ปลากระพงต้มซีอิ๋วแบบญี่ปุ่น

ปลากระพงต้มซีอิ๋วแบบญี่ปุ่น  credit เด็กหญิงผลไม้ bloggang.com

ช่วงนี้ที่บ้านต้องทำอาหารพวกปลา กับ ผัก เยอะหน่อยเพราะพ่อบ้านน้ำหนักชักจะเกินไปทุกวัน เลยต้องมาทำกับข้าวเป็นผัก ปลา ตุ๋น นึ่ง ต้ม เพื่อสุขภาพกันหน่อย เหมือนเดิมนะค่ะ ไม่มีภาพประกอบวิธีทำ มีแต่ภาพทำสำเร็จแล้ว



ส่วนประกอบ

ปลากระพง
ขิงหั่นแว่น แล้วแต่ชอบค่ะ
หัวไชเท้าหั่นแว่น ใส่แล้วแต่ชอบค่ะ
โชยุ 4 ชต.
สาเก 3 ชต.
มิริน 1 ชต.
น้ำตาลทราย 1 ชต.
น้ำเปล่า

วิธีทำ

ปลากระพงล้างให้สะอาด พอดีที่ซื้อมาเค้าล้างและทำความสะอาดพร้อมทั้งควักไส้ ขอดเกล็ดหมดแล้วเลยต้องทำอะไร สะดวกไปอีกแบบ
เอา ขิงแว่นวางลงไปที่กระทะ ตามด้วยปลากระพง และหัวไชเท้า แล้วเติมน้ำเปล่าไม่ต้องท่วมปลานะค่ะ ตั้งไฟ พอน้ำเดือด ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงไป ต้มต่อไปสัก 15 นาทีแล้วก็ตั้งทิ้งไว้ คือพอดีว่าที่บ้านทำไว้ตอนเช้า แล้วมากินตอนเย็น พอจะกินถึงมาอุ่นอีกรอบ ทำให้เครื่องปรุงนั้นซึมเข้าตัวปลา แต่ถ้าทำตอนเย็นแล้วก็กินเลย ก็อยากให้ทิ้งไว้สัก 1 ชม. แล้วค่อยมาอุ่นกิน ก็อร่อยดีนะค่ะ

++ แกงส้มปลาช่อนหน่อไม้ดอง ++

++ แกงส้มปลาช่อนหน่อไม้ดอง ++  credit  แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ bloggang.com


ปลาช่อน

หน่อไม้ดอง เครื่องแกงส้ม

น้ำปลา น้ำตาล น้ำเปล่า

น้ำมะนาว หรือ น้ำมะขามเปียก








************************************************








วันนี้มีเมนูแกงส้มหน่อไม้ดองค่ะ .... หน่อไม้ดองเองด้วยนะค่ะ คริคริ

เมื่อหน่อไม้ดองผ่านกรรมวิธีดองเองกับมือ หมดห่วงในเรื่องไม่สะอาดและปลอดสารในทุกด้านค่ะ

เพราะหากซื้อจากตลาดสด ไม่แน่ใจว่าจะปนเปื้อนสารฟอกขาว สารที่ทำให้กรอบ หรือทำให้ไม่เน่าอีกด้วย

หากไม่จำเป็นปอยจะไม่ซื้อมากินแน่นอนค่ะ .... แต่ก็มีบ้างเพราะชอบทาน อิอิ

แต่ตอนนี้เป็นฤดูหน่อไม้ และได้มาจากสวนของผู้ใหญ่ ทานสดก็คงจะไม่ทัน

เลยนำมาแปรรูปเสียเลยค่ะ .... กลายมาเป็นหน่อไม้ดองค่ะ

หน่อไม้นำมาดองแค่ไม่กี่วันก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้แล้วนะค่ะ

นำมาประกอบอาหารโดยไม่ต้องล้างน้ำยังได้เลยค่ะ ..... แต่หากว่าเปรี้ยวเกินไปก็ควรจะล้างสัก 1 น้ำค่ะ

คุยมานานพอสมควรแล้ว .... ขอเข้าครัวแกงส้มกันเสียทีค่ะ 555+






นำปลาช่อนที่ให้แม่ค้าทำให้เรียบร้อยแล้ว นำมาล้างน้ำให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำนะค่ะ

เปิดไฟใส่น้ำในหม้อยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดใส่พริกแกงส้มลงไป รอให้เดือดอีกครั้งใส่หน่อไม้ดองได้เลยค่ะ

พอหน่อไม้ดองเกือบสุกใส่เนื้อปลาลงไป หลังจากใส่เนื้อปลาแล้วห้ามคนนะค่ะ เด่วเนื้อปลาจะเละค่ะ

ปล่อยทิ้งไว้จนเนื้อปลาสุก จึงปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล หากชิมแล้วไม่เปรี้ยวก็เติมน้ำมะนาวหรือนน้ำมะขามเปียกค่ะ

แต่ปอยเลือกเติมน้ำมะนาวค่ะ เพราะว่าจะให้รสชาดดีกว่าน้ำมะขามเปียกเยอะเลย

เมื่อปรุงรสจนได้รสชาดที่ต้องการแล้ว ก็ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลยค่ะ

ครั้งแรกกับ Cornflakes Cookies อร่อยๆ สูตรคุณ wee_nong

ครั้งแรกกับ Cornflakes Cookies อร่อยๆ สูตรคุณ wee_nong  credit  Kimso bloggang.com

Cornflakes Cookies (+ข้าวโอ๊ด+ลูกเกด+เม็ดมะม่วงหิมพานต์) สูตรคุณ wee_nong
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noonong&month=06-2008&date=24&group=16&gblog=13
ขอบคุณมากค่ะสำหรับสูตรอร่อย

ปรับส่วนผสมจากสูตรเล็กน้อยเพราะคอนเฟล็กซ์ไม่พอ เลยเพิ่มเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโอ๊ตแทนค่ะ

ทำได้ 2 ถาด ได้ประมาณ 30 ชิ้นค่ะ (ชิ้นละประมาณ 20 g.)

อบเสร็จรอเย็นแล้วชิมเลยชิ้นนึง ด้านนอกกรอบ ด้านในออกนุ่มๆ เพราะตอนตักไม่ได้กดให้แบนค่ะ ชอบคุกกี้นูนๆ
หวานพอดี๊เลยค่ะ (กัดครั้งแรกจะเหมือนหวานนน้อยไป แต่พอเคี้ยวแล้ว ชอบความหวานประมาณนี้ค่ะ) ชอบมากๆ ทานแล้วไม่หวานเลี่ยนดี

ลืมเอาคอนเฟล็กซ์มาถ่ายรูปด้วยค่ะ


ลองใช้ลูกเกดหลากสีค่ะ เอาไปล้างน้ำ แล้วรอให้แห้งหมาดๆ ก่อนมาหั่นเป็นชิิ้นเล็กๆ ค่ะ


ตักเสร็จแล้ว


นำเข้าอบ 14 นาทีค่ะ ไฟบน-ล่าง 175 C






ยำสลัดทูน่า + หมูย่างเส้นหมี่ ในวันที่แสนขี้เกียจ

ยำสลัดทูน่า + หมูย่างเส้นหมี่ ในวันที่แสนขี้เกียจ  credit NaneeUgly bloggang.com
 
ฝนตกทีไรอยากกินอะไรแซ่บๆ ทุกที ใครเป็นแบบเราบ้างคะ? ค้นตู้เย็นดูเจอเส้นหมี่สดที่แช่ทิ้งไว้ชาติที่แล้ว และหมูย่างที่หมักแบบมั่วๆทิ้งไว้สองวันที่แล้ว จะกำจัดอย่างไรดี?...มองไปอีกทีเจอมะนาว ตระใคร้ (เหี่ยวมาก) ผักกาดแก้ว และผักสลัดต่างๆ ที่เกือบจะเน่าแร่ะ...ทำอะไรดีล่ะ อืมมม ปิ๊ง!!! ยำสลัดทูน่า... แล้วมันทำอย่างไร ยากมั๊ย??? ไปเปิดอากู๋ดูจิ (เสียงหัวใจสั่งมาว่างั้น) อืมมม มันไม่ได้ยากเลยแฮะ มีวัตถุดิบพอดี ถึงแม้ว่าเกือบจะเน่าไปแล้ว...แล้วไอ่เจ้าหมูที่หมักไว้กับเส้นหมี่ล่ะจะทำ ไงดีน๊อ??? ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก

ว่าแล้วก็จัดการ หยิบมายองเนสใส่ชามผสมสักสามสี่ช้อนโต๊ะ เราประมาณเอาค่ะ หั่นพริกขี้หนูเยอะๆ เราชอบกินเผ็ดค่ะ ชอบกินเผ็ด...หั่นหอมแดงใส่ลงไป ตะใคร้เหี่ยวๆ ซอยๆๆๆ บีบมะนาวลงไป 1 ลูกครึ่ง ใส่เกลือลงไปหยิบมือนึง เราแอบใส่พริกไทลงไปด้วย แล้วคลุกๆๆๆๆ ให้เข้ากัน ตามด้วยปลาทูน่า 1 กระป๋องเราใส่หมดทั้งน้ำและเนื้อปลาทูน่าค่ะ น้ำยำสลัดจะเหลวแล้วค่ะหลังจากผสมเข้ากัน ชิมรสดู ขาดอะไร ชอบอะไร เติมลงไปตามชอบค่ะ จากนั้นใส่ผักสลัดที่มีเท่าที่หาได้ในตอนนั้นลงไปคลุกค่ะ เย้! มันออกมาน่ากินเหมือนที่ชาวบ้านเค้าทำออกมาเหมือนกันแฮะ...

แล้ว หมูหมักกะเส้นหมี่ล่ะทำอะไรดี...ก็อบเอาจิ ง่ายดี ส่วนเส้นหมี่ก็ลวกแล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวก็ดีนะ ...อาหารบ้านนี้ไม่มีกฎตายตัวค่ะ มั่วได้อยู่เสมอ...

เสร็จออกมาเป็นแบบนี้... Fusion food แบบมั่วๆ ค่ะ







ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะเข้ามาชมนะคะ

“ปลาพื้นบ้าน” สารพันเมนูปลาสด รสจัดจ้าน

ร้านปลาพื้นบ้านมีเมนูปลาให้เลือกกินมากมาย
       “ปลา” เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย เนื้อปลามีไขมันต่ำ และมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่เรียกว่า โอเมก้า 3 ที่ดีต่อร่างกาย แถมยังมีวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และไนอะซีน รวมถึงมีธาตุเหล็ก แคลเซียมและฟอสฟอรัส เรียกว่าหากบริโภคเนื้อปลาก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านในร้านปลาพื้นบ้าน
       ฉะนั้นในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอชวนมิตรรักนักกินทั้งหลายไปกินปลาเพื่อสุขภาพที่ดีกัน ยังร้านอาหารที่มีชื่อว่า “ปลาพื้นบ้าน” ซึ่ง ตั้งอยู่ตรงถ.ศรีนครินทร์ ที่นี่เป็นร้านอาหารที่เน้นขายอาหารประเภทปลาน้ำจืด หรือปลาพื้นบ้านของไทย ซึ่งปลาบางชนิดหากินได้ยาก แต่ถ้ามาที่ร้านนี้ขอบอกว่ามีให้ได้ลิ้มลองกัน
      
       ความโดดเด่นของอาหารเมนูปลาของร้านปลาพื้นบ้านนี้ อยู่ตรงที่ทางร้านจะมีปลาน้ำจืดหลากหลายชนิดให้ได้เลือกลิ้มรส และคัดสรรแต่ปลาที่มีคุณภาพ เน้นความสดของปลาเป็นหลักสำคัญ ซึ่งจะมีแหล่งปลาน้ำจืดที่ทางร้านเลือกสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นจากอ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครนายก และทางร้านนำปลาสดๆ เหล่านี้มาปรุงเป็นอาหารไทยๆ พื้นบ้านรสจัดจ้านให้ได้เลือกรสชาติกันมากมายกว่า 100 เมนู
ปลาม้าคั่วพริกเกลือ
       ว่าแล้วก็เปิดเมนูสั่งอาหารจานปลารสเด็ดของที่นี่มาลิ้มรสกันดีกว่า เริ่มด้วยเมนูแรก คือ ปลาม้าคั่วพริกเกลือ (180 บาท) เป็นปลาม้าจากที่สั่งมาจากสุพรรณบุรี หรือจากอ่างทอง ทางร้านนำเนื้อปลาม้ามาหั่นเป็นชิ้นๆ ใหญ่พอสมควรแล้วคลุกเครื่องปรุงสูตรพิเศษของทางร้าน ก่อนจะนำปลาไปทอดจนเหลืองกรอบ แล้วก็คั่วกับเครื่องสมุนไพรไทยๆ อย่างกระเทียมสับ พริกสับ หอมสับ รากผักชี พริกไทยเม็ดโขลก คั่วทุกอย่างให้เข้ากันแบบแห้งๆ เสิร์ฟมาร้อนๆ หอมกลิ่นพริกกระเทียมโชยขึ้นจมูก ลิ้มรสเนื้อปลากรอบนอกนุ่มในได้รสเครื่องกระเทียมพริกไทยที่เข้มข้นเข้ากับ ปลา
ปลาเนื้ออ่อนสามรส
       เมนูต่อมาเป็น ปลาเนื้ออ่อนสามรส (ราคาตามน้ำหนัก ปลา ขีดละ 70 บาท) ทางร้านเลือกปลาเนื้ออ่อนไวด์ใหญ่สักหน่อยนำไปทอดแล้วก็ทำน้ำสามรสสูตรเด็ด เฉพาะที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ ใส่สับปะรด หอมใหญ่ พริกยักษ์ 3 สี ราดมาบนตัวปลา ชิมรสชาติแล้วถูกปากดีตรงที่ปลาเนื้ออ่อนเนื้อนุ่มสดผสานรสชาติน้ำซอสที่ราด มาแบบกลมกล่อม ไม่เผ็ดมาก
ปลาคังผัดฉ่า
       จากนั้นมาชิม ปลาคังผัดฉ่า (180 บาท) ที่ส่งกลิ่นหอมของเครื่องผัดฉ่ามาแต่ไกล เป็นปลาคังแล่มาเป็นชิ้นแบบไม่มีก้าง และผัดมากับเครื่องผัดฉ่าแบบครบเครื่อง ใส่พริกไทยสด กระชาย พริกแกงที่ทางร้านโขลกเอง และใส่ข้าวโพดอ่อน ถั่วฝักยาว กินปลาคังผัดฉ่าจานนี้แล้วขอยกนิ้วให้ในความสดของปลาคัง ที่เนื้อแน่นนุ่มไม่คาวเลย และซึมรสชาติเครื่องผัดฉ่าที่จัดจ้านถึงใจจริงๆ
ปลาน้ำเงินฉู่ฉี่
       แล้วก็มากินเมนูนี้ ปลาน้ำเงินฉู่ฉี่ (ราคาตามน้ำหนักปลา ขีดละ 70 บาท) ซึ่งที่จริงจะมีให้กินเฉพาะฤดูหนาวช่องเดือนต.ค.-ธ.ค. แต่ว่าช่วงนี้ทางร้านได้ปลาน้ำเงินมาเป็นพิเศษเลยพอจะมีให้ได้ลิ้มรสกัน เมนูนี้ทางร้านนำปลาน้ำเงินหั่นมาเป็นชิ้นใหญ่แล้วนำไปนึ่ง แล้วก็ทำฉู่ฉี่ครบเครื่องแบบไทยๆ ตามสูตรเด็ดของทางร้านราดมาบนตัวปลา ชิมแล้วเนื้อปลาน้ำเงินไม่คาวเลย เนื้อนุ่มเนียนหวานสดมากๆ เข้ากันดีกับฉู่ฉี่รสเข้มข้นหอมมันกะทิ
ต้มโคล้งปลากระทิงย่าง
       และมาซดน้ำร้อนๆ ให้คล่องคอกับเมนู ต้มโคล้งปลากระทิงย่าง (180 บาท) เป็นปลากระทิงเอามาย่างกับเตาถ่านให้พอเหลืองสุกหอม แล้วจึงนำมาต้มโคล้งสูตรโบราณแบบครบเครื่อง ใส่หอมใหญ่ โหระพา พริกโขลก เห็ดฟาง และพริกแห้งทอด ซดน้ำร้อนๆ เปรี้ยว เผ็ดแซบถึงใจ หอมกลิ่นปลากระทิงย่างอ่อนๆ เนื้อปลานุ่มดี
กุ้งแม่น้ำเผา
       เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่เมนูปลาเท่านั้น ทางร้านยังมี กุ้งแม่น้ำเผา (กิโลกรัม ละ 1,300 บาท) ให้ได้สั่งมากินกันด้วย เป็นกุ้งแม่น้ำไซด์ 3-4 ตัวโล ส่งตรงจากอ่างทอง หรือสิงห์บุรี ทางร้านจะนำกุ้งแม่น้ำสดๆ มาเผากับเตาถ่านจนสุกได้ที่ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดที่ทางร้านทำเอง ลิ้มรสกุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นหวานสดมาก มันกุ้งก็มันปากมาก จิ้มกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านโดนใจปากดีแท้
บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติ
       ถึงแม้จะแนะนำเมนูจานเด็ดมาก็หลายเมนูแล้ว แต่อย่างที่บอกว่าที่นี่มรเมนูปลาให้เลือกกินมากมายจริงๆ เพราะยังมีเมนูปลาจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนชิมอีกเพียบ อาทิ ปลาบึกผัดฉ่า (180 บาท) ปลาเซียมทอดกรอบผัดพริกขิง (120 บาท) ยำตะไคร้ปลารากกล้วยทอด (120 บาท) ปลาซิวทอดกรอบ (80 บาท) ปลาช่อนเผาเกลือ (220 บาท) ปลาดุกอุยย่างกินกับน้ำปลาหวาน (120-180 บาท) ปลาม้าทอดน้ำปลา (180 บาท) ต้มขมิ้นปลาเนื้ออ่อน (ราคาตามน้ำหนักปลา ขีดละ 70 บาท) ฯลฯ
      
       เรียกว่าหากใครชื่นชอบกินเมนูปลาสดๆ รสจัดจ้านแบบไทยๆ ก็พากันมาได้ที่ร้าน “ปลาพื้นบ้าน” ซึ่งมีบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งสบายๆ มีทั้งโต๊ะนั่งด้านในห้องแอร์ และส่วนด้านนอกจัดเป็นสวนมีโต๊ะนั่งรับลมธรรมชาติเย็นๆ
       

รายงานสดจากพื้นที่ข่าว

เดินทางไปที่นี่
Latitude: 13.67311714 Longitude: 100.6478502

      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “ปลาพื้นบ้าน” ตั้ง อยู่ที่ 1 ซ.ศรีนครินทร์ 62 แขวงบางนา เขตประเวศ กทม. การเดินทางจากถ.บางนา-ตราด (ขาออก) ให้วิ่งตรงมาจนถึงแยกศรีเอี่ยมแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถ.ศรีนครินทร์ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นร้านปลาพื้นบ้านตั้งอยู่ริมถนน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน (จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามโรงแรมโนโวเทลบางนา) มีที่จอดรถด้านหลังร้าน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. ทางร้านรับจัดเลี้ยงด้วย ถ้ามาแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดีที่เบอร์ 0-2746-5399 และยังมีอีกสาขาอยู่ที่ อาคารปาล์มสตรีทเพลส ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม โทร. 0-2934-5488