homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

+++[RevieW] 91/07 Giants Yakiniku "Buffet" ฟูจิซุปเปอร์ สาขา 2 ซอยพร้อมพงษ์ สุขุมวิท 33-39 คร้าบบบบบบบบบบบ +++

Giants Yakiniku "Buffet" ฟูจิซุปเปอร์ สาขา 2 ซอยพร้อมพงษ์ สุขุมวิท 33-39
จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA

Giants Yakiniku

เป็นร้านเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่น มีมากมายสาขา ไม่ว่าจะเป็นที่อยุธยา ศรีราชา นวนคร ธนิยะ
แต่ที่จะมารีวิววันนี้ เป็นสาขา สุขุมวิท 39 (พร้อมพงษ์) ชั้น 3 ฟูจิซุปเปอร์สาขา 2 ครับ

เนื่องจาก ตอนนี้ที่สาขานี้ คลอดโปรโมชั่น Buffet ราคา 350 บาท net ออกมา โดยมีระยะเวลา
ถึงสิ้นปีนี้เท่านั้นนะครับ

โดยเงื่อนไขมีดังนี้

- โปรโมชั่นบุฟเฟต์ มีเฉพาะ วันจันทร์ถึงวันพฤหัสเท่านั้น
- ราคา 350 บาท net สำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กนั้น 250 บาท net ครับ
- จำกัดเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ครับ
- ตอนนี้ถ้านำหนังสือ DACO ฉบับที่มีลงโปรโมชั่นของทางร้านมา จะได้โปรโมชั่นไป 5 จ่าย 4 ด้วยครับ

อาหารในรายการบุฟเฟ่ต์ ก็จะมีดังนี้

- เนื้อติดมัน
- เนื้อสัน
- เนื้อหมู
- เนื้อไก่
- เนื้อปลาแซลมอน
- กุ้งสด
- ปลาหมึกสด
- ซุป
- ข้าวผัดกระเทียม/ข้าวสวย(ญี่ปุ่น)
- กิมจิ
- ผักยำ (กวางตุ้งและถั่วงอกผัดน้ำมันงา)
- ผักรวม
- ชาบาร์เล่ย์ รีฟิล

ส่วนใครจะนำแอลกอฮอล์ไปทานด้วย ก็ไม่คิดค่าเปิดขวดแต่อย่างใดนะครับ





ดูจากรายการอาหารที่ให้มาแล้วนั้น ก็ถือว่าใจปล้ำจริง ๆ ครับ มีแทบทุกอย่างแล้ว



สำหรับเรื่องรสชาตินั้น (ต่อไปนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) ผมชอบมากกว่าบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างร้านอื่น ๆ
เพราะซอสที่หมักเนื้อนั้น รสไม่จัดเกินไป ไม่จำเป็นต้องกินข้าวตาม (อิอิ) ก็เลยถือว่าอร่อยสำหรับผมครับ

การบริการ เนื่องจากทางร้านเพิ่งจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ออกมาให้ได้ลิ้มลอง พนักงานจึงยังไม่ชิน
ที่จะโดนสั่งอาหารแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ต้องปรับปรุงเรื่องความรวดเร็วในการเสิรฟ
ส่วนการบริการนั้น เต็มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสได้ใจจริง ๆ ครับ (อิอิ) ก็คิดว่าแค่ปรับปรุงเรื่องความรวดเร็ว
ในการเสิรฟอาหารตามออเดอร์ที่สั่งไปแค่นั้นก็น่าจะพอแล้วครับ (กลัวว่าจะรับมือกับคนมาก ๆ ไม่ไหว
เพราะปกติร้านทำแบบ a la carte ครับ)

ความคุ้มค่ากับราคา จากราคา 350 บาท net กับอาหารที่มีในเมนูบุฟเฟ่ต์นั้น ผมถือว่าคุ้มจริง ๆ
เพราะราคานี้รวมน้ำชารีฟิลแล้วด้วย บวกกับเรื่องรสชาติที่อร่อย ผมถือว่าคุ้มสุด ๆ เลยครับกับร้านนี้

บรรยากาศ ค่อนข้างโอ่โถง ทางร้านจัดการกับเรื่องควันและกลิ่นได้ค่อนข้างดี
ประมาณว่ากินเสร็จ สามารถไปเที่ยวต่อได้ครับ ไม่ได้เหม็นติดตัวไป 2 วัน ^^"
อาจจะมีติดมือบ้าง แต่ถือว่าน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างที่เคยทานมา
ทางร้านจัดที่นั่งแบบโต๊ะญี่ปุ่น คือมีหลุมให้หย่อนเท้าลงไปด้านล้าง กั้นฉากระหว่างโต๊ะด้วย
ฉากกระดาษษา ให้บรรยากาศแบบสบาย ๆ ไม่อึดอัดครับ

การบริการ เนื่องจากตอนที่ไปทานเป็นการกินแบบบุฟเฟ่ต์ (เพิ่งเริ่มโปรโมชั่น) พนักงานจึงยังไม่คล่องแคล่ว
ต่อการรับส่งออเดอร์ซะเท่าไหร่ คิดว่านาน ๆ ไป น่าจะปรับตัวและพัฒนาการบริการได้ดียิ่งขึ้นกว่านี้
เพราะคิดว่าอีกสัก 2 สัปดาห์ ผมคงไปซ้ำและลองสังเกตุการณ์ดูอีกครั้งนึง สำหรับการบริการแบบบุฟเฟ่ต์ครับ


สรุป (ก่อนจะไปดูภาพประกอบ) Giants Yakiniku เป็นร้านเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่น อีก 1 ร้าน
ที่น่าสนใจ อร่อย และคุ้มค่ากับการไปทานอีกร้านนึง ณ ตอนนี้เลยครับ รีบ ๆ ไปลองนะครับ
ก่อนที่จะหมดโปรโมชั่นนี้นะ :D




ว่าแล้วก็ลองมาติดตามดูภาพประกอบกันเลยดีกว่าครับ :D

[Tags] บุฟเฟ่ต์ buffet เนื้อย่าง ยากินิขุ ยากินิกุ yakiniku ไจแอนท์ giants ฟูจิซุปเปอร์ สุขุมวิท
เพชรบุรีตัดใหม่ พร้อมพงษ์ 

 ต่อกับหน้าร้าน ป้ายบอกเวลาและรับบัตรเครดิตอะไรบ้าง หุหุ

 มาดูบรรยากาศภายในร้านกันก่อนครับ

กับการจัดโต๊ะสไตล์เจแปนนีสหลุม ๆ อิอิ
 มีต้นไม้และสวนหินรายล้อมรอบด้วยครับ ได้บรรยากาศดี :D
 บรรยากาศพอละ มาดูเมนูบุฟเฟ่ต์กันบ้างครับ :D แบบแผ่นร่อนไปมา อิอิ
 ถ้าดูไม่ชัดเอาแบบแปะผนังไปดูละกันครับ หุหุ
 ลองมาส่องเมนูแบบ a la carte กันบ้างครับ เพราะมีสั่งไปบางอย่างอยู่เหมือนกัน
 หน้าตาดีไม่ใช่น้อย โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก เนื้อ !!!!!
 หน้าต่อไป ก็เนื้อและก็บรรดาหมู ไก่ ซีฟู้ดครับ
 ของว่างและสลัด
 ผักแกล้มและซุป
 ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เบียร์และสาเก

 เครื่องดื่มอื่น ๆ ครับ
 หันมาดูอุปกรณ์กันบ้าง มาพร้อมน้ำจิ้มและเครื่องปรุงเลยครับ

ผ้ากันเปื้อนผูกคอ ลักษณะคล้าย ๆ ผ้ากันน้ำลายของเด็ก ก็มีให้ด้วยครับ
ส่วนมะนาวนั้นคั้นน้ำมาให้เลย ไม่ต้องเลอะมือ ดีจัง :D
 เตาถ่าน พร้อม

ตะแกรง ก็พร้อม

พัดลมเป่า ให้ถ่านไฟลุกก็พร้อม

พัดลมดูดอากาศ ก็พร้อม เตรียมลุยเลยครับ

ปล. ถ่านเค้าดีจริง ๆ กินตั้งนานไม่ต้องเติมถ่านเลยล่ะ อิอิ
 เครื่องดื่มในบุฟเฟ่ต์ครับ

กับ ชาบาร์เล่ย์รีฟิล หอมแบบว่ามีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่ได้หอมเหมือนกับชาของโอโตย่านะครับ แต่หอมแบบไม่รู้จะบอกยังไง
 ซุป

รสชาติดี เบา ๆ คล่องคอ กลิ่นและรสขิงนำมาก่อนเพื่อนเลย














“Chic 39 Cafe” อร่อย รื่นรมย์ ชมสวนกลางกรุง

มุมเย็นสบายภายในร้าน
       ถ้าจะหาร้านอาหารกลางกรุงที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่ในสวนส่วนตัว ก็คงจะมีอยู่เพียงไม่กี่ร้าน เพราะพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ของเราช่างมีอยู่น้อยนิดเหลือเกิน แต่ “ตระเวนกิน” ก็ได้รับชักชวนจากน้องสาวคนหนึ่ง ให้ลองไปที่ร้านน่ารักๆ กลางสวนสวยในซอยสุขุมวิท 39 หรือ ซอยพร้อมพงษ์ นั่นเอง
      
       ร้านที่ว่านี้คือ “Chic 39 Cafe” ร้านอาหารไทยสูตรดั้งเดิม ที่เพิ่งจะเปิดตัวมาได้เพียง 3 เดือนกว่าๆ เท่านั้น จุดเริ่มต้นมาจากเจ้าของร้าน คุณโจ๊ก จักษ์ ลัดพลี มีที่ทางดั้งเดิมอยู่บริเวณนี้ ประกอบกับอยากจะให้คนอื่นๆ ได้มาสัมผัสธรรมชาติที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ เลยเปิดร้านอาหารขึ้นมา
การตกแต่งสีสันสดใสสบายตา
       การตกแต่งเน้นในแบบธรรมชาติ ให้ผู้ที่เข้ามารู้สึกสบายมากที่สุด ในส่วนที่นั่งแต่ละโต๊ะ ก็จะใช้ผ้าปูโต๊ะลวดลายสดใส มีหมอนสีสันสะดุดตา วางไว้ให้เอนอิงสบายตัว ของตกแต่งกระจุกกระจิกก็นำของเก่ามารีไซเคิล จัดวางไว้ในมุมต่างๆ ของร้านอย่างน่ารัก สามารถใช้เป็นมุมถ่ายรูปได้ทุกๆ มุมในร้าน
      
       นอกจากส่วนของร้านอาหาร ก็ยังมีส่วนที่เป็นห้องพัก ซึ่งมีทั้งหมด 5 ห้อง โดย 4 ห้องแรกนั้นจะอยู่ในบริเวณของบ้านไม้ 2 ชั้นซึ่งปรับปรุงมาจากบ้านเก่า และห้องที่ 5 เป็นวิลล่าส่วนตัวอยู่ทางด้านหลัง ทั้ง 5 ห้องมีการตกแต่งที่ไม่เหมือนกัน เน้นที่การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ โดยราคาของห้องพักจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 – 2,900 บาท
สลัดภูเขาและท้องทะเล
       หลังจากเดินชมบรรยากาศร้านจนทั่วแล้ว เราเลยขอเมนูมาสั่งอาหาร ซึ่งแม้จะมีเพียงไม่กี่เมนู แต่ก็เป็นจานเด็ดที่เจ้าของร้านภูมิใจนำเสนอทั้งสิ้น และเรายังได้ลองชิมน้ำอัญชันสีฟ้าสดใส ที่ทางร้านจะเสิร์ฟให้ฟรีทุกโต๊ะ ดื่มแล้วชื่นใจดีจริงๆ
      
       จานแรกของวันนี้เริ่มต้นที่อาหารเบาๆ อย่าง สลัดภูเขาและท้องทะเล (220 บาท) เป็นสลัดที่มีความเชื่อมาจากชาวญี่ปุ่นว่า ในอาหารหนึ่งจานจะต้องได้แร่ธาตุมาจากภูเขาและท้องทะเล สลัดจานนี้เลยมีส่วนผสมทั้งเนื้อก้ามปูอัดอลาสก้า ไข่กุ้ง สาหร่าย ถั่วแระญี่ปุ่น เต้าหู้สด และผัดสลัด ราดด้วยน้ำสลัดงาหอมสูตรของทางร้าน ลองชิมแล้วได้รสชาติหวานๆ เค็มๆ และความหอมจากน้ำสลัด
น้ำพริกประพาสเรือ
       จากนั้นมาลองลิ้มอาหารไทยๆ กันบ้าง อย่าง น้ำพริกประพาสเรือ (120 บาท) ความจริงแล้ว น้ำพริกถ้วยนี้ก็คือน้ำพริกลงเรือนั่นเอง ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิม กินคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ อย่างไข่เค็ม ผักสด ผักลวก และดอกเฟื่องฟ้าชุบแป้งทอด รสชาติของน้ำพริกมีทั้งความเค็ม หวาน เผ็ด ความหอม เอามาคลุกกับข้าวแล้วกินกับเครื่องเคียง ก็กินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ
แกงมัสมั่นไก่นุ่ม
       จานถัดมาเป็น แกงมัสมั่นไก่นุ่ม (100 บาท) ที่นำไก่มาหมักกับนมสดให้นุ่ม แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำแกงมัสมั่นที่แม่ครัวโคลกเครื่องแกงเองกับมือ ใส่มันฝรั่ง ถั่วลิสง และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมของน้ำแกง ความมันจากถั่วลิสงและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ส่วนเนื้อไก่ก็นุ่มมาก ได้รสชาติมัสมั่นในเนื้อไก่ด้วย
แกงส้มผักรวมญาติ
       ต่อด้วย แกงส้มผักรวมญาติ (90 บาท) แกงส้มถ้วยนี้เป็นอาหารจานสุขภาพจริงๆ เพราะอุดมไปด้วยผักนานาชนิด และยังใส่กุ้งสดตัวโต ส่วนน้ำพริกแกงนั้นทางร้านทำขึ้นเอง จึงสด ใหม่ และสะอาด น้ำแกงจึงออกมาสีส้มสวย กลิ่นหอมชวนกิน รสชาติจัดจ้าน
      
       เมนูต่อมาเป็น ผัดพริกขิงไก่บ้าน (100 บาท) ใช้เนื้อไก่บ้านมานึ่งกับสมุนไพรต่างๆ ให้มีกลิ่นหอม จากนั้นฉีกเนื้อไก่เป็นชิ้นเล็กๆ นำไปคั่วจนแห้งกรอบ ผัดกับเครื่องพริกขิง เสิร์ฟพร้อมกับผักสดหลายชนิด กินแล้วเนื้อไก่กรอบมาก ได้รสชาติพริกขิงถึงเครื่อง
ผัดพริกขิงไก่บ้าน
       ปิดท้ายด้วยเมนูอร่อยอย่าง ไข่พะโล้แบบดั้งเดิม (90 บาท) ที่มีสูตรพิเศษตรงที่ไม่ได้ใส่ซีอิ้วดำ แต่ใช้น้ำตาลมะพร้าวมาเคี่ยวกับกระเทียมพริกไทย จนได้สีน้ำตาลสวยงาม ได้รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานจัดเหมือนที่อื่นๆ
      
       อาหารแนะนำจานอื่นๆ ของร้าน อาทิ สลัด DYO (130 บาท) ที่สามารถเลือกส่วนผสมเองได้ น้ำพริกกุ้งแก้วทรงเครื่อง (130 บาท) ไข่เจียวผักหวาน (60 บาท) น้ำชื่นใจ (30 บาท) ที่ดื่มแล้วชื่นใจสมชื่อ แล้วมาปิดท้ายด้วยขนมหวาน ต๋าวงามแต้ๆ (30 บาท) หรือลูกชิดลอยแก้วสีสวย
ไข่พะโล้แบบดั้งเดิม
       ทั้งหมดนี้เป็นความอร่อยท่ามกลางธรรมชาติกลางกรุงที่ “ตระเวนกิน” อยากจะชวนให้บรรดานักกินทั้งหลายมาลองชิมกันดู และพิเศษสำหรับแฟนๆ เพียงแค่บอกกับทางร้านว่ามาจากเว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการ ก็จะได้รับส่วนลดพิเศษทันที

ยั่วลิ้นแบบปิ้งย่าง “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์นอร์”

บรรยากาศร้านริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์
       เคยเป็นกันไหม...เวลาที่เราไปนั่งกินอาหารประเภทปิ้ง ย่าง อารมณ์อยากกินก็อยากกิน แต่ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ ไปให้พร้อม เพราะคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับกลิ่นควันอันคละคลุ้งฟุ้งกระจาย อีกทั้งบางร้านยังแออัดเต็มไปด้วยผู้คน ยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนให้มื้อ ปิ้ง ย่าง กันไปใหญ่
      
       ครั้งนี้เมื่อ “ตระเวนกิน” คิดจะหาอาหารสไตล์ปิ้ง ย่าง นั่งกินทั้งที จึงคัดสรรเลือกร้านอย่างปราณีต เลยเป็นเหตุผลให้เลือกมาผ่อนคลายสไตล์ปิ้ง ย่าง กันที่ร้าน “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์” ร้านที่ตั้งอยู่ บริเวณชั้น5ดาดฟ้าของอาคาร “ริเวอร์ซิตี้ ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์”แถวท่าน้ำสี่พระยา ร้านที่ยังคงตำรับของอาหารแบบปิ้ง ย่าง มานานกว่า 25 ปี
ปิ้ง ย่าง สไตล์บาร์บีคิว
       ล่าสุดทางร้านเขาเพิ่งปรับปรุงโฉมไปเมื่อปลายปี 2552ที่ผ่านมา จึงมีความพิเศษที่ไม่อาจจะมองข้ามของร้านสไตล์ปิ้ง ย่าง แห่งนี้ คือ เรื่องของบรรยากาศที่โดดเด่น เพราะทำเลตั้งอยู่มุมสูง แถมยังตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เรามองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งน้ำและตึกระฟ้าที่ส่องแสงไฟสวยจับตาในพลบ ค่ำ ซึ่งเป็นอาหารตาชั้นเลิศทีเดียว
      
       ภายในร้านแบ่งเป็น2ส่วนด้วยกัน ส่วนแรก เป็นโซนบรรยากาศกลางแจ้ง มีทั้งมุมที่เหมือนได้นั่งกินอาหารอยู่ในสวน ที่มีบรรยากาศรื่นรมย์ และด้านที่นั่งที่ติดฝั่งริมน้ำจะเห็นวิวทิวทัศน์ของโค้งน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมุมริมน้ำนี้มีจำนวน 15 โต๊ะด้วยกัน หากใครต้องการนั่งริมน้ำแนะนำว่าควรจองล่วงหน้าดีกว่า อีกส่วนหนึ่งนั้นเป็นห้องปรับอากาศ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศเย็นสบายเป็นส่วนตัว การตกแต่งร้านที่นี่ หยิบเอาสีขาวสะอาดกับโทนสีเอิร์ธโทน มาใช้เพื่อให้ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายแก่ผู้มาเยือน
มุมสวนลอยฟ้าอันรื่นรมย์
       “ตระเวนกิน” นั่งเพลินๆอยู่ชั่วครู่ จึงเลือกสั่งเมนูอาหารมาอร่อยลิ้นกัน แน่นอนว่า เมนูแรกจะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก บาร์บีคิว เซตพิเศษ (480 บาท ) ที่ในเซตพรั่งพร้อมไปด้วย เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อปลากะพง สไลด์แบบบางเฉียบ แถมด้วยเครื่องในสัตว์อย่างตับหวาน และยังมีกุ้งสดชั้นดี เรียงรายเคียงคู่กับเส้นอูด้งและผักสดหลายชนิดทั้งแครอท ฟักทอง ข้าวโพด หอมหัวใหญ่ พริกหวาน
บาร์บีคิวเซตทะเล
       ยังไม่พอขอสั่งแบบรวดเดียวด้วย บาร์บิคิว เซตทะเล (640 บาท/3-4 คน) ที่เสิร์ฟมาชนิดที่เรียกว่ายกทะเลมาไว้ตรงหน้าด้วย กุ้ง ปลา และปลาหมึก ที่คัดแล้วว่าได้คุณภาพสดใหม่ ก่อนจะลงมือปิ้งย่างบนกระทะร้อนที่สุ่มด้วยถ่านไม้สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ ให้ร้อนเร็วแต่ยังคงกลิ่นและรสดั้งเดิมไว้ ทั้งยังไม่มีกลุ่มควันลอยคลุ้ง
      
       ย่างเสร็จแล้วหากจะป้อนเข้าปากเลยก็ดูจะธรรมดาไป เพราะสุดยอดเคล็ดลับของร้านนี้เขาอยู่ที่ “น้ำจิ้มซอสบาร์บีคิว” ที่เกิดจากส่วนผสมของเครื่องเทศหลายชนิด อันเป็นสูตรลับสูตรหวงของที่นี่ เมื่อจิ้มกับทุกเมนูแบบปิ้งย่างของเราแล้วจึงออกมา กลมกล่อม หอมหวาน ลงตัวยิ่ง และหากใครอยากเพิ่มรสชาติให้ถูกปากตัวเองมากยิ่งขึ้น เขาก็มีเครื่องเคียงสำหรับน้ำจิ้ม อย่าง มะนาว พริกสับ และกระเทียม ไว้ให้ได้ปรุงรสกันตามชอบใจ
บาร์บีคิวเซตพิเศษ
       มาทั้งทีจะสั่งแค่บาร์บีคิวก็กลัวจะเสียเที่ยว จึงขอลิ้มรสอีกหลายๆเมนูของร้านไปด้วยอย่าง หอยลายทรงเครื่อง ( 140 บาท) อีกหนึ่งเมนูสูตรพิเศษของทางร้าน เสิร์ฟมาบนหลุมขนมครกดินเผาสุดคลาสสิก เวลากินต้องกินคู่กับขนมปังที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ให้รสชาติกลมกล่อมเข้ากันดี
      
       เมนูถัดมาเปลี่ยนเป็นเมนูของทอดกันบ้างกับ เปาะเปี้ยทอด ( 120 บาท) ทอดมาร้อนๆ เหลืองกรอบ น่ากิน ด้วยเนื้อแป้ง ที่บางกรอบ เมื่อกัดกินจะเจอไส้เปาะเปี้ย ที่มีทั้ง วุ้นเส้น และหมูสับ จิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วย รสเปรี้ยวอม หวาน กินหมดไปไม่รู้ตัว
เปาะเปี้ยะทอด
       เดินเครื่องต่อด้วย กุ้งห่อเบคอนทอด ( 130 บาท) ที่ทางร้านนำกุ้งสดๆ ขนาดกลาง มาห่อด้วยเบคอน แล้วนำไปทอด จนออกมามีสีส้มสวย จานนี้ก็แนะนำให้กินคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดของทางร้านที่มีรสชาติหวาน ทำให้เข้ากันกับรสชาติที่ออกเค็มของเบคอนได้ดี
กุ้งห่อเบคอนทอด
       เมนูคุ้นเคยของหลายๆคนอย่าง กุ้งแช่น้ำปลา ( 130 บาท) ที่นี่ก็น่ากินไม่แพ้ใคร ด้วยกุ้งสด ผ่าหลัง นำไปแช่น้ำปลาปรุงรสให้เผ็ด เปรี้ยว เค็ม เสิร์ฟมาแบบชุ่มน้ำไม่หวงเครื่อง รสจัดจ้านถึงเครื่องไร้กลิ่นคาวกุ้ง
      
       ตบท้ายกันอีกสักจานด้วย ยำวุ้นเส้นทะเล ( 130 บาท) ที่มีวุ้นเส้นเหนียวนุ่มเสิร์ฟมาพร้อมกุ้งและหมูสับ ปรุงรสแบบเปรี้ยว เผ็ด หวาน สไตล์ยำอย่างไทย เป็นอีกหนึ่งจานที่กินเพลินๆ
กุ้งแช่น้ำปลา
       ถ้าหากที่ "ตระเวนกิน"ไล่กินมายังไม่ทำให้อิ่มหนำ ก็ยังมีเมนูอีกมากมายกว่า30รายการให้รอมาพิสูจน์ทั้ง ข้าวราดหน้ากุ้ง/ ไก่/หมู ( 120บาท),ข้าวเปรี้ยวหวานไก่/ กุ้ง/หมู ( 120บาท) และสำหรับผู้ชื่นชอบบาร์บีคิว สามารถสั่งแยกสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มแค่เฉพาะอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว ( 55บาท ), เนื้อหมู ( 55 บาท ), เนื้อไก่ ( 55บาท ) , เนื้อปลา( 55บาท ), ตับ ( 55 บาท) ,หัวใจ ( 55บาท ) , เซี้ยงจี้ ( 55 บาท) เครื่องดื่มเบาๆอย่าง น้ำบลู คูราโค่ ( 135 บาท) อิ่มมื้อปิ้งย่างในบรรยากาศเวิ้งน้ำเจ้าพระยา อย่าลืมคิดถึง “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์”
อิ่มแบบปิ้ง ย่าง อย่างจุใจที่ ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์
       ******************************************************************
      
       ร้าน “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์” ตั้งอยู่ที่ ชั้น5ห้างสรรพสินค้า ริเวอร์ซิตี้ 23 ถนนโยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม. การเดินทางมายังร้านเส้นทางที่1 สามารถใช้บริการเรือรับ-ส่ง ระหว่างท่าเรือสาทร กับ ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ ที่มีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าจากสถานีสะพานตากสิน
       หรือ เส้นทางที่2 สามารถใช้เรือบริการระหว่างริเวอร์ซิตี้ กับ โรงแรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น โรงแรมโอเรียลเต็ล,โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมเพนนินซูล่า โรงแรมมิลเลนเนี่ยม ฮิลตัน และโรงแรมรอยัลริเวอร์ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17 .30-23.00 น. ทางร้านรับจัดงานนอกสถานที่ สามารถจอดรถได้บริเวณชั้น5สำรองที่นั่งภายในร้าน โทร 0-2236-4535