีนไข่ขาว ที่เรียก อัลบูมิน (Albumin) หลุดออกมาจากไต ปนอยู่ในปัสสาวะได้
      
       ซึ่งอัลบูมินนี้จะออกมาได้ในกรณีที่หนึ่ง-ไต ทำงานไม่ดี สอง-เรากินโปรตีนเยอะเกินไป หัวกรองไตก็จะทำงานได้ไม่ค่อยดี ลองสังเกตง่ายๆ ว่า หากเรากินโปรตีนเยอะๆ ปัสสาวะจะเป็นฟองเลย มื้อไหนกินไข่ขาว, กินหมูกระทะ หรือขาหมูเยอะๆ ปัสสาวะจะเป็นฟองเลย เพราะร่างกายเราจะขับขยะโปรตีนออกมาในรูปของแอมโมเนีย (Ammonia) ทำให้ปัสสาวะมีกลิ่นฉุน และเป็นฟอง”
       

       ดังนั้นได้คอลลาเจนจากสเต็กก็จริง แต่ต้องทานอย่างอื่นด้วย เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะได้โปรตีนเยอะเกินไป จนเกิดผลเสียได้เช่นกัน
      
       โดยส่วนตัว ผมคิดว่าอาหารไทยจะดีกว่าอาหารฝรั่งตรงที่ว่า เรารู้จักเอาทั้งเนื้อที่เป็นโปรตีนและผักมารวมตัวกันได้อย่างเพอร์เฟค อย่างสเต็ก ฝรั่งเขาไม่สันทัดที่จะเอาผักมาผัดกับหมู เขาก็กินเนื้อก้อนหนึ่ง แกล้มกับผักสลัดขยุ้มหนึ่งกันเลี่ยน แค่นั้นเอง ซึ่งตรงนี้ ถ้าสลัดที่ทานแกล้ม เป็นสลัดผักสด ในผักสดมันก็จะมีไฟเตต (Phytate) ที่เป็นตัวยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม และวิตามินอีกหลายตัวเลย ดังนั้นแม้จะได้ผักกับเนื้อก็ตาม แต่ก็อาจไม่ได้คุณค่าเต็มที่เพราะมันอยู่ที่วิธีการปรุงด้วย ฉะนั้นหากจะทานเสต็กก็ควรจะต้องทานกับผักลวกอย่างนี้เป็นต้น”

      
       “เรื่องของการทานให้ได้คอลลาเจน ผมแนะนำเป็นแบบไทยๆ เช่น ต้มซุปเปอร์ขาไก่, ปีกไก่, ต้มยำไก่ก็ยังได้ เพราะมันมีวิตามินซี ที่ช่วยดึงคอลลาเจนเข้าไป หรือจะเป็นต้มยำซีฟู้ด, ต้มยำสาหร่ายทะเลก็ยังได้ เพราะสาหร่ายทะเลก็มีคอลลาเจนที่มาจากทะเลน้ำลึกเช่นกัน หรือทานปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน พวกนี้มีคอลลาเจนเพียบเลย เพราะเรากินกระดูกอ่อนได้ หรือแม้แต่ปลาเล็กๆ น้อยๆ ที่มีก้าง ที่กินได้ เราก็จะได้คอลลาเจนเหมือนกัน”
      
       
คอลลาเจนแบบเม็ด จำเป็นต่อคุณแค่ไหน ?
       

       “การที่คนจะได้รับคอลลาเจนเพียงพอหรือไม่ ต้องดูที่ไลฟ์สไตล์ (lifestyle) อย่างเช่น คนทำงานออฟฟิศ (office) อาจจะไม่มีเวลาไปนั่งกินผัดปลาฉลาม หรือว่าไม่มีเวลาไปนั่งกินซุปเปอร์ขาไก่, ปีกไก่บ่อยนัก แต่มันก็มีวิธีกินง่ายๆ เช่น หากจะกินก๋วยเตี๋ยว ก็กินก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมู พวกนี้เราก็จะได้น้ำซุปที่ทำจากกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ถ้าอยากจะกินเป็นเม็ด ก็จะต้องแน่ใจว่า เรากินอาหารสดเพียงพอ
      
       
เพราะอย่าลืมว่าคอลลาเจนคือ โปรตีน เมื่อทานเข้าไปแล้วมันถูกน้ำย่อย ซึ่งเป็นกรดเกลือ หรือไฮโดรคลอริก (Hydrochloric acid) ของเราสลายอยู่แล้ว คอลลาเจนที่เหลือจริงๆ น้อยมาก อาจดูดซึมได้ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าจะให้ผลดีจริงๆ ก็อาจจะต้องทานร่วมกับวิตามินซีชนิดเม็ด หรือกินจากอาหารสดร่วมด้วย” คุณหมอกฤษดาอธิบายปิดท้าย
       *แถมท้าย* ตัวอย่างอาหารเปี่ยมคอลลาเจน
       สัตว์น้ำ -> ปลาทะเลน้ำลึก, ปลาทู, ปลากระเบน, กระดูกปลาฉลาม ซึ่งคอลลาเจนจะพบในกระดูกของปลา หรือพบบริเวณตาปลาที่มีลักษณะเป็นเหมือนวุ้นใส
       

       สัตว์บก -> พบมากในกระดูกอ่อนไก่, กระดูกอ่อนหมู
       

       พืชผัก ผลไม้ -> สาหร่าย ทะเล, เทา หรือเตา ซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืด, เห็ดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเข็มทอง, เห็ดหูหนู, หัวบุก, ถั่วเหลือง, แตงกวา, ขึ้นฉ่าย, มะกอก, ส้มโอ, แก้วมังกร, แอปเปิล (คอลลาเจนที่พบในพืชผัก ผลไม้ จะน้อยกว่าที่พบในสัตว์)

เมนูเปี่ยมคอลลาเจน แต่ต้องรู้วิธีกิน...

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 มีนาคม 2555 07:01 น.
By Lady Manager
       เพราะเรื่องอาหารการกินสำคัญสุดๆ จะสุขภาพดีผิวดี ก็อยู่ที่แต่ละมื้อที่คุณๆ ทานนี่แหละ และหากอยากผิวสวยเด้ง ก็คงต้องหมั่นหา “คอลลาเจน” มาทานกันสักหน่อย
      
       
หลายท่านคุ้นเคยดีกับคำว่า “คอลลาเจน” (Collagen) เพราะได้ยินตามคำโฆษณาสินค้ามามากมาย ทั้งคอลลาเจนที่เป็นอาหารเสริมแบบเม็ด, แบบน้ำบรรจุเป็นขวด ไปจนถึงครีมทาผิวก็ยังผสมคอลลาเจน... ทว่าอาจจะยังไม่ทราบว่า แท้จริงแล้วคอลลาเจนก็แฝงกายอยู่ในอาหารที่คุณทานนี่เอง หากเลือกทานกันดีๆ ก็ไม่ต้องเปลืองเงินไปซื้อหา คอลลาเจนแบบอาหารเสริมด้วยซ้ำ
      
       
“จริงๆ แล้ว หลักการกินให้ผิวสวยง่ายๆ เลยคือ เมื่อไหร่ที่คอลลาเจน ลา ...ตีนกาจะเกิด เพราะฉะนั้นเราต้องกินอาหารที่ได้คอลลาเจน แต่ได้คอลลาเจนอย่างเดียวไม่พอ หลักการกินคอลลาเจนคือ ต้องให้มันดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไปสร้างเป็นคอลลาเจนที่ผิวได้จริงๆ เพราะฉะนั้นจะต้องรู้จักเพื่อนของคอลลาเจน นั่นคือ วิตามินซี ให้จำง่ายๆว่า วิตามินซี (Vitamin C) มันจะไปช่วยดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปในร่างกาย”
      
       นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เกริ่นนำถึงเรื่องของ คอลลาเจน

       ต้มยำไก่ ซุปเปอร์ขาไก่ เมนูเปี่ยมคอลลาเจนและวิตามินซี
       คุณหมออธิบายต่อว่าคอลลาเจนมักอยู่ใน โปรตีนที่เป็นเนื้อสีขาว เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ที่หาทานกันได้บ่อย จนคุณหมอแนะนำให้เป็นซุปสวยใกล้ตัวก็คือ ต้มยำไก่, ซุปเปอร์ขาไก่ เพราะนอกจากจะเปี่ยมคอลลาเจนแล้ว ยังมีวิตามินซีที่ช่วยดูดซึมคอลลาเจนได้ด้วย
      
       
“ในอาหารที่มีทั้งคอลลาเจน และวิตามินซี มันจะต้องมีรสเปรี้ยว และมีเรื่องของโปรตีน ที่เป็นคอลลาเจนด้วย เช่น ต้มยำไก่, ต้มซุปเปอร์ขาไก่ แบบไทยๆ นี่แหละ เป็นซุปที่เรียกว่า ซุปสวยเลย เพราะมันจะมีทั้งเรื่องของตัวคอลลาเจนจากน้ำซุปไก่จากกระดูกอ่อนไก่ และมีเรื่องของวิตามินซีจากมะนาวที่บีบลงไปด้วย แล้วไหนจะสมุนไพรอีก เพราะฉะนั้นต้มยำไก่, ต้มยำขาไก่, ต้มยำปีกไก่ นี่แหละ เป็นซุปสวยเลย
      
       สังเกตว่า ต้มน้ำซุปพวกนี้ ตักมันหน้าออกพอทิ้งไว้สักครู่ให้เย็น เราจะเห็นน้ำซุปนั้นกลายวุ้นๆ นั่นแหละ เป็นคอลลาเจนแล้ว”
      
       
ส่วนอิลาสติน (Elastin) ที่เรามักได้ยินควบคู่กันมากับคอลลาเจนนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์อายุรวัฒน์อธิบายว่า สองสิ่งนี้ได้จากอาหารประเภทเดียวกันนี่แหละ
      
       
“อาหารที่ให้คอลลาเจน ก็จะให้อิลาสตินด้วยเช่นกัน ซึ่งคอลลาเจนและอีลาสตินนั้น คล้ายแต่ไม่เหมือน ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพคือ หากเราดึงหนังที่หลังมือขึ้นมา ตัวที่ทำให้หนังที่หลังมือคงอยู่ตัวได้คือ คอลลาเจน แต่พอเราปล่อยมือ แล้วหนังที่ดึงมามันเด้งกลับที่เดิม อันนั้นคือ อิลาสติน
      
       
นั่นคือ คอลลาเจนจะเหมือนโครงกระดูกผิว ที่ทำให้ผิวมันคงรูปอยู่ได้ แต่อิลาสตินคือ ตัวที่ทำให้มันยืดหยุ่นได้ แต่พออายุมากขึ้นแล้ว มันจะไม่ค่อยมีทั้งสองตัวนี้ เลยทำให้เมื่อดึงผิวที่หลังมือออกมาแล้ว จะยืดแล้วยืดอีก เด้งกลับช้า”
       งดแป้ง ทานแต่โปรตีน ได้คอลลาเจนสูงและผิวใสจริงหรือ?
       ปัจจุบันเทรนด์ลดความอ้วนด้วยวิธีงด ทานแป้ง เน้นทานแต่โปรตีน (เช่น ทานแต่สเต็ก แทบทุกมื้อ) กำลังได้รับความนิยม เพราะนอกจากเชื่อว่าทานแล้วจะไม่อ้วน ยังมีผลพลอยได้คือ ได้รับคอลลาเจนจากเนื้อสัตว์ที่ทานเข้าไปอีกต่างหาก สำหรับเรื่องนี้คุณหมอหนุ่มอธิบายว่า
      
       
“การทานที่เน้นโปรตีนจากเนื้อ สัตว์ต่างๆ ก็ถือว่าได้คอลลาเจนครับ แต่การทานแบบนี้อาจจะไปรบกวนไตของเราได้ ถ้าไม่มีแป้ง หรือสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) เลย แล้วได้รับโปรตีนเยอะเกินไป ไตก็จะต้องทำงานหนัก จะสังเกตได้ว่า เวลาไปตรวจสุขภาพ หากไตคุณทำงานไม่ดี มันจะมีตัวโปรตีนไข่ขาว ที่เรียก อัลบูมิน (Albumin) หลุดออกมาจากไต ปนอยู่ในปัสสาวะได้
      
       ซึ่งอัลบูมินนี้จะออกมาได้ในกรณีที่หนึ่ง-ไต ทำงานไม่ดี สอง-เรากินโปรตีนเยอะเกินไป หัวกรองไตก็จะทำงานได้ไม่ค่อยดี ลองสังเกตง่ายๆ ว่า หากเรากินโปรตีนเยอะๆ ปัสสาวะจะเป็นฟองเลย มื้อไหนกินไข่ขาว, กินหมูกระทะ หรือขาหมูเยอะๆ ปัสสาวะจะเป็นฟองเลย เพราะร่างกายเราจะขับขยะโปรตีนออกมาในรูปของแอมโมเนีย (Ammonia) ทำให้ปัสสาวะมีกลิ่นฉุน และเป็นฟอง”
       

       ดังนั้นได้คอลลาเจนจากสเต็กก็จริง แต่ต้องทานอย่างอื่นด้วย เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะได้โปรตีนเยอะเกินไป จนเกิดผลเสียได้เช่นกัน
      
       โดยส่วนตัว ผมคิดว่าอาหารไทยจะดีกว่าอาหารฝรั่งตรงที่ว่า เรารู้จักเอาทั้งเนื้อที่เป็นโปรตีนและผักมารวมตัวกันได้อย่างเพอร์เฟค อย่างสเต็ก ฝรั่งเขาไม่สันทัดที่จะเอาผักมาผัดกับหมู เขาก็กินเนื้อก้อนหนึ่ง แกล้มกับผักสลัดขยุ้มหนึ่งกันเลี่ยน แค่นั้นเอง ซึ่งตรงนี้ ถ้าสลัดที่ทานแกล้ม เป็นสลัดผักสด ในผักสดมันก็จะมีไฟเตต (Phytate) ที่เป็นตัวยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม และวิตามินอีกหลายตัวเลย ดังนั้นแม้จะได้ผักกับเนื้อก็ตาม แต่ก็อาจไม่ได้คุณค่าเต็มที่เพราะมันอยู่ที่วิธีการปรุงด้วย ฉะนั้นหากจะทานเสต็กก็ควรจะต้องทานกับผักลวกอย่างนี้เป็นต้น”

      
       “เรื่องของการทานให้ได้คอลลาเจน ผมแนะนำเป็นแบบไทยๆ เช่น ต้มซุปเปอร์ขาไก่, ปีกไก่, ต้มยำไก่ก็ยังได้ เพราะมันมีวิตามินซี ที่ช่วยดึงคอลลาเจนเข้าไป หรือจะเป็นต้มยำซีฟู้ด, ต้มยำสาหร่ายทะเลก็ยังได้ เพราะสาหร่ายทะเลก็มีคอลลาเจนที่มาจากทะเลน้ำลึกเช่นกัน หรือทานปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน พวกนี้มีคอลลาเจนเพียบเลย เพราะเรากินกระดูกอ่อนได้ หรือแม้แต่ปลาเล็กๆ น้อยๆ ที่มีก้าง ที่กินได้ เราก็จะได้คอลลาเจนเหมือนกัน”
      
       
คอลลาเจนแบบเม็ด จำเป็นต่อคุณแค่ไหน ?
       

       “การที่คนจะได้รับคอลลาเจนเพียงพอหรือไม่ ต้องดูที่ไลฟ์สไตล์ (lifestyle) อย่างเช่น คนทำงานออฟฟิศ (office) อาจจะไม่มีเวลาไปนั่งกินผัดปลาฉลาม หรือว่าไม่มีเวลาไปนั่งกินซุปเปอร์ขาไก่, ปีกไก่บ่อยนัก แต่มันก็มีวิธีกินง่ายๆ เช่น หากจะกินก๋วยเตี๋ยว ก็กินก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมู พวกนี้เราก็จะได้น้ำซุปที่ทำจากกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ถ้าอยากจะกินเป็นเม็ด ก็จะต้องแน่ใจว่า เรากินอาหารสดเพียงพอ
      
       
เพราะอย่าลืมว่าคอลลาเจนคือ โปรตีน เมื่อทานเข้าไปแล้วมันถูกน้ำย่อย ซึ่งเป็นกรดเกลือ หรือไฮโดรคลอริก (Hydrochloric acid) ของเราสลายอยู่แล้ว คอลลาเจนที่เหลือจริงๆ น้อยมาก อาจดูดซึมได้ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าจะให้ผลดีจริงๆ ก็อาจจะต้องทานร่วมกับวิตามินซีชนิดเม็ด หรือกินจากอาหารสดร่วมด้วย” คุณหมอกฤษดาอธิบายปิดท้าย
       *แถมท้าย* ตัวอย่างอาหารเปี่ยมคอลลาเจน
       สัตว์น้ำ -> ปลาทะเลน้ำลึก, ปลาทู, ปลากระเบน, กระดูกปลาฉลาม ซึ่งคอลลาเจนจะพบในกระดูกของปลา หรือพบบริเวณตาปลาที่มีลักษณะเป็นเหมือนวุ้นใส
       

       สัตว์บก -> พบมากในกระดูกอ่อนไก่, กระดูกอ่อนหมู
       

       พืชผัก ผลไม้ -> สาหร่าย ทะเล, เทา หรือเตา ซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืด, เห็ดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเข็มทอง, เห็ดหูหนู, หัวบุก, ถั่วเหลือง, แตงกวา, ขึ้นฉ่าย, มะกอก, ส้มโอ, แก้วมังกร, แอปเปิล (คอลลาเจนที่พบในพืชผัก ผลไม้ จะน้อยกว่าที่พบในสัตว์)

“มันฝรั่งอบชีสเบคอน” อาหารง่ายๆ สไตล์อิตาเลียนคลาสสิก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2555 16:21 น. 
โดย : กุ๊กเล็ก


       เมื่อคราวที่มีเพื่อนฝูงมาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน แล้วก็โหวตกันว่าอยากกินอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนง่ายๆ แบบที่ทำได้เอง “กุ๊กเล็ก” ก็เลยไม่ขัดศรัทธา จัดเมนูอร่อยๆ แบบคลาสสิกให้ ในชื่อเมนู “มันฝรั่งอบชีสเบคอน” ที่เพิ่งได้สูตรเด็ดมาจากห้องอาหาร Bangkok Balcony โรงแรมใบหยก สกาย
      
       ส่วนผสมมีดังนี้
       มันฝรั่งหั่นแว่น (หนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร) 150 กรัม
       มอสซาเรลล่าชีส 50 กรัม
       พาเมซานชีส 10 กรัม
       เบคอนกรอบ 10 กรัม
       พาสลีย์ สำหรับแต่งหน้า
      
       ส่วนผสมซอสไวน์ขาว
       ไวน์ขาว 2 ถ้วย
       น้ำสต็อกปลา 1 ถ้วย
       น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
       ครีมข้น 1 ถ้วย
       พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
       เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
      
       วิธีทำเริ่มจากทำซอสไวน์ขาวโดยนำกระทะตั้งไฟ ใส่ไวน์ขาว น้ำสต็อกปลา น้ำมะนาว ผัดพอทั่ว ใส่ครีมข้น ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยผัดให้เข้ากัน พักไว้ก่อน จากนั้นนำมันฝรั่งที่หั่นแล้วมาต้มให้สุกประมาณ 70% (ระหว่างต้มใส่เกลือลงไปเล็กน้อย) จากนั้นตักขึ้นมาวางเรียงไว้ในจาน ใช้ซอสไวน์ขาวประมาณ 50 กรัม ตักมาราดลงบนมันฝรั่งที่ต้มเตรียมไว้ โดยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีส จากนั้นนำเข้าเตาอบสังเกตดูให้หน้าชีสเหลืองสวย แล้วนำออกมาโรยด้วยพาเมซานชีส แล้วนำเข้าเตาอบให้ชีสเหลืองหอมอีกครั้ง เสร็จแล้วจะยกขึ้นเสิร์ฟก็โรยหน้าด้วยเบคอนกรอบและพาสลีย์ เป็นอันได้กินมันฝรั่งอบนุ่มๆ พร้อมกลิ่นหอมกรุ่นจากชีสและเบคอน อิ่มอร่อยกันไปอีกมื้อ

โปรโมชั่นหอยเป๋าฮื้อ ที่ รร. เรเนซองส์ กรุงเทพฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2555 16:22 น. 
       มื้อหิวๆ มื้อนี้อยากจะเชิญชวนมิตรรักนักกินไปลิ้มรสเป๋าฮื้อเลิศรสกัน ซึ่งที่ห้องอาหารจีน เฟย ยา โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เชิญลิ้มรสหอยเป๋าฮื้อ ที่นำมาปรุงเป็นเมนูพิเศษหลากหลายรสชาติ ด้วยสูตรเฉพาะของเชฟเหลียง ชิง ฮอย พร้อมเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลอง อาทิ เป๋าฮื้อเห็ดพอชินี่อบใบบัว เป๋าฮื้อปลาตาเดียวแห้งผัดไข่กุ้ง ข้าวผัดกังป๋วยหน้าเป๋าฮื้อซอสแดง ราคาเริ่มต้นที่ 480 บาท++ ตั้งแต่วันนี้ - 20 มี.ค. นี้ โทร.0-2125-5030, 0-2125-5000 ต่อ 8320
       จากนั้นมาลองลิ้มอาหารเบลเยี่ยม ที่เดอะ สแควร์ โรงแรม โนโวเทล บางนา กรุงเทพฯ เชิญ มาสำราญกับเทศกาลเยือนอาหารเบลเยี่ยม วันที่ 10 - 19 มี.ค. นี้ ที่จะทำให้หลงใหลอาหารไม่แพ้ชาติอื่น อาทิ ซีฟู้ดรวมกับครีมซอสสมุนไพรดีล กระเพาะหมูอบ ปลาทอดชุบข้าวโอ๊ต ไก่อบเบียร์ สตูเนื้อกับไส้กรอกหมู หอยแมลงภู่นึ่งเบียร์ หวานวัฟเฟิลราดวิปครีมและแยม และอื่นๆ อีกมามกาย บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน 600 บาท++/คน มื้อค่ำ 700 บาท++/คน ซันเดย์ บรันช์ 950 บาท++/คน โทร.0-2366-0505 ต่อ 1431,1432
       แล้วมากินสลัดซีฟู้ดเม็กซิกัน ที่Sky Coffee Shop ชั้น 18 โรงแรมใบหยกสกาย ส่งเมนูโปรโมชั่น สลัดซีฟู้ดเม็กซิกัน สลัดที่มีซีฟู้ดนานาชนิด อาทิ เนื้อปูละเอียดแน่น กุ้งขาวตัวโตและหนวดทาโกะปลาหมึกยักษ์ และปรุงรสด้วยน้ำสลัดแบบเม็กซิกันดั้งเดิม ที่มีรสเปรี้ยวกลิ่นหอมของผิวมะนาวช่วยเพิ่มรสชาติซีฟู้ดไม่ให้เลี่ยน ตกแต่งด้วยสีสันของพริกชี้ฟ้า และมะเขือเทศแดงสดให้สวยงาม เสิร์ฟบนผลอโวคาโดลูกโต ตลอดเดือนมี.ค. นี้ โทร.0-2656-3939,0-2656-3000 กด 4
       ต่อด้วยมาอิ่มอร่อยกับ Thai Set Menu ที่ห้องอาหารโบฑานิกา ชั้น 4 โรงแรม อินทรา รีเจนท์ เชฟ ได้คัดสรรนำอาหารไทยที่ขึ้นชื่อและเป็นชื่นชอบของคนไทยและชาวต่างชาติ จัดเป็นเซทใน 1 เซ็ทมี 3 รายการ ทั้งอาหารคาวและหวานให้อิ่มอร่อย เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยจะเลือกอร่อยกับ ไก่สเต๊ะ ปอเปี๊ยะทอด หรือทอดมันปลา ตามด้วยอาหารจานหลักจะเลือกผัดไทยใส่ไก่ข้าวผัดไก่หรือหมู หรือ แกงเขียวหวานไก่ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ตบท้ายด้วยอาหารหวาน ผลไม้รวม ไอศกรีม หรือขนมไทย 299 บาท++/คน บริการทุกวัน11.30 น.- 22.00 น. ตลอดเดือนมี.ค. นี้ โทร. 0-2208-0022 ต่อ 344
       ปิดท้ายอิ่มอร่อยกับติ่มซำร้อนๆ ที่ห้องอาหารจีน ชิว เทียน เหลา โรงแรมรอยัลซิตี้ เชิญมาพิสูจน์ความอร่อยกับติ่มซำร้อนๆ หอมกรุ่น นานาชนิด ที่เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดและซุปสไตล์จีน กับอาหารชุดติ่มซำ มื้อกลางวัน ราคา 300 บาท ++/คน รวมชาจีน และมาอร่อยกันแบบต่อเนื่องกับเมนูปลิงทะเลจานเด็ด อาทิ ปลิงทะเลผัดใบกะเพรา ปลิงทะเลน้ำแดง ปลิงทะเลผัดหน่อไม้ฝรั่ง และอื่นๆ อีกมากมาย มื้อกลางวัน/มื้อค่ำ โทร. 0-2435-8888 ต่อ 3901