homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

"บังคาร่า ราเม็ง"น้ำซุปเด่น เส้นเหนียวนุ่ม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2551 15:34 น.
บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน "บังคาร่า ราเม็ง"
       "อิ รัด ไช มา เสะ" เสียงบริกรหนุ่มสาว กล่าวคำทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ยินดีต้อนรับ ดังลั่นร้าน เมื่อ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เดินเยื้องกายเข้ามาภายในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ที่มีนามว่า "บังคาร่า ราเม็ง" (Bankara Ramen) เป็นร้านราเม็งน้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในเมืองไทยได้ไม่ถึงเดือน แต่นับว่ามีความน่าสนใจเชิญชวนให้มากินเป็นอย่างมาก
มุมโต๊ะนั่งสบายๆ ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆ
       บังคาร่าฯ ร้านนี้นำเสนอราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เพราะเป็นเฟรนไชส์ของร้านบังคาร่า ราเม็งชื่อดังจากญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นอยู่ที่เส้นราเม็ง และน้ำซุปอันเลิศรส เมื่อมาอยู่ในเมืองไทยก็ยังคงรสชาติราเม็งแบบต้นตำรับแท้ๆ จากญี่ปุ่นไว้ โดยไม่ได้มีการปรับแต่งรสชาติแต่อย่างใดเลย พวกวัตถุดิบแทบจะทุกอย่างในการทำราเม็งของที่นี่ส่งตรงมาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป เส้นราเม็ง และวัตถุดิบปรุงรสอื่นๆ แถมยังมีพ่อครัวญี่ปุ่น มาลงฝีมือปรุงราเม็งรสเลิศให้กินกันด้วย
บังคาร่า ราเม็ง
       สำหรับราเม็งที่ชวนกินของที่นี่มีราเม็งหลักๆ อยู่ 4 แบบให้เลือกกินกันตามใจชอบ มี บังคาร่า ราเม็ง (160 บาท) เป็นราเม็งต้นตำรับจากสูตรของเจ้าของร้านบังคาร่าฯที่ญี่ปุ่น ที่มีความโดดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวกรำ นานกว่า 15 ชม. จนได้น้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้น และผสมกับซอสโชยุญี่ปุ่นสูตรพิเศษ ส่วนเส้นราเม็งเป็นเส้นหยักขนาดกลาง พร้อมกับใส่เครื่องมีชาชูคือหมูสไลด์ หน่อไม้ญี่ปุ่น สาหร่ายและโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ลิ้มรสราเม็งคีบเส้นส่งเข้าปากเส้นราเม็งเคี้ยวนิ่มเหนียวนุ่มปาก เข้ากับน้ำซุปที่ซดแล้วรสชาติเข้มข้น ออกเค็มนิดๆ และมีกลิ่นของโชยุ หน่อยๆ ส่วนเนื้อหมูรสดีเคี้ยวนุ่ม หน่อไม้ญี่ปุ่นมีรสชาติเคี้ยวกรึบกรับปากดี
ทงคัตซึ ราเม็ง
       ชามต่อมาเป็น ทงคัตสึ ราเม็ง (170 บาท) ที่ส่งกลิ่นหอมๆ ของน้ำซุปกระดูกหมูยั่วน้ำลาย น้ำซุปกระดูกหมูนั้นผ่านการเคี่ยวกรำนานหลายชั่วโมงจนกระดูกหมูนั้นละลายได้ น้ำซุปเป็นสีขาวๆ เหมือนน้ำนมที่มีความเข้มข้นมากๆ ส่วนเส้นเป็นราเม็งเส้นเล็กยาวตรง และก็ใส่เครื่องอย่างเห็ดหูหนู ชาชู และต้นหอมซอย กินแล้วต้องบอกว่าถูกปากเอามากๆ ตรงที่ได้ซดน้ำซุปกระดูกหมูที่หอมหวานกลมกล่อมลิ้น บวกกับได้เคี้ยวเส้นราเม็งเล็กๆ ที่เหนียวนุ่มนิ่ม เข้ากันดีกับเครื่องที่ใส่มา
ซึเคเมน ราเม็ง
       กินราเม็งแบบมีน้ำซุปร้อนๆ ใส่มาไปแล้วถึง 2 ชาม ชามต่อมาขอแนะนำ ซึเคเมน ราเม็ง(190 บาท) ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปกับเส้นนั้นมาแยกกัน ทางร้านใช้เส้นราเม็งขนาดใหญ่นำมาต้มจนสุกแล้วนำไปแช่เย็น ออกมาเหมือนบะหมี่เย็น เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปสูตรเด็ดที่มีส่วนผสมของน้ำซุปถึง 2 อย่างคือซุปกระดูกหมูและน้ำซุปทะเลที่ได้จากปลาต่างๆเคี่ยวจนเป็นน้ำซุปที่ เข้มข้น แล้วใส่เครื่องมีชาชู หน่อไม้ญี่ปุ่น และหอมซอย ตามด้วยใส่น้ำมันพริกเผาของญี่ปุ่นคล้ายๆ กับน้ำพริกเผาบ้านเรา เวลากินต้องคีบเส้นราเม็งมาจุ่มในน้ำซุปแล้วก็ส่งเส้นเข้าปากเคี้ยวเส้นรา เม็งเต็มปากเค็มปากเหนียวนุ่มเด้งๆ อยู่ในปาก และได้รสชาติน้ำซุปออกมัน เค็ม เจือหวานและเผ็ดนิดหน่อยจากน้ำมันพริกเผา
มิโซะบูตะ ราเม็ง
       ราเม็งชามสุดท้าย มิโซะบูตะ ราเม็ง (230 บาท) เป็นราเม็งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความกลมกล่อมของน้ำซุปที่ได้จากน้ำซุปกระดูกหมู บวกกับใส่มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และซอสสูตรพิเศษปรุงรสลงไปจนได้น้ำซุปที่เข้มข้นหอมกลิ่นเต้าเจี้ยว ส่วนเส้นเป็นเส้นราเม็งขนาดใหญ่สำหรับมิโซะโดยเฉพาะ พร้อมกับยังใส่เครื่องหลายอย่าง มีถั่วงอกผัด บูตะเป็นหมูสไลด์เป็นแผ่นและผัดกับซอสพิเศษ โรยหน้าด้วยต้นหอม คีบเส้นราเม็งเข้าปากเคี้ยวนุ่ม ซดน้ำซุปร้อนๆ ตามไปออกรสซอสมิโซะที่เค็มๆ หวานๆ แล้วก็เคี้ยวหมูบูตะนุ่มๆ ที่มีรสชาติกลมกล่อมถูกปากเอามากๆ
คาคูนิด้ง
       และการกินราเม็งของที่นี่ทางร้านยังมีท็อปปิ้งอีกกว่า 7 อย่าง ให้สามารถสั่งใส่เพิ่มมาในราเม็งแต่ละอย่าง ทำให้การกินราเม็งเพิ่มรสชาติความอร่อยไปอีกแบบ มีทามาโกะ (25 บาท) เป็นไข่ต้มยางมะตูม คาคูนิ (40 บาท) เป็นหมูสามชั้นตุ๋น ชาชู (30 บาท) คือหมูแผ่นหมักซอสหั่นเป็นแผ่นๆ คาราเนงิ (20 บาท) เป็นต้นหอมคลุกกับพริกเผาญี่ปุ่น โนริ (25 บาท) คือสาหร่ายแผ่น เนยแข็ง (10 บาท) และข้าวโพดต้ม (10 บาท)
      
       นอกจากราเม็งที่เป็นเมนูเด่นชูโรงแล้วทางร้านก็ยังมีเมนูกินเล่นอื่นๆ ที่ชวนสั่งมาลิ้มลองอีกมาก อาทิ คาคูนิด้ง (90 บาท) เป็นข้าวญี่ปุ่นใส่คาคูนิ ไข่ต้มยางมะตูมราดด้วยมายองเนส โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและสาหร่ายซอย เกี๊ยวซ่า (60 บาท) ที่แป้งเกี๊ยวบางนุ่ม ไส้เกี๊ยวเป็นหมูรสกลมกล่อม เนงิบูตะเมชิ (60 บาท) เป็นหมูชาชูนำมาสับปรุงรสชาติ ซึมามิชาชู (70 บาท) เป็นหมูชาชูผัดกับน้ำซุปสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมซอสญี่ปุ่น และมีของหวานอย่าง แอนนินโดฟุ (40 บาท) เป็นเต้าฮวยเย็นญี่ปุ่นที่ชวนกิน "ผู้จัดการตระเวนกิน" ขอแนะนำว่าร้าน "บังคาร่า ราเม็ง" เป็นอีกหนึ่งร้านราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ชวนให้มาลองลิ้มรสชาติกันไม่น้อยเลย
เกี๊ยวซ่า
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       "บังคาร่า ราเม็ง" ตั้งอยู่ภายในเดอะ แมนเนอร์ ซ.สุขุมวิท 39 ถ.สุขุมวิท กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วลงทางฝั่งซ.สุขุมวิท 39 ตรงเข้ามาในซ.สุขุมวิท 39 ประมาณ 400 ม. จะเห็นตึกเดอะแมนเนอร์ทางขวามือ ร้านบังคาร่าฯ จะตั้งอยู่ภายในตึกนั้น มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. โทร. 0-2662-5162-3

"ฟิชเชอร์แมน ซีฟู้ด"ยกทะเลขึ้นเจ้าพระยา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 กรกฎาคม 2551 17:43 น.
บรรยากาศภายในร้านฟิชเชอร์แมน ซีฟู้ด
       แม้จะเป็นร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ว่าร้าน"ฟิชเชอร์แมน ซีฟู้ด" แถวท่ามหาราช ที่"ผู้จัดการตระเวนกิน"ไป ลองลิ้มชิมรสในมื้อนี้ กลับให้อารมณ์ทะเลผสมแม่น้ำที่กลมกลืนลงตัว บรรยากาศร้านตกแต่งออกแนวทะเล มีโต๊ะนั่งหลายโซนให้เลือกนั่งตามใจชอบ มีทั้งส่วนเทอเรสที่จะได้นั่งรับลมแม่น้ำเย็นสบาย หรือจะเป็นโซนห้องแอร์ด้านใน ที่มีกระจกบานใหญ่ให้มองชมวิวเจ้าพระยาในขณะที่นั่งกินข้าว และยังมีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่บริการด้วย
      
       สำหรับอาหารของที่นี่เขาจะเน้นไปที่อาหารทะเลสดๆรสเด็ดชวนกิน ที่เป็นการช่วยตอกย้ำอารมณ์แบบทะเลริมเจ้าพระยาของร้านนี้ให้โดดเด่นมากขึ้น
ส้มตำไข่กุ้งยอดมะพร้าว
       โดยมีเมนูแรกที่เราสั่งมาลิ้มลองกันอย่างไม่รีรอก็คือ ส้มตำไข่กุ้งยอดมะพร้าว (150 บาท, 230 บาท) ปกติเคยกินแต่ส้มตำไทย ตำปู ตำปาร้าที่ตำใส่มะละกอ พอมาเจอส้มตำจานนี้ดูหน้าตาชวนกินเอามากๆ เพราะทางร้านไม่ได้ใส่มะละกอมาอย่างเดียว ยังมีแครอท มะเขือเทศเชอรี่ และที่สำคัญใส่ยอดมะพร้าวอ่อนมาคลุกเคล้ากับเครื่องส้มตำครบสูตร ใส่กุ้งแชบ๊วยลวกสุกมาด้วย และก็โรยหน้าด้วยไข่กุ้งสีส้มชวนกิน ลิ้มรสชาติส้มตำแล้วถูกปาก ตรงที่ได้เคี้ยวยอดมะพร้าวอ่อนที่เนื้อหวานกรุบกรอบปาก ผสานเข้ากันกับรสชาติส้มตำที่ออกเปรี้ยวนำ หวานตาม ไม่เผ็ดมาก และยังได้เคี้ยวมันกรุบๆ ปากกับไข่กุ้งด้วย
ปลากะพงทอดน้ำปลา
       จานต่อมาเป็นเมนูเด็ดประจำร้านที่ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดสั่งมากิน นั่นคือ ปลากะพงทอดน้ำปลา (370 บาท) ทางร้านนำปลากะพงสดๆ มาทอด แล้วก็ทำหัวน้ำปลาสูตรพิเศษที่ผ่านการเคี่ยวและปรุงรสด้วยสูตรเฉพาะของร้าน เอามาราดบนเนื้อปลากะพงที่ทอดจนเหลืองกรอบ จะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำปลาชวนลิ้มรส ชิมรสชาติแล้วต้องบอกว่าโดนใจ ตรงที่เนื้อปลากะพงกรอบนอกนุ่มใน ซึมรสชาติน้ำปลาที่ออกรสเค็มๆ หวานๆ
ปลาเก๋าผัดฉ่า
       ปลาเก๋าผัดฉ่า (700 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูปลาที่อยากแนะนำให้สั่งมากินกัน แต่ต้องเป็นคนที่ชอบกินเผ็ดสักหน่อย เพราะทางร้านนำปลาเก๋าสดๆ บั้งเป็นชิ้นแล้วชุปแป้งทอดกรอบ แล้วก็ผัดมากับเครื่องผัดฉ่าครบเครื่องแบบไทยๆ แถมยังมีใบกระเพราทอบกรอบโรยหน้ามาด้วย ลิ้มรสชาติปลาเก๋าผัดฉ่าจานนี้ แล้วได้ใจตรงที่เนื้อปลาเก๋านุ่มหวานและซึมรสชาติเครื่องผัดฉ่าที่เข้มข้น จัดจ้านแบบถึงเครื่องถึงรส ออกเผ็ดร้อนอยู่ในปาก กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ขอบอกว่าถูกปากดีนักเชียว
ปูเนื้อผัดพริกไทยดำ
       หลังจากที่กินเมนูปลาไปแล้วถึง 2 อย่าง คราวนี้หันมากินเมนูปูกันบ้าง ซึ่งที่นี่มีเมนูปูที่ขึ้นชื่อชวนกินอย่าง ปูเนื้อผัดพริกไทยดำ (ราคาตามน้ำหนักปู) เป็นปูเนื้อตัวโตผัดมากับเครื่องเทศพริกไทยดำสูตรเด็ดที่ปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ และผัดใส่พริกฝรั่ง 3 สีแดง เขียว เหลือง หน้าตาสีสันชวนกินไม่เบา อีกทั้งยังหอมกลิ่นพริกไทยดำยั่วลิ้น พอได้ชิมแล้วก็ต้องขอยกนิ้วให้ในรสชาติที่ได้ใจ ตรงที่ปูมีความสดและเนื้อแน่นหวาน และได้รสชาติเครื่องพริกไทยดำที่เข้มข้นจัดจ้าน ออกเผ็ดปลายลิ้น
แกงส้มปูไข่
       และเราก็ยังขอเลือกที่จะนำเสนออีกหนึ่งเมนูปูที่ชวนกิน อย่างแกงส้มปูไข่ (ราคาตามน้ำหนักปู) เป็นแกงส้มครบเครื่องแบบไทยๆ ที่ทางร้านโขลกเครื่องแกงส้มเอง แกงใส่ผักมาหลายอย่างมีผักกะเฉด ผักกาดขาว แครอทและยอดมะพร้าวอ่อน และทีเด็ดของแกงส้มถ้วยนี้ก็อยู่ตรงที่มีปูไข่ทั้งตัวใส่มาด้วย ลิ้มรสชาติแกงส้มอันเข้มข้นออกรสหวานนำ เปรี้ยวตาม และเผ็ดปานกลาง ส่วนปูไข่นั้นขอบอกว่าเนื้อปูสดหวานปาก และไข่ปูเต็มท้องเคี้ยวหนึบมันปาก
โต๊ะนั่งส่วนเทอเรสด้านนอก ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยารับลมเย็นๆ
       นอกจากทั้ง 5 เมนูนี้แล้ว เราก็ขอบอกว่าที่ "ฟิชเชอร์แมน ซีฟู้ด" ยังมีเมนูอาหารทะเลอันชวนกินอีกมาก อาทิ แกงเหลืองปูไข่ (ราคาตามน้ำหนักปู) หอยนางรมกระทะร้อน (195 บาท) กุ้งมังกรผัดพริกเกลือ (ราคาตามน้ำหนักกุ้ง) ปูผัดผงกะหรี่ (ราคาตามน้ำหนักปู) และอีกสารพัดเมนูอาหารทะเลสดๆ ที่ชวนให้สั่งมาลิ้มรส พร้อมกับการได้นั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันน่ายล
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       "ฟิชเชอร์แมน ซีฟู้ด" ตั้งอยู่ที่ 1/12 ซ.มหาธาตุ ถ.มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. การเดินทางถ้ามาจากม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วิ่งตรงมายังถ.มหาราช สังเกตทางขวามือจะเห็นตรอกทวีผล ให้เลี้ยวเข้าไปในตรอกนั้น (ที่เป็นที่ตั้งของท่าเรือมหาราช) ร้านฟิชเชอร์แมนฯ จะตั้งอยู่ด้านใน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.30 และ 17.30-22.00 น. โทร. 0-2222-8082, 0-2223-9457

"คาเฟ่ บอนจอร์โน่" จุดลงตัวแห่งเมนูอิตาเลียน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2551 17:17 น.
บรรยากาศน่านั่งชวนกินภายในร้านคาเฟ่ บอนจอร์โน่
       ยูโร 2008 ปีนี้ แม้ทีมชาติอิตาลีจะโชว์ฟอร์มไม่สมราคาทีมเต็งอันดับต้นๆของทัวร์นาเม้นท์ แต่ว่าพลพรรคทีมอัซซูรีก็ยังครองใจกองเชียร์สาวไทยอยู่ดี เนื่องจากทีมนี้มีทั้งฝีเท้าและหน้าตาดีควบคู่กันไป
Snow Fish With Lemon and rosemary
       สำหรับ"ผู้จัดการตระเวนกิน"นั้นรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่ชอบบอลตั้งรับและบอลตีหัวเข้าบ้าน ซึ่งหากเปรียบเทียบทีมอัซซูรีกับอาหารอิตาเลียนแล้ว เรานิยมชมชอบอย่างหลังมากกว่า และยิ่งเมื่อมากินอาหารอิตาเลียนที่ร้านคาเฟ่ บอนจอร์โน่ (Cafe' Buongiorno) มันก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความพิสมัยในรสชาติเมนูอิตาเลียนไปอีกหลายเท่าตัว
      
       คาเฟ่ บอนจอร์โน่ ร้านนี้เป็นการนำบ้านเก่ามาดัดแปลงเป็นร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศสวนอันร่ม ครึ้ม มีมุมนั่งสบายๆรับลมเย็นๆดูอบอุ่นที่เฉลียงทางเข้าด้านหน้า ส่วนด้านในตกแต่งอย่างสวยงามมีสไตล์และหลากหลายไปด้วยรูปภาพเกี่ยวกับอีตาลี มากมายดูปานประหนึ่งแกลลอรีกลายๆยังไงยังงั้น
Braised Pork Ribs with Tomato Sauce
       คาเฟ่ บอนจอร์โน่ นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของเมนูอิตาเลียนรสชาติแท้ๆดั้งเดิมที่ทำสืบต่อกัน มาจากต้นตระกูลแล้ว ร้านนี้ยังมีเสน่ห์ตรงคอนเซ็ปต์ร้านที่คุณเพโรนี(Cav Enzo Peroni) เจ้าของร้านที่เดินทางไปชิมมาทั่วโลกวางไว้ให้เป็นจุดแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ในวัฒนธรรมอิตาเลียน
      
       โดยเฉพาะวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งคุณเพโรนีถือว่าอาหารคือหนึ่งในตัวเชื่อมทางวัฒนธรรม ประเพณี จากอดีตถึงปัจจุบันไปสู่อนาคตข้างหน้า
คุณ เพโรนี กับ Anti Pasto Haliano
       เอาล่ะเมื่อทำความรู้จักเบื้องต้นกับคาเฟ่ บอนจอร์โน่แล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาหม่ำอาหารอิตาเลียนดับความหิวกันแล้ว ซึ่งเราเลือกเปิดประเดิมมื้อด้วย Anti Pasto Haliano (620++) ที่เป็นผสมกันอย่างลงตัวระหว่างผักกับเนื้อ ไม่ว่าจะเป็น ผักสลัด แคนตาลูป มะเขือเทศ แตงกวา แซลมอน แฮม เบคอน ที่กินแล้วกลมกลืนเข้ากันดีนัก
Spaghetti Al Mare
       Spaghetti Al Mare (560++) อ่านชื่อแบบอิตาเลียนอาจไม่คุ้น แต่ถ้าเป็นชื่อแบบไทยๆก็คือ พาสต้ากุ้ง เมนูนี้ชวนกินตั้งแต่แรกเห็น เป็นพาสต้าโรยหน้ากุ้งสีสันจัดจ้านวางมาบนตัวกุ้งแม่น้ำที่ชูก้ามเด่นหรา ตักกินแล้วให้รสชาติเข้มข้นสมกันดีกับกุ้งเนื้อแน่นและเส้นพาสต้าอันนุ่ม เหนียว
เห็นบ้านหลังนี้ตรงเข้าไปข้างในได้เลยเพราะมาถึง คาเฟ่ บอนจอร์โน่ แล้ว
       จานต่อมาเป็น Braised Pork Ribs with Tomato Sauce (520++) เป็นซี่โครงหมูราดหน้าซอสมะเขือเทศสีแดงสด แนมด้วยผักและเฟรนซ์ฟราย จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ตรงเนื้อซี่โครงที่หมักตุ๋นจนเนื้อเปื่อยนุ่มแต่คง ความแน่นอยู่ในตัวแถมกระดูกอ่อนยังเคี้ยงได้กรุบกรับ ตักกินเคียงคู่กับซอสมะเขือเทศให้รสชาติเพลินปากนัก
ส่วนหนึ่งของบรรดาเค้กบุฟเฟ่ต์
       อีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Snow Fish With Lemon and rosemary (640++)ปลาหิมะเนื้อขาวเนียน เสิร์ฟพร้อมผักโขมและมะนาว ราดครีมสูตรเฉพาะของทางร้าน เนื้อปลาให้รสหวาน นุ่มซุย กินแล้วเหมือนละลายหายไปในปาก แซมด้วยรสขมนิดๆของผักโขม ถือเป็นผสมของ 2 รสชาติที่ลงตัวไม่น้อยเลย
ด้านนอกร้านก็น่านั่งชิลล์ๆไม่แพ้กัน
       อาหารคาว 4 อย่างของคาเฟ่ บอนจอร์โน่หมดไปไวเหมือนโกหก ซึ่งหากใครยังไม่อิ่ม หรืออยากจะลิ้มลองเมนูนอกเหนือจากที่เรากล่าวมา ที่นี่ยังมีเมนูชวนกินอย่าง PARMA Ham With Melon (380++บาท),Minestrone (145++บาท),Alla Spinaci (245++บาท),Penne in Rosa (200++บาท)
โฉมหน้าของมาร์สเมโรเค้ก
       สำหรับ"ผู้จัดการตระเวนกิน" มื้อนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะที่คาเฟ่ บอนจอร์โน่ ยังมีบุพเฟ่ต์เค้กเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เปิดโอกาสให้คนไม่กลัวอ้วนเลือกกิน กันอย่างจุใจ ในขณะที่คนกลัวอ้วนนานๆกินทีก็ถือว่าดีเหมือนกัน(แต่"ผู้จัดการตระเวนกิน" กลัวว่าจะกินและติดใจ จนกลายเป็นผู้ติดบุพเฟต์เค้กของร้านนี้ไปนะสิ)
      
       บุพเฟ่ต์เค้กของร้านนี้ มีกว่า 15 ชนิด หมุนเวียนเปลี่ยนมาให้ลิ้มลองกันทุกวัน ในราคาหัวละ (129++บาท) ซึ่งที่เด่นๆก็มี ทีรามิสุเค้ก ที่มีเนื้อเค้กนุ่ม ชุ่มกาแฟ อวลกลิ่นเหล้านิดๆ, ออเร้นส์เค้ก เค้กส้มหนึ่งในความลงตัวของรสเปรี้ยวและความหวาน,
       โอรีโอเค้ก เค้กเนื้อนุ่มที่นี่ส่วนผสมขอขนมปังกรอบสีดำอย่างโอรีโอและช็อกโกแลต, มาร์สเมโรเค้ก เหนียวนุ่มหนึบๆกับเนื้อมาร์สเมโรที่ลงตัวกับเนื้อเค้กเป็นที่สุด,ราสเบอรี่ชีสเค้ก นุ่มละมุนด้วยเนื้อเค้กผสมชีสเรียงเป็นชั้นๆสลับกันกินกับหน้าเค้กที่เป็นราสเบอรี่เชื่อมให้รสเปรี้ยวอมหวาน เป็นต้น
เค้กสตอเบอรี่ชิ้นนี้ก็น่าหม่ำ
       และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของจุดเด่นแห่ง คาเฟ่ บอนจอร์โน่ ร้านอาหารอิตาเลียนรสดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งใครเป็นผู้พิสมัยเมนูอิตาเลียนหากมีโอกาสก็สามารถแวะเวียนไปตระเวนกิน กันได้ตามใจชอบ
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       คาเฟ่ บอนจอร์โน่ ตั้งอยู่ที่ สุขุมวิท33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.10110 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น.- 23.00 น.ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ หยุดวันจันทร์ ทางร้านยินดีรับบัตรเครดิตทุกชนิด สามารถจอดรถได้ภายในร้าน โทร. 0-2662-3471