homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

"เจ๊หมู ข้าวต้มอบเผือก" เลือกอร่อยตามใจปาก

บรรยากาศร้าน "เจ๊หมู ข้าวต้มอบเผือก"
       "โอ้โห!! ละลานตา..ละลานตาจริงๆ"
       

       "ผ่านมาแวะกิน" ขอเอ่ยคำนี้เป็นประโยคทักทาย มิตรรักนักกินทุกคนเพราะว่าเรากำลังจะขอพาทุกคนไปอิ่มกับอาหารไทยสารพัด อย่าง หลากหลายรสชาติที่มีตั้งขายอยู่ที่ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งตรงสามแยกเตาปูน ที่มีชื่อว่า "เจ๊หมู ข้าวต้มอบเผือก"
       

เจ๊หมู เจ้าของร้านกำลังง่วนกับการตักอาหาร
       ร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้มีจุดเด่นสะดุดตาไปด้วยถาดอาหารจำนวนมากมายที่ตั้งขายอยู่หน้าร้าน และอาหารแต่ละอย่างก็ล้วนแล้วแต่น่ากินทั้งนั้นเลย เรามีโอกาสได้พูดคุยกับเจ๊หมู อำภา มาขาว ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน และเป็นผู้ปรุงอาหารทั้งหมดที่นำออกมาขาย เธอบอกว่าที่ร้านนี้ขายมานานแล้วกว่า 10 ปี สืบทอดกิจการมาจากคุณแม่
      
       สำหรับอาหารที่มีขายอยู่ที่ร้านถือว่าเป็นอาหารไทย 4 ภาค มีอาหารสารพัดอย่างให้เลือกกินกัน โดยจะทำอาหารออมาขายตั้งแต่เที่ยงวัน และตลอดทั้งวันก็ทำอาหารออกมาเรื่อยๆ จนในแต่ละวันจะมีอาหารถึง 100 กว่าอย่างออกมาขายให้เลือกอิ่มกันตามแต่ใจชอบ มีทั้ง แกง ผัด ยำ ต้มจืด ของทอด และอื่นๆ อีกมากมาย แถมอาหารก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ไม่ให้เกิดการจำเจ
ข้าวต้มอบเผือก, หมูไข่เค็มนึ่ง, ปลาสลิดกรอบยำ
       อีกความพิเศษของอาหารที่ร้านนี่คือจะ มี ข้าวต้มอบเผือก (ถ้วยละ 5 บาท) สูตรเด็ดเฉพาะของทางร้านให้กินคู่กัน ซึ่งข้าวต้มอบเผือกนี้ทางร้านเลือกใช้ข้าวหอมมะลิมาหุงต้มพร้อมกับใส่เผือก ลงไปด้วย ต้มจนข้าวแตกเม็ด ออกแนวข้าวต้มข้นๆ น้ำน้อย ส่งกลิ่นหอมของเผือกอ่อนๆ อยู่ในข้าวต้มเม็ดนุ่ม
      
       ส่วนอาหารที่น่ากินนั้นก็มีมากหลาย มีหมูไข่เค็มนึ่ง หมูสับปรุงรสปั้นมาเป็นก้อนแล้วมีไข่เค็มเฉพาะไข่แดงใส่มาด้วยแล้วนึ่งจนสุก กินแล้วเนื้อหมูได้รสชาติเข้ากับไข่เค็มมันๆ และมีปลาสลิดกรอบยำ เป็นปลาสลิดสดจากสุพรรณบุรีตากแดดให้แห้ง 1 วัน เอามาทอดกรอบ มาพร้อมกับน้ำยำมะม่วง กินปลาสลิดเคี้ยวกรุบกรอบ ซึมรสชาติน้ำยำเปรี้ยว หวาน กลมกล่อม
หมูอบ, ปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย, ขาไก่ต้มพะโล้
       ถัดมาเป็น หมูอบ เป็นเนื้อหมูส่วนเนื้อสันเอามาหมักกับน้ำมันหอย ซอสไก่งวง แล้วอบจนหมูนุ่ม เคียงมาด้วยผักกะหล่ำและแครอท เนื้อหมูอบเนื้อนุ่มปากได้รสชาติกำลังดี แล้วยังมีปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย เนื้อปลากะพงแล่เอาแต่เนื้อ นำมาผัดกับขึ้นฉ่าย ใส่ถั่วลันเตาและแครอท เนื้อปลานิ่มไม่คาว หอมกลิ่นขึ้นฉ่ายขึ้นจมูก
      
       อีกอย่างเป็น ขาไก่ต้มพะโล้ ทางร้านนำขาไก่ทำความสะอาดอย่างดีมาตุ๋นกับเครื่องพะโล้นานกว่า 5 ชม. จนเปื่อยนุ่ม กินขาไก่แล้วเคี้ยวกรุบล่อนปาก น้ำพะโล้เค็มๆ หวาน และมีอาหารอีกมากที่น่ากิน อาทิ น้ำพริกลง ซาบะต้มเค็ม พะแนงหมู กะพงสามรส ปลาทับทิมนึ่ง เต้าเจี้ยวหลน ผัดเผ็ดหมูป่า ไก่คั่วเค็ม แหนมเนื้อหมู ห่อหมกปลา ฯลฯ ซึ่งราคาอาหารของที่นี่ถ้าตักเป็นจานๆ ละ 15 บาท ถ้าราดข้าวกับ 1 อย่าง 25 บาท, 2 อย่าง 30 บาท เรียกว่าอิ่มท้อง แถมถูกสตางค์ เมื่อมาที่ร้าน “เจ๊หมู ข้าวต้มอบเผือก”
       

นานาอาหารที่มีให้เลือกอิ่มมากมาย
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน "เจ๊หมู ข้าวต้มอบเผือก" ตั้งอยู่ที่ 171 ปากซอยบุญเหลือ บางซื่อ กทม. การเดินทางจากสะพานปูนซีเมนต์ วิ่งตรงมาสามแยกเตาปูน แล้วเลี้ยวขวาวิ่งตรงมานิดเดียวจะเจอซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 1 (ซ.บุญเหลือ) จะเห็นร้านเจ๊หมูเป็นตึกแถวตั้งอยู่หน้าปากซอย จุดสังเกตจะถึงก่อนเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดทุกวัน เวลา 12.00-03.00 น. ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 08-6384-0807

“ไก่ย่างบางพลัด” อร่อยแซบมัดใจ

บรรยากาศร้านไก่ย่างบางพลัด
       จู่ๆ “ผ่านมาแวะกิน” ก็นึกอยากลิ้มรสอาหารแซบๆ อย่างส้มตำ-ไก่ย่างขึ้นมา เลยตามกลิ่นหอมๆ ของไก่ย่างไปถึงย่านบางพลัด ตามหาร้าน “ไก่ย่างบางพลัด” ที่ตั้งอยู่ในซอยจรัญฯ 79 เพราะมีเพื่อนนักกินด้วยกันแนะนำมาว่าที่นี่มีอาหารอีสานรสแซบที่ชวนกิน
      
       เมื่อไปถึงหน้าร้านเห็นไก่ที่กำลังย่างอยู่บนเตา หน้าตาน่ากินเลยสั่งมาลองลิ้ม พร้อมกับอีกหลายเมนูขึ้นชื่อของร้าน ระหว่างรอนั้น “ผ่านมาแวะกิน” ก็ได้คุยกับเจ้าของร้าน คุณปราณี วังสุวรรณ ได้ความว่า ตั้งร้านมาสามสิบกว่าปีแล้ว อาหารส่วนใหญ่ของร้านจะเป็นอาหารอีสานประยุกต์ แต่ก็มีอาหารไทยทั่วไปด้วย จุดเด่นที่มัดใจนักชิมกันมานานก็คือ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง และด้วยการที่คุณปราณีทำอาหารเอง จึงรับรองได้เรื่องของคุณภาพ
ไก่ย่าง
       นั่งรอสักพัก ไก่ย่าง (ตัวละ 120 บาท) ก็มาถึง ดูจากหน้าตาและกลิ่นหอมที่ลอยมาเตะจมูกแล้ว ก็น่าจะอร่อยมาก พอได้กินแล้ว บอกได้คำเดียวว่า อร่อยมากๆๆๆ เนื้อไก่เหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม กินคู่กับน้ำจิ้มหวาน หรือน้ำจิ้มแจ่วที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ยิ่งอร่อยล้ำเข้าไปใหญ่
ส้มตำไข่เค็ม
       มีไก่ย่างแล้ว ไม่มีส้มตำก็คงไม่ครบเครื่อง จานต่อไปคือ ส้มตำไข่เค็ม (30 บาท) ทางร้านเลือกมะละกอราชบุรี ที่กรอบอร่อย พร้อมกับไข่เค็มคุณภาพ นำมาตำรวมกัน ปรุงรสจัดจ้าน แต่ไม่เผ็ดเกินไปนัก กินเข้าไปคำแรก ต้องขอบอกว่า เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด และมันไข่เค็มครบรสจริงๆ
ยำปลาดุกฟู
       ที่ร้านนี้ยังมีอาหารจำพวกยำๆ ที่ขึ้นชื่ออีกด้วย คือ ยำปลาดุกฟู (50 บาท) พอลองชิมดูก็ติดใจเลยทันที เพราะตัวปลาดุกฟูนั้นกรอบมาก ไม่อมน้ำมัน น้ำยำออกสามรส ถึงจะคลุกน้ำยำลงไปแล้ว ความกรอบก็ไม่ลดลง ปลาดุกฟูของที่นี่ไม่มีการผสมแป้งเลย เวลาทอดใช้ไฟแรงแล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน คุณปราณีกระซิบบอกว่า ถ้าซื้อไปแล้วนำปลาดุกฟูไปเก็บในตู้เย็น จะยิ่งกรอบมากขึ้นไปอีก
ปลาช่อนโบราณ
       ปิดท้ายกันที่เมนูสุขภาพจานนี้ ปลาช่อนโบราณ (ราคาตามน้ำหนัก) ทางร้านใช้ปลาช่อนนาทั้งตัวนำไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ส่วนน้ำยำ ใช้ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย หอมแดงซอย กระเทียมซอย ปรุงน้ำยำสามรส ราดมาบนตัวปลา กินแล้วถูกปากอย่าบอกใคร น้ำยำรสชาติกลมกล่อม เข้ากับเนื้อปลาที่กรอบนอกนุ่มใน
       นี่เป็นแค่เพียงเมนูจานเด็ดบางส่วน แต่ยังมีรายการอื่นๆ ที่น่ากินอีก อาทิ หมูร้องไห้ (50 บาท) ลาบปลา (40 บาท) แหนมกระดูกอ่อนหมู (50 บาท) ต้มแซบกระดูกอ่อนหมู (50 บาท) ยำคะน้ากุ้งสด (70 บาท) ฯลฯ และยังมีของหวานด้วยเป็น ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน (ถ้วยละ 10 บาท / กิโลกรัมละ 90 บาท) และวุ้นมะพร้าวอ่อน (ถาดละ 30 บาท) รสหวานมัน และหอมอร่อย ที่ทางร้านทำเองเช่นกัน
      
       หากว่ามิตรรักนักกินท่านไหนเกิดนึกอยากกินไก่ย่างอร่อยๆ หรืออาหารรสแซบ ก็ลองแวะมาอิ่มอร่อยที่ร้าน “ไก่ย่างบางพลัด” ซอยจรัญฯ 79 แห่งนี้ ขอบอกว่าต้องถูกปาก และถูกใจกันอย่างแน่นอน
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “ไก่ย่างบางพลัด” ตั้งอยู่ในซอยจรัญฯ 79 (บางพลัด) ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงและเขตบางพลัด กทม. การเดินทางถ้ามาจากสะพานซังฮี้พอถึงสี่แยกบางพลัดเลี้ยวขวา วิ่งตรงมาเข้าซอยจรัญฯ 79 จากปากซอยเข้าไปประมาณ 600 ม. ร้านอยู่ทางขวามือ สามารถจอดรถได้ในซอยตรงข้าม เปิดทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น. มีบริการส่งอาหารถึงที่ (คิดค่าบริการตามระยะทาง) และรับออกงานนอกสถานที่ โทร. 0-2435-3632

‘Estate Cafe’ หอมหวนชวนจิบ กาแฟอิตาเลียน

บรรยากาศร้านเล็กๆ น่านั่ง ใน ‘Estate Cafe’
       สำหรับคอกาแฟทั้งหลาย การได้จิบกาแฟเบาๆที่หอมกรุ่น พร้อมรสชาติอันละเมียดละไมสักแก้ว นอกจากจะทำให้หายจากการง่วงเพลียแล้ว ยังทำให้อารมณ์แจ่มใส พร้อมรับการทำงานในวันใหม่ ได้อย่างกระปรี้กระเปร่า
      
       เพราะอยากเอาใจคอกาแฟ "ผ่านมาแวะกิน" จึงพามาที่ร้าน "Estate Cafe " ย่านสี่เสาร์เทเวศร์ ร้านเล็กๆ แต่รสกาแฟไม่เป็นรองที่ใด เพราะที่ร้านนี้เขาใช้กาแฟสัญชาติอิตาเลียนแท้ยี่ห้อ Lavazza ที่โด่งดังในต่างประเทศ แต่หากินได้ยากในเมืองไทยมาให้ดื่มด่ำรสกาแฟกัน
Lavazza Cappuccino
       โดยทางร้านดัดแปลงชั้นล่างของสำนักงานแนวอสังหาริมทรัพย์ มาเปลี่ยนเป็นร้านกาแฟ เพื่อเป็นมุมพบปะสังสรรค์ มีอาหารแนวฟิวชั่นประยุกต์ระหว่างไทย-อิตาเลียน พร้อมเสิร์ฟ สำหรับผู้ที่ต้องการมากกว่ากาแฟ ยิ่งการตกแต่งร้านก็เพิ่มความน่านั่งมากยิ่งขึ้น ด้วยการแต่งร้านโทนสีอบอุ่น อย่างสีส้มและขาว ประดับผนังด้วยรูปภาพแนวร่วมสมัยและวอลเปเปอร์ ที่เป็นงานด้านการออกแบบบ้านของเจ้าของร้าน
      
       มานั่งร้านกาแฟ จะกินอาหารก่อนการจิบกาแฟ ก็ดูจะผิดธรรมเนียมไปสักหน่อย “ผ่านมาแวะกิน” เลยขอนั่งจิบ Lavazza Cappuccino (ร้อน 55 บาท/เย็น 65 บาท) กาแฟที่นิยมดื่มพร้อมกับอาหารเช้า ที่ชงด้วยเมล็ดกาแฟสดสูตรเฉพาะแบบยี่ห้อ Lavazza หอมกลุ่นมาแต่ไกล โดดเด่นด้วยส่วนผสมที่จะขาดเสียมิได้อย่างฟองนม ที่ฟูขาวเนียนละเอียด แถมท้ายด้วยการโรยหน้าด้วยอบเชยเพิ่มรสชาติและความหอม ช่างเป็นถ้วยที่กลมกล่อมละมุนลิ้นยิ่งนัก
สลัดทูน่า
       จิบกาแฟแล้วก็เริ่มกันด้วยเมนูเบาๆ อย่าง สลัดทูน่า (60 บาท) ที่เสิร์ฟมาในจานใบโต มีเนื้อทูน่าชั้นดีกับผักสดนานาชนิดทั้งมะเขือเทศ กะหล่ำปลีสีม่วง ราดทับด้วยน้ำสลัดสูตรลับสีเหลืองนวล รสชาติหวานๆของผักสด กับทูน่าช่างเข้ากันได้ดีกับรสเปรี้ยวนิดๆของน้ำสลัด
      
       เพิ่มระดับความแรงต่อด้วย สปาเก็ตตี้หมูสับ (55 บาท) เส้นสปาเก็ตตี้อิตาเลียนลวกจนเหนียวนุ่ม ถูกราดมาในจานด้วยเนื้อมะเขือเทศสับละเอียด ที่ปรุงรสคลุกเคล้ารวมกับหมูสับละเอียด รสชาติเปรี้ยวหวานหอมหวนชวนกินยิ่งนัก
สปาเก็ตตี้หมูสับ
       ปิดท้ายกันด้วยเมนูข้าวอย่าง ข้าวหมูอบ (60 บาท) ข้าวสวยร้อนๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อหมูหมักแล้วอบจนนุ่มหอมหวาน ราดด้วยน้ำเกรวี่สีใสสูตรพิเศษ ทั้งยังมีเครื่องเคียงอย่างสลัดผัดพ่วงมาในจาน พร้อมกับน้ำซุปร้อนๆ เป็นอีกหนึ่งจานที่รสกลมกล่อมไม่แพ้ใคร
ข้าวหมูอบ
       ยังมีทั้งเมนูอาหารและกาแฟ ‘Estate Cafe’ เตรียมไว้เพื่อนักกินทั้ง แซนวิชทูน่า ( 40บาท), แซนวิชแฮมชีส (50บาท),ข้าวพะแนงหมู (50 บาท) และ เมนูกาแฟก็ยังมีอีกเพียบทั้ง Lavazza Espresso (45 บาท), Lavazza Amenicano (50บาท), Lavazza Mocca (ร้อน 65 บาท/เย็น 75 บาท) จะกินข้าวหรือจิบกาแฟเบาๆ ก็ได้ทั้งนั้นที่‘Estate Cafe’
อีกหนึ่งมุมสบายในร้าน

“จ่วนเฮี้ยง” มื้อเช้ารสวิเศษ ที่เด็ดติ่มซำ-กะหรี่ไหมฝัน

จ่วนเฮี้ยง ร้านมื้อเช้าชื่อดังของภูเก็ต
       “ภูเก็ต” ไข่มุกแห่งอันดามัน
      
       เอ่ยชื่อนี้ แน่นอนว่าภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่โด่งดังไปทั่วโลกย่อมปรากฏเด่นหราขึ้นในใจของใครหลายๆคน
      
       ในขณะที่ภาพความเป็นเมืองวัฒนธรรมนั้นหลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง ทั้งๆที่ภูเก็ตเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมชัดเจนเมืองหนึ่ง เลยทีเดียว
ยามเช้าเนืองแน่นที่ร้านจ่วนเฮี้ยง
       สำหรับ“ผ่านมาแวะกิน” หากพูดถึงความเป็นเมืองทางวัฒนธรรมของภูเก็ต คนชอบกินอย่างเราย่อมต้องเทใจให้กับวัฒนธรรมการกินที่เมืองนี้มีวัฒนธรรมการ กินโดดเด่นไม่น้อยหน้าใคร อีกทั้งยังมีอาหารพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์มากมาย
      
       และนั่นทำให้การล่องใต้ลงไปเยือนภูเก็ตหนล่าสุด เราจึงไหว้วานเพื่อนชาวภูเก็ตผู้มีรสนิยมด้านอาหารพื้นเมือง พาไปเสาะแสวงหาของอร่อยๆกินตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ดูเหมือนว่าอาหาร“มื้อเช้า”จะ ทำให้“ผ่านมาแวะกิน”เกิดอาการรักพี่เสียดายน้องมากที่สุด เพราะในภูเก็ตมีร้านมื้อเช้าอร่อยๆให้เลือกกินกันเพียบ แต่สุดท้ายพวกเราก็ตกลงปลงใจพาท้องไปฝากกันที่ ร้าน”จ่วนเฮี้ยง” ย่านใจกลางเมือง
หลากหลายติ่มซำรสอร่อย
       เหตุที่ตัดสินใจเลือกร้านนี้เป็นพิเศษ ก็เพราะร้านจ่วนเฮี้ยงเป็นร้านติ่มซำเก่าแก่เปิดขายมาร่วม 100 ปี ปัจจุบันถือเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว ซึ่งถ้าไม่เจ๋งจริงคงไม่ยืนยงคงกระพันและมีคนกิน(ช่วงเช้า)เนืองแน่นมาจนถึง ทุกวันนี้
      
       สำหรับติ่มซำที่นี่เป็นสูตรจีนกวางตุ้งที่ทำสืบทอดกันมาแต่ดั้งเดิม คัดสรรแต่วัตถุดิบสดใหม่มาทำ เมื่อเราเข้ามานั่งในร้านทางร้านจะเสิร์ฟติ่มซำมากมายมาขึ้นโต๊ะ กรุณาอย่าตกใจว่าจะต้องกินให้หมดหรือทางร้านเขาจะคิดเงินทั้งหมด เพราะมื้อนี้ใครชอบเมนูไหนก็กินเมนูนั้น ส่วนที่เหลือทางร้านเขาจะเก็บคืนโดยคิดเงินเฉพาะเมนูที่กินเท่านั้น
ของทอดร้อนๆสดๆใหม่ๆ
       โดยเมนู(ติ่มซำ)ที่ไม่น่าพลาดก็มี ขนมจีบหมู(8 บาท) ที่ใช้หมูบดเองเนื้อแน่นอร่อยไร้คาว ลูกชิ้นปลา-ปลาเต้าหู้(10 บาท) เนื้อปลานึ่ง (20 บาท)กับเนื้อปลาแน่นหวานไร้คาว กระดูกหมู (20 บาท)ทางร้านตุ๋นมารสกลมกล่อมเนื้อนุ่ม ส่วนเมนู(ติ่มซำ)อื่นๆชวนกิน มี ฮะเก๋า สาหร่าย หมูทอด เผือกทอด ก๋วยเตี๋ยวหลอด ซาลาเปา (8 บาท) ปลาทอด (10 บาท) ขนมจีบปู-กุ้ง(14 บาท) ตีนไก่(10 บาท)
กระหรี่ไหมฝัน มีเฉพาะเสาร์-อาทิตย์
       ทั้งหมดนี้หากใครอยากเพิ่มรสชาติก็ให้กินกับกับซอสตี่เจี่ยวรสออก หวานนิดๆ หรือจะจิ้มกับซอสเผ็ดสูตรเฉพาะของทางร้านก็ได้รสชาติไปอีกแบบ
      
       นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูพิเศษเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์คือ กะหรี่ไหมฝัน(30 บาท)เป็นเส้นหมี่ขาว(แห้ง)ราดหน้าด้วยแกงกะหรี่ขลุกคลิกถึงรสถึงเครื่อง ในขณะที่เมนูชวนกินอื่นๆก็มี บ๊ะจ่าง กระเพาะปลา ข้าวต้มปลา หมี่สั่ว หอยจ๊อ หมั่นโถว+น้ำแดง ซึ่งใครที่ไปภูเก็ตหากอยากลองลิ้มมื้อเช้ารสวิเศษ จ่วนเฮี้ยงคือหนึ่งในร้านที่ไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่ง
       *****************************************
      
       ร้านจ่วนเฮี้ยง ตั้งอยู่ เลขที่ 11 ถ.ชนะเจริญ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 6.00 – 11.00 น. สอบถามเพิ่มเติมที่โทร. 0-7621-6271

ร้าน"ทำนา"...รสทำติดใจ

บรรยากาศภายในร้าน “ทำนา”
       เข้าสู่ช่วง "เทศกาลกินเจ" (18-26 ต.ค.52) กันแล้ว ดูแล้วช่างคึกคักไม่เบา ที่บรรดาเหล่านักกินที่มีใจบุญใจกุศลทั้งหลาย ต่างพากันละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ต่างๆ แล้วหันมาบริโภคพวกพืช ผัก และธัญญาหารอื่นๆ กันแทน เพื่อเป็นการสร้างบุญให้กับตัวเอง
      
       "ผ่านมาแวะกิน" เห็นดีเห็นงามด้วยกับ "เทศกาลกินเจ" นี้ ดังนั้นในมื้อนี้จึงขอชวนเหล่านักกินไปกินอาหารเจและอาหารมังสวิรัติกัน โดยขอพามาที่ร้านอาหารเล็กๆ ที่มีชื่อน่ารักๆ ว่า "ทำนา" ซึ่งปกติจะขายอาหารมังสวิรัติอยู่แล้ว แต่ในช่วงเทศกาลกินเจอย่างนี้ ทางร้านก็ได้ปรับเปลี่ยนเมนูบางอย่างให้กลายเป็นอาหารเจ และเป็นอาหารเจที่เน้นเรื่องสุขภาพ และไม่นิยมใช้วัตถุดิบที่เป็นอาหารดัดแปลง แต่จะคัดสรรวัตถุดิบที่ดีอย่างพวกผักเกษตรอินทรีย์มาปรุงเป็นอาหารที่ชวนกิน มากมาย
ข้าวทำนา
       อย่างเมนูเด่นๆ ที่เราได้ลิ้มลองและโดนใจปากจนขอนำมาเสนอกันก็มี ข้าวทำนา (95 บาท) เมนูนี้เป็นเจ มีข้าวกล้องอินทรีย์หุงมาสีสวยชวนหม่ำ กินคู่กับมะเขือยาวทอดที่ราดด้วยซีอิ้ว โรยหน้าด้วยขิง งา และสาหร่ายทะเล และยังมีขาเห็ดหอมปรุงรสมาให้กินแนมด้วย กินข้าวเม็ดร่วนนุ่มไม่แข็ง กินเข้ากันดีกับมะเขือยาวเนื้อนิ่มหวาน แกล้มด้วยขาเห็ดหอมรสดี
      
       เมนูต่อมาเป็นอาหารจานเส้นที่มีชื่อว่า สปาเก็ตตี้กับแกงขี้เหล็กและเห็ดเค็มฝอย (95 บาท) เป็นแกงขี้เหล็กที่ไม่ใช้ใช้น้ำกะทิ แต่ใช้น้ำอาร์ซี แทน แล้วปรุงกับเครื่องแกงและข้าวที่ป่นละเอียดเพื่อทำให้น้ำแกงข้น ใส่ใบขี้เหล็ก ใส่ขาเห็ดหอมย่าง ลิ้มรสชาติแกงขี้เหล็กเข้มข้นออกขมนิดๆ แต่ก็กินแกล้มด้วยเห็ดนางฟ้าฉีกฝอยที่ปรุงรสทอดมาแบบหวานๆ เค็มๆ และกินแกงคู่กับเส้นสปาเก็ตตี้อิ่มท้องไม่ใช่เล่น
สปาเก็ตตี้กับแกงขี้เหล็กและเห็ดเค็มฝอย
       อีกหนึ่งเมนูที่ได้กินถึงแม้จะไม่ใช่อาหารเจ (เพราะมีส่วนผสมของนม) แต่เป็นอาหารมังสวิรัติที่ชวนกินไม่เบา มีชื่อว่า บอลเห็ดฟาง (95 บาท) เป็นมันฝรั่งบดผสมกับเห็ดฟางปรุงรสและชุบเกล็ดขนมปังทอด ราดซอสมัสตาร์ดโยเกิร์ต โรยหน้าด้วยปาปริก้าและงา เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัด กินแล้วเคี้ยวนุ่มได้รสชาติมันฝรั่งบวกรสชาติซอสที่อมเปรี้ยวนิดๆ
บอลเห็ดฟาง
       และนอกจากนี้แล้วก็ยังมีเมนูเจอื่นๆ ที่น่ากินอีก อาทิ สลัดผักย่าง+น้ำ+ขนม (99 บาท) ก๋วยเตี๋ยวกรอบสอดไส้เห็ด 3 อย่าง (95 บาท) ส้มตำกับข้าวห่อสาหร่ายและเห็ดเค็มฝอย (เป็นมังสวิรัติแต่สั่งเป็นเจได้ 100 บาท) พาสต้าซอสมะเขือเทศ (110 บาท) และอีกหลายเมนูเจ และเมนูมังสวิรัติที่ทางร้าน "ทำนา" เชิญชวนให้ลิ้มลอง
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน "ทำนา" ตั้งอยู่ที่ 175 ถ.สามเสน (ระหว่างซอย 3 และซอย 5) พระนคร กทม. การเดินทาง จากแยกบางลำพู วิ่งตรงมาที่ถ.สามเสน ตรงมาจนถึงสามเสนซอย 3 แล้วขับตรงมาอีกนิดจะเจอร้านทำนา ตั้งอยู่ริมถนนทางซ้ายมือ จุดสังเกตอยู่เยื้องกับปั๊มปตท. จอดรถได้ที่วัดสามพระยา ร้านเปิดจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) เวลา 11.00-21.00 น. ทางร้านรับจัดงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2282-4979, 08-9810-1451