Showing posts with label อาหาร. Show all posts
Showing posts with label อาหาร. Show all posts

“ห่านฮ่องเต้” สุดยอดห่านรสโอชะ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2555 12:33 น.
ด้านหน้าร้านห่านฮ่องเต้
       จะเป็นเป็ด ไก่ หรือห่าน ถ้าเห็นแขวนเรียงรายอยู่หน้าร้านทีไร “ผ่านมาแวะกิน” ก็ต้องเกิดอาการหิวทุกที เป็นต้องเลี้ยวเข้าไปขอลองชิมเมนูเด็ดของร้านทุกครั้ง อย่างในครั้งนี้ที่ผ่านมาแถวติวานนท์ ก็มองเข้าไปเห็นร้าน “ห่านฮ่องเต้” มีห่านพะโล้แขวนเรียงไว้เต็มหน้าร้าน เลยต้องเข้าไปลองชิมสักที
      
       เดินเข้าไปนั่งในร้านก็ได้เจอคุณธเนศพล อัครนันททรัพย์ เจ้าของร้าน จึงขอนั่งคุยกันก่อนที่จะได้ลองลิ้มของอร่อย โดยคุณธเนศพลเล่าให้ฟังว่า ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2514 รุ่นคุณพ่อ แต่ขายเฉพาะขาหมูพะโล้ ต่อมาก็เริ่มขายห่านพะโล้ แล้วหันมาใช้ชื่อห่านฮ่องเต้ตั้งแต่ปี 2522
คุณธเนศพล อัครนันททรัพย์ และภรรยา
       ของอร่อยของร้านก็คือห่านพะโล้และขาหมูพะโล้ ที่เป็นสไตล์จีน และอีกหนึ่งจุดเด่นก็คือ ข้าวสวย (ถ้วยละ 8 บาท) ของทางร้านนอกจากจะใช้ข้าวหอมมะลิแล้ว ก็ยังนำไปอบรวมกับเผือก ให้ความหอมนุ่ม และเพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วย
      
       มาถึงร้านทั้งทีก็ต้องลองเมนูที่ตั้งใจไว้ ห่านพะโล้ (จานเล็ก 120 บาท จานใหญ่ 450 บาท) ทางร้านใช้ห่านรุ่นมาทำความสะอาด ต้มกับเครื่องพะโล้และเครื่องยาจีน ปรุงรส แล้วต้มต่อจนได้ที่ จากนั้นจึงนำเนื้อห่านมาสไลด์เป็นชิ้นพอคำ ส่วนน้ำที่ต้มห่านก็นำมาปรุงรสเพิ่มแล้วใช้ราดเสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อห่าน กินคู่กับน้ำส้มพริกดอง พริกสด และกระเทียม ข้อดีของห่านคือไม่มีกลิ่นสาบ ลองชิมแล้วก็จริงดังว่า ห่านเนื้อนุ่มได้กลิ่นเครื่องยาจีน รสชาติออกเค็มๆ หวานๆ ตัดเปรี้ยวด้วยน้ำส้มพริกดองอร่อยลงตัว หรือจะสั่งเป็น ข้าวหน้าห่าน (60 บาท) ก็ยังได้
ห่านพะโล้
       ตามมาด้วยเมนู ขาหมูพะโล้ (จานละ 60 บาท) หรือจะเป็น ข้าวขาหมู (40 บาท) ก็อร่อยไม่แพ้กัน เพราะเป็นต้นตำรับตั้งแต่รุ่นพ่อ ใช้ขาหมูที่เผาไฟแล้วนำมาล้างให้สะอาด ก่อนจะต้มกับเครื่องพะโล้และเครื่องยาจีน ตุ๋นจนเปื่อยเข้าเนื้อ และยังมี คากิ (ขาละ 60 บาท) ไส้หมูพะโล้ (จานละ 50 บาท) ให้เลือกชิมด้วย ลองลิ้มขาหมูหอมพะโล้ หั่นเป็นชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มปาก เนื้อนุ่มออกรสหวานๆ เค็มๆ กินคู่กับผักกาดดองออกเปรี้ยวเล็กน้อย ส่วนคากิก็เปื่อยนุ่ม ไส้หมูนุ่มไม่สาบ
ขาหมูพะโล้
       กระเพาะปลาน้ำแดง (เล็ก 40 บาท ใหญ่ 100 บาท) เมนูนี้ก็ต้องลองชิม ทางร้านใช้กระเพาะปลาอย่างดี ปรุงน้ำแดงจากน้ำซุปซี่โครงไก่ ใส่กระเพาะปลา เนื้อไก่ และเห็ดหอม เป็นสไตล์จีน ดมกลิ่นจะหอมน้ำมันงา ลองชิมได้รสกลมกล่อมพอดี กระเพาะปลานุ่มเด้งอร่อย
กระเพาะปลาน้ำแดง
       ส่วน ต้มจับฉ่าย (เล็ก 30 บาท ใส่ถุง 50 บาท) ก็เป็นเมนูเฉพาะของทางร้าน เพราะใส่แค่ผักโขมกับผักกวางตุ้งนำมาผัดน้ำมันให้หอม จากนั้นก็ต้มกับน้ำซุปไก่ แล้วใส่หมูสามชั้น ตุ๋นจนเปื่อย ได้ต้มจับฉ่ายรสชาติกลมกล่อม ผักนุ่มเปื่อย เคี้ยวง่าย อร่อยถูกใจ
      
       และเมนูอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน จนต้องแนะนำให้มาลองชิม อาทิ ต้มมะระยัดไส้หมูสับ (30 บาท) ต้มหน่อไม้จีน (40 บาท) กุนเชียงทอด (50 บาท) หอยลายผัดน้ำพริกเผา (50 บาท) เป็นต้น ซึ่ง “ผ่านมาแวะกิน” ก็ไม่อยากให้พลาดมาชิมด้วยประการทั้งปวง
ต้มจับฉ่าย
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “ห่านฮ่องเต้” ตั้งอยู่ที่ 54/53 ถ.ติวานนท์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทาง หากมาจาก ถ.งามวงศ์วาน ให้มุ่งหน้ามายังแยกแคราย จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ ถ.ติวานนท์ ขับตรงมาเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนน ก่อนถึงแยกสนามบินน้ำ เยื้องกับซอยทานสัมฤทธิ์ สามารถจอดรถได้ริมถนน ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.30-16.00 น. โทร. 0-2950-3165, 08-1921-3165

2 เมนู แสนอร่อย มากคุณค่า

อาหารเด็ก

2 เมนู แสนอร่อย
(Mother & Care)
เรื่อง : Toddler Menu

อาหารเด็ก

ข้าวผัดกระเทียม

icon ส่วนผสม

          ข้าวสุก 2 ถ้วยตวง

          ไข่ไก่ 1 ฟอง

          กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ

          เนยจืด, ซอสปรุงรส, ต้นหอมซอย

  วิธีทำ

          1.ตั้งกระทะให้ร้อนใส่เนยจืดและกระเทียมสับลงไปผัดจนเหลืองหอม

          2.ตอกไข่ลงไปยีจนเกือบสุก เทข้าวลงผัด เหยาะซอสปรุงรส เพื่อเพิ่มรสชาติเล็กน้อย โรยต้มหอมซอย ผัดให้เข้ากันเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

อาหารเด็ก

ไก่ทอดแสนอร่อย

icon ส่วนผสม
           ปีกไก่บน 5-6 ชิ้น

           ไข่ไก่ 1 ฟอง

           กระเทียมกลีบเล็ก 10-15 กลีบ

           พริกไทยเม็ด 7-8 เม็ด

           รากผักชีหั่นหยาบ ๆ 2-3 ราก

           ซีอิ๊วขาว, แป้งชุบทอด, เกล็ดขนมปังชนิดหยาบ

วิธีทำ

          1.ล้างไก่ให้สะอาด เลาะโคนปีกไก่แล้วรูดเนื้อไก่ให้มารวมกันที่โคนปีก

          2.โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชีให้ละเอียด ใส่ลงไปผสมกับปีกไก่ที่ล้างเตรียมไว้ เหยาะซีอิ๊วขาวเล็กน้อย แล้วคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน หมักไว้ในตู้เย็นประมาณ 20-30 นาที

          3.นำไก่ที่หมักไว้คลุกแป้งให้ติดบาง ๆ จากนั้นนำไปชุบไข่ไก่ที่ตีจนเข้ากัน และคลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่วชิ้น

          4.ตั้งน้ำมันในกระทะพอร้อน นำไก่ลงไปทอดด้วยไฟแรงปานกลาง พอไก่เริ่มสุกเหลืองทั่ว ให้เร่งไฟแรงขึ้นเป็นการไล่น้ำมันออกจากชิ้นไก่ ไก่ที่ทอดจะไม่อมน้ำมัน

          5.ตักขึ้นพักวางบนตะแกรงเพื่อให้สะเด็ดน้ำมันหรือวางบนกระดาษซับน้ำมันก็ได้ เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หรือมายองเนส



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
kapook.com

Vol.8 No.88 เมษายน 2555

“ครัวสารสจัด” จัดเต็มกับอาหารไทยรสจัดจ้าน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2555 16:56 น.



บรรยากาศภายในร้าน “ครัวสารสจัด”
       เสน่ห์ของรสชาติอาหารไทย ที่มีทั้งความหวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด แบบจัดจ้านครบรสถึงเครื่อง มันช่างเป็นอาหารที่ถูกปากและถูกใจ “ตระเวนกิน” เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากมิตรรักนักกินคนไหนที่พิสมัยอาหารไทยแบบจัดจ้านเหมือนเราแล้วล่ะก็ มื้อนี้เป็นได้สมใจปากกันแน่
     
       เพราะ “ตระเวนกิน” จะพาไปอิ่มอร่อยกับอาหารไทยรสจัดจ้าน กันที่ร้าน “ครัวสารสจัด” ที่ ตั้งอยู่ตรง ซ.วิภาวดีรังสิต 44 เป็นร้านอาหารไทยเก่าแก่ที่เปิดขายมานานกว่า 20 ปี โดดเด่นด้วยอาหารไทยรสชาติจัดจ้านถึงเครื่อง ที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะ และเน้นเมนูปลาเพื่อสุขภาพ โดยมีเมนูอาหารจานเด็ดที่ชวนกินมากมาย
หอยแครงดิสโก้
       สำหรับในมื้อนี้เราขอแนะนำเมนูเด่นๆ ที่ขายดี และถ้ามาถึงร้านแล้วต้องสั่งมาชิมกันให้ได้ เริ่มด้วยเมนูแรก หอยแครงดิสโก้ (130 บาท) เป็นหอยแครงตัวใหญ่กำลังดีลวกสุก (เลือกสั่งได้จะเอาสุกมากสุกน้อยแค่ไหน) และแกะเปลือกมาเรียบร้อย ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟูดสูตรเฉพาะของทางร้าน ชิมแล้วขอยกนิ้วให้ในความหวานสดของหอยแครงที่เคี้ยวแล้วเนื้อหอยเด้งกรอบ ผสานรสชาติเข้ากับน้ำจิ้มรสเด็ดแซบเด็ดถึงใจจริงๆ
ยำถั่วพู
       เมนูถัดมาเป็น ยำถั่วพู (180 บาท) ที่ชวนกินด้วยถั่วพูสดๆ นำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ และยำใส่น้ำพริกเผา กะทิ หมูสับ กุ้ง พริกขี้หนู หอมแดง มะนาว มะพร้าวคั่ว ใส่ไข่ต้มและกุ้งด้วย โรยหน้าด้วยหอมเจียว และพริกทอด กินแล้วถั่วพูสดเคี้ยวกรอบเข้ากับรสชาติน้ำยำจัดจ้านถึงเครื่องดีแท้
หมูสะเต๊ะ
       ต่อด้วยเมนูนี้ หมูสะเต๊ะ (ชุดเล็ก 80 บาท ชุดใหญ่ 120 บาท) มาแบบครบชุด มีหมูสะเต๊ะเสียบไม้ย่างมาหอมๆ ทางร้านเลือกใช้เนื้อหมูส่วนที่คัดมาเป็นพิเศษมาหมักกับเครื่องหมูสะเต๊ะ นานกว่า 2 วัน ก่อนจะนำมาเสียบไม้ย่างเสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับน้ำจิ้มเข้มข้นที่มีส่วนผสมของถั่วบดละเอียด และมีอาจาดมาให้กินเคียงด้วย ลิ้มรสหมูสะเต๊ะหอมกลิ่นเครื่องเทศเนื้อนุ่มได้รสเครื่องหมักที่เข้มข้น จิ้มกินกับน้ำจิ้มรสดี
วุ้นเส้นผัดไข่ใส่เนื้อปู
       จากนั้นมาชิม วุ้นเส้นผัดไข่ใส่เนื้อปู (160 บาท) เป็นวุ้นเส้นผัดกับต้นหอม แครอท มะเขือเทศ ใส่ไข่ ใส่เนื้อปูก้อนโต และเด่นตรงที่ใส่กระเทียมดองด้วย ผัดมาแบบแห้งๆ กินแล้วถูกปากตรงที่วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม ไม่แฉะ ได้รสชาติกระเทียมดองรสกลมกล่อมถูกปากมาก
ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม
       และมากินเมนูปลาเพื่อสุขภาพกันบ้าง ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม (เล็ก 380 บาท กลาง 450 บาท ใหญ่ 550 บาท) เป็นปลาเนื้ออ่อนสดๆ นำมาชุบแป้งที่ปรุงรสไว้แล้วทอดจนเหลืองกรอบ และโรยด้วยกระเทียมเจียวปรุงรสทอดกรอบอีกที ลิ้มรสปลาเนื้ออ่อนเนื้อกรอบนอกนุ่มใน กินเข้ากับกระเทียมทอดกรอบหอมๆ และมีน้ำจิ้มโบราณที่ทางร้านทำขึ้นมามีส่วนผสมของมะม่วง มะเขือเปราะ ตะไคร้ พริกขี้หนู รสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ และยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดเผ็ดแซบโดนใจ
กุ้งแม่น้ำฉู่ฉี่
       ตามติดมาด้วยเมนูนี้ กุ้งแม่น้ำฉู่ฉี่ (คิดเป็นตัว ตามขนาดของกุ้ง ราคาประมาณ 350-400 บาทต่อตัว) ที่ชวนกินมากๆ กับกุ้งแม่น้ำตัวโต สดๆ เอามาทอด และทำเครื่องแกงฉู่ฉี่ตามสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้านราดมาบนตัวกุ้ง โรยหน้าด้วยใบมะกรูดหอมๆ พริกชี้ฟ้าและหัวกะทิ ลิ้มรสกุ้งเนื้อแน่นหวานชุ่มรสชาติเครื่องแกงฉู่ฉี่รสจัดจ้านถึงเครื่องแกง หอมหวาน มันกะทิ ออกเผ็ดนิดๆ
แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย
       ส่งท้ายด้วยเมนู แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย (280 บาท) เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมจีน (30 บาท) และมาเป็นแบบหม้อไฟ แกงเขียวหวานของที่นี่ทางร้านโขลกเครื่องแกงเขียวหวานเอง และแกงใส่กะทิคั้นสด ใส่ยอดมะพร้าว มะเขือยาว มะเขือเปราะ ใบโหระพาหอมๆ และลูกชิ้นปลากรายก็ทำเองทำจากเนื้อปลากรายแท้ๆ นำมาขูดและปั้นเองไม่ได้ผสมแป้ง ซดน้ำแกงเขียวหวานร้อนๆ ได้กลิ่นเครื่องแกงหอมๆ รสชาติเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่องแกงจริงๆ ส่วนลูกชิ้นปลากรายเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากได้รสชาติเนื้อปลากรายแท้ๆ
บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านนอกรับลมเย็นๆ
       ถึงแม้จะแนะนำเมนูเด่นไปก็มากแล้ว แต่ก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีก อาทิ ทอดมันปลากราย (150 บาท) ปลาช่อนนานึ่งสมุนไพร (320 บาท) ต้มโคล้งปลาสลิด (290 บาท) เนื้อปูผัดผงกะหรี่ (480 บาท) ฯลฯ และยังมีของหวานที่ชวนกินด้วยมี ลูกตาลลอยแก้ว (40 บาท) ไอศกรีมโฮมเมด มีรสกะทิรวมมิตรและเผือก (40 บาท) ที่ชวนสั่งให้มากินแบบอิ่มท้องกับบรรยากาศของร้าน “ครัวสารสจัด” ที่นำบ้านมาดัดแปลงให้เป็นร้านอาหารที่ชวนนั่งแบบผ่อนคลาย ในบรรยากาศของบ้านสวยที่ตกแต่งด้วยของเก่างามๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งมากมาย และมีบรรยากาศของสวนด้านนอกชวนนั่งรับลมเย็นสบาย
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
       “ครัวสารสจัด” ตั้ง อยู่ที่ 112/1 ซ.วิภาวดีรังสิต 44 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.การเดินทางจาก ถ.วิภาวดีรังสิต เลี้ยวเข้า ซ.วิภาวดีรังสิต 44 ตรงเข้ามาประมาณ 200 ม.จะเห็น ร้านครัวสารสจัด อยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดรถบริการ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.30 น.(หยุดอาทิตย์ที่ 3 ของเดือน 1 วัน) ควร โทร.มาจองโต๊ะก่อน และทางร้านมีบริการจัดเลี้ยงภายในร้าน โทร. 0-2561-3355, 0-2579-0021, 08-1496-9181

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

หรรษาหน้าร้อน กับข้าวเหนียวมะม่วงรสเด็ดเจ้าดัง ที่ร้าน “แม่วารี”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2555 10:40 น.
ด้านหน้าร้านแม่วารี
       หน้าร้อนแบบนี้ เดินไปทางไหนก็เห็นมีแต่ผลไม้นานาชนิดวางขายจนเลือกไม่ถูก สมกับเป็นฤดูแห่งการชวนชิมผลไม้เสียจริง แต่สำหรับผลไม้อันดับหนึ่งในช่วงนี้เห็นทีจะไม่พ้น “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่แม้จะเป็นตัวเพิ่มน้ำหนักที่ดีเยี่ยม แต่ก็อดใจไม่ให้ลิ้มลองไม่ได้จริงๆ
      
       มื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” เลยจะชวนมาชิมข้าวเหนียวมะม่วงอร่อยๆ กันที่ร้าน “แม่วารี” ร้านชื่อดังในย่านทองหล่อ ที่ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องมาลองลิ้ม ทีเด็ดอยู่ที่ข้าวเหนียวมูนของทางร้าน ซึ่งเป็นสูตรเด็ดของแม่วารี หรือคุณวารี จีนสุวรรณ ที่เปิดขายมาหลายสิบปีแล้ว
ข้าวเหนียวมูน มะม่วงน้ำดอกไม้สุก และถั่วทองสำหรับโรยหน้า
       ความอร่อยเด็ดนั้นอยู่ที่วิธีการทำ ที่พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกใช้ข้าวเหนียวหอม สั่งมาเป็นพิเศษจากเชียงราย ส่วนกะทิที่ใช้ก็ต้องเป็นมะพร้าวแก่ๆ นำมาคั้น เพื่อให้ได้น้ำกะทิที่เข้มข้น สีสวย โดยจะคั้นกันสดๆ ไม่มีทิ้งค้างคืน ส่วนกรรมวิธีการทำนั้น เมื่อได้ข้าวเหนียวมาแล้วก็ต้องนำมาขัดแห้งกับสารส้ม เพื่อให้เกิดความเงา จากนั้นนำข้าวเหนียวมาแช่น้ำล้างกับสารส้มและขัดอีก 2-3 น้ำ จากนั้นก็ต้องล้างน้ำเปล่าทิ้งให้สารส้มหมดไป จากนั้นก็ต้องแช่ข้าวเหนียวจนนิ่ม แล้วจึงนำมานึ่ง สุกแล้วค่อยนำมามูนกับเกลือ น้ำตาล และกะทิ
      
       กว่าจะได้ข้าวเหนียวมูนอร่อยๆ ออกมาให้ลิ้มชิมรสกันนั้นเรียกว่าต้องผ่านหลากหลายขั้นตอนจริงๆ ซึ่งนอกจาก ข้าวเหนียวมูนสีขาว (กิโลกรัมละ 160 บาท) ก็ยังมี ข้าวเหนียวมูนใบเตย (กิโลกรัมละ 160 บาท) ที่ใช้ใบเตยแท้ๆ ให้สีสวยๆ แถมกลิ่นหอมชื่นใจ ซึ่งเมื่อตักข้าวเหนียวกลิ่นหอมๆ เข้าปากแล้ว ได้รสชาตินุ่มละมุนลิ้นเป็นที่ยิ่ง และนอกจากข้าวเหนียวมูนขาวกับใบเตยแล้ว ยังมี ข้าวเหนียวมูนสีดำ (กิโลกรัมละ 200 บาท) ให้เลือกชิมด้วย แต่จะทำออกมาน้อยกว่าสองอย่างแรก และถ้าจะให้เด็ดจริงๆ ต้องโรยหน้าข้าวเหนียวด้วย ถั่วทอง (กระปุกละ 40 บาท) ที่เคี้ยวแล้วกรุบๆ เค็มๆ เพิ่มความมัน
ข้าวเหนียวมะม่วงขายเป็นชุด
       เมื่อชิมข้าวเหนียวแล้ว สิ่งที่ต้องมาคู่กันก็คือมะม่วงสุกสีเหลืองทอง ซึ่งทางร้านมีให้เลือกทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้ และมะม่วงอกร่อง (ราคาตามฤดูกาล) จะซื้อมะม่วงไปกินที่บ้าน จะสั่งพร้อมกับข้าวเหนียวมูนแล้วให้ทางร้านปอกมะม่วงให้เลยก็ได้ หรือจะเลือก ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นชุด (ชุดละ 90 บาท) ก็สามารถเปิดลิ้มรสกันได้เลยทันที
      
       แต่นอกจากจะกินข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงแล้ว ทางร้านก็ยังมีขนมหวานให้ลิ้มรส อย่างช่วงนี้ก็ต้องลอง ข้าวเหนียวทุเรียน (ชุดละ 70 บาท) ที่ใช้ทุเรียนหมอนทองสุกกำลังดี คัดสรรมาทั้งทุเรียนและน้ำกะทิ กินคู่กับข้าวเหนียวมูน หวานทุเรียน หอมมันกะทิ ข้าวเหนียวนุ่ม เคี้ยวแล้วอร่อยอวลอยู่ในปาก
ข้าวเหนียวทุเรียน
       และทางร้านยังมีข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ให้ชิมอีกด้วย เริ่มต้นที่ สังขยา (ถ้วยละ 40) เนื้อเนียนกลิ่นหอมรสหวานชื่นใจ ต่อด้วย หน้าปลา (ถ้วยละ 40) หวานๆ เค็มๆ หน้ากุ้ง (ถ้วยละ 40) รสชาติกลมกล่อม และ หน้ากระฉีก (ถ้วยละ 40) ที่อร่อยไม่แพ้กัน หากจะกินคู่กับข้าวเหนียว ก็สั่ง ข้าวเหนียวหน้า (ชุดละ 35 บาท) ซึ่งจะได้ข้าวเหนียวมูนคู่กับหน้าหนึ่งหน้า แต่ถ้าอยากชิมทุกหน้าก็ต้องสั่ง ข้าวเหนียวหน้ารวม (ชุดละ 50 บาท)
      
       หากใครจะมาชิมข้าวเหนียวมูนที่ร้านนี้ ต้องบอกว่าทางร้านไม่มีพื้นที่ให้นั่งที่ร้าน มีแค่บริการสั่งกลับบ้าน หากใครจะโทรสั่งแล้วค่อยมารับไปก็ได้ นอกจากนี้ทางร้านยังเปิดตลอด 24 ชั่วโมง (ข้าวเหนียวมูนมีเฉพาะช่วงเวลา 05.00-24.00 น.) ใครหิวของอร่อยยามไหนก็มากันได้เลย
ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “แม่วารี” ตั้งอยู่เลขที่ 1 ปากซอยทองหล่อ ถ.สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท ให้ตรงมาที่ซอยสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) เลี้ยวเข้าซอยทองหล่อไปประมาณ 20 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนน เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 0-2392-4804, 0-2714-4223 www.maevaree.com