ขนมหวานในมาเลเซีย(นอนย่า)

credit จากคุณ : jena_naam pantip.com
 วันนี้เงียบเหงาจังค่ะ กระทู้นี้มีแต่รูปนะคะ ต้องการสูตรไหนหลังไมค์มาได้ค่ะ
อันแรก
อั่ง กูก๊วย คล้ายๆถั่วแปบค่ะ ข้างในเป็นไส้ถั่ว ตัวขนมทำเป็นสีส้ม สีเขียวก้มีแต่น้อยมากค่ะ นิยมสีส้มมากกว่าค่ะ สีต้นตำหรับ ชาวจีนมาเลใช้ขนมนี้ในพิธีมงคลต่างๆ ทั้งแต่งงาน,ขึ้นบ้านใหม่,เปิดร้านใหม่,ไหว้เจ้าตามเทศกาล,ไหว้เจ้าที่ บ้าน,ไหว้บรรพบุรุษ ล้วนแล้วแต่ใช้ขนมอั่งกูนี้
ขนมนี้จะทำได้ต้องมีพิมพ์ขนมด้วยนะคะ
ลืมบอกไป kuih ก๊วย แปลว่าขนมค่ะ
อันนี้ kuih dadar เป็นไส้มะพร้าวคั่วคล้ายๆไส้ขนมใส่ไส้ค่ะ
kuih lapis หรือขนมชั้นบ้านเรานั่นล่ะค่ะ
kuih kosui
kuih lapis แบบสีเขียวก็มี
เน็ทเดี้ยงไปพักใหญ่ๆ มาต่อกันนะคะ
อันนี้ชื่อเพราะมากค่ะ kuih siri muka ข้างล่างเป็นข้าวเหนียว ข้างบนเป็นกะทิค่ะ หอมกลิ่นใบเตย
ต่อไป kuih putera ayu อันนี้น้ำชอบมากค่ะ ท่าทางจะทำง่าย เดี๋ยววันไหนว่างจะลองทำดูค่ะ ส่วนผสมตัวแป้ง
ไข่ไก่  3 ฟอง
น้ำตาลทราย 240 g
กะทิ   240 g
แป้งเอนกประสงค์ (ร่อน)  270 g
แป้งมัน 1 ชต
โอวัลเลท   1 ชช
สีผสมอาหารสีเขียว  นิดนึงให้พอออกสี
กลิ่นใบเตย   1ชต  (หรือจะใส่น้ำใบเตยสดแบบคั้นเอาเองก็ได้ค่ะ)

ส่วนผสมของมะพร้าว
มะพร้าวขูดหรือโม่(เค้าไม่ได้บอกปริมาณไว้ กะเอาก็แล้วกันนะคะ เอามาทำหน้าขนมแค่เล็กน้อย)
เกลือ เล้กน้อย
แป้งข้าวโพด เล้กน้อย
นำส่วนผสมทั้งสามอย่างนี้มาคลุกให้เข้ากัน



วิธีทำตัวแป้ง
ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟู ใส่กะทิ และโอวัลเลท ,กลิ่นใบเตย,สีผสมอาหาร,แป้งทั้งสองชนิด ตีด้วยความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเข้ากัน
ทาน้ำมันลงบนพิมพ์ขนม เล็กน้อย
ตักส่วนผสมของมะพร้าว ใส่ลงในพิมพ์ กดให้แน่น
ตักแป้งใส่ลงไป
นึ่งประมาณ 12-15นาที หรือจนขนมสุก (ตามสูตรเค้าบอกว่าห้ามนึ่งนานเกินไปเด้อ)
ลงรุปผิด อิอิ ขอโทษทีค่ะ ต้องรูปนี้
ต่อไป เป็นขนมครกมาเลค่ะ เหมือนกันกับของสิงคโปรนะคะ เป็นขนม นอนย่าเหมือนกัน
ขนมนี้จะมีแบบทั้งของหวาน และของคาว เราเริ่มจากของหวานกันก่อนนะคะ
kuih cara manis (cara อ่านว่าจารา นะคะ ภาษามลายู c ออกเสียงเป็น จ ค่ะ)สูตรนี้ทำได้ประมาณ12ลูกค่ะ
แป้งเอนกประสงค์ 100g
กะทิ(อีกแล้วครับท่าน)  200ml
กลิ่นใบเตย 1/2   ชช
สีเขียวเล็กน้อย
ไข่        1 ฟอง
เกลือ    1/2 ชช
น้ำตาลทราย ตามชอบ

นำ สาวนผสมทุกอย่างยกเว้นน้ำตาลทราย ใส่รวมกันในเครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด แล้วนำมากรอง (จะไม่กรองก้ได้ค่ะ แต่ถ้ากรองแล้วขนมจะเนียนสวยค่ะ)
นำพิมพ์ขนมตั้งไฟ ทาด้วยน้ำมันพืชหรือมาการีน พอพิมพ์ขนมร้อน ก็ตักแป้งใส่ลงไป ทำเหมือนขนมครกนั่นล่ะค่ะ พอสุกก็แคะออก โรยหน้าด้วยน้ำตาล
เห็นไหมคะเวลาทานก็ทานคล้ายๆขนมครกเลย

พิมพ์ ขนมจะเป็นแบบนี้นะคะ น้ำเคยซื้ออันนึงราคา 8ริงกิต แต่มีคนยืมไปใช้ตั้งเกือบชาติแล้วยังไม่ยอมเอามาคืน และคิดว่าคงจะไม่เอามาคืนแล้วล่ะค่ะ

รูปเล็กไปนิดนุง ก๊อบเค้ามาค่ะ
คุณsun_ice  วันนี้ดูเย่น้ำ ไปก่อนนะคะ อิอิ
คุณBROWN STITCH ลองทำทานดูนะคะ ง่ายมากๆ
ถ้าไม่มีพิมพ์ น้ำคิดว่าใช้พิมพ์ขนมครกบ้านเราได้นะ ดูรูปนี้สิคะ ออกมาโล้นๆไม่มีลาย
ส่วนคนนี้เค้าใช้พิมพ์ ขนมไข่ค่ะ
ต่อไป มาทำแบบ ของคาวกันบ้าง kuih cara berlauk


http://rinnchan.fotopages.com/?entry=1107864
เปลี่ยนจากเนื้อเป้นหมูหรือไก่ได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14 ติดต่อทีมงาน
http://mykitch3n.blogspot.com/2009/10/kuih-seri-muka.html
kuih seri muka ทำง่ายมากค่ะ ทำคล้ายๆข้าวเหนียวสังขยาเลยค่ะ
 คุณก้านดอกบัว น้ำก็ชอบค่ะเมื่อกี้ออกไปหาซื้อไม่มีค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปดูอีกร้านหนึ่งจะลองทำดู ซ้อมมือไว้ก่อนทำไหว้ เชงเม้ง
คุณกระทะเหล็ก ขนมพวกนี้ที่นี่หาทานง่ายมากค่ะ ราคาก็ถูกค่ะ
คุณJACQUETTE ขอบคุณนะคะน้องด้า ขนมลูกโดน มันเหมือนลุกโดนใช่ไหมคะ
คุณ นู๋ยู้ฮู้ หวัดดีค่ะคุณยู้
คุณทนายอ้วน ที่เป้นข้าวเหนียวห่อใบตอง ไส้กล้วยเหมือนบ้านเราใช่ไหมคะ อันนั้นเรียก pulut pisang ค่ะ ปูลุท ปิซาง
pulut = ข้าวเหนียว
pisang =กล้วย จ้า
คุณเหมียว beautycats หวัดดีค่ะคุณเหมียว
 

///"ITALIAN WANDER" รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี ก่อนไปเที่ยว เรื่องอาหารการกิน ตอนที่ 4 อาหารมื้อค่ำ จานรอง แบบเนื้อๆ!!////

credit จากคุณ : PinePh www.pantip.com
เรามาต่อด้วยอาหารจานรอง กันต่อนะค่ะ สำหรับมื้อเย็น แม้บางครั้งคนอิตาเลี่ยนก็มักจะกินง่ายๆ ในมื้อเย็นเช่น กัน เช่น พวกพิซซ่า ตัดๆ หรือ ชีส อะไรง่ายๆ หรือ จะเป็นครบสูตร กันไปเลยค่ะ แต่ที่ทานกันเต็มๆ ก็มักจะเป็นเมื่อถูกเชิญไปทานอาหารที่บ้าน โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ใกล้คริสมาตและปีใหม่ ก็จะทานกันเต็มๆ แต่จะมีเมนูพิเศษที่ต่างกันออกไป ไว้จะนำมาเล่าให้ฟังค่ะ

อาหารจานรอง ก็จะเป็นพวกเนื้อๆ ทั้งหลาย จะย่าง อบก็แล้วแต่ในเมนู ค่ะ ที่อิตาลีจะนิยมทานเนื้อ โดยเฉพาะเนื้อวัว Bovino
โบ วีโน และ การแบ่งประเภทของเนื้อสัตว์ ตามสัดส่วนรูปร่างของเนื้อได้อย่างชัดเจน แม้แต่การจำแนกประเภทว่าส่วนไหน เหมาะกับการประกอบอาหารประเภทใด

ตามรายการด้านบนจะทำให้เราทราบว่า จะเลือกเนื้อวัวจะส่วนไหนมาประกอบอาหาร คนอิตาเลี่ยนจะไม่ไม่ค่อยทานเครื่องในวัวเท่าไหร่ จะมีให้เห็นคือเป็นพวกตับและหัวใจ หรือเครื่องในวัว แต่จะทานกระเพาะวัว หรือพุงวัว ส่วนที่เรียกว่าผ้าขี้ริ้ว ที่จะใช้เฉพาะลูกวัว ที่ดื่มแต่นมเท่านั้น และมีเมนูจานดั้งเดิมจากโรมมีมาแต่โบราณ โดยการตุ๋นกระเพาะวัวกับมะเขือเทศ ใส่ชีส รสชาดที่คิดว่าเลี่ยนแต่ นุ่มลิ้น เรียกว่า Pagliata (ปายาจตา) อร่อยแปลกไปอีกแบบค่ะ อาหารที่อิตาลีจะทำหลากหลายมากมาย ขึ้นอยู่ในแต่ละพื้นที่ ท้องถิ่นนั้นๆ ในอิตาลี รายการอาหารจะไม่เหมือนกัน ถ้าไปแต่ละภาคเช่น เหนือ ใต้ ออก ตก จะมีอาหาร ประจำท้องถิ่น ที่ขอบอกเลยว่า ถ้าเลยออกไปแค่ไม่กี่กิโล อาหารและส่วนประกอบของอาหารก็จะแตกต่างกัน แต่ละท้องถิ่นจะมีอาหาร และ ชีส หรือ ไวน์ และเครื่อง ของแต่ละเมือง ที่ขึ้นชื่อแตกต่างกันเลยค่ะ เหมือนบ้านเราที่ไปโคราชก็มีหมี่โคราช ขึ้นเหนือ ก็มีขนมจีนน้ำเงี้ยว ใต้ก็แกงไตปลา ประมาณเนี่ยนะค่ะ จะให้นำมากล่าวคงไม่สามารถกล่าวได้ทั้งหมด เหนือจรดใต้ แม้กระทั้งชาวอิตาเลี่ยนก็จำได้ไม่ทั้งหมด แม้แต่บางคนก็ไม่ทราบเมนูจานนั้นมาก่อน ดังนั้นจะกล่าวให้ทราบง่ายๆ พอสังเขปค่ะ
เมนูเนื้อ จะใช้คำว่า Vitello วีเตลโล คือลูกวัว หรือ Manzoมานโซ่ คือวัว ทั่วไปๆ ที่หาทานกันง่ายๆ และพบเห็นได้บ่อยๆ จะเป็น การทำเสต็กเนื้อย่าง เสต็กของเขาจะไม่ราดซอสอะไรมากมายเหมือนที่คาดหวังไว้นะค่ะ เสต็ก ก็คือ เสต็ก แบบย่างมา อย่างเดียวเพื่อให้ได้รสชาดแท้จริงของ เนื้อที่เราทาน และ เหยาะเกลือ พริกไทย หรือ น้ำมันมะกอกแทน
หรือ ฝานแล่เป็นชิ้นบางๆ แล้วย่าง การแล่บางๆ จะใช้คำว่า Fettina di vitello เฟตติน่า ดิ วีเตลโล โดยมากจะเป็นเนื้อลูกวัว และเนื้อวัว จะย่างหรืออาจจะชุบแป้งทอด เสริฟ์พร้อมมะนาวฝาน
Fettina di Linqua de vitello Fritta อันนี้จะเป็นลิ้นวัวชุบแป้งทอด เสริฟ์พร้อมครีม
หรือจะย่างหั่นเป็นชิ้น หรือ แม้กระทั้งห่อมีไส้และนำไปอบ
ห่อด้วยเนื้อ และนำไปอบปรุงด้วยซอส
อีกจานที่นำไปอบ
Scoloppina al limone (สโคโลปปิน่า อัล ลิโมเน่) เป็นจานที่อยากแนะนำค่ะ เป็นเนื้อวัวคลุกแป้ง และลงไปทำให้สุกในกะทะมใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อยจากนั้นก็จะเติมมะนาวลงไป ออกมาจะเป็นเนื้อบางๆ ซอสมะนาวอร่อยมากค่ะ จะได้ความหวานของเนื้อ และเปรี้ยวเล็กน้อยจากมะนาว

Credit photo&info: internet and http://it.gourmetpedia.com/
อีกจาน จะเป็นจานเเดียวกับด้านบนแต่ออกมาหน้าตาคนละอย่าง
ทางเหนือ จะมีเนื้อดิบ หรือ การทานหรือย่างจะกึ่งดิบมากกว่าสุก
หรือ จะเป็นเนื้อบด คลุกกับชีส และ ใบร็อคเกต Rucola ปั้นเหมือนเนื้อที่ทำกับแฮมเบอร์เกอร์ เวลาทานบีบมะนาวเล็กน้อยเนื้อจะสุกโดยการบีบมะนาว

และที่ทำเป็น สเต็ก ก็จะเรียกว่า Bistecca บีสสเต็คคา) โดยจะมีเนื้อหลายประเภทเช่นกัน ที่นิยมจะเป็น Braciola de maiale (บราชิโอล่า ดิ มายาเล่) คือเนื้อท่อนส่วนหลังของหมู จะนำมาย่าง
เมนูเนื้อหมู ก็จะไม่ต่างจากเนื้อวัวเท่าไหร่นัก แต่หมูมักจะทำเป็นพวกแฮม เสียมากกว่า ที่นิยมกัน เช่นพวก แฮมดิบ สุก และ อีกสารพัด คนที่นี้ ทางภาคเหนือจะนำมันหมูมาเจียว เหมือนบ้านเราขายกันเป็นก้อนๆ ตัดแบ่งขายตามน้ำหนัก แต่จะไม่พบเห็นมากนัก จะเป็นเฉพาะพื้นที่เหมือน เมืองไทยที่จะกินแคบหมูเมื่อก่อนก็ต้องไปที่ภาคเหนือ เช่นเชียงใหม่ เป็นต้น
อันนี้จะเป็นเหมือนแฮมห่อ ทำจากเนื้อหมู
แฮมห่อด้วยชีสชุบแป้งทอด
แฮมอีกจาน เป็นเเฮมดิบห่อ เสริฟบน คุสคุส เป็นเหมือนเมล็ดข้าวแค่ทำจากแป้ง
พวกไส้กรอก
และก็จะเป็นเมนู ไก่ หรือ กระต่าย ที่จะทำไม่แตกต่างกันนัก เพราะ เนื้อไก่ และเนื้อกระต่ายจะรสชาดใกล้เคียงกันมาก ไก่ที่นี้จะแบ่งออกได้ออกไดเป็นไก่ตัวเมีย Gallina (กาลลิน่า) และ ไก่ตัวผู้ Pollo (โปลโล) ที่ต้องแยกออกเป็น แม่ไก่ และ พ่อไก่ เพราะว่า ไก่เพศเมียจะเนื้อเหนียวกว่าเหมือนไก่บ้าน มักจะนิยมน้ำมาต้มเป็นน้ำซุป ที่เรียกว่า brodo ส่วนการปรุงด้วยไก่ pollo หรือ เนื้อกระต่าย ที่เห็นได้มากคือ การนำไปอบ ปรุงรสด้วยไวน์ขาว และ โรสมารี พริกไทย เสริฟ์พร้อมกับ มันฝรั่ง อบ
บางครั้งก็ใช้เฉพาะส่วนที่ชอบเช่นน่อง หรือ เป็นชิ้นๆ ถ้าไม่ได้อบทั้งตัว
อันนี้จะเป็นไก่ทอดเป็นเเท่งๆ จะมีทอดคล้ายๆ เนื้อวัวหรือ เนื้อหมูที่คลุกแป้งและนำไปทอดค่ะ แต่จะให้แบบแป้งมากๆ เหมือนไก่ทอดบ้านเราไม่ค่อยมีนะค่ะ
หน้าตาไก่ทอดจะเป็นแบบนี้ค่ะ
นอกจากเนื้อไก่ แล้ว ก็จะมีเนื้อไก่งวง Tacchino (ทัคคิโน) การประกอบอาหารอาจจะเป็นการย่าง หรือ ชุบเกร็ดแป้ง ทอด หรือ หลากหลายทีเดียว
สำหรับผู้ที่ชอบทานเป็ด Anatra (อนาตรา) ที่อิตาลีจะหาได้ไม่มากนักที่จะมีเนื้อเป็ดขายนอกจากบางท้องถิ่น คงต้องไปฝากท้องร้านอาหารจีน ที่จะมีเนื้อเป็ดเป็นหลัก
จานนี้เป็นเนื้อเป็ด
นอกนั้นอาจจะเป็นเนื้อแกะ Pecora (เปโคล่า) และเนื้อแพะ Capra (คาปรา) จะต้องบอกเล็กน้อยว่า เนื้อสองประเภทนี้จะมีกลิ่น เฉพาะตัว ที่ออกจะสาบๆ เล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น ชีสที่ทำจาก แพะหรือ แกะ ก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคย ไม่ขอแนะนำ ค่ะ
นอกนั้นในบางท้องถิ่นจะมีเนื้อม้า Cavallo (คาวาลโล) และเนื้อลา ซึ่งอร่อยดีค่ะ ถ้าคนชอบทานเนื้อ ลองได้เลยค่ะ
ส่วน อาหารทะเล ก็จะไปปลาทะเล โดยส่วนมาก ปลาแม่น้ำจะไม่ค่อยนิยมกันเท่าไหร่นัก ปลาทอดทั้งตัวแบบตัวใหญ่ๆ กรอบๆ จะไม่ค่อยมี คนที่นี้ไม่ค่อยนิยมของที่ทอดๆ เท่าไหร่นักถ้าเป็นการสั่งปลา ไม่ต้องแปลกใจนะค่ะ ถ้าปลามาแบบไม่เป็นตัว ถึงแม้เราจะสั่งเป็นตัวๆ ไป จะจัดให้สวยงามนำมาเสริฟ์  บริกรจะทำการทำความสะอาดปลาให้คือ จัดแจงเอากาง เอาหัว โดยจะเสริฟ์เฉพาะเนื้อขาวๆ มาให้นะค่ะ ส่วนมากจะเอาไปอบ หรือ ย่าง
ส่วน กุ้งหรือปลาหมึก Gamberi e Calamari ก็จะนำมาคลุกกับแป้งและทอด เรียกว่า fritto di mare อาจจะมีปลารวมอยู่ด้วย ขึ้นอยู่กับบางร้าน แต่ถ้าเป็นเมนูนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกุ้งกับปลาหมึก
กุ้งทอด อีกจาน
กุ้ง กับปลาหมีกยัดใส้
ปลาเเซลมอน
อีกจานค่ะ
น่ากินนะค่ะ
ปลาย่าง
ส่วนหอย จะมีหอยแมลงภู่ cozze (คอซเซ่) จะมีวิธีปรุงหลายหลากเช่นกัน แต่ที่เห็นกันบ่อยๆ จะเป็น cozze grantinate คือ นำหอยมาทอดกับเกร็ดแป้ง เสริฟ์พร้อมเปลือก
อีกจานที่นิยมจะเป็น หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว หรือ ไวน์ขาวกับมะเขือเทศ Cozze al pomodoro หรือ จะเป็นหอยลายก็จะมีการปรุงคล้ายคลึงกัน หรือในเมนูก็จะมีรวม
รสชาดหอยที่ นี้จะไม่ต่างกับเมืองไทยเท่าไหร่ แต่ตัวค่อนข้างใหญ่กว่าที่เมืองไทย เคล็ดลับของการอบหอยคือไม่จำเป็นต้องใส่น้ำลงไปเพราะเมื่อปิดฝาแล้วน้ำจาก หอยจะออกมาเอง และความเค็มก็จะออกมาด้วย ถ้าเป็นทางตอนใต้ของอิตาลี การทานหอยแมลงภู่จะทานกันดิบๆ โดยแกะฝาออก และเสริฟ์ การรับประทานคือบีบมะนาวลงไป คล้ายๆ กับการทานหอยนางรมนั่นเอง ที่อิตาลีก็มีเช่นกันหอยนางรม อาหารทะเล มักรับประทานควบคู่กับไวน์ขาว

cozze grantinate
หอยเเมลงภู่ไวน์ขาว
หอยเเมลงภู่ไวน์ขาวใส่มะเขือเทศ
Vongole หน้าตาหอยลายสด
Zuppa di Vongole ซุปหอยลาย
Zuppa Cozze e Vongole
อีกจานหนึ่งที่เป็นจานรองที่ ชาวอิตาเลี่ยนมักจะนิยมทานกันคือ ไข่เจียว เรียกว่า Frittata di uova (ฟริตตาต้า ดิ อูโอวา) แต่ถ้าเรียกแค่ Frittata ก็จะเข้าใจกันแล้วละค่ะ ไข่เจียวที่อิตาลีจะไม่ได้ตีให้ฟูๆ และทอดกรอบๆ แบบบ้านเรานะค่ จะเป็นการตีไข่ ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อยให้ทั่วกระทะ และหลังจากนั้นก็ใส่ไข้ และเอาฝาปิดค่ะ โดยมากจะนิยมใส่ Zucchine (ซูกีนี่) ลงไป โดยจะทำให้สุกก่อนเล็กน้อยและค่อยนำลงไปตีกับไข่ พอสุกก็ให้กลับด้านโดยใช้ฝาที่ปิดช่วย หรือ กลับด้านโดยไม่ให้ไข่แยกออกจากกัน พอสุกทั้งสองด้านจะเป็นเหมือนชั้นเลเยอร์นุ่มๆ เวลาจะทานจะตัดแบ่งออกเป็นเสี้ยวๆ เหมือนการตัดแบ่งพายหรือเค้ก รสชาดนุ่มอร่อยดี บางเมนูอาจจะผสมหอมหัวใหญ่ แทน แต่กับซูกีนี่จะอร่อยกว่า ไข่ก็มีเสน่ห์นะค่ะ นำมาประกอบอาหารได้มากมายทีเดียวไม่ว่าจะเป็น อาหารคาว
หวาน

Credit foto: chefchuckscucina.blogspot.com
อีกภาพของ  Frittata
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 22:29:25
credit จากคุณ : PinePh www.pantip.com