ขนมดอกจำเจียก

credit  nanogang bloggang



ส่วนผสม วิธีการทำ
เครื่องปรุงไส้

มะพร้าวทึนทึกขูด 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าวย่อยม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุงแป้ง
แป้งข้าวเหนียวโม่แล้วทับน้ำ 2 ถ้วยตวงหรือแป้งข้าวเหนียวแห้ง นวดกับน้ำพอขึ้น
กระทะแบนที่ไม่มีขอบ



ตวงมะพร้าวอัดแน่น น้ำตาล แล้วหัวกะทิใส่กระทะทอง ยกขึ้นตั้งไฟใช้ พายกวนไปจนเดือด จึงโรยแป้งลงไปคน ต่อไปจนแป้งได้ที่แล้วยกลง
เมื่อหน้ากระฉีกเย็นปั้นเป็นก้อน
2.1 ปั้นเป็นก้อนกลมแบนขนาดพอคำ
2.2 ปั้นเป็นแท่งกลมยาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 1/2 เซนติเมตร ยาว 5 เซนติเมตร แล้วบรรจุลงขวดโหล หรือภาชนะปิดสนิท อบ ดอกมะลิ กระดังงา ค้างคืนไว้
ยีแป้งข้าวเหนียวที่ทับน้ำแห้งแล้วให้เป็นผง ถ้ายังชื้นมาก ก็ผึ่งให้หมาด จึงจะยีได้สะดวก แต่แป้งต้องชื้นอยู่เสมอ
ตั้งกระทะแบนบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน (ไฟแรงหรือไฟ อ่อนเกินไปจะทำให้แป้งไม่ติด กันเป็นแผ่น) พอกระทะ เริ่มร้อนพอเหมาะ ให้ยีแป้งผ่านกระชอนลวดตาละเอียด ๆ หรือแล่ง โรยให้แป้งบางเสมอกันเป็นแผ่นกลม เส้นผ่า ศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว พอขอบแป้งล่อนขึ้นจากกระทะ เอาไส้ที่อบไว้ วางตรงกลางแล้วใช้มีดบางแซะขอบแป้ง ตลบเข้าหอ่ไส้ ดังนี้
4.1 ถ้าไส้เป็นก้อนกลมแบนแซะแป้งพับเป็นรูปสี่เหลี่ยม จัตุรัส
4.2 ถ้าไส้เป็นแท่งกลมวางไส้ริมแป้งด้านใดด้านหนึ่ง แล้วม้วนให้แป้งห่อ
จะอบดอกมะลิค้างอีกคืนหนึ่ง หรือจะเสิร์ฟเลยก็ได้

หมายเหตุ
น้ำตาลที่ใช้ถ้าไม่ชอบน้ำตาลปี๊บ หรือต้องการให้ไส้ขนมขาวใส ให้ใช้น้ำตาลทรายแทน การใช้น้ำตาลทรายอาจเจือสี (อาหาร) อ่อน ๆ ลงไป เช่นชมพู เหลือง ฟ้า เพื่อให้ชวนกินยิ่งขึ้น

กลเม็ดเคล็ดลับ
ขนมต้องชิ้นเท่า ๆ กัน แป้งเป็นแผ่นบางสีขาวกรอบ ไส้ขนม นุ่มและหอม ส่วนแป้งกรอบ รสหวานหอม

สาเกเชื่อม

credit  amazing lifestyle bloggang


ส่วนผสม
สาเกข้าวเหนียว 1 ผล
น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำดอกไม้ 5 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ปอกเปลือกสาเก ผ่าออกเป็นชิ้นใหญ่ๆ ฝานไส้ทิ้ง แช่น้ำปูนใส
2. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำดอกไม้ ตั้งไฟพอละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟอีกครั้ง
3. ใส่สาเกลงเชื่อมด้วยไฟกลาง เชื่อมจนเหนียว
4. ตั้งกะทิให้เดือด รับประทานกับสาเก

ห่อหมกปลา

credit amazing lifestyle bloggang


ส่วนผสม

-น้ำพริกแกงคั่ว

-เนื้อปลาขูด

-น้ำกะทิ

-ใบยออ่อน ใบโหระพา

-พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย

-ใบมะกรูดหั่นฝอย

-น้ำปลา

-กะทงใส่ห่อหมก



วิธีทำ

1 เอาหัวกะทิตั้งไฟพอเดือดไว้ราดหน้าห่อหมก

2 นำกะทิใส่พริกแกงคั่ว คนให้เข้ากัน ใส่เนื้อปลาขูด

คนจนกระทิข้น แล้วใส่น้ำปลา

3 นำแกนกลางใบยอออกแล้วเอาไปลวกกับน้ำหางกะทิ

4 นำใบยอ ใบโหระพาใส่กะทง แล้วตักเนื้อปลาใส่

กะทงให้เต็ม นำไปนึ่ง 5-7 นาที

5 โรยด้วยพริกชี้ฟ้าซอย และราดด้วยหัวกะทิ

“ก๋วยเตี๋ยวเรือร้านแจ๊ว” ลองแล้วจะติดใจ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มิถุนายน 2549 15:48 น.
บรรยากาศโต๊ะนั่งสบายๆในร้านก๋วยเตี๋ยวเรือร้านแจ๊ว
       ในมื้อที่เร่งด่วนของวันในการทำงาน การหาอาหารกินง่ายๆ ใส่ท้อง แล้วอิ่มอร่อยก็เป็นอันว่าใช้ได้แล้ว ซึ่งนอกจากข้าวราดแกงสารพันอย่างแล้ว บรรดาสารพัดก๋วยเตี๋ยวน้ำ-แห้ง ก็เป็นหนึ่งในเมนูที่นึกขึ้น เพราะหากินง่าย กินสะดวกเช่นกัน
      
       มื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” จึงอยากจะพามิตรรักนักชิมไปลองลิ้มเมนูกินง่าย กินด่วน แถมกินดีอร่อยปาก กับเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือชวนกินของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเรือร้านแจ๊ว” ที่ตั้งอยู่ในซอยโชคชัยร่วมมิตร (วิภาวดี 16)
ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมูและเนื้อรสเด็ดชวนกิน
       เหตุที่พามากินก๋วยเตี๋ยวเรือร้านแจ๊วนี้ ก็เพราะว่าก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่เขาขึ้นชื่อลือชา ตรงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องเทศ ว่าแล้วอย่ารอช้าสั่งก๋วยเตี๋ยวเรือมาลองลิ้มชิมรสกันเลยจะดีกว่า ชามแรกสั่งเป็น ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก (20,30 บาท) ที่มีหลายเส้นให้เลือกสั่ง มีทั้ง เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ขาว บะหมี่ วุ้นเส้น และเกี้ยมอี๋
      
        “ผ่านมาแวะกิน” เลือกสั่งเป็นเส้นหมี่ขาวหมูน้ำตก พอก๋วยเตี๋ยวเสิร์ฟมาถึงโต๊ะจะได้กลิ่นหอมเครื่องเทศของน้ำซุปเตะจมูกมาเลย และก็มีเครื่องใส่มาหลายอย่างทั้ง หมูสด ลูกชิ้นหมู หมูตุ๋น ตับหมู และเครื่องในหมู และทีเด็ดอีกอย่างอยู่ตรงที่ทางร้านจะปรุงรสมาให้เลย เรียกว่าปรุงแบบรสแซบใส่พริก มะนาวมาให้ แค่คลุกให้เข้ากับน้ำซุป แล้วก็คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก เคี้ยวหนึบหนับปากกับเครื่องที่ใส่มา ซดน้ำซุปร้อนๆ เข้มข้นหอมเครื่องเทศ เผ็ดแซบลิ้นกำลังดี
      
       จัดการกับชามแรกจนหมดเกลี้ยงเลยสั่งชามที่สองตามมาติดๆ เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตก (20, 30 บาท) ซึ่งหม้อน้ำซุประหว่างหมูกับเนื้อทางร้านเขาจะแยกหม้อกัน หายห่วงได้สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อ แต่ถ้าใครชอบกินเนื้อก็ไม่ควรที่จะต้องสั่ง เพราะเขาใส่เครื่องมาหลายอย่างทั้ง เนื้อเปื่อย เนื้อตุ๋น ตับเนื้อ ผ้าขี้ริ้ว ลูกชิ้นเนื้อ และก็ปรุงรสแซบมาให้ด้วยเหมือนกัน เนื้อชามนี้เด็ดตรงที่น้ำซุปอีกเช่นเคย ซึ่งใช้กระดูกเนื้อต้มรวมกับเครื่องเทศ จึ้งได้น้ำซุปที่รสเข้มข้นกลมกล่อม ส่วนเครื่องพวกเนื้อตุ๋น เนื้อเปื่อยก็เคี้ยวนุ่มปาก
หลากหลายเมนูก๋วยเตี๋ยวที่ทางร้านมีขาย
       และนอกจากก๋วยเตี๋ยวเรือทั้งหมูและเนื้อรสเด็ดนี้แล้ว ที่นี่ก็ยังมีก๋วยเตี๋ยวอย่างอื่นให้เลือกกินอีก อาทิ บะหมี่แห้งยำหมู (20, 30 บาท) เกี้ยมอี๋น้ำ (20, 30 บาท) เย็นตาโฟ (20, 30 บาท) และก็ยังมี กากหมู (5 บาท) ทอดที่ทางร้านทอดเองแบบไม่อมน้ำมันมาให้สั่งกินแกล้มกับก๋วยเตี๋ยว และก็มีของหวานให้กินล้างปากกันอีกเป็น ไอศกรีมกะทิสด (10 บาท)
      
       เห็นรึยังว่าที่นี่มีสารพันก๋วยเตี๋ยวให้เลือกกินมากมายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วล่ะก็ ขอบอกว่าลองแวะมาชิมก๋วยเตี๋ยวเรือของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือร้านแจ๊ว นี้กันดูแล้วจะติดใจปาก
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"โจ๊กสามย่าน"อีกหนึ่งตำนานแห่งโจ๊กรสเด็ด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2549 16:15 น.
บรรยากาศภายในร้านโจ๊กสามย่าน
       เมื่อเอ่ยถึงชื่อ"สามย่าน"หลายคนคงคุ้นเคยกับย่าน นี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็กจุฬา ในขณะที่นักกินหลายคนก็คุ้นเคยกับย่านนี้ดีเช่นกัน เพราะสามย่านจัดเป็นหนึ่งในแหล่งของกินขึ้นชื่อแห่งเมืองกรุงฯ ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารสารพัดอย่างให้เลือกกิน แถมสนนราคาก็สมน้ำสมเนื้อกัน โดยเฉพาะ"โจ๊กสามย่าน" โจ๊กคลาสสิคระดับตำนานที่เปิดมานานกว่า 50 ปี นับเป็นหนึ่งในของดีประจำสามย่านที่บรรดามิตรรักนักกินโจ๊กทั้งหลาย ต่างก็แวะเวียนมากินอยู่เสมอ
      
       เช่นเดียวกับ"ผ่านมาแวะกิน"ที่เมื่อมีโอกาสผ่านไปแถวสาม ย่าน แล้วท้องเกิดหิวตะหงิดๆขึ้นมา มื้อนี้เราจึงตรงเข้าไปที่ร้านโจ๊กสามย่านเพื่อสั่งโจ๊กรสเด็ดมาใส่กระเพาะ ดับความหิว
โจ๊กหมูธรรมดา
       ชามแรกขอประเดิมด้วย โจ๊กหมู (25 บาท) ที่เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับใส่ต้นหอมและขิงซอยมาด้วย พอลองลิ้มชิมรสชาติโจ๊กแล้ว ต้องยกนิ้วให้เลย เพราะเนื้อโจ๊กข้าวนุ่มกำลังดี ไม่เหลวไม่ข้นจนเกินไป และทีเด็ดก็อยู่ตรงที่หมูสับก้อนกลมที่ใส่ลงในโจ๊กนั้น เนื้อนุ่มหนึบคล้ายลูกชิ้น แถมหอมกลิ่นเครื่องเทศและพริกไทย ออกรสชาติกลมกล่อม นุ่มลิ้น เผ็ดพริกไทยนิดๆ ถูกปากดีนักแล
      
       พอจัดการหมดไปหนึ่งชาม ก็รีบสั่งชามต่อไปตามมาทันทีเป็น โจ๊กหมูใส่ทุกอย่าง (30 บาท) ที่หนักเครื่องใส่มาหมดทุกอย่าง มีทั้งหมูสับ เครื่องอย่างตับ กระเพาะ ลำไส้ ที่ทางร้านพิถีพิถันทำความสะอาดเป็นอย่างดี และมาพร้อมด้วยไข่ลวกแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ ที่ทางร้านจะนำไข่ไก่สดๆ ตอกลงไปในโจ๊ก ทำให้ได้รสชาติของไข่แดงและไข่ขาวแบบเต็มๆ กินอร่อยกลมกล่อม เข้ากันดีกับรสอ่อนๆ กลืนลื่นคอของโจ๊ก
      
       แต่ถ้าใครยังไม่จุใจก็สามารถสั่งโจ๊กเป็นแบบพิเศษ ซึ่งทางร้านคิดเพิ่มชามละ 5 บาท ก็จะได้ปริมาณจุใจมากขึ้นทั้ง โจ๊ก หมู เครื่องใน อิ่มอร่อยกันไปแบบเต็มๆ หรือจะสั่งปาท่องโก๋ตัวเล็ก (ถุงละ 10 บาท) ชิ้นพอดีคำมากินกับโจ๊กเคี้ยวกรุบกรอบคู่กันไปด้วยแล้วยิ่งอร่อยลิ้นเข้าไปใหญ่
โจ๊กหมูใส่ทุกอย่าง
       นอกจากนี้ที่ร้านโจ๊กสามย่านยังมีหมูสับแยกขายไว้ให้ลูกค้าซื้อติด ไม้ติดมือกลับไปต้มน้ำแกงทำกินเองที่บ้านด้วย สนนราคาก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท เอาเป็นว่าหากว่างๆ วันไหนผ่านไปแถวสามย่าน จุฬาฯ มาบุญครอง ก็ลองแวะไปที่ร้าน "โจ๊กสามย่าน" กินโจ๊กร้อนๆ ให้อิ่มท้องก่อนกลับบ้านก็ดีไม่น้อยเลย
      
       **********************************************************************************
      
       
"โจ๊กสามย่าน" ตั้งอยู่ที่ 920 ถ.พญาไท ต.วังใหม่ อ.ปทุมวัน กทม.ร้านตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามคณะบัญชีจุฬาฯ ใกล้สี่แยกวัดหัวลำโพงฝั่งตลาดสามย่าน อยู่ฝั่งเดียวกับมาบุญครอง เปิดทุกวัน 2 ช่วงเวลาเช้า 02.30 – 08.00 น. และช่วงเย็น 15.00 – 20.00 น. โทร. 01-350-6671