homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

ยั่วลิ้นแบบปิ้งย่าง “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์นอร์”

บรรยากาศร้านริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์
       เคยเป็นกันไหม...เวลาที่เราไปนั่งกินอาหารประเภทปิ้ง ย่าง อารมณ์อยากกินก็อยากกิน แต่ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ ไปให้พร้อม เพราะคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับกลิ่นควันอันคละคลุ้งฟุ้งกระจาย อีกทั้งบางร้านยังแออัดเต็มไปด้วยผู้คน ยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนให้มื้อ ปิ้ง ย่าง กันไปใหญ่
      
       ครั้งนี้เมื่อ “ตระเวนกิน” คิดจะหาอาหารสไตล์ปิ้ง ย่าง นั่งกินทั้งที จึงคัดสรรเลือกร้านอย่างปราณีต เลยเป็นเหตุผลให้เลือกมาผ่อนคลายสไตล์ปิ้ง ย่าง กันที่ร้าน “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์” ร้านที่ตั้งอยู่ บริเวณชั้น5ดาดฟ้าของอาคาร “ริเวอร์ซิตี้ ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์”แถวท่าน้ำสี่พระยา ร้านที่ยังคงตำรับของอาหารแบบปิ้ง ย่าง มานานกว่า 25 ปี
ปิ้ง ย่าง สไตล์บาร์บีคิว
       ล่าสุดทางร้านเขาเพิ่งปรับปรุงโฉมไปเมื่อปลายปี 2552ที่ผ่านมา จึงมีความพิเศษที่ไม่อาจจะมองข้ามของร้านสไตล์ปิ้ง ย่าง แห่งนี้ คือ เรื่องของบรรยากาศที่โดดเด่น เพราะทำเลตั้งอยู่มุมสูง แถมยังตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เรามองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งน้ำและตึกระฟ้าที่ส่องแสงไฟสวยจับตาในพลบ ค่ำ ซึ่งเป็นอาหารตาชั้นเลิศทีเดียว
      
       ภายในร้านแบ่งเป็น2ส่วนด้วยกัน ส่วนแรก เป็นโซนบรรยากาศกลางแจ้ง มีทั้งมุมที่เหมือนได้นั่งกินอาหารอยู่ในสวน ที่มีบรรยากาศรื่นรมย์ และด้านที่นั่งที่ติดฝั่งริมน้ำจะเห็นวิวทิวทัศน์ของโค้งน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมุมริมน้ำนี้มีจำนวน 15 โต๊ะด้วยกัน หากใครต้องการนั่งริมน้ำแนะนำว่าควรจองล่วงหน้าดีกว่า อีกส่วนหนึ่งนั้นเป็นห้องปรับอากาศ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศเย็นสบายเป็นส่วนตัว การตกแต่งร้านที่นี่ หยิบเอาสีขาวสะอาดกับโทนสีเอิร์ธโทน มาใช้เพื่อให้ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายแก่ผู้มาเยือน
มุมสวนลอยฟ้าอันรื่นรมย์
       “ตระเวนกิน” นั่งเพลินๆอยู่ชั่วครู่ จึงเลือกสั่งเมนูอาหารมาอร่อยลิ้นกัน แน่นอนว่า เมนูแรกจะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก บาร์บีคิว เซตพิเศษ (480 บาท ) ที่ในเซตพรั่งพร้อมไปด้วย เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อปลากะพง สไลด์แบบบางเฉียบ แถมด้วยเครื่องในสัตว์อย่างตับหวาน และยังมีกุ้งสดชั้นดี เรียงรายเคียงคู่กับเส้นอูด้งและผักสดหลายชนิดทั้งแครอท ฟักทอง ข้าวโพด หอมหัวใหญ่ พริกหวาน
บาร์บีคิวเซตทะเล
       ยังไม่พอขอสั่งแบบรวดเดียวด้วย บาร์บิคิว เซตทะเล (640 บาท/3-4 คน) ที่เสิร์ฟมาชนิดที่เรียกว่ายกทะเลมาไว้ตรงหน้าด้วย กุ้ง ปลา และปลาหมึก ที่คัดแล้วว่าได้คุณภาพสดใหม่ ก่อนจะลงมือปิ้งย่างบนกระทะร้อนที่สุ่มด้วยถ่านไม้สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ ให้ร้อนเร็วแต่ยังคงกลิ่นและรสดั้งเดิมไว้ ทั้งยังไม่มีกลุ่มควันลอยคลุ้ง
      
       ย่างเสร็จแล้วหากจะป้อนเข้าปากเลยก็ดูจะธรรมดาไป เพราะสุดยอดเคล็ดลับของร้านนี้เขาอยู่ที่ “น้ำจิ้มซอสบาร์บีคิว” ที่เกิดจากส่วนผสมของเครื่องเทศหลายชนิด อันเป็นสูตรลับสูตรหวงของที่นี่ เมื่อจิ้มกับทุกเมนูแบบปิ้งย่างของเราแล้วจึงออกมา กลมกล่อม หอมหวาน ลงตัวยิ่ง และหากใครอยากเพิ่มรสชาติให้ถูกปากตัวเองมากยิ่งขึ้น เขาก็มีเครื่องเคียงสำหรับน้ำจิ้ม อย่าง มะนาว พริกสับ และกระเทียม ไว้ให้ได้ปรุงรสกันตามชอบใจ
บาร์บีคิวเซตพิเศษ
       มาทั้งทีจะสั่งแค่บาร์บีคิวก็กลัวจะเสียเที่ยว จึงขอลิ้มรสอีกหลายๆเมนูของร้านไปด้วยอย่าง หอยลายทรงเครื่อง ( 140 บาท) อีกหนึ่งเมนูสูตรพิเศษของทางร้าน เสิร์ฟมาบนหลุมขนมครกดินเผาสุดคลาสสิก เวลากินต้องกินคู่กับขนมปังที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ให้รสชาติกลมกล่อมเข้ากันดี
      
       เมนูถัดมาเปลี่ยนเป็นเมนูของทอดกันบ้างกับ เปาะเปี้ยทอด ( 120 บาท) ทอดมาร้อนๆ เหลืองกรอบ น่ากิน ด้วยเนื้อแป้ง ที่บางกรอบ เมื่อกัดกินจะเจอไส้เปาะเปี้ย ที่มีทั้ง วุ้นเส้น และหมูสับ จิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วย รสเปรี้ยวอม หวาน กินหมดไปไม่รู้ตัว
เปาะเปี้ยะทอด
       เดินเครื่องต่อด้วย กุ้งห่อเบคอนทอด ( 130 บาท) ที่ทางร้านนำกุ้งสดๆ ขนาดกลาง มาห่อด้วยเบคอน แล้วนำไปทอด จนออกมามีสีส้มสวย จานนี้ก็แนะนำให้กินคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดของทางร้านที่มีรสชาติหวาน ทำให้เข้ากันกับรสชาติที่ออกเค็มของเบคอนได้ดี
กุ้งห่อเบคอนทอด
       เมนูคุ้นเคยของหลายๆคนอย่าง กุ้งแช่น้ำปลา ( 130 บาท) ที่นี่ก็น่ากินไม่แพ้ใคร ด้วยกุ้งสด ผ่าหลัง นำไปแช่น้ำปลาปรุงรสให้เผ็ด เปรี้ยว เค็ม เสิร์ฟมาแบบชุ่มน้ำไม่หวงเครื่อง รสจัดจ้านถึงเครื่องไร้กลิ่นคาวกุ้ง
      
       ตบท้ายกันอีกสักจานด้วย ยำวุ้นเส้นทะเล ( 130 บาท) ที่มีวุ้นเส้นเหนียวนุ่มเสิร์ฟมาพร้อมกุ้งและหมูสับ ปรุงรสแบบเปรี้ยว เผ็ด หวาน สไตล์ยำอย่างไทย เป็นอีกหนึ่งจานที่กินเพลินๆ
กุ้งแช่น้ำปลา
       ถ้าหากที่ "ตระเวนกิน"ไล่กินมายังไม่ทำให้อิ่มหนำ ก็ยังมีเมนูอีกมากมายกว่า30รายการให้รอมาพิสูจน์ทั้ง ข้าวราดหน้ากุ้ง/ ไก่/หมู ( 120บาท),ข้าวเปรี้ยวหวานไก่/ กุ้ง/หมู ( 120บาท) และสำหรับผู้ชื่นชอบบาร์บีคิว สามารถสั่งแยกสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มแค่เฉพาะอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว ( 55บาท ), เนื้อหมู ( 55 บาท ), เนื้อไก่ ( 55บาท ) , เนื้อปลา( 55บาท ), ตับ ( 55 บาท) ,หัวใจ ( 55บาท ) , เซี้ยงจี้ ( 55 บาท) เครื่องดื่มเบาๆอย่าง น้ำบลู คูราโค่ ( 135 บาท) อิ่มมื้อปิ้งย่างในบรรยากาศเวิ้งน้ำเจ้าพระยา อย่าลืมคิดถึง “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์”
อิ่มแบบปิ้ง ย่าง อย่างจุใจที่ ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์
       ******************************************************************
      
       ร้าน “ริเวอร์ซิตี้ บาร์บีคิวคอร์เนอร์” ตั้งอยู่ที่ ชั้น5ห้างสรรพสินค้า ริเวอร์ซิตี้ 23 ถนนโยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม. การเดินทางมายังร้านเส้นทางที่1 สามารถใช้บริการเรือรับ-ส่ง ระหว่างท่าเรือสาทร กับ ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ ที่มีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ใช้บริการรถไฟฟ้าจากสถานีสะพานตากสิน
       หรือ เส้นทางที่2 สามารถใช้เรือบริการระหว่างริเวอร์ซิตี้ กับ โรงแรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น โรงแรมโอเรียลเต็ล,โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมเพนนินซูล่า โรงแรมมิลเลนเนี่ยม ฮิลตัน และโรงแรมรอยัลริเวอร์ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17 .30-23.00 น. ทางร้านรับจัดงานนอกสถานที่ สามารถจอดรถได้บริเวณชั้น5สำรองที่นั่งภายในร้าน โทร 0-2236-4535

อาหารใต้ หรอยแรง ที่ ดวงจิตต์ รีสอร์ทฯ

บรรยากาศภายในห้องอาหารบานบุรี
       อยู่กรุงเทพฯ มีแต่เรื่องร้อนๆ ให้วุ่ยวายใจ ไหนจะอากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว การเมืองที่ร้อนระอุและรุนแรง ทำเอา "ตระเวนกิน" ต้องขอแอบหนีความร้อนในเมืองกรุง ขอไปเที่ยวผ่อนคลายให้หายร้อนกายร้อนใจยังจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีทั้งทะเลสวยๆ และบ้านเมืองที่งดงามไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามชวนให้มาเที่ยว
      
       การมาเที่ยวภูเก็ตของ "ตระเวนกิน" ในครั้งนี้ได้รับทั้ง ความสนุกสนานและเพลิดเพลินใจจากการได้ไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ของภูเก็ตมากมาย และก็ยังได้รับการพักผ่อนที่แสนจะสบาย เพราะว่าเราได้ไปพักที่โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่ตั้งอยู่ที่หาดป่าตอง ซึ่งขอบอกว่าเป็นโรงแรมที่สงบและร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ ทำให้ได้พักผ่อนอย่างผ่อนคลายสบายใจ แถมยังสบายท้องถูกใจกับอาหารการกิน
สุบิน โพรงทอง เชฟประจำห้องอาหารบานบุรี
       เพราะที่นี่มีห้องอาหารประจำโรงแรมที่ชื่อว่า "ห้องอาหารบานบุรี" เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ มีส่วนโต๊ะนั่งด้านในห้องแอร์นั่งสบาย และส่วนเทอเรสด้านนอกให้นั่งรับลมเย็นๆ จากธรรมชาติ สำหรับอาหารของที่นี่จะบริการอาหารแบบอินเตอร์เนชั่นแนลอันหลากหลาย แต่อาหารที่ถูกปากและถูกใจเราเป็นอย่างมาก ก็เห็นจะไม่พ้นอาหารไทยปักษ์ใต้พื้นถิ่น ที่บางเมนูนั้นหากินได้ยาก แต่ว่ามาที่นี่รับรองว่าจะได้ลิ้มรสอย่างแน่นอน เพราะว่ามีคุณสุบิน โพรงทอง เป็นเชฟประจำห้องอาหารบานบุรี ที่มีฝีมือดี สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายและมีรสชาติดี เป็นอะไรที่ถูกปากและโดนใจ "ตระเวนกิน" มากๆ จนต้องขอนำมาเสนอให้ได้รับรู้กัน
น้ำพริกกุ้งเสียบ
       สำหรับอาหารใต้ท้องถิ่นที่เราได้ลองลิ้มในมื้อนั้นก็มีอยู่หลายเมนู ด้วยกัน ซึ่งเชฟสุบินได้แนะนำให้ชิมอยู่หลายอย่าง เริ่มจากเมนูแรกเป็นเมนูเด็ดประจำห้องอาหารที่ถ้าแล้วไม่ควรพลาดสั่งด้วย ประการทั้งปวง นั่นคือ น้ำพริกกุ้งเสียบ (150 บาท) เป็นน้ำพริกสูตรเด็ดเฉพาะที่เชฟสุบินปรุงขึ้นมาเอง นำเอากุ้งเสียบมาตำหยาบๆ กับกะปิอย่างดี พริกขี้หนู หอมแดง และปรุงรสชาติเน้นรสจัดสไตล์คนใต้ขนานแท้ และโรยหน้าน้ำพริกด้วยกุ้งเสียบตัวโต ชิมแล้วขอบอกว่ารสชาติจัดจ้านเผ็ดลิ้นเอาการ กินแกล้มกับผักสดหลายๆ อย่างที่เสิร์ฟเคียงมา หรอยจังฮู้จริงๆ
หมูฮ้อง
       กินน้ำพริกจนเผ็ดลิ้นแล้ว ต้องขอคั่นความเผ็ดด้วยเมนูนี้ หมูฮ้อง (200บาท) เป็นหมูสามชั้นหั่นชิ้นหนาหน่อย นำมาผัดกับเครื่องเทศที่มีรากผักชี กระเทียม พริกไทยนำมาโขลกรวมกัน และผัดปรุงรสชาติใส่ซีอิ้ว น้ำตาลทราย ผัดเคี่ยวนานกว่า 1 ชม. จนเครื่องทุกอย่างซึมถึงเนื้อในหมู ได้หมูฮ้องเนื้อนุ่มนิ่มออกรสหวานๆ กินแก้เผ็ดได้ดี
ผัดผักเหมียงกุ้งเสียบ
       จานถัดมาเป็นอีกหนึ้งเมนูไม่เผ็ด คือ ผัดผักเหมียงกุ้งเสียบ (160 บาท) ผักเหมียง หรือผักเหลียง เป็นพักพื้นบ้านที่ชาวใต้นิยมกินกัน ซึ่งเชฟสุบินนำเอาเฉพาะใบผักเหมียงที่ไม่แก่เกินไป นำมาผัดกับกระเทียม น้ำมันหอย ใส่หัวกะทิลงไปด้วยเพื่อให้มีรสชาติมันๆ และผักเหมียงจะแววสวยน่ากิน พร้อมกับใส่กุ้งเสียบตัวโตลงมาผัดด้วย ลิ้มรสชาติผัดผักเหมียงเคี้ยวมันไม่ขมปาก ได้รสชาติที่กลมกล่อมถูกลิ้นดี
แกงเลียง
       เมนูต่อมามาชิมเมนูน้ำๆ กันบ้าง เป็น แกงเลียง (160 บาท) เป็นสไตล์เฉพาะของที่นี่ที่ใส่ไข่ไก่มาด้วยทั้งฟอง และเป็นแกงเลียงแบบน้ำน้อย ใส่เห็ดฟาง ฟักทอง บวบ ใบแมงลัก ตำลึง ส่วนน้ำแกงเลียงจะตำกะปิกับหอมแดงให้เป็นเครื่องแกงเลียงที่มีความเข้มข้น และส่งกลิ่นหอม ซดน้ำแกงร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมกินแล้วดีต่อสุขภาพเพราะเต็มไปด้วยผักมากมาย
แกงส้มปลาแซลมอน
       ส่วนอีกหนึ่งเมนูแกงที่เป็นการประยุกต์อาหารใต้ได้อย่างลงตัวนั่นก็คือ แกงส้มปลาแซลมอน (300 บาท) เป็นแกงส้ม(แกงเหลือง)รสจัดจ้านแบบคนใต้ เข้มข้นน้ำน้อย เครื่องแกงส้มนั้นเชฟสุบินโขลกเองกับมือ มีส่วนผสมของพริก ขมิ้น กระเทียม พริกไทยดำ และส้มควายตากแห้งที่ใส่เพื่อให้รสเปรี้ยว และยังใส่ปลาแซลมอนชิ้นใหญ่มาด้วย ลิ้มรสชาติแกงส้มโดนใจปากมากๆ ตรงที่น้ำแกงส้มเข้มข้นถึงเครื่องแกงออกรสเปรี้ยวเผ็ดลิ้น ส่วนเนื้อปลาแซลมอนก็หวานนุ่มชุ่มรสน้ำแกง กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ขอบอกว่าหรอยแรง
โอเอ๋ว
       เมนูสุดท้ายมาปิดมื้ออิ่มล้างปากกันด้วยของหวานที่มีชื่อว่า โอเอ๋ว (60 บาท) เป็นของหวานที่มีให้กินเฉพาะที่ภูเก็ต ลักษณะเหมือนน้ำแข็งใส โอเอ๋วเป็นของหวานทำมาจากวุ้นของเมล็ดโอเอ๋ว (คล้ายเมล็ดแมงลัก) ที่แช่น้ำและนำมาผสมกับกล้วย ออกมาเป็นวุ้นใสๆ แล้วก็ ใส่ถั่วแดง น้ำเชื่อม และน้ำแข็งป่น กินแล้ววุ้นเคี้ยวนุ่มลื่นคอ หวานเย็นสดชื่นปาก กินแล้วช่วยคลายร้อนได้ดี
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลม
       ทั้งหมดที่ได้ชิมมานี้ถือว่าเป็นเมนูเด่นจานเด็ดที่ชวนกินเอามากๆ แต่ก็ยังมีอาหารจานเด่นอีกหลายอย่างที่น่าลิ้มลอง อาทิ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง (180 บาท) ผัดไท (160 บาท) เปปเปอร์สเต็ก (600 บาท) ไทเกอร์พอนบาร์บีคิว (660 บาท) และอีกหลากหลายอาหารที่ชวนกิน ซึ่งทางห้องบานบุรี โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา นั้นยินดีมอบความอิ่ม พร้อมความอร่อย ให้กับนักกินทุกคนที่แวะเวียนมา
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ห้องอาหารบานบุรี ตั้งอยู่ภายในโรงแรม ดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา เลขที่ 18 ถ.ประชานุเคราะห์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18.30-23.00 น. ครัวปิด 22.00 น. ตอนเช้ามีบุฟเฟต์อินเตอร์เนชั่นแนล บริการ เวลา 06.30-10.00 น. ทางห้องอาหารรับจัดงานเลี้ยงต่างๆ ด้วย โทร. 0-7634-0778 ถึง 9

"T.House" เลิศรสอาหารเวียดนาม

บรรยากาศภายในร้าน T.House
       สำหรับนักกินทั้งหลายที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ อาหารเวียดนามนับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่อุดมไปด้วยพืชผักสมุนไพร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งของบรรดานักกินเพื่อสุขภาพทั้ง หลาย ที่ตัวของ "ตระเวนกิน" เองก็ชื่นชอบในรสชาติของอาหารเวียดนามไม่น้อย
      
       ดังนั้นในมื้อรักสุขภาพมื้อนี้ "ตระเวนกิน" จึงอยากจะชวนผู้ที่รักสุขภาพทั้งหลายไปตระเวนกินอาหารเวียดนามรสเยี่ยมกันที่ ร้าน "T.House" ที่ตั้งอยู่ตรงซ.พหลโยธิน 5หรือซ.ราชครู ร้านนี้เป็นร้านอาหารเวียดนามขนาดใหญ่เปิดให้บริการความอร่อยมากว่า 20 ปีแล้ว เริ่มแรกเดิมทีนั้น ร้านT.House ตั้งอยู่ตรง ซ.อารีย์ 3 และย้ายมาที่ ซ.ราชครู ปัจจุบันร้านที่ย้ายมาเปิดขายได้ประมาณ 7 ปีแล้ว
บรรยากาศห้องส่วนตัว
       สำหรับอาหารเวียดนามของร้านนี้ เป็นสูตรของชาวเวียดนามแท้ๆ ที่นำมาประยุกต์รสชาติให้เข้ากับลิ้นของคนไทยมากขึ้น วัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาใช้นั้นคัดเลือกคุณภาพมาเป็นอย่างดี ผักสดที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักและเครื่องเคียงในอาหารจานต่างๆ ก็ใช้ผักปลอดสาร ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับนักกินทุกคน
      
       เมื่อมาถึงร้านและเดินเข้ามาหาโต๊ะที่นั่งในมุมที่ถูกใจได้แล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟตะกร้าผักสดๆ ที่เป็นเครื่องเคียงของอาหารจานต่างๆ ทันทีรวมถึงยังมีน้ำจิ้มแครอท ที่มีส่วนผสมของแครอท หัวไชเท้า พริกสด ปรุงรสให้ออกเปรี้ยวหวาน กินคู่กับอาหารเวียดนามได้เกือบทุกจาน
ขลุ่ยปู
       จากนั้นก็ลงมือสั่งอาหารจานเด็ดมาชิมกันได้เลย ซึ่งในมื้อนี้เราขอแนะนำอาหารเวียดนามจานเด็ดที่ได้ลองลิ้มจนติดใจและขอนำ มาบอกต่อให้ได้มากินกันก็มีอยู่หลายเมนู นำเสนอ ขลุ่ยปู (150 บาท) มาลองชิมเป็นจานแรก ขลุ่ยปูจานนี้ มีส่วนผสมของเนื้อปู เนื้อหมูสับ นำมาปรุงรส แล้วห่อม้วนด้วยแป้งโรตีให้เป็นแท่งยาวๆ แล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับน้ำจิ้มหวาน ที่มีถั่วบดและพริกตำผสมเข้าด้วยกัน ตัวขลุ่ยปูกรอบนอก ไส้ในอร่อยกลมกล่อม หอมหวนชวนกิน ได้รสปูทุกคำที่กัดกิน
ขนมถ้วยหน้าหมู
       ต่อด้วย ขนมถ้วยหน้าหมู (120 บาท) หน้าตาเหมือนขนมถ้วยบ้านเรา แต่ต่างกันที่ตัวแป้ง เป็นแป้งล้วนๆ ไม่มีรสหวาน และกินคู่กับหน้าหมูสับ ซึ่งเป็นหมูสับผสมกับเห็ดหูหนู แครอท และหอมหัวใหญ่ นำมาปรุงรสผัดให้สุก แล้วราดบนตัวแป้ง กินคู่กับน้ำจิ้มหวาน กินแล้วเนื้อแป้งเหนียวนุ่ม หน้าหมูออกรสเค็มเล็กน้อย หอมกลิ่นต้นหอมที่โรยหน้า
ข้าวเกรียบปากหม้อญวน
       เมนูถัดมาคือ ข้าวเกรียบปากหม้อญวน (หมู 120 บาท / กุ้ง 150 บาท) ที่สามารถเลือกได้ว่าจะกินไส้หมู หรือไส้กุ้ง ส่วนที่ได้ลิ้มลองเป็นไส้หมู ซึ่งเป็นไส้เดียวกับที่ราดอยู่บนขนมถ้วยหน้าหมู แต่ห่อด้วยแป้งขนมเบื้องญวนแทน และโรยหน้าด้วยหมูยอหั่นเป็นเส้นๆ และหอมเจียว ชิมแล้วตัวแป้งนุ่มเหนียวเข้ากันกับไส้หมูที่ออกกลมกล่อม และเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มหวาน หรือน้ำจิ้มแครอทถูกปากจริงๆ
ขนมเบื้องญวน
       ตามติดมาด้วย ขนมเบื้องญวน (120 บาท) ที่สามารถเลือกไส้หมู, ไก่, หรือ กุ้ง ก็ได้ โดยตัวไส้จะนำมาผัดกับถั่วงอก ต้นหอม แครอท และกุ้ยช่าย ปรุงรส แล้วห่อด้วยแผ่นแป้งพับครึ่งที่ทำจากแป้งผสมกับขมิ้น ผงกะหรี่ และไข่ไก่ เป็นแผ่นแป้งที่บางกรอบ ตัวไส้หอมกลิ่นของกุ้ยช่าย ส่วนรสชาติออกเค็มนิดๆ หวานเล็กน้อย และกินกับอาจาดเปรี้ยวๆ หวานๆ ช่างแกล้มเข้ากันดีนักเชียว
สลัดปลาฮานอย
       จากนั้นมากินเมนูปลาเพื่อสุขภาพชื่อว่า สลัดปลาฮานอย (450 / 500 บาท) ทางร้านนำปลากระพงมาทอด แล้วราดด้วยน้ำยำสามรส ที่มีส่วนผสมของสับปะรส แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น มะเขือเทศ แครอท กุ้งแห้ง ถั่วลิสง และพริกซอย กินคู่กับหมี่ขาวลวก และผักดองแก้เลี่ยน เมนูนี้รสชาติอร่อยติดใจ ปลาสดหวานกรอบนอกนุ่มใน เข้ากับน้ำราดรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดแบบกลมกล่อม และได้ประโยชน์จากผลไม้นานาชนิดๆ
สุกี้เวียดนาม
       เปลี่ยนมาซดน้ำกันบ้างกับเมนูนี้ สุกี้เวียดนาม (300 บาท) เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาด้วยความอร่อยสูตรเฉพาะ ซึ่งน้ำซุปที่ใช้นั้นจะใช้น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวอ่อนผสมกับน้ำซุปกระดูก หอมหัวใหญ่ ตะไคร้ และใบโหระพา เคี่ยวจนได้น้ำซุปรสหอมหวาน ส่วนเครื่องสุกี้ก็จะมี กุ้ง ปลาหมึก เนื้อไก่ ตะไคร้ มะม่วง พริก กระเทียม แตงกวา และกล้วยดิบ จะกินแบบสุกี้ทั่วไปๆ หรือกินแบบนำเครื่องมาห่อกับเส้นขนมจีน แผ่นแป้งและผักกาดหอม ห่อเป็นคำจิ้มน้ำจิ้มกะปิสูตรเฉพาะ ได้รสชาติเค็มๆ เผ็ดๆ ได้กลิ่นหอมสมุนไพร และซดน้ำซุปร้อนๆ รสหวานกลมกล่อมคล่องคอดี
กล้วยหอมทอด
       เหล่านี้คือเมมนูที่นำมาแนะนำบอกล่าว แต่ว่าทางร้านก็ยังมีอาหารเวียดนามอร่อยๆ ไว้คอยบริการอีกหลากหลายเมนู อาทิ กุ้งพันอ้อย (ชิ้นละ 80 บาท) ปลาแรดฮานอย ( 400 บาท) แหนมเนือง (ชุดละ 200 บาท) เส้นหมี่หมูย่าง (120 บาท) ก๋วยจั๊บเวียดนาม (120 บาท) เรียกว่าหากนักกินท่านไหนนึกอยากจะดูแลสุขภาพด้วยการเลือกกินอาหารเวียดนามขึ้นมาบ้าง ก็พามากันได้ที่ร้าน “T.House” แห่งนี้ขอบอกว่าไม่มีคำว่าผิดหวังทั้งด้วยรสชาติอาหารที่ดี และบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งสบายๆ