homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

พาไปชิมอาหารใต้ที่ ทองหล่อซอย 5 ร้าน คั่วกลิ้ง+ผักสด

พาไปชิมอาหารใต้ที่ ทองหล่อซอย 5 ร้าน คั่วกลิ้ง+ผักสด
credit  อยู่เพื่อกิน bloggang.com

อะฮ้า ตัวผมจริงๆ ไม่ชอบอาหารจีนเท่าไหร่แต่มีแต่เพื่อนๆแซวว่าผมทานอาาหารจีนบ่อยมาก
คือ ผมก็ชอบอาหารจีนอะนะ แต่ไม่ค่อยชอบอาหารจีนแบบปกติ เท่าไหร่ ผมว่าร้าน อาหารจีนส่วนใหญ่มันน่าเบื่อนะ ถ้าช่วงผมมีเวลา ผมก็เลยพยายามจะทานไอ้ที่มันแปลกๆ ออกมาหน่อย

เอาล่ะบ่นกันพอแล้ววันนี้ มาทานอาหารไทยกันดูมั่ง

ตัวร้านอยู่ในซอยทองหล่อ 5 เลี้ยวเข้ามาจากทางทองหล่อแล้วเลี้ยวขวาซอยแรกเลย
จะเห็นป้ายร้านสีเหลืองอยู่ครับ



ภายในร้านดูเล็กๆ กระทัดรัดดี ผมว่ามีโต๊ะอาหารไม่เกิน 15 โต๊ะ นะครับ


บรรยากาศในร้านตกแต่งน่ารักดี เอาตู้เก่ามาใช้เยอะมาก


อ่าตอนแรกเพื่อนๆผมทานน้ำเปล่า
แต่ตัวผมลองสั่งพวกน้ำ ตะไคร้ ใบเตย มา โอเคเลยครับ หอมกลิ่นใบเตย ไม่หวานมาก


น้ำมะตูม ก็อร่อย หอม


มาลองจานแรกอาหารพื้นๆกันก่อนเลย

ข้าวยำ


พอใช้ครับ มีข้อชมนิดนึงว่าความเค็มของน้ำวูดู ที่นี่จะเค็มแบบเนียนๆ ไม่จัดนะครับ แต่พวกเครื่องเครา ยังไม่ถึงขั้นเท่าไหร่



อันนี้ผิดสูตรอาหารใต้นิดหน่อย หมูกรอบผัดกระเพรา รสชาดผ่านครับ


อันนี้แกงเขียวผัดหมู



ปลาทอดขมึ้น อันนี้ผมชอบนะ แต่ปลาตัวเล็กมาก น้ำตาแทบไหลเลย


อ่ะลืมพวกผักสดแฮะ



แกงปูใบชะพลู เนื้อปูเป็นชิ้นๆ ดี แกงออกรสขมนิด



แกงไตปลา คนที่ชอบทานแกงไตปลาเค้าบอกว่าแหล่มแซป ดี แต่ผมเฉยๆนะ


สะตอผัดหมูกรอบ ผมว่าจานนี้ไม่เวิรค์อะ รสหวานนำผมไม่ชอบ
แต่พอสั่งสะตอผัดกุ้งจานนี้ จะออกรสเผ็ดนำ ทำมาได้ดีกว่าผัดหมูกรอบ


หมูผัดกะปิ ใช้ได้ครับเค็มๆแต่ไม่ค่อยรู้รสกะปิเท่าไหร่


ไข่เจียวใบโหระพา


แกงเหลืองปลา



อะมาของหวานกันมั่ง
เฉาก๊วย เหมือนใช้ของ ชากังลาว แต่เพื่อนผมบอกว่าดอนเมือง ก็เหนียวหนืดดี


กระท้อนลอยแก้ว




มีบางจานผมไม่ได้ ถ่ายรูปมาคือ ปลาสลิดทอด เครื่องดืมบางแก้ว


ผมไปทานกัน ห้า คน ขนาดไม่เบรคแตกราคาก็ตามที่เห็นนะครับ
บทสรุปร้านนี้ ผมว่าถ้าอยากทานอาหารใต้ แล้วอยู่แถวนี้ก็ลองมาทานได้
ข้อตึง เมนูอาหารมีน้อย เมนูมี 2 หน้าเอง อาหารมีราคาแพง
ข้อดีมั่ง เครื่องดื่มรสชาดดีแทบทุกอัน ผมชอบ น้ำตะไคร้ใบเตย, น้ำมะตูม
โดยรวมอาหารร้านนี้จะเผ็ดแซ่ปแน่นอน
อาหารทุกจานก็ผ่านนะครับแต่ไม่มีจานไหนที่เด่นล้ำ

ก็ลองไปทานกันดูละกันครับแล้วมาแชร์ความเห็นกันก็ได้ครับ



ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ

IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro

IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro
credit  Holly   bloggang.com


IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro
ที่ตั้ง : 9/9 ซอยสุขุมวิท 36 (ใกล้ BTS ทองหล่อ) ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทร : 0-2661-5076
เปิดบริการ : 17.30 - 24.00 น. (หยุดวันจันทร์)
พิกัด GPS : 13.723764,100.577317
เว็บไซต์ : http://www.facebook.com/InTheMood.Bangkok

วันนี้เพิ่งได้ไปลองทานอาหารที่ In the Mood for Love เป็นครั้งแรก..
อาหารที่นี่เป็นประมาณ Japanese fusion food คล้ายๆ กับร้าน Isao
(Isao อยู่ในซอยสุขุมวิท 31).. เมนูอาหารและราคาก็ใกล้ๆ กันด้วย
แต่ฉันว่า In the Mood for Love คุ้มค่ากว่าทั้งปริมาณ และบรรยากาศภายในร้าน

ถ้าเข้าจากปากซอยสุขุมวิท 36 ร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ
มีป้ายให้เห็นชัดเจน.. จอดรถได้ข้างๆร้าน แต่ถ้าที่จอดรถตรงนี้เต็ม..
ให้ขับเลยไป แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยนภาศัพท์ 2..
ไปจอดรถที่ลานจอดรถของโรงเรียนนานาชาติทรินิตี้
(พิกัด GPS : 13.722706,100.57441)
จะมีรถบักกี้ของร้านคอยรับ-ส่ง

.
.
.


บรรยากาศภายในร้าน
การตกแต่งเป็นแบบ Romantic Erotic..
ไม่แน่ใจว่าเป็นแบบไหน เค้าบอกมาอีกที ^^
เท่าที่รู้ก็คือ "สวย"








สแน็คให้เราทานระหว่างที่รออาหาร
ถั่วลิสง ถั่วปากอ้าและแป้งกรอบๆ







appertizer เป็น complimentary จากทางร้าน
น่าจะเป็นจำพวกหอยสักอย่าง กับ
sesame oil dressing








มื้อนี้เราสั่งอาหารกันแค่สองอย่าง
คุณสามีสั่งจานนี้ "175 Degree"
spicy tuna, avocado, cream cheese..
ทอดแบบเทมปุระ ไม่มีข้าว







ส่วนเราสั่งจานนี้ "C4"
ปลาไหลย่าง, mozzarella cheese, แตงกวา,
แซลมอน, tempura flakes
ไม่แน่ใจว่าทอดด้วยหรือเปล่า
ซูชิกรอบๆ ราดด้วยซอสหวานๆ แบบเดียวกับที่ราดบนข้าวหน้าปลาไหล
แต่ไม่เห็นมี mozzarella cheese ตรงไหน..
หรือว่าจะทำเป็นซอสคลุกกับแซลมอนหว่า







เครื่องดื่มของเราเป็นโทนิค
ส่วนของคุณสามีสั่ง "In the Mood for Love"
apple juice, apple syrup, สาเก
เปรี้ยวๆ หวานๆ.. ไม่แรง.. อร่อยดี








.
.
.




ตบท้ายมื้อนี้เราไปทานเจลาโต้กันที่ Melt Me ทองหล่อ ซอย 10..
เจลาโต้อร่อยเหมือนเดิม.. ฉันชอบเจลาโต้ชาเขียวของที่นี่มาก
คุณสามีชอบเจลาโต้ชอคโกแลต แต่วันนี้ไม่มี ก็เลยหัวเสียเล็กน้อย ^^
หลังจากที่ไม่ได้มาร้านนี้มาเป็นเดือน
.. การบริการยังจัดการได้ไม่ดีเช่นเดิม
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่พนักงานก็เยอะ..
เยอะพอๆกับลูกค้าที่เข้าร้าน แต่ก็ยังให้บริการแบบมึนๆ อยู่
เปลี่ยนชื่อจาก Melt Me เป็น Melt มึนดีไหมเนี่ย ^^











.
.
.




สรุปค่าเสียหายมื้อนี้
@ In the Mood for Love
1 C4    360 บาท
1 175 Degree    280 บาท
1 Tonic    30 บาท
1 In the Mood for Love    220 บาท
Disc 5%    - 32  บาท
S.C. 10%    85.80  บาท
Rounding    0.20  บาท
รวม    944  บาท

@ Melt Me
1 Gelato    99  บาท

รวมทั้งหมด    1,043  บาท

“จุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” เพลินใจบรรยากาศ เพลินปากซีฟู้ดรสเด็ด

บรรยากาศโต๊ะนั่งสบายๆ ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ
       ลมทะเลเย็นๆ พัดโชยมาสร้างความเย็นกาย และเย็นใจให้ “ตระเวนกิน” เสีย เหลือเกิน ขณะที่เรากำลังนั่งอยู่บนเรือหางยาว ลัดเลาะไปตามลำคลองที่สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าโกงกางอันเขี้ยวครึ้ม เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร “จุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” (Bangkok Sea View) ที่ตั้งอยู่กลางทะเลของชายทะเลบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง
      
       “ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” เป็นร้านอาหารที่เปิด ให้บริการมานานกว่า 8 ปีแล้ว เดิมทีสถานที่ตั้งร้านเคยเป็นนากุ้งเก่ามานานกว่า 40-50 ปี แต่แล้วก็ต้องประสบกับปัญหาน้ำทะเลท่วมพื้นที่ เจ้าของร้านจึงมีแนวคิดและปณิธานที่ดีที่ว่าอยากจะพัฒนาพื้นที่เสื่อมโทรม แห่งนี้ ที่ถูกน้ำกัดเซาะและท่วมถึงให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของทะเล กรุงเทพฯ และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนี้ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของคนกรุงเทพฯและประชาชนทั่วไปควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม เพื่อลดการพังทลายการและกัดเซาะของหน้าดิน โดยมุ่งหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นของการรักษาพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณทะเล บางขุนเทียน
ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ ยามเย็น
       เรียกว่าที่ไปที่มาของ “ร้านจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” นั้น น่าสนใจไม่น้อย นั่นจึงทำให้ร้านอาหารร้านนี้มีความน่าสนใจตั้งแต่บรรยากาศของร้านที่สร้าง เป็นแบบระเบียงไม้ทอดยาวไปในทะเล มีโต๊ะให้เลือกนั่งทั้งแบบนั่งกับพื้นและมีโต๊ะเตี๊ยๆ ให้วางอาหาร หรือถ้าใครแข้งเข่าไม่ดี ก็มีโต๊ะสูงและเก้าอี้ให้เลือกนั่งแบบสบายๆ รับลมธรรมชาติเย็นๆ ชมวิวทะเลสวยๆ แถมมีนกให้ดูแบบเพลินตาด้วย
      
       นั่นคือความน่าสนใจและน่าเพลิดเพลินของบรรยากาศร้าน ส่วนเรื่องอาหารของที่ร้านนี้ก็ขอบอกว่าอร่อยเพลินปากคนชอบกินอาหารทะเลสดๆ เป็นแน่ เพราะที่นี่เน้นนำเอาอาหารทะเลสดๆ ที่มีคุณภาพมาปรุงเป็นอาหารไทยว๊ฟู้ดจานเด็ดมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่ชวนกินทั้งนั้นเลย
ยำชะครามกุ้งกับหอยแครง
       อย่างมื้อนี้เราสั่งเมนูจานเด็ดมาขึ้นโต๊ะอยู่หลายรายการ เริ่มจากจานแรกเป็น ยำชะครามกุ้งกับหอยแครง (120 บาท) ที่หากินได้ยาก เพราะใบชะครามเป็นผักพื้นบ้านท้องถิ่นของที่นี่ ทางร้านนำใบชะครามมาลวกแล้วยำใส่น้ำพริกเผา กะทิ กุ้ง และหอยแครง ยำคลุกเคล้าให้เข้ากัน และโรยหน้าด้วยหอมเจียวกับกระเทียมทอด ลิ้มรสชาติถูกปากดีกับใบชะครามเคี้ยวมันปาก ออกรสชาติน้ำยำเข้มข้นกลมกล่อมกินเข้ากับกุ้งและหอยแครงที่หวานสด
ทะเลลวกจิ้ม
       จานต่อมาอร่อยเต็มอิ่มกับ ทะเลลวกจิ้ม (180 บาท) ที่เน้นนำเอาอาหารทะเลสดๆ หลายอย่างมาลวกมีทั้งปลากะพงขาว หมึก กุ้ง หอยนางรม และปูอัด โรยหน้าด้วยกระเทียมโทนทอดและหอมเจียว จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบที่ทางร้านโขลกเอง ขอบอกว่าอาหารทะเลชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ แต่ละอย่างล้วนสดหวานจิ้มกินกับน้ำจิ้มรสจัดจ้านโดนใจ
กุ้งผัดพริกไทยดำ
       จากนั้นมากินกุ้งตัวโตกับเมนูที่ชื่อว่า กุ้งผัดพริกไทยดำ (240 บาท) ทางร้านนำกุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่เอามาผัดกับเครื่องพริกไทยดำสูตรเด็ดของที่ทาง ร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ และใส่ยอดมะพร้าว พริกยักษ์สามสี เม็ดพริกไทยอ่อน กินกุ้งเนื้อแน่นนุ่มหวานผสานกับรสชาติเครื่องพริกไทยดำที่เข้มข้นถูกปาก จริงๆ
ปูทะเลผัดผงกะหรี่
       แล้วก็มาต่อกับเมนู ปูทะเลผัดผงกะหรี่ (ราคาตามน น.ปู ขีดละ 95 บาท) ไม่ส่งมากินไม่ได้ เพราะเป็นเมนูขายดีประจำร้าน ที่ทางร้านจะนำเอาปูทะเลสดๆ จากพื้นที่ นำมาต้มให้ปูสุกแล้วจึงนำมาผัดคลุกเคล้ากับเครื่องผงกะหรี่ที่ปรุงรสไว้แล้ว และผัดแบบโบราณคือจะไม่ใส่ไข่ แต่ใส่ต้นหอมลงไปผัดให้เข้ากัน เสิร์ฟมาร้อนๆ ได้กลิ่นผงกะหรี่หอมๆ ขึ้นจมูก กินปูเนื้อแน่นหวานสดจริงๆ และยังได้รสชาติเครื่องผงกะหรี่ที่เข้มข้นมากๆ
ปลากะพงทอดราดน้ำปลา
       เมนูถัดมาคือ ปลากะพงทอดราดน้ำปลา (350 บาท) ปลากะพงขาวสดๆ ตัวโตกำลังดีทางร้านแล่แบะออกแล้วทอดจนเหลืองกรอบ แล้วก็มีน้ำราดเป็นน้ำปลาสูตรเด็ดที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษราดมบนตัว ปลาอีกที เสิร์ฟมาพร้อมกับยำมะม่วงให้กินเคียงกัน กินปลาเนื้อแน่นกรอบนอกนุ่มในชุ่มรสชาติน้ำปลาเค็มๆ หวานๆ กินคู่กับน้ำยำมะม่วงเพิ่มรสเปรี้ยวอมเผ็ด
ต้มส้มปลากระบอก
       ส่งท้ายด้วยเมนูซดน้ำร้อนๆ ต้มส้มปลากระบอก (200 บาท) เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟ มีปลากระบอกไข่สดๆ หั่นเป็นชิ้นต้มมากับน้ำซุปที่ใส่หอมแดง ต้นหอม ผักชี ปรุงรสด้วยมะขามเปียกและน้ำตาลปี๊บ ซดน้ำซุปร้อนๆ ออก 3 รสเปรี้ยว หวาน เค็ม ส่วนปลากระบอกเนื้อนุ่มไม่คาวปาก
      
       และนอกจากเมนูเด่นเหล่านี้ที่ได้ลองลิ้มจนติดใจติดปากกันไปแล้ว ขอบอกว่าในเมนูอาหารก็ยังมีอาหารซีฟู้ดจานเด็ดอื่นๆ ที่น่าสั่งมากินอีกมาก อาทิ กุ้งราดซอสมะขาม (240 บาท) ทะเลรวมเผา (เล็ก 450 บาท ใหญ่ 900 บาท) แกงส้มกุ้งใบชะคราม (240 บาท) ลาบปลาหมอทะเล (150 บาท) ฯลฯ ซึ่งหากมิตรรักนักกินท่านไหน อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศในการกินข้าว มานั่งกินอาหารทะเลสดๆ รสเลิศท่ามกลางบรรยากศทะเล ใกล้กรุงเทพฯ ขอแนะนำเลยว่ามาที่ร้าน “จุดชมวิวทะเกรุงเทพฯ” รับรองไม่มีคำว่าผิดหวัง และอาจติดใจจนอยากจะมาอีกหลายๆ ครั้ง
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “จุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ” (Bangkok Sea View) ตั้งอยู่ที่ 74/3 หมู่ 9 ชายทะเล-บางขุนเทียน ท่าข้าม บางขุนเทียน กทม. การเดินทางจากถ.พระราม 2 ขับผ่านห้างบิ๊กซี สาขาพระราม 2 ประมาณ 500 ม. แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนชายทะเลบางขุนเทียน ตรงมาอีก 13 กม. จะเจอสามแยกแล้วให้เลี้ยวขวามาประมาณ 100 ม. ให้สังเกตป้ายจุดชมวิวทะเลบางขุนเทียน ก็จะเห็นท่าเรือของร้านอาหารจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ จะมีเรือพาไปถึงร้านอาหารจุดชมวิวทะเลกรุงเทพฯ (ค่าเรือ ผู้ใหญ่ 50 บาท/ เด็ก 20 บาท) ร้านเปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์ แต่ถ้าเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิด) เวลา 11.00-21.00 น. เรือเที่ยวสุดท้ายที่พามาร้านเวลา 19.00 น. ถ้ามาเป็นหมู่คณะแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อน โทร. 08-9613-1340, 08-9894-3595 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokseaview.com

Spaghetti chicken & cream

credit   Nontarchi  bloggang.com
Spaghetti chicken & cream



Free TextEditor

สวัสดีครับ ทุกท่าน 

วันนี้เนื่องจากเป็นวันว่าง (ซึ่งความจริงไม่ว่าง) ก็เลยอยากมาเปิดครัวกันหน่อย

ปกติ แล้วผมเป็นคนที่ชอบทำอาหาร ทั้งที่ปกติก็ทำมั่วๆๆ ไม่เคยดูสูตร ไม่เคยตวง เพราะที่บ้านไม่มีเครื่องอะไรซักอย่าง ตวง เติืง ช่างมัน

ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่า วันนี้ก็เลยจะทำอะไรอร่อยๆ ซักอย่าง เท่าที่หาได้ในครัว และแล้ว ก็ได้ เมนูนี้มาจากหัวสมองส่วน ซิริเบรัม (ปล. เดาเอา)

และวันนี้ เราก็จะมาทำ สปาเก็ตตี้ผัดเปสโต้ไก่ทอดราดซอสครีม ชื่อจะยาวไปไหน กะว่าครั้งหน้าทำอาหารจะเอาชื่อให้ยาวเท่ากรุงเทพกันเลยทีเดียว




มาเริ่มกันเลยแล้วกันครับ




ก่อน อื่น ก็ต้องต้ม สปาเก็ตตี้ก่อนนะครับ ใช้เวลาก็ กะเอา อย่าเอา นุ่มเกินไปเพราะเราจะเอาไปผัดต่อ อ้อ อย่าลืมใส่เกลือนิดหน่อยด้วยนะ



เสร็จแล้วก็พักไว้อย่างนี้นะครับ



จากนั้นก็เอาไก่ออกมาจากตู้เย็น ตัดครึ่งนึงนะครับ เพราะผมทอดในหม้อ เพื่อไม่ให้น้ำมันกระเด็นใส่ผนัง ขี้เกียจเช็ด



ทอดจนเหลืองทองอร่ามงามตา แบบนี้




แล้ว ก็พักไว้บนทิชชู่แบบนี้ อย่าเอาทิชชู่เนื้อนิ่มนะัครับ เดี๋ยวมันจะติดไก่เป็นกาว แล้วเวลากินจะได้กินทิชชู่ไปด้วย น่าจะเข้ากันดี ให้เลือกใช้ ทิชชู่แบบแข็ง



จากนั้น ก็มาเริ่มผัดเส้นสปาเก็ตตี้ ของเรากับซอสเปสโต้ผสมใบโหระพา กัน อันนี้มจาก อิตาลีนะ



แล้วก็เอาผสมลงในหม้อ ผัดๆซัก สองสามนาที ก็พอแล้ว ถ้าแห้งไป ก็เติมน้ำได้พอเป็น กระษัย




เสร็จแล้ว เราก็จะมาทำ น้ำซอสครีมกัน โดยนำครีมที่มีในตู้เย็น เทลงไปในหม้อน้อย เปิดไฟแบบ เบามาก เหมือน เป่าเอา



แล้วก็ใส่เครื่องเทศที่มีอยู่ลงไป ใส่อะไรก็ได้ ผมใส่กระเทียบบด แล้วก็พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆ อีกนิดหน่อย



จาก นั้นก็จัดใส่จานแบบนี้ ราดซอสครีมลงบนเนื้อไก่ แล้วก็หาผักแกล้มบาง ให้ดูมีวิตามินสำหรับร่างกายบ้าง แล้วก็ โปรยผงปาปริก้าตอนจบ แค่นี้ก็จบแล้ว



และแล้วก็เสร็จ ขอให้อร่อยเ้ด้ออออ แล้วเจอกันกับเมนูหน้า

Walnut fudge chocolate Vanilla Cake

credit  ช้อย  bloggang.com
Walnut fudge chocolate Vanilla Cake


เค้กวนิลาฟัดจ์วอลนัทช็อคโกแลต





สูตร นี้ทำตั้งชื่อเก๋ไปแบบนั้น อันความจริงก็คือช็อคโกแลตวอลนัทเป็นมิลล์ช็อคฯ ธรรมดานั่นเอง ด้วยขณะนั้นฟ้าประทานมาเฉพาะวอลนัทช็อคฯ นน.ร่วม ๑ กก. ไหนจะเทาว์เบอโรนท์ดุ้นบิ๊กอีก ๒ ดุ้น กินไม่ทันครับ กลัวน้ำตาลพุ่ง แจกก็เสียดาย(ฮา) เพราะชอบ เก็บไว้นานก็กวนตากวนใจ เปิดตู้เย็นเห็นนอนแอ้งแม้งทับกันน่าสงสาร เลยตั้งใจเอามาทำเป็นหน้าเค้กจะดีกว่า





ผม ยังคงใช้สปันจ์วนิลาเค้กเป็นฐานสำหรับทำเค้กเมนูต่างๆ ด้วยผสมง่าย ไม่ต้องร่อนแป้ง ไม่เปลืองอุปกรณ์ ใช้เวลาเตรียมส่วนผสมไม่เกิน ๑/๒ ชม. นำเข้าอบอีกสัก ๓๐-๔๐ นาที และสำคัญที่สุดคือเค้กไม่ยุบไม่หด รวมเวลาตั้งแต่เตรียมถึงอบเสร็จประมาณ ๑ ชม. ค่อนข้างรวดเร็วสำหรับบางเวลาที่ต้องรีบเร่ง

ครั้งแรกตั้งใจทำฐาน เค้กเป็นบัตเตอร์ช็อคโกแลตคิดว่าคงจะเข้ากันกับหน้าแบบนี้เนื้อเค้กออกขม นิดๆ กับฟัดจ์ช็อคหวานๆ เข้มข้นดีบวกกับถั่ววอลนัทกรุบๆ ได้อารมณ์อีกแบบ





แต่ ไปเจอสูตรวนิลาเค้กที่ปาดแยมราสเบอรีตรงกลาง เลยเก็ทไอเดียทันทีเพราะช็อคโกแลตกับราสเบอรี่มันอยู่ในทฤษฎีขนมที่กินคู่ กันได้เหมาะสมบทหนึ่งเลย

เริ่มลงมือทำฟัดจ์วอลนัทช็อคฯ ก่อน ส่วนผสมมี วิปปิ้งครีม ช็อคโกแลตวอลนัท(มิลล์) รัม วิธีทำนำวิปปิ้งครีมตั้งไฟพอเดือดจากนั้นเทลงบน ช็อคโกแลตฯ รอสัก ๒-๓ นาทีแล้วคนผสมให้เนียนสุดท้ายเติมรัมไปสัก ๑ ชต. พักไว้

แล้วลงมือตี เค้ก นำเข้าอบ พักไว้ จากนั้นนำมาสไลด์กลางแล้วปาดแยมราสเบอรี่ (ต้องของสมัคเกอร์นะครับ ผมว่ารสชาติดี ) ประกบด้วยเค้กอีกแผ่นจากนั้นราดด้วยฟัดจ์ช็อคฯวอลนัท ใช้สปาตูล่าปาดไปมาไม่ต้องเนียนกริ๊บก็ได้ครับ เพราะเค้กแบบผมไม่ต้องเนียนแบบดิบๆ น่าจะเหมาะกับตัวผมมากว่า

และถึงเวลาชิมรสชาติมีขม หวาน เปรี๊ยว ๓ รสเลยครับ