homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

“เมียงกา” ร้านนี้มีชื่อเสียง อาหารเกาหลีรสต้นตำรับ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2554 16:01 น. 
บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้นล่างร้านเมียงกา
       “มา ชิส ซอ โย” เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า “อร่อย”
      
       “ตระเวนกิน” ต้องขอเอ่ยปากชมเป็นภาษาเกาหลี ก็เพราะว่าในมื้อนี้เราได้มาอิ่มอร่อยกับอาหารเกาหลีรสชาติดีอันถูกปากยังร้านที่มีชื่อว่า “เมียงกา” (Myeong Ga) เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า “ร้านที่มีชื่อเสียง” ซึ่งตั้งอยู่ตรงโคเรียนทาวน์ (สุขุมวิทพลาซ่า) ซ.สุขุมวิท 12
ห้องส่วนตัวตกแต่งสไตล์เกาหลี
       “เมียงกา” เป็นร้านอาหารเกาหลีขนานแท้จริงๆ ที่เปิดให้บริการความอร่อยมานานกว่า 5 ปีแล้ว มีเจ้าของเป็นคนเกาหลีชื่อคุณ Dae-Sook Yoon เป็น ผู้หญิงที่น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการลูกค้าด้วยมิตรไมตรี และเธอก็ยังเป็นแม่ครัวฝีมือเอกที่ลงมือปรุงอาหารเกาหลีหลากหลายเมนูที่มี ขายอยู่ที่ร้านด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสูตรแบบต้นตำรับเกาหลีขนานแท้ อีกทั้งวัตถุดิบส่วนใหญ่ก็ต้องส่งตรงมาจากประเทศเกาหลี และเลือกสรรคัดแต่วัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพเพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูเกาหลีที่ชวนลิ้มรสมากมาย
พันชัง
       อย่างถ้ามาถึงร้านเมียงกาแล้วก็มีเมนูเกาหลีหลายอย่างที่อยากแนะนำ ให้ได้ลองลิ้มรสกัน โดยก่อนอื่นที่เราจะได้สั่งเมนูจานเด็ดมาชิมกันนั้น ถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันเลยก็ว่าได้ ที่ว่าเมื่อเราเข้านั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วทางร้านก็จะเสิร์ฟเครื่องเคียง หรือที่เรียกว่า พันชัง ให้ทุกโต๊ะก่อนเลย ซึ่งเครื่องเคียงที่ว่านี้ก็คืออาหารจานเล็กๆ ที่ทางร้านจะนำมาเสิร์ฟประมาณ 8 อย่าง โดยจะมีเมนูหลากหลายหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน อาทิ กิมจิหัวไชเท้า แตงกวาดอง เห็ดนางฟ้าปรุงรสน้ำมันงา ไข่ตุ๋น ถั่วลิสงต้มน้ำตาล ผักขม ยำมะเขือยาว ซูกินีกับมันฝรั่งชุบแป้งทอด ซึ่งเครื่องเคียงพวกนี้สามารถเติมได้ด้วย
กิมชีจิแข่
       เอาล่ะจากนั้นก็สั่งอาหารเกาหลีจานหลักมากินกันดีกว่า มีเมนูจานเด่นที่ชวนลิ้มรสอยู่หลายอย่าง อย่างแรกที่อยากแนะนำ คือ กิมชีจิแข่ (Kim Chi Chi Gae) (200 บาท) เป็นซุปผักดองแบบเกาหลี ปรุงรสด้วยหมู 3 ชั้น เต้าหู้ขาว หัวหอมใหญ่ เสิร์ฟมาในหม้อร้อนๆ พร้อมกับข้าวหอมมะลิ กินซุปกิมจิหอมๆ ซดน้ำร้อนๆ ชุ่มชื่นโล่งคอ และออกรสเข้มข้นกลมกล่อมมากๆ กินคู่กับข้าวสวยเม็ดนุ่ม อร่อยได้ใจจริงๆ
โดลซดบีบิมบับ
       เมนูต่อมา คือ โดลซดบีบิมบับ (Dol Sot Bi Bim Bab) (220 บาท) ที่ยกเสิร์ฟกันมาแบบเป็นชามหินร้อนๆ ข้างในมีข้าวสวยคลุกกับน้ำมันงา และมีสารพัดเครื่องใส่โรยหน้ามามีทั้ง ถั่วงอกยำ เห็ดหอมผัด กิมจิผัด หมูผัดปรุงรส ผักขมยำ มะละกอ ไข่ขาว และไข่แดงดิบ และมีโคชูจัง (น้ำพริกเกาหลี) มาให้ด้วย เวลากินให้เอาโคชูจังใส่ลงไปในชามและคลุกเคล้าเครื่องทุกอย่างให้เข้ากัน ลิ้มรสข้าวเม็ดนุ่มเคี้ยวนิ่มเข้ากับเครื่องทุกอย่างที่ใส่มาได้รสชาติโคชู จังที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน
พาจ็อน
       ตามมาติดๆ ด้วยเมนูนี้ พาจ็อน (Pa Jun) (280 บาท) หรือที่เรียกว่าพิซซ่าเกาหลี เพราะมีลักษณะกลมๆ เหมือนพิซซ่า แต่ว่าเป็นแป้งหมักสูตรพิเศษ ใส่กุ้ง หมึก และใส่ต้นหอมเยอะมากๆ ชิมแล้วก็ถูกปากดีกับแป้งนุ่มๆ ได้รสชาติกุ้ง หมึก และต้นหอมที่ลงตัวเข้ากัน และจิ้มกินกับน้ำจิ้มซอสถั่วเหลืองที่ผสมกับน้ำส้มสายชูนิดหน่อย เพิ่มรสชาติไปอีกแบบ
แดจิคัลบี
       หลังจากได้กินเมนูจานเดียวกันแล้ว คราวนี้มากินเมนูสไตล์ปิ้งย่างแบบเกาหลีกันบ้าง ซึ่งที่นี่มีเนื้อให้เลือกสั่งมาย่างอยู่หลายแบบ อย่างที่อยากนำเสนอก็มี แดจิคัลบี (Green tea Gal-bi) (300 บาท) เป็นเนื้อหมูส่วนซี่โครงหมักกับเครื่องเทศและโคชูจังนานกว่า 1 วัน ก่อนจะนำมาให้ย่างบนเตาถ่านร้อนๆ และยังมีผักสดมาให้ห่อกิน มีพริกกับกระเทียมมาให้ย่างกินด้วย และมาพร้อมกับน้ำจิ้มที่ให้เลือกกินถึง 3 แบบ คือ มีน้ำจิ้มน้ำมันงาผสมกับเกลือและพริกไทย มีน้ำจิ้มซอสถั่วเหลือง และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ
      
       ย่างหมูบนเตาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมๆ พอหมูสุกกำลังพอดี คีบชิ้นเนื้อหมูส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มได้รสชาติเครื่องหมักถูกปากดี หรือจะจิ้มกินกับน้ำจิ้มตามรสที่ชอบ และห่อกินกับผักยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่
ยังเนียมคัลบี
       ยังมีเนื้อที่น่าสั่งมาย่างอีก คือ ยังเนียมคัลบี (Yang-nyum Gal Bi) (450 บาท) เป็นเนื้อวัวส่วนซี่โครงที่ทางร้านนำมาหมักกับเครื่องปรุง เครื่องเทศเกาหลี และผักตามสูตรเด็ดของทางร้าน หมักนานกว่า 1 วัน เนื้อจะถูกเสิร์ฟมาแบบม้วนห่อมาเป็นก้อน เวลาย่างก็คลี่เนื้อออกมาย่างบนเตา ย่างจนสุกได้ที่ทางร้านจะมีกรรไกรไว้ให้ตัดเนื้อออกเป็นชิ้นๆ พอดีคำ ลิ้มรสเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก ได้รสชาติเครื่องหมักกลมกล่อมถูกใจคนกินเนื้อจริงๆ
แอลเอคัลบี
       และก็มีเนื้อวัวอีกอย่างที่น่ากิน คือ แอลเอคัลบี (L.A Gal-bi) (450 บาท) เป็นเนื้อวัวส่วนติดซี่โครง ที่แล่มาเป็นชิ้นยาวๆ และหมักกับเครื่องเทศเครื่องปรุงเหมือนเนื้อตัวอื่นๆ ซึ่งหมักนานถึง 1 วันเช่นกัน กินเนื้อแล้วก็ต้องบอกว่าเนื้อนุ่มลิ้นมากๆ ไม่เหนียวเลย
เต็มอิ่มกับเมนูปิ้งย่าง
       ในมื้อนี้เราก็ได้เลือกอิ่มกับอาหารเกาหลีไปหลายเมนูแล้ว แต่ก็ยังเห็นว่าในเมนูอาหารมีอาหารจานอื่นอีกหลายอย่างที่น่าลองลิ้ม อาทิ Sam Gae Tang (ซุปไก่) (300 บาท) Dak Bul Go Gi (ไก่หมึกย่างสไตล์เกาหลี) (280 บาท) Jab-Chae (ผัดวุ้นเส้นเกาหลี) (350 บาท) Ddok Bok ki (ด็อกโบคกิ) (200 บาท) และอีกสารพัดอาหารเกาหลีที่ล้วนแล้วแต่น่าลองลิ้มทั้งนั้นเลย
ย่างเนื้อร้อนๆ บนเตาถ่าน
       เรียกว่าหากใครที่เป็นสาวกเกาหลี และชื่นชอบอาหารเกาหลี ก็อยากจะเชิญชวนให้มาที่ร้าน “เมียงกา” แห่งนี้กันดูเพราะจะได้ลิ้มรสชาติอาหารเกาหลีแบบต้นตำรับขนาดแท้ที่ถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน
บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้น 2
 “เมียงกา” (Myeong Ga) ตั้งอยู่ที่ 212/16 ชั้น 1 สุขุมวิทพลาซ่า ซ.สุขุมวิท 12 ถ. สุขุมวิท คลองเตย คลองเตย กทม. การเดินทางจากถ.สุขุมวิท มุ่งหน้ามาที่ซ.สุขุมวิท 12 สุขุมวิทพลาซ่า (โคเรียนทาวน์) และตรงเข้ามาในสุขุมวิทพลาซ่าบริเวณชั้น 1 จะเห็นร้านเมียงกาตั้งอยู่มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน จอดรถได้ที่บริเวณลานจอดรถของสุขุมวิทพลาซ่า ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. แต่ทุกวันจันทร์เปิด 16.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี และทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วยโทร. 0-2229-4658, 08-1630-0532

“ลิตเติ้ลมัม” อร่อยรส อาหารโฮมเมด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 สิงหาคม 2554 15:32 น.
บรรยากาศโต๊ะนั่งสบายๆ ภายในร้านลิตเติ้ลมัม
       “12 ส.ค.” นี้เป็น “วันแม่แห่งชาติ” ถือว่าเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่ลูกๆ ที่น่ารักทั้งหลาย จะได้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อคุณแม่ที่รักกัน
      
       สำหรับ “ตระเวนกิน” แล้วเมื่อถึงวันแม่ทีไรก็มักที่จะขอ เลือกแสดงออกถึงความรักที่มีต่อคุณแม่ที่เคารพรัก ด้วยการพาคุณแม่ไปกินอาหารอร่อยๆ นอกบ้าน เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศและเป็นการสานความสัมพันธ์อันดีที่รักใคร่กันใน ครอบครัว
โต๊ะนั่งรับลมเย็นๆ ด้านนอก
       แล้วในมื้อนี้เราก็ขอพาคุณแม่ที่รักและครอบครัวมาอิ่มสุขสันต์กันยังร้านอาหารที่มีชื่อน่ารักๆ ว่า “ลิตเติ้ลมัม” (Little Mom) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ ที่นี่เป็นร้านอาหารไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่แฝงไว้ด้วยความน่ารัก ตกแต่งร้านแนวโมเดิร์น วินเทจ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายๆ เป็นกันเอง ชวนให้มานั่งกินข้าวเป็นยิ่งนัก
      
       อีกทั้งอาหารของที่ร้านลิตเติ้ลนี้ก็เป็นอาหารสไตล์โฮมเมด ที่ทางร้านคิดค้นเมนูอาหารขึ้นมาเอง และเลือกสรรแต่วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษมาปรุงแต่งเป็นเมนูอาหารจานเด็ด ซึ่งมีทั้งอาหารไทย อาหารอิตาเลี่ยน และอาหารแนวฟิวชั่นที่ล้วนแล้วแต่ชวนลิ้มรสมากมาย ซึ่งอาหารของที่นี่ทุกจานจะปรุงแบบไม่ใส่ผงชูรส รวมถึงที่ร้านยังมีกาแฟ และเบเกอรี่โฮมเมดน่ากินๆ มากมายกว่า 30 ชนิด แต่จะนำออกมาขายประมาณ 4-5 ชนิดต่อวันและหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ
ซุปผักโขม
       ในมื้อนี้เราได้เลือกสั่งเมนูอาหารจานเด่นๆ ของที่นี่มาชิมอยู่หลายจานด้วยกัน เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยให้ตื่นตัวกันก่อนด้วย ซุปผักโขม (85 บาท) เป็นซุปผักโขมน้ำข้น ที่ผ่านการปรุงเคี่ยวด้วยน้ำสต็อกไก่กับเนื้อมันฝรั่ง และผักโขม เคี่ยวนานกว่า 3 ชม. จนได้ซุปเข้มข้นรสกลมกล่อมหอมนุ่ม เนื้อซุปเนียนละเมียดลิ้น แถมมีขนมปังกระเทียมกรอบนุ่ม ที่ทางร้านทำหน้าเนยกระเทียมเอง กินเข้าคู่กันดีกับซุปร้อนๆ
ลาซานญ่าสติ๊ก
       เมนูต่อมาเป็น ลาซานญ่าสติ๊ก (90 บาท) ที่แปลกดีไม่มีร้านไหนเหมือน ม้วนมาเป็นแท่งด้านในเป็นไส้ลาซานญ่าหมูปรุงรสตามสูตรเด็ดของทางร้าน และใส่มอสซาเรลล่าชีส ห่อม้วนด้วยแผ่นแป้งปอเปี๊ยะและทอดจนเหลืองกรอบ กินแล้วเคี้ยวกรอบนอกนุ่มใน ได้รสลาซานย่าถูกปาก และมีชีสยืดๆ ได้ใจ กินเพียวๆ ก็อร่อยลิ้นแล้ว แต่ว่าทางร้านมีน้ำจิ้มบ๊วยมาให้จิ้มด้วย
ผักโขมอบชีส
       แล้วก็มาชิม ผักโขมอบชีส (120 บาท) ที่เสิร์ฟมาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมชีส ด้านในมีผักโขมและเบคอนเยอรมันรมควันที่ทางร้านเลือกมาอย่างดีแบบปลอดสาร และด้านบนโปะด้วยมอสซาเรลล่าชีสเข้าอบจนสุก ชิมแล้วชีสยืดหนืดเข้ากับผักโขมนุ่มๆ และเบคอนรสดี
ยำทูน่าสายฝน
       ยำทูน่าสายฝน (80 บาท) จานนี้กินแล้วไม่ชวนอ้วน เพราะว่ามีแต่ผักไฮโดรโพนิกส์สดๆ หลายชนิด และยังมีสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้ ใบสะระแหน่ใส่มาพร้อมกับเนื้อทูน่าในน้ำมัน และเส้นแก้ว ราดด้วยน้ำสลัดที่ปรุงรสขึ้นมาใหม่ให้แซบแบบยำสไตล์ไทยๆ ลิ้มรสแล้วถูกปากกับผัดสดกรอบ เส้นแก้วเคี้ยวกรึบลงตัวเข้ากับทูน่าเนื้อนุ่มและชุ่มน้ำยำรสจัดจ้าน เผ็ดแซบได้ใจ
สปาเก็ตตี้ซอสครีมข่ากุ้ง
       จากนั้นมาชิมเมนูเส้น สปาเก็ตตี้ซอสครีมข่ากุ้ง (150 บาท) กันบ้าง เมนูนี้ออกแนวฟิวชั่นทางร้านนำเอาเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับซอสครีมข่ากุ้งที่ ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษออกสไตล์ไทยๆ และใส่กุ้งแซบ๊วยตัวโต ชิมแล้วถูกใจในความเข้มข้นของซอสครีมข่ากุ้งที่ออกรสร้อนแรง และหอมกลิ่นข่าขึ้นจมูกเวลากิน ช่างกินเข้ากันดีกับสปาเก็ตตี้เส้นเหนียวนุ่ม และเนื้อกุ้งหวานสด
สปาเก็ตตี้ซอสครีมซีฟู้ด
       สปาเก็ตตี้ซอสครีมซีฟู้ด (150 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูจานเส้นที่น่าลิ้มลอง ทางร้านนำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับซอสเพสโต้ที่ปรุงมาเป็นโดยเฉพาะ ใส่ครีมสดและไวน์ขาว และใส่กุ้ง หมึก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ผัดมาพร้อมกัน ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเคี้ยวเส้นนุ่มเด้งเข้ากับครีมซอสเพสโต้เข้มข้นรส ดี หอมกลิ่นซอสด้วย
Chocolate Truffle Cake
       กินอาหารไปก็หลายจานแล้ว มาปิดท้ายล้างปากกันด้วยเค้กดีกว่า Chocolate Truffle Cake (90 บาท) เป็นเค้กที่ขายดีของทางร้าน เนื้อเค้กทำจากช็อกโกแลตแท้ ๆ ราดหน้าด้วยช็อกโกแลตฟัดจ์เข้มข้น กินแล้วเนื้อเค้กเบานุ่ม หอมหวานชฮคโกแลตมากๆ
Banana Choc Fudge Cake
       Banana Choc Fudge Cake (85 บาท) เป็นเค้กอีกตัวที่ชวนกินไม่แพ้กัน ตัวเค้กเป็นเนื้อเค้กบัตเตอร์ที่มีส่วนผสมของกล้วยหอมกับช็อคโกแลต ท็อปด้วยครีมสดและโรยด้วยผงโกโก้ ลิ้มรสเนื้อเค้กแน่นได้รสชอคโกแลตเข้มข้น
ร้านลิตเติ้ลมัม
       ทั้งหมดนี่เป็นเมนูชวนกินและชวนอิ่มที่เราได้ลิ้มรสและนำมาเสนอ แต่ว่าในเมนูอาหารก็ยังมีเมนูเด็ดอีกหลายอย่างที่ชวนลิ้มรส อาทิ ข้าวหน้าหมูแซบ (60 บาท) ไก่อินเดียนแดง (85 บาท) สปาเก็ตตี้ผัดกุ้งไข่เค็ม (120 บาท) ชุดข้าวสเต็ก+เครื่องดื่ม (95 บาท) และอีกสารพันเมนูที่อยากจะชวนเชิญให้ทุกคนจูงมือคุณแม่และครอบครัวที่รักมาอิ่มหนำสำราญกันได้ที่ร้าน “ลิตเติ้ล มัม”
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “ลิตเติ้ลมัม” (Little Mom) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ อยู่ระหว่างซอยบางใหญ่ซิตี้ 13-15 ถ้ามาจากถ.รัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าบางบัวทอง เจอสะพานวงแหวน ลงจากวงแหวนจะเจอ Index Living Mall ตรงไปเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ ตรงเข้ามาด้านในเรื่อยๆจนถึงซ.บางใหญ่ซิตี้ 13 ให้สังเกตจะเห็นธงสีชมพูและสีเขียว และป้ายร้านอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือ จอดรถได้ริมถนน เปิดอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 08.00-20.30 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนจะดี โทร. 0-2903-3363, 08-6544-1720, 08-6903-3030 และพิเศษหากพาคุณแม่มากินอาหารที่ร้านครบ 500 บาท ทางร้านยินดีมอบขนมให้ 1 ชิ้น ตลอดเดือนส.ค. นี้

“TORII” บุฟเฟต์ชาบู เต็มอิ่มคุ้มค่า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 สิงหาคม 2554 15:36 น. 
บรรยากาศภายในร้านโทริอิ
       ฝนตกๆ แบบนี้ พาเอาอุณหภูมิของอากาศเย็นตามไปด้วย ทำให้ “ตระเวนกิน” นึก ครึ้มอยากจะหาของกินร้อนๆ ใส่ท้องเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย และก็นึกไปถึงชาบู ชาบู ที่มีเนื้อให้ลวกจุ่มในหม้อน้ำซุปร้อนๆ ที่ส่งควันฉุยของน้ำซุปหอมๆ ยามได้ซดน้ำซุปชาบูร้อนๆ โอ้ย!! นึกแล้วก็หิวท้องกิ่วขึ้นมาเลย
โต๊ะนั่งมุมสบายๆ
       ทำเอาเราต้องรีบไปเสาะแสวงหาร้านชาบูเลิศรสมาสนองความอยากของร่างกาย และท้องไส้กันให้ได้ และในที่สุดก็ได้มาลงเลยดับความหิวกันยังร้าน “Torii Shabu & Japanese Restaurant” (โทริอิชาบูแอนด์เจแปนนิสเรสเตอรองท์) ที่ตั้งอยู่ตรงอาคารเสนาเฮ้าส์ ซ.พหลโยธิน 30
เนื้อหมัก (บน) เนื้อนิวซีแลนด์ (ล่าง)
       “Torii” (โทริอิ) เป็นชื่อเรียกของเสาสีแดงที่ทำเหมือนประตูตั้งอยู่ตามวัดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทางร้านได้นำมาตั้งเป็นชื่อร้าน และด้านหน้าทางเข้าร้านก็มีประตูโทริอิสีแดงตั้งจำลองอยู่ เรียกว่าได้อารมณ์ความเป็นญี่ปุ่นแฝงอยู่ในตัว และพอเดินเข้ามาในร้านก็พบกับบรรยากาศร้านที่ดูโล่งโปร่งสบาย มีโต๊ะนั่งในมุมน่ารักๆ ให้เลือกนั่งด้วย
สันคอหมู (บน) หมูสันนอก (ล่าง)
       สำหรับอาหารที่มีขายอยู่ในร้านโทริอิก็คือมีชาบู ชาบู ที่เน้นบริการเป็นพิเศษ และอาหารญี่ปุ่นจานเดียว ซึ่งในมื้อนี้เราขอเลือกที่จะมาอิ่มเอมอย่างเต็มที่แบบไม่อั้นกับ บุฟเฟต์ชาบู ชาบู (ราคา 299 บาท+ ต่อคน ยังไม่รวมเครื่องดื่ม สามารถกินได้ภายใน 2 ชม.)
เบคอน
       บุฟเฟต์ชาบู ของที่นี่มีอาหารให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกันอย่างเต็มที่แบบไม่อั้นมากมาย เริ่มจากน้ำซุปกันก่อนเลย มีให้เลือกถึง 2 แบบด้วยกันคือ มีน้ำซุปชาบู ซึ่งเป็นน้ำซุปใสๆ ปรุงจากน้ำสต็อกไก่ที่เข้มข้น รสชาติหวานหอมน้ำซุปรสกลมกล่อม ส่วนน้ำซุปอีกแบบ คือ น้ำซุปสุกี้ออกสีน้ำตาล มีความหอมและเข้มข้นไม่แพ้กัน เพราะน้ำซุปปรุงด้วยซอสญี่ปุ่นและส่วนผสมอย่างปลาโอ จึงมีความหอมหวาน ออกเค็มนิดๆ ซึ่งน้ำซุปนี้สามารถเลือกกินได้ตามใจชอบ หรือถ้าอยากจะลองทั้ง 2 แบบเลยทางร้านก็ไม่ว่า แต่ต้องเปลี่ยนกินทีล่ะน้ำซุป
ปลาดอรี่ (บน) ปลากะพง (ล่าง)
       ส่วนพวกเนื้อที่จะนำมาลวกกินในหม้อน้ำซุปชาบูร้อนๆ ก็มีเนื้อหลายอย่างให้เลือกสั่งมากินได้ตามใจชอบ ถ้าหากชอบกินเนื้อวัวทางร้านมีให้เลือกทั้ง เนื้อนิวซีแลนด์ซึ่งเป็นเนื้อส่วนคอสไลด์มาเป็นชิ้นบางๆ ลวกในน้ำซุปร้อนๆ พอเนื้อสุกเคี้ยวนุ่มมากๆ มีเนื้อหมักที่เลือกใช้เนื้อส่วนริบอายมาหมักกับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน และยังมีน้ำจิ้มที่เอาไปกินกับเนื้อหมักโดยเฉพาะ ซึ่งเนื้อหมักนี้เนื้อนุ่มเคี้ยวหนึบปากกำลังดี และมีเนื้อริบอายที่เป็นเนื้อส่วนต้นซี่โครงที่ตัดเอากระดูกและเอ็น รอบนอกออก เหลือแต่เนื้อส่วนกลางที่ให้รสชาติดีมีความนุ่มมาก
ชุดผักเพื่อสุขภาพ
       แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อก็มีเนื้ออกไก่ ตับหมู เนื้อหมูให้เลือกด้วย มีทั้งเนื้อหมูส่วนสันคอสไลด์มาเป็นชิ้นบางกำลังดี ลวกกินแล้วเนื้อนิ่มนุ่มลิ้น มีเนื้อส่วนสันนอกสไลด์มาเป็นชิ้นหนากำลังดี และมีเบคอนด้วย ลวกกินแล้วก็อร่อยลิ้น แถมยังมีปลาดอรี่เนื้อขาวนุ่มหวาน และปลากะพงเนื้อนุ่มหวานสด ซึ่งพวกเนื้อต่างๆ เหล่านี้สามารถเลือกสั่งมากินได้ตามใจชอบ ทางร้านจะเสิร์ฟมาให้เป็นจานๆ อ้อ!! เกือบลืมบอกไปว่าที่นี่มีน้ำจิ้มที่ให้กินคู่กับชาบูถึง 3 แบบด้วยกัน คือ มีน้ำจิ้มพอนซึออกรสเปรี้ยวๆ หวานๆ น้ำจิ้มงาออกรสกลมกล่อมหอมกลิ่นงา และน้ำจิ้มสุกี้ออกรสจัดจ้านแบบไทยๆ
อิ่มเต็มที่กับบุฟเฟต์ชาบู
       และนอกจากเนื้อแล้วก็ยังมีชุดผักเพื่อสุขภาพอีกด้วย ที่มีสารพัดผักสดๆ หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาว ข้าวโพดอ่อน แครอท เห็ดฟาง เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนูดำ และยังมีเส้นบุกกับวุ้นเส้นญี่ปุ่น ไว้ให้ลวกกินอีกด้วย
ลวกเนื้อในน้ำซุปชาบูร้อนๆ
       ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ในบุฟเฟต์ยังมีซูชิสารพัดหน้าให้เลือกสั่งมา กินกันได้แบบจุใจอีก มีหน้าซูชิให้เลือกหลายหน้า อาทิ ข้าวปั้นหน้ากุ้ง ข้าวปั้นหน้าปลาซาบะดอง ข้าวปั้นหน้าแซลมอน ข้าวห่อหน้ายำสาหร่าย ข้าวห่อสาหร่ายไข่กุ้ง ฯลฯ และเดี๋ยวจะหาว่าได้อิ่มไม่เต็มที่ ทางร้านยังมีอาหารจานเดียวอย่างอื่นให้ได้เลือกสั่งมากินกันอีก
ซูชิสารพัดหน้า
       ไม่ว่าจะเป็น ไก่เทอริยากกิ ที่เลือกใช้เนื้อไก่ ส่วนสะโพกมาคลุกแป้งทอดกรอบแล้วราดด้วยน้ำเทอริยากิสูตรเด็ด ชิมแล้วไก่กรอบนอกนุ่มในชุ่มรสซอสเทออริยากิหอมหวานถูกปากมากๆ ไก่ผัดซอสกิมจิ เป็นเนื้อไก่ส่วนสะโพกนำมาผัดกับซอสกิมจิที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเอง กินแล้วไก่เนื้อนุ่มเข้ากับซอสกิมจิเข้มข้นรสดี แล้วก็ยังมี ไก่คาราเกะ พิซซ่าญี่ปุ่น ข้าวหน้าหมู ข้าวผัดกระเทียม
ไก่เทอริยากิ
       แต่ช้าก่อนถึงแม้จะได้เต็มอิ่มกับชาบู ชาบู และอาหารอื่นๆ กันแบบอิ่มแน่นท้องกันไปแล้ว แต่ทางร้านก็ยังมีอาหารญี่ปุ่นอย่างอื่นมานำเสนอที่ชวนให้สั่งมากินได้ใน ราคาพิเศษหากสั่งบุฟเฟต์ชาบูมากินกัน ที่อยากแนะนำก็มี โทริอิแซลมอนโรล (99 บาท) เป็นข้าวห่อสาหร่ายข้างในมีไส้ปูอัด ไข่หวาน แตงกวา และห่อม้วนด้วยแซลมอนสด ราดด้วยน้ำซอสไข่กุ้ง รสชาติเยี่ยมยอดจริงๆ มีกุ้งเทมปุระ (59 บาท) ยำสาหร่าย (59 บาท) แคลิฟอร์เนียมากิ (99 บาท) และอีกสารพัดเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ที่ทางร้านตั้งใจนำมาเสนอให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกับอย่างเต็มเปี่ยม
ไก่ผัดซอสกิมจิ
       ถ้าไม่เรียกว่าอิ่มจริง อิ่มจัง และอิ่มคุ้มค่ากับบุฟเฟต์ชาบู ชาบู ที่ทางร้าน “โทริอิ” นำ มาเสนอกันแบบไม่อั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เอาเป็นว่าอยากจะบอกว่าขอให้มิตรรักนักกินทุกคนได้ลองมาพิสูจน์ความอิ่มแบบ ไม่อั้นกันด้วยตัวเองจะดีกว่า
โทริอิแซลมอนโรล
 “Torii Shabu & Japanese Restaurant” (โทริอิชาบูแอนด์เจแปนนิสเรสเตอรองท์) ตั้งอยู่ที่อาคารเสนาเฮ้าส์ เลขที่ 15/1-8 ซ.พหลโยธิน 30 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม. การเดินทางจากถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าไปทางเมเจอร์รัชโยธิน ให้เลี้ยวเข้าซ.พหลโยธิน 30 (ช่างฝีมือทหาร) ตรงเข้ามาในซอยประมาณ 150 ม. จะเห็นร้านโทริอิตั้งยู่บริเวณชั้น 1 อาคารเสนาเฮ้าส์ทางด้านซ้ายมือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้หน้าร้าน และในอาคารเสนาเฮ้าส์ เปิดจันทร์-ศุกร์ (ปิดวันอังคาร) เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-22.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี โทร. 0-2512-4918