homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

“Petite Pantry” มีดีอิตาเลียนโฮมเมด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ธันวาคม 2554 15:48 น.
บรรยากาศภายในร้าน Petite Pantry
       “อาหารอิตาเลียน” ถือว่าเป็นอาหารจากชาติตะวันตกที่มีรสชาติดี และถูกปากนักกินชาวไทยไม่น้อยเลย เห็นได้จากการที่มีร้านอาหารอิตาเลียนเปิดให้บริการอยู่มากมาย มีทั้งร้านตามโรงแรม ร้านอาหารใหญ่ๆ ตกแต่งอย่างหรูหรา ไปจนถึงร้านขนาดกลางและร้านขนาดเล็ก ที่เปิดเชิญชวนให้คออาหารอิตาเลียนทั้งหลายได้เลือกเดินทางไปลิ้มรสชาติกัน ได้ตามใจปรารถนา
      
       มาในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอเอาใจแฟนๆ ที่พิสมัยอาหารอิตาเลียนกันสักหน่อย โดยขอพาเดินทางมาที่ซ.สุขุมวิท 49 เพื่อมายังร้าน “Petite Pantry” (พิติท แพนทรี่ แปลว่า ครัวขนาดมินิ) ซึ่งที่นี้เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่ชวนให้มาลิ้มลองเป็นอย่างมาก เพราะว่าด้วยบรรยากาศของร้านที่ชวนนั่งแบบชิลล์ ชิลล์ ตรงตามคอนเซ็ปของร้านที่ว่า บรรยากาศง่ายๆ สบายๆ เป็นกันเอง ราคาไม่แพง (ในย่านสุขุมวิทนี้)
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมเย็นๆ
       บรรยากาศของร้านร่มรื่นชวนนั่ง มีทั้งส่วนของห้องแอร์กรุกระจกใส มีโต๊ะให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ หรือจะเป็นโซนโต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติท่ามกลางแมกไม้รื่นรมย์ แล้วยังมีส่วนของโต๊ะนั่งด้านบน และมีห้องวีไอพีไว้คอยให้บริการจัดเลี้ยงได้อีกด้วย
      
       ส่วนเรื่องของอาหารอิตาเลียนของที่ร้านนี้ เน้นว่าเป็นอิตาเลียนสไตล์โฮมเมด ที่เน้นคัดสรรวัถุดิบที่มีคุณภาพในการนำมาปรุงเป็นอาหารอิตาเลียนจานเด็ดที่ ทางร้านรังสรรค์เมนูคิดมาเป็นสไตล์ของตัวเองโดยเฉพาะ ซึ่งมีเมนูอิตาเลียนอันหลากหลายให้ได้เลือกสั่งมากินกันตามใจชอบ
Calamari Pizza
       และในมื้อนี้เราก็มีเมนูอิตาเลียนจานเด็ดของที่ร้านนี้ ที่ถ้าหากได้มาแล้วแนะนำว่าต้องสั่งมาลิ้มรสกันให้ได้ เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยด้วยของกินเล่นอย่าง Calamari (200 บาท++) เป็นหมึกที่นำมาชุบกับแป้งที่ทางร้านปรุงรสไว้แล้วทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับซอสที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ เคี้ยวหมึกกรอบนอกเนื้อในนุ่มหนึบหนับปากเข้ากับรสชาติซอสรสชาติดี
Caramelized Apple & Walnut Salad
       จานถัดมานำเสนอ Caramelized Apple & Walnut Salad (240 บาท++) เป็นสลัดจานเด่นที่มีแอปเปิ้ลย่างกับเนย มีผักรอคเก็ต มะเขือเทศเชอร์รี่ ราดด้วยน้ำสลัดบาซามิค โรยด้วยวอลนัทและเฟต้าชีส ลิ้มรสสลัดถูกปากกับแอปเปิ้ลหอมหวานเข้ากับผักรอคเก็ต วอลนัท ชีส และน้ำบาซามิครสกลมกล่อมลิ้น
Petite Style Lasagna
       ต่อด้วยเมนู Petite Style Lasagna (320 บาท++) เป็นลาซานญ่าเนื้อหอมๆ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ทำสดๆ ทุกถ้วย โดยทางร้านจะนำเนื้อออสเตรเลียมาปรุงรสตามสูตรเฉพาะ มาทำไปไส้ลาซานญ่าใส่สลับกับชีสเป็นชั้นๆ 3-4 ชั้น และด้านบนโปะด้วยมอสซาเรลล่าชีสแล้วนำเข้าอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมๆ กินแล้วเนื้อนุ่มรสดีนุ่มหนืดชีสถูกปากจริงๆ
Spaghetti Shrimp Japanese Shrimp Roe
       แล้วมาชิม Spaghetti Shrimp Japanese Shrimp Roe (280 บาท++) ที่ถ้าใครชอบกินพาสต้าแนะนำเลยว่าต้องสั่งมาชิม เพราะทางร้านนำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดน้ำมันมะกอก ใส่มะเขือเทศเชอร์รี่ กุ้งสด ไข่กุ้ง และใส่พริกขี้หนูสดเล็กน้อยให้มีรสชาติจัดจ้านขึ้น กินแล้วก็ถูกปากกับเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มเด้งเข้ากับกุ้งและไข่กุ้งมัน ปาก อกรสเผ็ดนิดๆ กำลังดี
Home-Style Baked Sole
       ตามมาด้วยเมนูนี้ Home-Style Baked Sole (260 บาท++) เป็นปลาทะเล Baked Sole ลามาเป็นชิ้นแล้วอบกับไวน์ขาว มะกอก เคเปเปอร์ และมะเขือเทศซันดราย มีเครื่องเคียงเป็นผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง กินปลาเนื้อนุ่มหวานและได้รสชาติของไวน์ขาวที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ถูกปากดีแท้
Cantadina
       และก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งพิซซ่ามากินกันให้ได้ เพราะที่นี่ทำพิซซ่าแบบโฮมเมด มีเตาอบพิซซ่าที่สั่งทำมาโดยเฉพาะ แนะนำให้สั่ง Cantadina Pizza (300 บาท++) เป็นพิซซ่าแบบอิตาเลียนแท้ๆ แป้งบางและอบด้วยเตาถ่านแบบพิเศษสำหรับทำพิซซ่าเท่านั้นทำให้แป้งกรอบทั่ว กัน และมีกลิ่นหอมของไม้ที่ใช้อบด้วย หน้าพิซซ่านี้ใส่เห็ดหอมสด ไส้กรอกอิตาเลียน มอซซาเรลล่าชีส และโรยหน้าด้วยผักรอคเก็ต กินพิซซ่าแป้งบางกรอบหอมชีสและเต็มปากเต็มคำกับเครื่องต่างๆ ที่ใส่มา
ลีลาการทำพิซซ่าแบบโฮมเมด
       เมนูต่างๆ ที่นำเสนอมานี้เป็นเมนูเด่นที่ไม่ควรพลาดต้องสั่งมาลิ้มลองกันให้ได้ แล้วก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ BBQ Chicken Pizza California Style (340 บาท++) Pizza Spicy Clams White Wine Cream Sauce (360 บาท++) Linguini with Crab Meat (320 บาท++) Baked Atichoke Almond Crusted Salmon Trout (600 บาท++) และอีกหลายหลากเมนูอิตเลียนโฮมเมดเลิศรสที่อยากจะชวนให้ผู้ที่ชืนชอบอาหาร อิตาเลียนได้ลองเดินทางมาลองลิ้มกันด้วยตัวเองที่ร้าน “Petite Pantry” แห่งนี้
บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านบน
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “Petite Pantry” (พิติท แพนทรี่) ตั้งอยู่ที่ 55/1 ซ.สุขุมวิท 49 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. การเดินทางถ้ามาจากถ.สุขุมวิท ให้ตรงที่ซ.สุขุมวิท 49 ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆ จนมาถึงวิลล่ามาร์เก็ตจะเห็นร้าน Petite Pantryตั้งอยู่ติดกัน จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลฟัน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. มีที่จอดรถภายในร้าน ทางร้านรับจัดเลี้ยงและมีบริการ Delivery ด้วย โทร. 0-2662-4547

เคี้ยวมันๆ กับ “อโวคาโดผัดน้ำมันงา” / กุ๊กเล็ก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2552 14:21 น.

โดย : กุ๊กเล็ก


       เมื่อวันก่อนได้ไปเดินช้อปปิ้งกับเพื่อนสาว แล้วเผอิญเห็นผลอโวคาโดมันเตะตาเข้า ใจก็นึกอยากเคี้ยวเนื้อมันๆของเจ้าอโวคาโดนี้ เลยตัดสินใจซื้อมาสนองอารมณ์สักมื้อ เมื่อกลับมาบ้านก็จัดแจงตระเตรียมส่วนผสมอื่นให้พร้อมสรรพ เพื่อจะทำเมนู “อโวคาโดผัดน้ำมันงา” ให้หายอยาก
      
       
ส่วนผสม
       อโวคาโด 1 ผล
       พริกหวาน 1 ผล
       น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
       เกลือ 1/4 ช้อนชา
       น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
       ผักบุ้งจีน ตามชอบใจ
       น้ำต้มสุก เล็กน้อย
       

       ส่วนผสมครบมือแล้วก็ระเบิดความมันโดยการล้างผักให้สะอาด ปอกเปลือกอโวคาโดแล้วหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ จากนั้นเด็ดยอดอ่อนและใบของผักบุ้งจีน ฝานพริกหวานเป็นแว่นเรียงบนจานเพื่อความสวยงาม แล้วก็ผสมน้ำมันงา น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากันดี เรียบร้อยแล้วก็หันมาตั้งน้ำมัน นำอโวคาโดลงผัดพอหอม เติมน้ำต้มสุกเล็กน้อยแล้วผัดต่อจนอโวคาโดเหลืองสุก ใส่ผักบุ้งจีนลงผัดตามแล้วรีบปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่ผสมไว้ ผัดให้ทั่วจนผักสลดแล้วรีบยกขึ้นตักราดบนจานที่วางเรียงด้วยแว่นพริกหวานให้ สวยงามพร้อมเสิร์ฟได้เลย

เผ็ดร้อนสะใจ กับ "น้ำพริกนรกกุ้ง" / กุ๊กเล็ก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 เมษายน 2552 12:03 น.
 โดย : กุ๊กเล็ก


       พายุฤดูร้อนที่พัดผ่านบ้านเมืองของเราในช่วงที่ผ่านมานี้ช่วยลด อุณหภูมิความร้อนให้เบาบางลงไปได้บ้าง และหลังจากที่พายุผ่านพ้นไป คราวนี้แหละเราก็จะได้สัมผัสกับความร้อนที่แท้จริงของเดือนที่ร้อนที่สุดใน รอบปีอย่างเดือนเมษายนกันจริงๆจังๆแล้ว อย่ากระนั้นเลย “กุ๊กเล็ก” ขอเสนอเมนู “น้ำพริกนรกกุ้ง” เพิ่มความร้อนระอุกันให้สุดๆ ไปเลยดีกว่า
      
       
ส่วนผสม
      
       กุ้งแห้ง 1 ถ้วย
       พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
       หอมแดง 10 หัว
       กระเทียม 5 หัว
       กะปิเผา 2 ช้อนชา
       มะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
       

       มาเริ่มลงมือทำน้ำพริกนรกกุ้งกันเลยดีกว่า เริ่มนำพริกขี้หนูแห้งไปคั่วให้หอม ไม่ว่าใครจะกินเผ็ดมากหรือเผ็ดน้อย อยากได้นรกขุมไหนก็เพิ่ม-ลดจำนวนพริกได้ตามชอบ เสร็จแล้วนำพริกคั่วนั้นมาโขลกรวมกับกระเทียมและหอมแดงให้ละเอียด เพิ่มรสชาติให้น้ำพริกนรกด้วยกะปิเผาหอมๆ โขลกจนได้ที่แล้วก็เอากุ้งแห้งลงไปออกแรงโขลกต่อให้ละเอียดเข้ากันดี ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยมะขามเปียกและน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วลองชิมรสให้ถูกใจ
      
       จากนั้นหันไปตั้งกระทะให้ร้อน นำเอาส่วนผสมทั้งหมดที่เราโขลกเอาไว้ลงไปคั่วไฟอ่อนๆ จนน้ำพริกนรกนั้นแห้งดี ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กินกับผักสด หรือไข่ต้มไข่เจียว หรือจะกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆเพียงอย่างเดียว ก็อร่อยเหาะ และหากเก็บไว้ในภาชนะมีฝาปิดมิดชิดแช่ตู้เย็นไว้ก็เป็นเสบียงเก็บไว้กินได้ เป็นอาทิตย์ๆเลยล่ะ

“ปลาหมึกแดดเดียว” เคี้ยวหนึบถึงใจ

โดย : กุ๊กเล็ก


       ถ้าหากถามว่าเมนูเด็ดจากปลาหมึกนั้นมีอะไรบ้าง สิ่งที่ตอบได้อย่างแรกก็คือ ปลาหมึกย่าง ที่จะได้รสชาติความสดอร่อยของปลาหมึก รวมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บที่อร่อยโดนใจ แต่ถ้าเบื่อเมนูนี้แล้ว ก็จะนำไปต้มยำทำแกงได้อีกหลายเมนู อย่างในมื้อนี้ที่ “กุ๊กเล็ก” ก็มีเมนูอร่อยเด็ดจาปาหมึกมาให้ลองทำกันดู นั่นก็คือ “ปลาหมึกแดดเดียว”
      
       ส่วนผสมมีดังนี้
       ปลาหมึกกล้วยตัวใหญ่ ประมาณ 1-1 1/2 กิโลกรัม
       น้ำปลาอย่างดี 5 ช้อนชา
       น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนชา
       น้ำมันสำหรับทอด
      
       วิธีทำ เริ่มจากนำปลาหมึกมาล้างให้สะอาด ลอกหนังออก แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้น ผสมน้ำปลาและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี นำปลาหมึกลงไปหมักกับน้ำปลาและน้ำตาลในกล่อง หรือกะละมังใบใหญ่หน่อย จะได้ไม่ต้องซ้อนตัวปลาหมึก ทำให้ปลาหมึกเค็มเท่ากันทั่วทั้งตัว หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง หรือจะหมักทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ จากนั้นนำมาตากแดดจนปลาหมึกหมาด (ถ้าแดดแรงก็ตากประมาณ 2-3 ชั่วโมง) พอได้ที่แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพอร้อนแล้วใส่ปลาหมึกลงทอดพอเหลือง แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ยกขึ้นเสิร์ฟได้เลย


“ซาโมซ่าไส้ผักรวม” อาหารว่างสไตล์อินเดีย โดนใจแบบไร้เนื้อสัตว์
 โดย : กุ๊กเล็ก


       เทศกาลเจแบบนี้ หลายๆ คนคงอยากจะเสาะหาสูตรอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์มาทำกินกันในบ้าน “กุ๊กเล็ก” เลยอยากจะเอาใจคนกินเจเสียหน่อยกับเมนู “ซาโมซ่าไส้ผักรวม” อาหารว่างแบบอินเดีย ที่ได้สูตรอร่อยนี้มาจากโรงแรมใบหยกสวีท รสชาติซาโมซ่าจานนี้อร่อยครบเครื่องด้วยส่วนผสมนานาชนิดแบบไร้เนื้อสัตว์
      
       ส่วนผสมมีดังนี้
       มันเทศ 200 กรัม
       มันฝรั่ง 200 กรัม
       ถั่วลันเตา 200 กรัม
       แครอท 100 กรัม
       มะเขือเทศ 100 กรัม
       หอมใหญ่ 300 กรัม
       วุ้นเส้น (แช่น้ำแล้ว) 300 กรัม
       แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ 500 กรัม
       ผงขมิ้น ½ ช้อนชา
       ผงมัสล่า 1 ช้อนโต๊ะ
       น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
       พริกป่นอินเดีย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
       เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
       พริกไทย ½ ช้อนโต๊ะ
       น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
       เนยอินเดีย 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมันพืช (สำหรับทอด) 3 ถ้วย
       แป้งเปียกสำหรับห่อ
      
       วิธีทำ เริ่มจากนำผักต่างๆ มาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ เตรียมไว้ จากนั้นตั้งกระทะไฟกลาง ใส่เนยอินเดีย นำหอมใหญ่ลงผัดให้หอม จากนั้นใส่มันเทศ มันฝรั่ง แครอท และถั่วลันเตา ผัดจนเกือบสุก ใส่ผงขมิ้น ผงมัสล่า พริกป่นอินเดีย ปรุงรสรสด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำตาลทราย ใส่น้ำเปล่า รอจนเดือด แล้วจึงใส่มะเขือเทศและวุ้นเส้นลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผัดจนสุกแห้งดีก็ยกลงจากเตาแล้วพักไว้
      
       นำแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะมาห่อกับไส้ที่ผัดไว้ ห่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม ใช้แป้งเปียกทาตรงส่วนที่ทับกันเพื่อให้ซาโมซ่าไม่แตกแยกออกจากกัน จากนั้นนำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืช รอจนร้อน นำซาโมซ่าที่ห่อไว้ลงทอดให้เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน กินเป็นของว่างรองท้องให้อร่อยปาก หรือจะเสิร์ฟอาจาดกินคู่กันมาด้วยก็ยังได้


“สเต็กแซลมอนไวท์ซอส” อิ่มเบาๆ เต็มคุณค่า
โดย : กุ๊กเล็ก


       ช่วงนี้ “กุ๊กเล็ก” รู้สึกว่าอยากจะกินอะไรเบาๆ เพื่อไม่ให้กระเพาะทำงานหนักมากนัก แต่ก็ยังอยากได้สารอาหารที่ครบถ้วนอยู่ ก็เลยลองเสาะอาเมนูเด็ดมาทำกินเองที่บ้าน ซึ่งก็คือเมนู “สเต็กแซลมอนไวท์ซอส” ที่ได้ประโยชน์ทั้งจากเนื้อปลาและผักเครื่องเคียงต่างๆ
      
       ส่วนผสม
       เนื้อปลาแซลมอน ชิ้นละประมาณ 150 - 200 กรัม
       เกลือป่น 1 ช้อนชา
       พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา
       เนยละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
       นมสด 1 ถ้วย
       หอมหัวใหญ่ซอย 1/4 ถ้วย
       กานพลู 3-4 ดอก
       วิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะ
       แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนชา
       ไวน์ขาว 1 ช้อนโต๊ะ
       มันฝรั่ง แครอท บล็อกโคลี หรือผักเครื่องเคียงอื่นๆ
      
       วิธีทำ เริ่มจากล้างปลาแซลมอนให้สะอาดแล้วผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ โรยเกลือ 1/2 ช้อนชา และพริกไทย 1/2 ช้อนชา ลงบนเนื้อปลาให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน นำกระทั้งตั้งไฟกลาง ใส่เนยละลาย 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำเนื้อปลาลงทอดโดยเอาส่วนที่เป็นหนังลงก่อน ทอดจนหนังกรอบแล้วจึงกลับด้านทอดพอสุกแล้วตักขึ้นพักไว้
      
       ส่วนไวท์ซอสเริ่มจากนำนมสดไปต้มพร้อมกับกานพลูและหอมหัวใหญ่ซอยจนหอม เปื่อย จากนั้นกรองเอากากออก ให้เหลือแต่นมสดที่ต้มแล้ว พักไว้ก่อน นำกระทะตั้งไฟ ใส่เนยละลาย 1 ช้อนโต๊ะ แล้วใส่แป้งข้าวโพดผัดพอสุก จากนั้นเทนมที่พักไว้ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ใส่วิปปิ้งครีม เกลือ 1/2 ช้อนชา และพริกไทย 1/2 ช้อนชา พอเดือดอีกครั้งเมไวน์ขาวตามลงไป ปิดไฟ และตักราดเนื้อปลาที่ทอดไว้แล้ว เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่ง แครอท และบล็อกโคลีต้มเพิ่มคุณค่าทางอาหาร แต่หากชอบผักชนิดอื่นก็สามารถปรับเปลี่ยนได้

“นัทเตาปูน” หมูนุ่ม น้ำซุปหอม ยั่วน้ำลาย

บรรยากาศภายในร้าน
       สถานการณ์น้ำท่วมในช่วงนี้ดูจะบรรเทาเบาบางลงบ้างแล้ว เลยทำให้ “ผ่านมาแวะกิน” อยากจะชวนเพื่อนฝูงไปหาของอร่อยกินให้สบายใจเหมือนเดิม ซึ่งในคราวนี้ก็ได้แวะเวียนมาที่ร้าน “นัทเตาปูน” แถวๆ ถ.ประชาชื่น ริมคลองประปา
      
       หากว่าฟังชื่อแล้วนึกไม่ออกว่าร้านนี้ขายอาหารประเภทไหน เราก็ขอเฉลยเลยแล้วกันว่าร้านนี้เขาขายอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยวหมู ทั้งน้ำ ทั้งแห้ง รวมไปจนถึงเกาเหลาเลือดหมู และจุดเด่นที่อยู่คู่กับร้านมาเกือบ 30 ปีแล้ว นั่นก็คือ เนื้อหมูที่นุ่มอร่อยถูกปาก
เกี๊ยวน้ำ
       ถ้าจะมาชิมก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ นั้น ก็ต้องเริ่มต้นกันด้วยการลิ้มรสน้ำซุปที่หอมเตะจมูก ซึ่งที่ร้าน “นัทเตาปูน” ก็มีสูตรเด็ดตรงที่น้ำซุปเคี่ยวจากกระดูกหมูแท้ๆ ปรุงรสเล็กน้อยด้วยเกลือ และพริกไทย แถมยังใส่ใบเตยลงไปต้มด้วยเพื่อเพิ่มความหอม เคี่ยวไป 3-4 ชั่วโมง ก็จะได้น้ำซุปที่กลมกล่อมหอมอร่อย
      
       ส่วนที่บอกว่าจุดเด่นอยู่ที่หมูนุ่มนั้น ทางร้านก็จะเลือกเนื้อหมูมาเป็นพิเศษ นำมาหมักด้วยสูตรเฉพาะ แล้วลวกแค่พอสุก และอีกหนึ่งความอร่อยที่ต้องชิมก็คือ หมูกรอบ ที่จะเลือกใช้เนื้อหมูส่วนคอ นำมาหมัก แล้วชุบแป้งทอด ก่อนจะหั่นเป็นชิ้น
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
       ได้ทั้งน้ำซุป หมูนุ่ม และหมูกรอบมาแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาลองชิมก๋วยเตี๋ยวกันสักที ชามแรกนี้ขอสั่งเมนูขึ้นชื่อของร้าน ซึ่งก็คือ เกี๊ยวน้ำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เกี๊ยวน้ำชามนี้ประกอบไปด้วยตัวเกี๊ยวที่ทางร้านทำเอง โดยใช้แป้งเกี๊ยวมาห่อกับไส้ที่ทำจากเนื้อหมูบด หมักรวมกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย แล้วปรุงรสเล็กน้อย นำไปลวกให้สุก เสิร์ฟมาในชามพร้อมกับ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา หมูนุ่ม และเครื่องในต่างๆ ทั้งตับ ไส้ หัวใจ เซี่ยงจี้ กระเพาะ และตับเหล็ก (ม้าม) ใส่ผักกาดขาวลวกสุก แถมด้วยเกี๊ยวกรอบก็ยังใส่มาให้ด้วย
      
       ลองชิมเกี๊ยวน้ำชามนี้ต้องบอกว่าอร่อยถูกใจ เริ่มต้นจากน้ำซุปที่หอมหวานกลมกล่อม เกี๊ยวหมูคำโตที่นุ่มได้รสชาติ เครื่องในไม่มีกลิ่นคาว แถมความหวานอร่อยจากผักกาดขาวที่เข้ากันชามนี้ได้เป็นอย่างดี
ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ
       ชามถัดมาขอต่อด้วย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ซึ่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้จะมีให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ เกี้ยมอี๋ บะหมี่ และวุ้นเส้น ส่วนชามนี้เราเลือกมาเป็นบะหมี่ต้มยำ ที่ถูกปรุงรสต้มยำมาให้สีสันจัดจ้าน ใส่ทั้งพริกป่นและถั่วลิสงป่นใหม่ๆ ได้กลิ่นหอม เครื่องเคราที่ใส่มาก็ครบครันทุกอย่าง แถมด้วยหมูกรอบอีกหนึ่งอย่าง ลองชิมแล้วรสชาติต้มยำชามนี้จัดจ้านจี๊ดใจ หมูกรอบก็กรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติพอดี
      
       ส่วนชามนี้ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) จะใส่หมูนุ่ม หมูกรอบ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เกี๊ยวปลา เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ ผักบุ้ง และเกี๊ยวกรอบ ลองชิมเย็นตาโฟรสชาติเค็มๆ เปรี้ยวๆ ได้กลิ่นเต้าหู้ยี้ ส่วนลูกชิ้นก็เคี้ยวเด้ง ไม่คาว อร่อยถูกใจ
ก๋วยเตี๋ยวแห้ง
       แถมท้ายด้วยอีกชามที่ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ที่ใส่เครื่องเครามาครบครัน อร่อยแบบแตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวน้ำ แต่ถ้าหากใครไม่ชอบเส้น จะสั่ง เกาเหลาเลือดหมู (40 บาท พิเศษ 50 บาท) มาลองชิมอีกสักหน่อยก็ไม่ผิดกติกา
      
       ใครผ่านไปผ่านมา อยากจะแวะมาดูน้ำแถวคลองประปา ก็แวะมาเติมความอิ่มให้เต็มกระเพาะกันที่ร้าน “นัทเตาปูน” แห่งนี้ ก็จะได้อิ่มอร่อยถูกใจกันไป แต่ร้านนี้ยังมีอีกหนึ่งสาขา บน ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี บริเวณตรงข้าม ธ.กสิกรไทย สาขาเตาปูน ให้แวะเวียนไปลองชิมกันได้
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “นัทเตาปูน” ตั้งอยู่ที่ 457/7 ปากซอยประชาชื่น 16 ถ.ประชาชื่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกบางโพ ให้ตรงมาทาง ถ.ประชาราษฎร์สาย 2 จนถึงแยกตัดคลองประปา ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.ประชาชื่น วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็น ซ.ประชาชื่น 16 ร้านจะอยู่บริเวณปากซอยติดริมถนน ใกล้กับสะพานลอย สามารถจอดรถได้ริมถนน ร้านเปิดทุกวัน (หยุดอังคารเว้นอังคาร) เวลา 08.00-15.00 น. โทร. 0-2556-1815 ส่วนอีกหนึ่งสาขาตั้งอยู่ตรงข้าม ธ.กสิกรไทย สาขาเตาปูน โทร. 0-2911-2881