homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

กิน "ฟาน" ที่ปากเซ...จำปาสัก/สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 สิงหาคม 2554 16:17 น.
โดย : สันติ เศวตวิมล
แม่หญิงลาว อวดฟานส้ม หรือแหนมเก้ง มัดละ 5-10 บาทเงินบ้านเรา
       ฟานลาว...ก็คือเก้งไทย
       เป็นสิ่งผิดกม.ที่บ้านเรา
       แต่ถูกกม.ที่บ้านเขา เอ๊า!!
       มีให้กิน ก็กินซิเออ แซบอีหลี
      
       เพราะข่าวหมาส่งออกจากเมืองไทยไปขายเพื่อนบ้าน เป็นอาหารจานดังขายดิบ...ขายดี
"ฟานส้ม" แกะใหม่จากห่อใบตอง
       ผมก็เลยไปค้นรูปเก่า...เก่าที่เคยลงไว้ตอนสมัยไปทำ "เปิบพิสดาร" ไปถ่ายทำข่าวถนนกินหมาใจกลางเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม
       
       ค้นเท่าไหร่ หาไม่เจอ พบแต่ภาพผมตอนไปเมืองจำปาสัก...ปากเซ ประเทศลาว มีภาพเก่า...เก่าเรื่องคนลาวกินฟาน ก็เลยเอามาเขียนเล่ากัน
      
        "ฟาน"...เป็นภาษาไทย-ลาวมาก่อนเก่าเราเราเรียกเก้งว่า "ฟาน" อย่างที่อำเภอศรีราชา ชลบุรี มีชายหาดชื่อว่า..."หาดแหลมฟาน"
เพื่อสุขภาพ จะต้องย่างให้สุก...สุก
       สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก แถวศรีราชาเป็นป่าทั้งนั้น
      
        พวกเก้ง กวาง หมูป่า กระทั่งกระทิงจะออกมาจากป่า "ปลวกแดง" ลงมาเดินเพ่นพ่านทะเล เพื่อให้พรานไพรใจฉกรรจ์ยิงเปรี้ยง...ปร้าง
       
       ร้านอาหารแถวศรีราชา จึงมีอาหารป่าให้ได้กินกันเป็นประจำ
      
        ตอนนี้อย่าแต่ป่าเลย ภูเขายังโล้นเตียนราวกับหัวล้าน เอาน้ำป่าไหลลงมาจากภูเขาไปกินแทนก็แล้วกัน
       ผมไปเมืองลาวเป็นสิบ...สิบครั้ง
       
       ไปตั้งแต่สมัยสงคราม แต่ไปเป็นนักข่าวอยู่เวียงจันทน์ บางทีก็สุวรรณเขตและก็อยู่แต่ในเขตเมือง ไม่ได้ออกไปต่างจังหวัด
       
       สมัยนั้นจะเดินทางในลาว ใช้เครื่องบินทหารของ "แอร์ อเมริกัน" อย่างเดียว ถนนหนทางมีให้เหมือนทุกวันนี้เสียเมื่อไหร่
       
       ประสบการณ์เรื่องอาหารการกินก็มักจะได้อาหารญวน อาหารฝรั่ง(เศส)เป็นประจำ
       
       ส่วนอาหารลาวไม่คิด เพราะมันก็ก็อาหารไทยอีสาน จึงไม่มีความแตกต่างอะไรกัน เว้นแต่ว่า
       
       ...ลาวกินเค็มนำ ส่วนไทยกินเปรี้ยว นอกนั้นมันก็...ครือกัน
       ที่เวียงจันทน์ น่าจะเรียกว่าเป็นเมือง "เฝ๋อ" หรือก๋วยเตี๋ยวญวนไปทั่วเวียงมีร้านขายเฝ๋อมากมาย แต่รสชาติไม่ถูกปาก...ถูกลิ้นสักเท่าไหร่ จะว่าเป็นญวนก็ไม่ใช่
      
        หรือจะว่าเป็นลาวก็ไม่เชิง มันตะเลิดเปิดเปิงรสชาติตีกันพัลวัน...พันเก
      
        แต่ถ้าเป็นอาหารฝรั่งเศส มีอยู่ร้านหนึ่งชื่อ "ฟาวด์เท่น" (FOUNDTAIN) อยู่ริมแม่น้ำโขง ตรงหน้ากรมโฆษณาการ (สมัยเมื่อก่อนสงครามเลิกเขาเรียกอย่างนั้น แต่ตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นเรียกชื่ออื่นไปแล้วกระมัง)
      
        ร้านนี้ขายอาหารฝรั่งเศส แต่มีชื่อเป็นอังกฤษ เพราะตรงนั้นมี "น้ำพุ" ให้เห็นเป็นสำคัญ
       
       สเต๊กแบบฝรั่งเศสร้านนี้อร่อยมากมายหลากหลายรายการ แต่จานดังประจำร้านก็คือ "สเต้กเนื้อฟาน" ใครมาต้องสั่งกินกัน โดยเฉพาะคนไทยที่ไม่มีสิทธิ์กินเก้งได้ในบ้านเรา แต่เมืองลาว เก้ง...กวางกินกันได้เสรีไม่ผิดกฎหมาย
       ถนนปากเซ จำปาสัก
       "ถนนเก้ง-กวาง"
       
       หลังสงคราม ผมไปลาวอีกหลายครั้ง แต่จะไปลาวใต้แถวปากเซ จำปาสักเป็นสำคัญ แล้วก็เลยรู้ว่าถนนสองสายของเมืองใหญ่ทางใต้ของลาวเป็นถนนมที่มีเก้ง...กวาง ขายสองฟากทาง กินกันไม่หวาดไม่ไหว ที่นิยมมากก็คือแหนมฟาน(ก็แหนมเก้ง) กับแหนมกวาง เขาทำมัดห่อใบตอง ใครกินก็ต้องย่าง ส่วน "ฟาน...กวาง" แบบเนื้อแห้ง เขาจะเอาไปปิ้งแล้วเอาสากกระเบือตีให้แตก แบบเนื้อกาฬสินธุ์ อร่อยจนขอแนะนำให้ลองกิน ถ้ามีโอกาสไปลาวใต้
      
        "แหนมฟาน...กวางแห้ง" ซื้อกินกันตามริมทาง ขายตลอดทั้งวันและทั้งคืน แต่ถ้าอยากจะกินแบบเนื้อสด...สดก็ต้องเข้าร้านอาหาร สั่งลาบฟาน ลาบกวาง หรือเนื้อฟานสด เนื้อกวางสดย่างก็อร่อยแบบบ้าน...บ้าน
       ก็อย่างที่เขียนเรียนว่า ตอนนี้คนนิยมกินเนื้อหมา หากคุณสงสัยว่าเนื้อหมาอร่อยอย่างไร ก็ขอแนะนำให้กินเนื้อฟาน เนื้อเก้งก็แล้วกัน...เนื้อมันใกล้เคียงกัน
      
        มิฉะนั้น เขาคงจะไม่เรียกเนื้อหมาว่า เก้งเอ๋งหรอก
      
        ในกรุงเทพสมัยเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อนมีร้านขายเนื้อหมา เนื้อหมาน้ำตก เครื่องในหมาต้มยำ อยู่ในซอยหลังสวนเพลินจิตร
       
       ...คนรุ่นผมรู้จักกันดี ถูกหลอกให้ไปกินจนเป็นประเพณีต้องหลอกคนอื่นมากินต่อ อ้วกอ้าก รากแตก รากแตนกันมาแล้วครับ...

"ปลาช่อน 6 ริ้ว" หมู่บ้านวอ แม่น้ำสะโตง/ สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2554 15:29 น. 
โดย : สันติ เศวตวิมล
"แม่น้ำสะโตง" ช่วงหมู่บ้านวอ ก่อนไหลลงอ่าวเมาะตะมะ
       หมู่บ้านวอ...อยู่ริมแม่น้ำสะโตง รัฐมอญ
       แม่น้ำสะโคง...เป็นแม่น้ำประวัติศาสตร์ไทยรบพม่า
       ที่นี่...มี "ปลาช่อนแห้ง" ดังเรียกว่า "ปลาช่อน 6 ริ้ว
     
       ใครที่เคยไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวน รัฐมอญ เมืองพม่า คงจะตื่นตากับแม่น้ำสะโตง
     
       แม่น้ำประวัติศาสตร์ที่ "สมเด็จพระนเรศวร" ทรงปืนต้นข้ามแม่น้ำยี้ไปถูก "สุรกรรมา" แม่ทัพพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง
     
       เมื่อตอน "ป้าช้อย" พาผมไปไหว้พระธาตุ ที่ตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ ตั้งหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผาทำท่าจะตกลงมาให้ได้ แต่ก็ไม่ตกลงมาสักกะที เป็นร้อย...ร้อยปี ผมก็ตื่นเต้นเพราะกลัวว่า...ผมจะไปผลักพระธาตุเขาตกลงมา
"แม่ค้าปลาช่อน" ไม่รู้ว่าเป็นมอญหรือพม่า
       เพราะตอนที่ผมเอามือไปดันก้อนหินที่มีองค์พระธาตุตั้งก็สั่น...สั่น ทำท่าว่าเลื่อนลั่น ผมรีบชักมือกลับทันควัน ถ้าพระธาตุตกลงมา
     
       ผมคงติดคุกพม่าหัวโต!!
     
       ผมไปไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" หลายครั้ง คือมากกว่าสิบคราว จนกระทั่งเพื่อนพม่าบอกว่า ไม่ต้องมาอีกก็ได้ เพราะว่า
     
       คนพม่าไหม้พระธาตุอินทร์แขวนสามครั้ง เขาก็ว่าจะได้ขึ้นววรรค์แล้ว
     
       แต่ถ้าผมไปมากกว่าสิบคราว ประเดี๋ยวสวรรค์หมั่นไส้ พอดีพอร้ายไม่ได้ขึ้นสวรรค์ อาจจะตกสวรรค์ก็ได้...พม่ามันว่าอย่างนั้น
     
       อย่างที่ผมเขียนเรียนท่านว่า
     
       เวลาไปไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" ก็จะต้องผ่านแม่น้ำสะโตงที่กว้างใหญ่ มองคล้ายแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงจะออกปากอ่าวไทย
     
       แม่น้ำสะโตงก็ไหลออกอ่าวเมาะตะมะเหมือนกัน
     
       ก่อนจะข้ามสะพานเหล็กที่สร้างสมัยอังกฤษปกครองมองดูแล้วคล้ายกับสะพานสมัยสงครามโลก เราก็จะผ่านหมู่บ้านเล็ก...เล็กที่ชื่อว่า "วอ"
     
       หมู่บ้านที่ว่านี้ไง ผ่านไปทีไรจะเห็นรถราจอดกันแน่นหน้าหมู่บ้าน รถราติดกันเสียเวลาเป็นชั่วโมง เพราะใครมาถึงที่นี่ก็จะต้องลงไปซื้อ "ปลาช่อนแห้ง" ที่พม่าบอกว่า
     
       ปลาช่อนแห้ง บ้านวอ ริมแม่น้ำสะโตง เขตแคว้นแดนมอญที่ว่านี้ เป็นปลาช่อนที่ดีที่สุดในเมืองพม่า
     
       เขาเรียกกันว่า "ปลาช่อนนาหยั่น"
     
       หรือจะเรียกเป็นภาษาพม่าก็ต้องออกเสียงว่า "นาหยั่นจอ"
     
       เอาละ ก็เป็นว่า
"ร้านขายปลาช่อนแห้ง" ริมถนนสายหงสา-พระธาตุอินทร์แขวน
       ทุกครั้ง...ทุกคราที่ผมมาไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" ผมจะต้องแวะซื้อปลาช่อนบ้านวอ ถ้าไม่ซื้อ "ยี่หว่า ยาหยี"...เจ้าของร้านกาแฟ "แม่ช้อย ดอยหลวง" ในซอยเรวดี นนทบุรี เป็นต้องโวยวาย เพราะเมนูดังประจำร้านก็คือ "ปลาช่อนหงสา"
     
       เป็นอาหารโบราณของพวกพม่ารามัญทำกินกันตั้งแต่โบร่ำโบราณ เวลายกทัพจับศึกไปตีเมืองไหน เป็นต้องทำ "ปลาช่อนหงสา" ใส่เป็นเสบียงกรัง คลุกกับข้าวกินกันได้ไม่เบื่อ
     
       ปลาช่อนนาหยั่น
     
       "หกริ้ว"
     
       ที่คนพม่านิยมซื้อปลาช่อนที่บ้านวอก็เพราะว่า ปลาช่อนที่นี่ตัวใหญ่ เมื่อผ่าอกมาเป็นปลาแห้งก็จะได้หกริ้ว(โปรดสังเกตจากรูปจะเห็นชัด) แต่ถึงอย่างไรก็ยังเล็กกว่าปลาช่อนแห้งที่ฉะเชิงเทรา ที่เขาเรียกกันว่า "แปดริ้ว" ก็เพราะสมัยหนึ่งปลาช่อนแห้งที่บ้านเรามีถึง 8 ริ้ว...แต่เดี๋ยวนี้ได้แค่ 2 นิ้วก็โอเคแล้ว
     
       คนพม่ากินปลาช่อนแบบบ้านเรา คือเอาไปย่าง เอาไปเผาหรือเอาไปทอด แต่ถ้าจะให้อร่อยยอด ก็จะต้องเอาไปทำ "ปลาช่อนหงสา"
       "หงสา"...ก็คือชื่อเมืองหงสาวดี เมืองหลวงของมอญในอดีต ปัจจุบันพม่าเรียกว่าเมือง "พะโค"
     
       วิธีทำก็เอาปลาช่อนไปทอดให้กรอบ แล้วเอาน้ำพริกกุ้งพม่าที่เรียกว่า "ปาลาฉ่อง" ผัดคลุกเคล้าไปทั่วทั้งตัว รสชาติจะออกเผ็ด...เผ็ด เค็ม...เค็ม พม่าไม่กินเปรี้ยว กินหวาน แต่อาหารจานนี้ขึ้นชื่อจะกินให้อร่อยต้องไปที่เมืองหงสาวดี
     
       หรือที่ร้าน "แม่ช้อยดอยหลวง" ซอยเรวดี นนทบุรี
     
       แต่ไม่ได้มีให้กินทุกวันหรอกครับ เวลาผมไปทำทัวร์เมืองพม่าทีก็จะต้องหอบปลาช่อนบ้านวอกับน้ำพริกกุ้งปาลาฉ่อง เมืองหงสาวดีกลับมาทำขาย
     
       ไปเมื่อไหร่ จะรายงานให้รู้กัน รับรองว่าทั่วแคว้นแดนไทยไม่มีใครทำขายกัน

"ปลาช่อน 6 ริ้ว" หมู่บ้านวอ แม่น้ำสะโตง/ สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2554 15:29 น. 
โดย : สันติ เศวตวิมล
"แม่น้ำสะโตง" ช่วงหมู่บ้านวอ ก่อนไหลลงอ่าวเมาะตะมะ
       หมู่บ้านวอ...อยู่ริมแม่น้ำสะโตง รัฐมอญ
       แม่น้ำสะโคง...เป็นแม่น้ำประวัติศาสตร์ไทยรบพม่า
       ที่นี่...มี "ปลาช่อนแห้ง" ดังเรียกว่า "ปลาช่อน 6 ริ้ว
      
       ใครที่เคยไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวน รัฐมอญ เมืองพม่า คงจะตื่นตากับแม่น้ำสะโตง
      
       แม่น้ำประวัติศาสตร์ที่ "สมเด็จพระนเรศวร" ทรงปืนต้นข้ามแม่น้ำยี้ไปถูก "สุรกรรมา" แม่ทัพพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง
      
       เมื่อตอน "ป้าช้อย" พาผมไปไหว้พระธาตุ ที่ตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ ตั้งหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผาทำท่าจะตกลงมาให้ได้ แต่ก็ไม่ตกลงมาสักกะที เป็นร้อย...ร้อยปี ผมก็ตื่นเต้นเพราะกลัวว่า...ผมจะไปผลักพระธาตุเขาตกลงมา
"แม่ค้าปลาช่อน" ไม่รู้ว่าเป็นมอญหรือพม่า
       เพราะตอนที่ผมเอามือไปดันก้อนหินที่มีองค์พระธาตุตั้งก็สั่น...สั่น ทำท่าว่าเลื่อนลั่น ผมรีบชักมือกลับทันควัน ถ้าพระธาตุตกลงมา
      
       ผมคงติดคุกพม่าหัวโต!!
      
       ผมไปไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" หลายครั้ง คือมากกว่าสิบคราว จนกระทั่งเพื่อนพม่าบอกว่า ไม่ต้องมาอีกก็ได้ เพราะว่า
      
       คนพม่าไหม้พระธาตุอินทร์แขวนสามครั้ง เขาก็ว่าจะได้ขึ้นววรรค์แล้ว
      
       แต่ถ้าผมไปมากกว่าสิบคราว ประเดี๋ยวสวรรค์หมั่นไส้ พอดีพอร้ายไม่ได้ขึ้นสวรรค์ อาจจะตกสวรรค์ก็ได้...พม่ามันว่าอย่างนั้น
      
       อย่างที่ผมเขียนเรียนท่านว่า
      
       เวลาไปไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" ก็จะต้องผ่านแม่น้ำสะโตงที่กว้างใหญ่ มองคล้ายแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงจะออกปากอ่าวไทย
      
       แม่น้ำสะโตงก็ไหลออกอ่าวเมาะตะมะเหมือนกัน
      
       ก่อนจะข้ามสะพานเหล็กที่สร้างสมัยอังกฤษปกครองมองดูแล้วคล้ายกับสะพานสมัยสงครามโลก เราก็จะผ่านหมู่บ้านเล็ก...เล็กที่ชื่อว่า "วอ"
      
       หมู่บ้านที่ว่านี้ไง ผ่านไปทีไรจะเห็นรถราจอดกันแน่นหน้าหมู่บ้าน รถราติดกันเสียเวลาเป็นชั่วโมง เพราะใครมาถึงที่นี่ก็จะต้องลงไปซื้อ "ปลาช่อนแห้ง" ที่พม่าบอกว่า
      
       ปลาช่อนแห้ง บ้านวอ ริมแม่น้ำสะโตง เขตแคว้นแดนมอญที่ว่านี้ เป็นปลาช่อนที่ดีที่สุดในเมืองพม่า
      
       เขาเรียกกันว่า "ปลาช่อนนาหยั่น"
      
       หรือจะเรียกเป็นภาษาพม่าก็ต้องออกเสียงว่า "นาหยั่นจอ"
      
       เอาละ ก็เป็นว่า
"ร้านขายปลาช่อนแห้ง" ริมถนนสายหงสา-พระธาตุอินทร์แขวน
       ทุกครั้ง...ทุกคราที่ผมมาไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" ผมจะต้องแวะซื้อปลาช่อนบ้านวอ ถ้าไม่ซื้อ "ยี่หว่า ยาหยี"...เจ้าของร้านกาแฟ "แม่ช้อย ดอยหลวง" ในซอยเรวดี นนทบุรี เป็นต้องโวยวาย เพราะเมนูดังประจำร้านก็คือ "ปลาช่อนหงสา"
      
       เป็นอาหารโบราณของพวกพม่ารามัญทำกินกันตั้งแต่โบร่ำโบราณ เวลายกทัพจับศึกไปตีเมืองไหน เป็นต้องทำ "ปลาช่อนหงสา" ใส่เป็นเสบียงกรัง คลุกกับข้าวกินกันได้ไม่เบื่อ
      
       ปลาช่อนนาหยั่น
      
       "หกริ้ว"
      
       ที่คนพม่านิยมซื้อปลาช่อนที่บ้านวอก็เพราะว่า ปลาช่อนที่นี่ตัวใหญ่ เมื่อผ่าอกมาเป็นปลาแห้งก็จะได้หกริ้ว(โปรดสังเกตจากรูปจะเห็นชัด) แต่ถึงอย่างไรก็ยังเล็กกว่าปลาช่อนแห้งที่ฉะเชิงเทรา ที่เขาเรียกกันว่า "แปดริ้ว" ก็เพราะสมัยหนึ่งปลาช่อนแห้งที่บ้านเรามีถึง 8 ริ้ว...แต่เดี๋ยวนี้ได้แค่ 2 นิ้วก็โอเคแล้ว
      
       คนพม่ากินปลาช่อนแบบบ้านเรา คือเอาไปย่าง เอาไปเผาหรือเอาไปทอด แต่ถ้าจะให้อร่อยยอด ก็จะต้องเอาไปทำ "ปลาช่อนหงสา"
       "หงสา"...ก็คือชื่อเมืองหงสาวดี เมืองหลวงของมอญในอดีต ปัจจุบันพม่าเรียกว่าเมือง "พะโค"
      
       วิธีทำก็เอาปลาช่อนไปทอดให้กรอบ แล้วเอาน้ำพริกกุ้งพม่าที่เรียกว่า "ปาลาฉ่อง" ผัดคลุกเคล้าไปทั่วทั้งตัว รสชาติจะออกเผ็ด...เผ็ด เค็ม...เค็ม พม่าไม่กินเปรี้ยว กินหวาน แต่อาหารจานนี้ขึ้นชื่อจะกินให้อร่อยต้องไปที่เมืองหงสาวดี
      
       หรือที่ร้าน "แม่ช้อยดอยหลวง" ซอยเรวดี นนทบุรี
      
       แต่ไม่ได้มีให้กินทุกวันหรอกครับ เวลาผมไปทำทัวร์เมืองพม่าทีก็จะต้องหอบปลาช่อนบ้านวอกับน้ำพริกกุ้งปาลาฉ่อง เมืองหงสาวดีกลับมาทำขาย
      
       ไปเมื่อไหร่ จะรายงานให้รู้กัน รับรองว่าทั่วแคว้นแดนไทยไม่มีใครทำขายกัน

กิน "ขนมจีนมอญ" ที่ "สังขละ" เมืองกาญจน์ / สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กันยายน 2554 17:34 น. 
"สะพานไม้" ยาวที่สุดในเมืองไทย อยู่ที่ "สังขละ" ทางเข้าวัดหลวงพ่ออุตตมะ
       ขนมจีนมอญ...เรียกได้หลายชื่อ
      
       มอญเรียก "คนอมจิน" ไทยว่า "ขนมจีน"
      
       แต่พม่าผ่าเป็น "โมฮิงกา"
      
       ฝนตกหนัก...หนักอย่างตอนนี้ทำให้คิดถึง "สังขละ" เมืองกาญจน์
       ที่นั่นหลังฝนตก อากาศเย็นสบาย
      
       สวยงามโดยไม่ต้องไปถึงปาย ไปมาก็สะดวกสบาย ขับรถเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เห็นป่าเขา ลำเนาไพร แล้วก็ทะเลสาปใหญ่...ปายไม่มี!!
      
       (เขยนอย่างนี้แล้วก็ไม่สบายใจ เพราะเดี๋ยวนี้เห่อไปเที่ยวกันใหญ่ "สังขละ" ก็จะกลายเป็นปาย...ล้มละลายทางนิเวศน์แล้ว)
      
       สมัยเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519เคยหนีเข้าป่าไปปักหลักอยู่แถวนั้น เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ก็จะข้ามไปฝั่งพม่าตอนนั้นถนนหนทางยังไม่สะดวกเหมือนปัจจุบัน
"คนอมจินมอญ"
       ถนนมีไปแค่ไทรโยค ถัดจากนั้นก็เป็นถนนป่า มีแต่รถเหมืองแร่ของกำนัน "ผล กลีบบัว" ถึงจะเข้าไปได้
      
       เอาแค่ไม่ไกลไปถึงทองผาภูมิ ก็ต้องนอนป่าสอง...สามวัน
      
       แล้ว "สังขละ" ชายแดนมอญ-พม่า สมัยสงคราม 9 ทัพ ก็ต้องเดินกันเป็นเดือน...เดือน บางทีก็ไปไม่ถึง...ไข้ป่ารับประทานซะก่อน!!*
      
       ไปอยู่กับมอญตอนนั้น ได้ความรู้เรื่องอาหารการกินของคนที่นั่นมากมาย แต่ติดปาก ติดใจมาจนถึงขณะนี้ก็คือ
      
       ...คนอมจิน อ่านแล้วสงสัยว่า ความจริงมันก็คือขนมจีนแบบคนไทย แต่คนมอญเรียกเสียงมอญ เหน่อ...เหน่อแบบตัวละครเรื่อง "ราชาธิราช"
      
       แต่ไปบอกว่าเป็นขนมจีนของไทยไม่ได้ มอญเถียงตายยืนยันว่าคนไทยจำจากมอญเอาไปทำกินต่างหาก
มอญจับขนมจีน ไหญ่กว่าไทยจับขนมจีน
       ไม่อยากจะทะเลาะกับมอญ เดี๋ยวไม่ได้ลูกสาว เอ๊า!! ทอญทำ แล้วไทยกิน โอเค
      
       "คนอมจิน"...ที่มอญว่า ที่เมืองพม่ามีขายมากมาย หม่องเลย่ะเรียกว่า "โมฮิงกา"
       ไม่รู้ว่ามอญรบกับพม่า เพราะปัญหาว่าใครทำคนอมจินก่อนกัน
      
       แต่ผมอยู่พม่าก็ได้พึ่งหา "คนอมจินมอญ...โมงฮิงกาพม่า" เพราะหาขนมจีนน้ำยาไทยไม่มี
      
       แต่กินแล้ว มันก็คือกัน คือมีเส้นขนมจีน แล้วราดหน้าด้วยน้ำยาที่ใช้ปลาทำ มอญ...พม่าไม่ได้ใส่กระชาย แล้วก็ไม่
      
       มีผักแนมให้มากมายอย่างบ้านเรา ของเขาใส่ถั่วทอดกรอบปริใส่
      
       แต่ที่สำคัญก็คือจะขาดหยวกกล้วยไม่ได้ ทำยังจะให้หมูกิน
       มารู้จักคนอมจิน
      
       เครื่องเคียงสำหรับกินคนอมจินมอญ มีกพริกทอด กระเทียมเจียว น้ำส้มมะขาม น้ำปลาแล้วก็ผงชูรส ส่วนเส้นขนมจีนก็แบบบ้านเรา ใช้แป้งข้าวเจ้า น้ำยาก็ใช้ปลารสชาติไม่เนียนปาก คาวอีกต่างหาก
      
       ที่สังขละมีร้านขาย "คนอมจิน" หรือ "โมฮิงกา" หลายเจ้า
      
       ที่อร่อยมากถูกปาก อยู่ริมทางเข้าสะพานยาวที่ข้ามแม่น้ำซองกะเลีย
      
       แต่ต้องทำความเข้าใจกันว่า
      
       ร้านนี้ไม่ใช่เป็นร้าน เป็นเพิงหลังคาจาก แบบชาวบ้าน แล้วก็ไม่ได้ขายทั้งวัน จะต้องตื่นเช้า...เช้า ออกมาแย่งชาวบ้านกิน
      
       คุณป้ามอญแกนั่งทำขนมจีนร้อน...ร้อน(โปรดสังเกตหน้า ถ้ากลัวจะเข้าร้านผิด)
       ส่วนน้ำยาหยวกกล้วยแกทำมาจากบ้าน หมดแล้วหมดครับ อยากจะกินอีกพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
      
       "คนอมจินมอญ"...ที่สังขละอร่อยแบบชาวบ้าน แต่ถ้าจะอร่อยแบบชาววัง ผมเคยไปกินร้านหน้าวังเมืองมัณฑเลย์ อร่อยเสียไม่มี
      
       ว่าง...ว่างจะเขียนเล่าให้รู้กันว่า ก่อนพระนาง "ศุภยลัต" จะถูกเนรเทศไปอยู่อินเดีย พระนางยังสั่งเสียเมืองด้วยการเสวย "โมฮิงกา" จานเบ้อเร่อ
      
       ...คนขายพม่ามันบอกอย่างนั้น ช่วยทำให้ผมกินอร่อยเยอะเลยละครับ...

"เดอะ กาเรต" (THE GARRET BISTRO BAR) ห้องรโหฐาน ของอาหารที่เปิดเผย/สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กันยายน 2554 18:34 น. 
 โดย : สันติ เศวตวิมล
"เดอะ การ์เรต" ห้องกระจกบนหลังคาตึกสูงสิบชั้น มองเห็นความงามของกรุงเทพฯ ทั้งกลางคืน กลางวัน
       ห้องกระจกใต้หลังคาตึก "มิลเลนเนียน ออโต้" ของบริษัทบีเอ็ม ที่โด่งดังด้วยรถมินิ ถนนเอกมัย ข้างบนมีร้าน "ฟูซิโอ" อาหารอิตาเลียนระดับ 4-5 ดาว แต่ตอนนี้มี "เดอะ การ์เรต" น้องใหม่มาแรง
      
       "พี่วิวัฒน์ ธรรมชวนวิริยะ"...พี่ชายที่ผมเคารพนับถือกันมาสาม...สี่สิบปี โทรศัพท์มาชวนผมไปกินอาหารฝรั่งที่ตึกโชว์รูมรถ "บีเอ็ม" ที่ถนนเอกมัย
      
       คราวแรกก็ไม่กล้ารับปาก เพราะเคยไปกินอาหารอิตาเลียนร้านชื่อ "ฟูซิโอ" (FUZIO) ที่อยู่บนตึกสูงที่สวยสง่างามเมืองมาแล้วตอนที่พี่วิวัฒน์เปิดใหม่...ใหม่
"คลับแซนวิส" สูงสามชั้น แต่ละชั่นความอร่อยแตกต่างกัน สำหรับคนชอบอาหารอเมริกันง่าน...ง่าย
       แล้วก็ไม่เคยเขียนแนะนำร้านให้ เพราะตอนนั้นไปอย่างไม่ตั้งตัว ไม่รู้ว่านอกจากพี่วิวัฒน์จะเป็นประธานบริษัท "มิลเลนเนียน ออโต้" ตัวแทนขายรถบีเอ็ม รวมทั้งรถมินิที่ลูกสาว "แพง ขวัญข้าว" ใช้แล้ว
      
        "พี่วิวัฒน์" ยังเป็นเจ้าของร้านอาหารอิตาเลียน "ฟูซิโอ" ที่ว่า
      
        ตั้งใจไปกินแล้วก็กลับมา เหมือนนัดกินข้าวกับผู้ใหญ่...ผู้น้อยที่มีอยู่เป็นประจำแทบทุกค่ำคืน ขืนเขียนให้ทุกร้าน...คงจะบานบุรีไม่มีเนื้อที่ให้เขียนกันได้พอ!!
      
        แต่ถึงเป็นเจ้าของร้านอาหาร "ฟูซิโอ" ก็ไม่ได้โอ้อวดอะไร ก็เหมือนพี่ชายที่คบค้ากันด้วยความจริงใจ เสมอต้นเสมอปลาย
      
        กินอิ่มแล้วจะกลับบ้าน พี่เค้าถึงได้ถามว่า...อร่อยมั้ย?
       
       ขอต้องบอกด้วยความจริง ไม่จิงโจ้ว่า...เอ็กซาเลนเต้ (EXCELENTE) ภาษาอิตาเลียนแปลว่า...ยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน
      
        ก็นั่นล่ะ พี่วิวัฒน์ถึงได้บอกว่า..."ร้านนี้เป็นของพี่เอง"
"ซุปหัวหอม" มาตรฐานฝรั่งเศส สำหรับคนชอบชีสและนมเนย
       ความจริงบอกกันเสียตอนแรกก็จะได้เตรียมกล้องเตรียมปากกามาถ่ายมาจด เพื่อจะเขียนบอกให้คนไม่รู้จักร้านอาหารอิตาเลียนระดับสี่...ห้าดาวร้านนี้ เอาไว้
      
        แต่เมื่อพี่เขาเชิญมากินข้างก็เตรียมปาก...เตรียมท้องมาเท่านั้น ขอโทษ...กะตังค์ก็ไม่ได้เตรียมเอามา
      
        ที่ว่าความจริงถ้าพี่วิวัฒน์บอกเสียตั้งแต่ตอนแรก ก็จะได้มั่นใจเพราะสมัยเมื่อสาม...สี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาไว...ไว พี่วิวัฒน์คนนี้ล่ะเป็นเจ้าของภัตตาคารจีนกวางตุ้งที่มีชื่อเสียงมากในยุค นั้น นักเปิบ...นักกินต้องรู้จัก "ภัตตาคารจีนโซโห" (SOHO) ที่เอามาตรฐานอาหารจีนที่ย่านโซโห เมืองลอนดอนมาขายเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
คาสตาร์ทเลมอน ขนมอร่อยจากเยอรมัน
       ภัตตาคารจีนที่ว่า อยู่สี่แยกเพลินจิตร ตรงข้ามกับธนาคารศรีอยุธยา...สมัยนั้นต้องจองกันล่วงหน้า ไม่งั้นพวกฝรั่งสถานทูตแถวนั้น จองตัดหน้าเสียทุกที
      
       โทรศัพท์มาเชิญคราวนี้ ผมกลัวว่าจะไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวแต่ถึงอย่างนั้น พี่เค้าก็ว่าไม่ต้องเตรียมอะไรมา อยากให้มากินอาหารร้านใหม่ชื่อ "เดอะ การ์เรต" เป็นร้านเล็ก...เล็กอยู่ในร้านใหญ่ "ฟูซิโอ" ที่เพิ่งจะปิดมาไม่กี่เดือน
      
       อะไรคือ
      
       "เดอะ การ์เรต"
      
       คำนี้เป็นภาษาอังกฤษ แปลความหมายก็คือห้องเล็ก...เล็กใต้หลังคา ซึ่งฝรั่งถือว่าเป็นห้องส่วนตัว ซึ่งจะเก็บสะสมของรักของหวง
       ห้องเล็กที่ว่านี้อยู่ใต้หลังคาของตึกสูง 10 ชั้น "มิลเลนเนียน ออโต้" เป็นห้องกระจกบริเวณดาดฟ้า ประดับสวนต้นไม้ดอก ไม้ใบ มองเห็นกรุงเทพงามตา
      
        ส่วนที่เติมคำว่า "บิสโตร" (BISTRO) ก็หมายถึงเป็นห้องอาหารแบบกินง่าย...ง่าย มีบาร์เหล้าไว้สำหรับสังสรรค์แบบส่วนตัว
      
        ความแตกต่างระหว่าง ห้องอาหารอิตาเลียน "ฟูซิโอ" กับห้อง "เดอะ การ์เรต" อยู่ที่อาหาร "เดอะ การ์เรต" จะเน้นอาหารง่าย...ง่าย แบบ "ฟิวชั่น" คือมีอาหารฝรั่งหลายชาติที่อร่อย...อร่อยมารวมกัน
      
        ซึ่งก็รวมทั้งไวน์ดี...ดี ที่มีมาตรฐานในราคายุติธรรมไม่เวอร์
       คืนนั้น ผมกินอาหารฝรั่งหลายรายการ ก็ไม่อยากจะเขียนว่าอร่อยทุกจาน ประเดี๋ยวจะหาว่าเชลียร์เชียร์กัน เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ
      
        ถ้าคุณยอมรับว่าอาหารอิตาเลียน "ฟูซิโอ"...เอ็กซาเลน!!
        (โปรดดูตัวอย่าง อาหารที่ผมเปิบคืนนั้น ตามที่เอารูปมาลงโชว์กัน)
      
        แต่สำหรับท่านที่ชอบอาหารสมัยใหม่ ที่เขาเรียกว่าทำจากครัวอเมริกัน (AMERICAN CUISINE) คืออะไร...อะไรอร่อยก็เอามาทำในครัวของชาติที่รวมคนหลายเผ่าพันธุ์ในโลก... ก็รับประกันได้ว่า
       
       ...คุณจะต้องกลับมาเชื่อผมเถิดครับ รับรอง...
       *****************************************
      
       "เดอะ การ์เรต" บนชั้นดาดฟ้า โชว์รูมมินิ เอกมัยซอย 7 โทรศัพท์ 02-711-6999 เปิดทุกวันกลางวัน กลางคืน www.thegarretbistrobar.com และ www.facebook/thegarretbistrobar