homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

"เดอะ กาเรต" (THE GARRET BISTRO BAR) ห้องรโหฐาน ของอาหารที่เปิดเผย/สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กันยายน 2554 18:34 น. 
 โดย : สันติ เศวตวิมล
"เดอะ การ์เรต" ห้องกระจกบนหลังคาตึกสูงสิบชั้น มองเห็นความงามของกรุงเทพฯ ทั้งกลางคืน กลางวัน
       ห้องกระจกใต้หลังคาตึก "มิลเลนเนียน ออโต้" ของบริษัทบีเอ็ม ที่โด่งดังด้วยรถมินิ ถนนเอกมัย ข้างบนมีร้าน "ฟูซิโอ" อาหารอิตาเลียนระดับ 4-5 ดาว แต่ตอนนี้มี "เดอะ การ์เรต" น้องใหม่มาแรง
      
       "พี่วิวัฒน์ ธรรมชวนวิริยะ"...พี่ชายที่ผมเคารพนับถือกันมาสาม...สี่สิบปี โทรศัพท์มาชวนผมไปกินอาหารฝรั่งที่ตึกโชว์รูมรถ "บีเอ็ม" ที่ถนนเอกมัย
      
       คราวแรกก็ไม่กล้ารับปาก เพราะเคยไปกินอาหารอิตาเลียนร้านชื่อ "ฟูซิโอ" (FUZIO) ที่อยู่บนตึกสูงที่สวยสง่างามเมืองมาแล้วตอนที่พี่วิวัฒน์เปิดใหม่...ใหม่
"คลับแซนวิส" สูงสามชั้น แต่ละชั่นความอร่อยแตกต่างกัน สำหรับคนชอบอาหารอเมริกันง่าน...ง่าย
       แล้วก็ไม่เคยเขียนแนะนำร้านให้ เพราะตอนนั้นไปอย่างไม่ตั้งตัว ไม่รู้ว่านอกจากพี่วิวัฒน์จะเป็นประธานบริษัท "มิลเลนเนียน ออโต้" ตัวแทนขายรถบีเอ็ม รวมทั้งรถมินิที่ลูกสาว "แพง ขวัญข้าว" ใช้แล้ว
      
        "พี่วิวัฒน์" ยังเป็นเจ้าของร้านอาหารอิตาเลียน "ฟูซิโอ" ที่ว่า
      
        ตั้งใจไปกินแล้วก็กลับมา เหมือนนัดกินข้าวกับผู้ใหญ่...ผู้น้อยที่มีอยู่เป็นประจำแทบทุกค่ำคืน ขืนเขียนให้ทุกร้าน...คงจะบานบุรีไม่มีเนื้อที่ให้เขียนกันได้พอ!!
      
        แต่ถึงเป็นเจ้าของร้านอาหาร "ฟูซิโอ" ก็ไม่ได้โอ้อวดอะไร ก็เหมือนพี่ชายที่คบค้ากันด้วยความจริงใจ เสมอต้นเสมอปลาย
      
        กินอิ่มแล้วจะกลับบ้าน พี่เค้าถึงได้ถามว่า...อร่อยมั้ย?
       
       ขอต้องบอกด้วยความจริง ไม่จิงโจ้ว่า...เอ็กซาเลนเต้ (EXCELENTE) ภาษาอิตาเลียนแปลว่า...ยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน
      
        ก็นั่นล่ะ พี่วิวัฒน์ถึงได้บอกว่า..."ร้านนี้เป็นของพี่เอง"
"ซุปหัวหอม" มาตรฐานฝรั่งเศส สำหรับคนชอบชีสและนมเนย
       ความจริงบอกกันเสียตอนแรกก็จะได้เตรียมกล้องเตรียมปากกามาถ่ายมาจด เพื่อจะเขียนบอกให้คนไม่รู้จักร้านอาหารอิตาเลียนระดับสี่...ห้าดาวร้านนี้ เอาไว้
      
        แต่เมื่อพี่เขาเชิญมากินข้างก็เตรียมปาก...เตรียมท้องมาเท่านั้น ขอโทษ...กะตังค์ก็ไม่ได้เตรียมเอามา
      
        ที่ว่าความจริงถ้าพี่วิวัฒน์บอกเสียตั้งแต่ตอนแรก ก็จะได้มั่นใจเพราะสมัยเมื่อสาม...สี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาไว...ไว พี่วิวัฒน์คนนี้ล่ะเป็นเจ้าของภัตตาคารจีนกวางตุ้งที่มีชื่อเสียงมากในยุค นั้น นักเปิบ...นักกินต้องรู้จัก "ภัตตาคารจีนโซโห" (SOHO) ที่เอามาตรฐานอาหารจีนที่ย่านโซโห เมืองลอนดอนมาขายเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
คาสตาร์ทเลมอน ขนมอร่อยจากเยอรมัน
       ภัตตาคารจีนที่ว่า อยู่สี่แยกเพลินจิตร ตรงข้ามกับธนาคารศรีอยุธยา...สมัยนั้นต้องจองกันล่วงหน้า ไม่งั้นพวกฝรั่งสถานทูตแถวนั้น จองตัดหน้าเสียทุกที
      
       โทรศัพท์มาเชิญคราวนี้ ผมกลัวว่าจะไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวแต่ถึงอย่างนั้น พี่เค้าก็ว่าไม่ต้องเตรียมอะไรมา อยากให้มากินอาหารร้านใหม่ชื่อ "เดอะ การ์เรต" เป็นร้านเล็ก...เล็กอยู่ในร้านใหญ่ "ฟูซิโอ" ที่เพิ่งจะปิดมาไม่กี่เดือน
      
       อะไรคือ
      
       "เดอะ การ์เรต"
      
       คำนี้เป็นภาษาอังกฤษ แปลความหมายก็คือห้องเล็ก...เล็กใต้หลังคา ซึ่งฝรั่งถือว่าเป็นห้องส่วนตัว ซึ่งจะเก็บสะสมของรักของหวง
       ห้องเล็กที่ว่านี้อยู่ใต้หลังคาของตึกสูง 10 ชั้น "มิลเลนเนียน ออโต้" เป็นห้องกระจกบริเวณดาดฟ้า ประดับสวนต้นไม้ดอก ไม้ใบ มองเห็นกรุงเทพงามตา
      
        ส่วนที่เติมคำว่า "บิสโตร" (BISTRO) ก็หมายถึงเป็นห้องอาหารแบบกินง่าย...ง่าย มีบาร์เหล้าไว้สำหรับสังสรรค์แบบส่วนตัว
      
        ความแตกต่างระหว่าง ห้องอาหารอิตาเลียน "ฟูซิโอ" กับห้อง "เดอะ การ์เรต" อยู่ที่อาหาร "เดอะ การ์เรต" จะเน้นอาหารง่าย...ง่าย แบบ "ฟิวชั่น" คือมีอาหารฝรั่งหลายชาติที่อร่อย...อร่อยมารวมกัน
      
        ซึ่งก็รวมทั้งไวน์ดี...ดี ที่มีมาตรฐานในราคายุติธรรมไม่เวอร์
       คืนนั้น ผมกินอาหารฝรั่งหลายรายการ ก็ไม่อยากจะเขียนว่าอร่อยทุกจาน ประเดี๋ยวจะหาว่าเชลียร์เชียร์กัน เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ
      
        ถ้าคุณยอมรับว่าอาหารอิตาเลียน "ฟูซิโอ"...เอ็กซาเลน!!
        (โปรดดูตัวอย่าง อาหารที่ผมเปิบคืนนั้น ตามที่เอารูปมาลงโชว์กัน)
      
        แต่สำหรับท่านที่ชอบอาหารสมัยใหม่ ที่เขาเรียกว่าทำจากครัวอเมริกัน (AMERICAN CUISINE) คืออะไร...อะไรอร่อยก็เอามาทำในครัวของชาติที่รวมคนหลายเผ่าพันธุ์ในโลก... ก็รับประกันได้ว่า
       
       ...คุณจะต้องกลับมาเชื่อผมเถิดครับ รับรอง...
       *****************************************
      
       "เดอะ การ์เรต" บนชั้นดาดฟ้า โชว์รูมมินิ เอกมัยซอย 7 โทรศัพท์ 02-711-6999 เปิดทุกวันกลางวัน กลางคืน www.thegarretbistrobar.com และ www.facebook/thegarretbistrobar

"อ า ซ้ อ" หูฉลามภัตตาคารระดับ 4-5 ดาว/สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ตุลาคม 2554 16:54 น. 
โดย : สันติ เศวตวิมล
"อายาว" เจ้าของภัตตาคาร "อาซ้อ" เจ้ายุทธจักรหูฉลามตัวจริง
       เมื่อเดือนสองเดือนก่อนเคยเขียนถึง "หูฉลามนายตือ" เยาวราช เป็นภัตตาคารข้างทาง แต่คราวนี้เป็น "หูฉลาม" ระดับภัตตาคารสี่...ห้าดาวครับ
      
       มีแฟนข้อเขียน "ผู้จัดการบันเทิง" ซึ่งก็ให้หมายถึงรวมด้วยกับแฟนของคุณป้า "แม่ช้อย นางรำ" บอกผมว่า...
"หูฉลามต้าเม่งเซ็ก" หูใหญ่แต่ราคาย่อมเยา
       มีร้านหูฉลามเกิดใหม่เจ้าหนึ่ง อร่อยเข้าขั้นถึงเปิบพิสดาร
       สอบถามเขาซึ่งรับรองไม่ใช่เจ้าของร้าน บอกผมว่าชื่อ "ภัตตาคารอาซ้อ" ผมก็หัวร้อก๊าก...ไอ๊หยา!! ใช่อาซ้อเจ็ดหรือเปล่า?
      
       คนที่เขาแนะนำว่าคงไม่ใช่ เพราะซ้อเจ็ดไม่เขียนเล่าไว้ตอนบีบสิว
      
       บอกเช่นนี้ผมก็เลยหิว
"สี่เจ้าสมุทร" หูฉลามเล็ก กระเพาปลาสด กังฮูหยู เห็ดหอมตุ๋นพร้อมกันสี่อย่าง
       ต้องสารภาพกันตรง...ตรงแบบคนถือศีลไม่มุสาว่า...ผมชอบกินหูฉลามครับ
      
       ผมชอบกินหูฉลาม ตั้งแต่สมัยก่อนตอนผมยังเด็ก ก็ก่อน 2500 พ่อผมจะพาไปกินหูฉลามตามภัตตาคารดัง...ดัง ตั้งแต่ ห้อยเทียนเหลา, ก๊กจี่เหลาเยายื่น, เทียนห้อย อร่อยทั้งนั้น
      
       แต่สมัยก่อนยังไม่มีรานขายหูฉลามโดยเฉพาะ เหมือนอย่างทุกวันนี้
      
       ผมจำได้ว่าร้านขายหูฉลามเฉพาะที่ว่า เริ่มจากแถวโรงหนังเฉลิมบุรี ตอนนั้นผมเริ่มเป็นหนุ่มแล้ว แต่ร้านโด่งดังอยู่แถวหัวเม็ด ที่เป็นร้านกำเนิดของหูฉลามหน้าโรงหนังสกาล่า ผมเรียนสวนกุหลาบสอบเสร็จผมต้องไปฉลองที่นั่น เพราะเป็นหูฉลามหาบขายชามละ 40 บาท
"สเต๊กเป๋าฮื้อ" ใช้เป๋าฮื้อกระป๋องของเม็กซิโก
       แต่อย่าลืมนะครับว่า สมัย 2500 กว่า...กว่า ทองคำบาทละ 350 บาทเท่านั้น
      
       หูฉลามสมัยผมคนขายจะใช้เศษหูฉลาม ฉีกเป็นฝอยใส่ลอยลงกับไก่ต้มฉีก
      
       เรื่องจะทำแบบหูฉลามพิเศษอย่างสมัยรี้ที่จะใช้หูฉลามใหญ่ที่เรียกกันว่า "เม่งเซ็ก" ไม่มี แล้วเป๋าฮื้อก็ไม่ใส่ เพราะคนสมัยนั้นเขารังเกียจ เรียกว่า..."หอยโข่งทะเล"
      
       กินหูฉลามแบบธรรมดา แต่ก็ว่าอร่อยจนต้องเก็บค่าขนมวันละห้าบาท รวบรวมเอาไปฟาดหูฉลาม มารู้จักกินหูฉลามแบบหะหรูหะหราก็ตอนไปช่วยคุณ "ประดิษฐ์ อาจหาญวงค์" เจ้าของ "ภัตตาคารไออาต้า" ที่เขาต้องการสมนาคุณผมเพราะช่วยเหลือกันมาไม่เคยรับผลประโยชน์ตอบแทน (เรื่องนี้ใครสงสัย หมั่นไส้ผมให้ไปสอบถามกับคุณประดิษฐ์ได้ เขายังไม่ตาย ร้านของแกอยู่ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ย้ายจาก "สยามสแควร์" มาหลายปีดีดัก)
       แล้วอีตอนไปทำทัวร์เมืองจีน ตั้งแต่สมัยเปิดประเทศใหม่ ไปเซี่ยงไฮ้ก็เลยได้กินหูฉลามที่เรียกว่า "พระกระโดดกำแพง"
      
       เป็นหูฉลามแบบขุนนางจีนชาวฮกเกี้ยนทำขึ้นก่อนใครในแผ่นดินใหญ่
      
       เรื่องการกินหูฉลามของผมยังไม่หมดเท่านั้น ทำทัวร์ต่างประเทศมาสามสิบกว่าปี ไปประเทศไหน...ไหน ก็ต้องถามว่ามีหูฉลามอร่อย...อร่อยกินที่ไหน?
      
       สุดท้ายก็ต้องมาลงที่เซี่ยงไฮ้ คุณเคยกิน "หูฉลามใส่ไข่ปูขน" มณฑลเจอเจียงหรือเปล่าครับ ถ้าอยากจะกินก็คุยกับผมได้
      
       ภัตตาคารจีนฮ่องกังหลบไป สีมือลื้อมันเด็ก...เด็ก
       "หูฉลามไข่ปูขน" เป็นอาหารทรงโปรดของ "พระเจ้าเฉียนหลง" เจ้าของสมญาอาหารฮ่องเต้ที่จะต้องเสด็จใต้มากินอาหารอร่อยจนมีร้านที่พระองค์ทรงเสวยมากมาย รวมทั้งภัตตาคาร "หูฉลามไข่ปูขน" ที่ว่า ป้าช้อยแกพาเศรษฐีไปกินแทบทุกปี
      
       แต่แล้วในเมืองไทยล่ะ ภัตตาคารหูฉลามที่มีหลายเจ้า ผมไปกินมาแล้วแทบทั้งนั้น แต่ตอนนี้ผมขอแนะนำภัตตาคารหูฉลาม "อาซ้อ" ที่ไม่ใช่ซ้อเจ็ด
      
       "ภัตตาคารอาซ้อ" ร้านแรกอยู่ในซอยมัยลาภ ถนนรามอินทรา ขายไม่กี่ปีก็โด่งดังเลยไปเปิดอีกสาขาที่ถนนสุรวงศ์
      
       ทั้งสองร้านผมไปกินมาแล้ว เพราะอยากจะรู้ว่าร้านไหนจะอร่อยกว่ากัน แล้วก็สรุปได้ว่า
      
       อร่อยทั้งสองร้านนั้นล่ะครับ
      
       แต่ต้องเอามาเขียนเพราะไม่ใช่อร่อยเฉพาะหูฉลามซะเมื่อไหร่ แต่มีสิ่งที่เรียกว่า...ที่สุดในยุทธจักร ให้คุณต้องทึ่ง!!
      
       หูฉลามใหญ่ที่สุด
      
       ความสูงประมาณเมตรหนึ่ง ความกว้างสักเมตร เป็น "เม่งเซ็ก" ใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นมา
      
       กระเพาะปลาทองคำ
      
       เป็นกระเพาะปลาตากแห้งแพงที่สุด คนจีนบินมาซื้อให้ราคาห้าแสน...เชอะ ไม่ขายใครจะทำไม
      
       "ซิวหมาย" ใหญ่ที่สุด
      
       "ซิวหมาย"...หรือขนบจีบกุ้งที่นี่ใหญ่สุด เส้นผ่าศูนย์กลางสัก 2 นิ้วเห็นจะได้ ปากใครก็ใส่ไม่หมด ต้องผ่าสอง เห็นแล้วอึ้งกิมกี่ครับ
      
       "ภัตตาคารอาซ้อ" มีอาหารจีนแบบกวางตุ้งปนแต้จิ๋ว หิวไม่หิวไปทีไรก็กินเกลี้ยง
      
       อิ่มแล้วไม่ต้องกลัวเดี้ยง ราคาเขาไม่แพงสำหรับคนกินหูฉลาม เป๋าฮื้อเป็น เพราะที่เห็น...เห็นเศรษฐีใหม่ถูกหูฉลาม ถูกเป๋าฮื้อกินแทบทั้งนั้น
      
       ...ร้านอาหารอร่อย...อร่อย ภาษิตจีนเขาว่า...อยู่ในตรอก อยู่ในซอย คนยังต้องตามไปกินกันเลยครับ...
      
       ***********************************************
       ***********************************************
      
       "อาซ้อ หูฉลาม ซอยมัยลาภ" ถนนรามอินทรา โทรศัพท์ 02-943-7957
      
       "อาซ้อ หูฉลาม ถนนสุรวงค์" โทรศัพท์ 02-637-1367 ถึง 8

“เตาปูน บิสโทร” (TAOPOON BISTRO) ร้านเล็ก...เล็ก แต่อาหารรสชาติใหญ่ / สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2554 17:59 น. 
โดย : สันติ เศวตวิมล
“พิช แอนด์ ชิปส์” ฝีมือนักเรียนอังกฤษ
       ไม่ต้องไปสีลม...สุขุมวิทให้หงุดหงิด
       กรุงเทพทางด้านเหนือก็มีร้านอาหารอร่อยนานาชาติ
      
       “ป้าช้อย”...ถามผมว่า เคยกินอาหารฝีมือพวกพระยามหาอำมาตย์ธิบดีแล้วหรือยัง
      
       ผมฟังแล้วก็เง็ง...เง็ง เพราะผมเป็นเด็กรุ่นหลัง ต่างไปจากคุณป้าที่มีปู่เป็นพระยา พวกผู้ใหญ่เขาถึงกัน
      
       ป้าแกคงจะอ่านความคิดเห็นผมทัน ก็เลยบอกผมว่า พระยามหาอำมาตย์ที่ว่าก็คือบิดาของคุณลุง “สรรพสิริ วิริยศิริ” นักหนังสือรุ่นพี่ของคุณป้าที่เคยเดือดร้อนสมัย 6 ตุลา 2519 ร่วมกันมา
      
       คุณลุงสรรพสิริเก่งสารพัดตั้งแต่เป็นนักข่าว ช่างภาพ เป็นผู้กำกับรายการโทรทัศน์
      
       ผมจำได้ว่าเคยอ่านหนังสือที่ท่านเขียนไว้ ชื่อ “ก็แค่...นักหนังสือพิมพ์เท่านั้น” อ่านแล้วในมันฮึกเหิม เลยต้องมาทำงานเป็นนักข่าว นักหนังสือพิมพ์มาจนถึงทุกวันนี้
       
“หอมคำ” ของกินเล่นของขุนนางไทย
       ป้าช้อย...บอกผมว่า คุณลุงสรรพสิริมีหลานสาวมีฝีมือทำอาหารคาวหวาน ชื่อ “เฉลิมเนตร วิริยศิริ”
       ที่ต้องเรียกว่าเป็นอาจารย์ ก็เพราะเป็นอาจารย์โรงเรียนดนตรี “ศุภกร” อยู่แถวถนนสามเสน ท่าวาสุกรี เป็นโรงเรียนสอนดนตรีเก่าก่อน คนในวงการเพลงรู้จักกันดี ผมก็รู้จัก แต่ไม่ยักกะรู้ว่าอาจารย์เฉลิมเนตรเก่งเรื่องอาหาร
      
       จนกระทั่งป้าช้อยพาผมไปร้านชื่อ “เตาปูน บิสโทร” อยู่ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เลยสามแยกเตาปูน แล้วก็อยู่เยื้องโรงพักเตาปูน ผมจึงได้รู้ว่า พวกนักดนตรีทำอาหารเก่ง!!
        
“อาจารย์เพลินเนตร วิริยศิริ” รร.ดนตรีศุภการ หลานสรรพสิริ วิริยศิริ เจ้าของร้าน
       ร้าน “เตาปูน บิสโทร” อยู่ริมถนน หาง่าย แค่เห็นสีทาร้านใครเห็นก็ต้องจำได้ เพราะอาจารย์เล่นทาสีซะเหลืองอ๋อย ราวกับจีวรพระ แถมตัดด้วยสีเขียว เหมือนกับเป็นนักเรียนเก่าวัดเทพศิรินทร์อย่างนั้นล่ะ
      
       ความจริงร้านนี้เป็นบ้านเก่าสมัยเจ้าคุณปู่ เอามาดัดแปลงให้เป็นร้านอาหารแบบฝรั่ง อย่างที่เรียกว่า “บิสโทร” (BISTRO) ซึ่งมีความหมายว่า
       
       เป็นร้านอาหารเล็ก...เล็ก แต่อร่อยแบบ “โฮมเมด” คือทำกินกันเอง เพื่อความสุนทรีย์
       อาจารย์เพลินเนตร ก็ตั้งใจประมาณนั้น
      
       ทำร้านอาหาร “เตาปูน บิสโทร” ก็เพราะจะโชว์ฝีมือในการทำอาหารมากกว่าจะค้ากำไร
       
“วอฟเฟิล” สูตรจากเบลเยียม
       อย่างที่ผมบอกไว้ว่า ร้านนี้ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าสมัยร้อยปี อาจารย์เฉลิมเนตร วิริยศิริเป็นเจ้าของกิจการ แล้วให้หลานสาวผู้เชี่ยวชาญอาหารหวานคาวนานาชาติทิ้งงานโรงแรมระดับเงิน เดือนแพง...แพงมาเป็นแม่ครัวร้านนี้
      
       อาหารร้านเตาปูน บิสโทร มีทั้งอาหารฝรั่ง อาหารไทย กระทั่งอาหารจีนประเภทจานเดียว กินง่าย...ง่าย ราคาไม่แพง
      
       อารหารฝรั่งเป็นฝีมือดัดแปลงของแม่ครัวตัวดีที่ไม่ก็อปปี้ฝรั่ง เพราะเรามีรสลิ้นเป็นของเรา
      
       แต่ถ้าเป็นอาหารไทย ก็จะเป็นอาหารของขุนน้ำขุนนางเก่า ทำกินกันในบ้านให้ลูกหลานรู้รสมือของปู่ย่าตายาย
      
       ผมไปกินกับป้าช้อยคราวนั้น ก็ติดอกติดใจ ก็เลยต้องมาเขียนเล่าให้ได้รู้...รู้กันไว้
      
       เพราะนอกจากอร่อยราคาถูกแล้ว ร้านนี้สะดวกสบาย มีที่จอดรถในบ้านเป็นสิบคัน แถมเตาปูนไม่ไกลจากหน้าบ้านสวนเมืองนนท์ซะเท่าไหร่
       
“เตาปูน บิสโทร”
       ส่วนจะเลือกกินอะไรก็ตามอัธยาศัย ร้านนี้ก็เหมือนร้าน “ป้าแมว” หลานสะใภ้ “เจ้าพระยาอภัยภูเบศร” เจ้าเมืองพระตะบอง ร้านนี้ก็ดอง...ดองกันเพราะว่า
      
       พระยามหาอำมาตย์ธิบดีที่เป็นเจ้ากรมแผนที่ และเป็นคนแรกที่เรียกร้องเสียมราฐ พระตะบอง มงคลบุรี ศรีโสภณให้กลับมาสู่อ้อมอกไทย
      
       เรื่องผู้ใหญ่ เรื่องขุนน้ำขุนนางทั้งหลาย ป้าช้อยแกเก่ง ส่วนผมคงจะเก่งแค่กิน
      
       ไปกินกันเถิดครับ ร้านลูกหลานบรรพบุรุษไทย ผู้สู้เพื่อประเทศชาติมาแล้วทั้งนั้น...
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้านเตาปูน บิสโทร
       1242/1 ปากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 28 บางซื่อ กทม. 10800 โทรศัพท์ 02-911-5898 เปิดขายทุกวัน ระหว่างเวลา 10.30 - 22.00 น. (หยุดวันจันทร์ที่ 2 และวันจันทร์ที่ 4 ของเดือน)

ข้าวมันไก่ "นายโฮ" ไหหลำสิงคโปร์ ขายเมืองไทย/สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มกราคม 2555 18:35 น.
โดย : สันติ เศวตวิมล
"นายโฮ" ไหหลำสิงคโปร์
       "นายโฮ"...คนสิงคโปร์มาได้เมียไทยเลยไม่กลับบ้าน...กลับเมือง มาทำข้าวมันไก่สูตรไหหลำแท้ขาย
       เลี้ยงไก่เอง...ทำไก่เองแล้วก็ขายไก่เอง อร่อยเยี่ยมไร้เทียมทานเจ้าค่ะ”
      
       "แม่ช้อยนางรำ"
      
       *************
      
       "ป้าช้อย"...แกมีฝีมือทำข้าวมันไก่ สูตรคุณป้าเป็นสูตรเบตง ใครอยากจะรู้ว่าเอร็ดอร่อยแค่ไหนก็ลองไปกินกันได้ที่ "ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่"
       ป้าแกไปสอนลูกน้องคุณ "ปริญญา ธรรมวัฒนะ" ทำข้าวมันไก่ยิ่งเจริญขายมาหลายปีดีดัก จนกระทั่งมีคนว่าจ้างไปออกตามงานนอกสถานที่
       แต่ข้าวมันไก่เจ้า "นายโฮ" ที่ป้าพาผมไปเปิบคราวนี้เป็นสูตรไหหลำที่คนไทยนิยมกินกันมานมนาน ถึงทุกวันนี้ก็ยังนิยมกินกันอยู่ แต่หาข้าวมันไก่แบบไหหลำแท้...แท้ เป็นข้าวมันไก่แบบ "กาฝาก" เสียส่วนใหญ่ เป็นข้าวมันไก่ที่ไม่ใช่คนไหหลำทำจนมีคนเขาตั้งให้ว่าเป็น..."ข้าวมันไก่ลาว "
      
       ******
"ไก่ตอน" สูตรไหหลำแท้
       เพราะอย่างนี้ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ป้าช้อยแกพาผมไปกินข้าวมันไก่ไหหลำแท้...แท้ เพื่อจะให้ผมได้รู้ว่า
        ข้าวมันไก่แท้นั้นอร่อยกว่าข้าวมันไก่เทียมอย่างไรกัน
        โน่นแน่ะครับ!! ป้าแกพาผมไปเกือบถึงมหาชัย สมุทรสาคร แต่ก่อนถึงตลาดมหาชัยเมืองไทย ตรงนั้นเขาเรียกว่า "บางน้ำจืด" อยู่บนถนนธนบุรี-ปากท่อ แล้วก็ต้องยูเทิร์นเข้ามาทางกรุงเทพฯ เลี้ยวเข้าไปในถนนชนบทเล็ก...เล็ก ร้านข้าวมันไก่ "นายโฮ" เขาตั้งอยู่ริมถนนเข้าไปสักกิโลก็จะมองเห็น
      
       ***********
      
        "ป้าช้อย"..บอกผมว่า ข้าวมันไก่ไหหลำแท้ประการแรกก็คือจะต้องใช้ไก่ตอนตัวโต...โต แต่ทุกวันนี้ที่ขายกันเป็นไก่ฟาร์ม เลี้ยงเอามาใช้สารพัด ไม่ใช่ไก่ตอนที่จัดเฉพาะทำข้าวมันไก่
        ลักษณะไก่ตอนดูง่าย ตัวจะโตกว่าไก่ธรรมดา นอกจากตัวโตแล้วก็ยังตัวอ้วน
        มองเห็นหนังบาน้ำมันไก่เยิ้ม เวลาสับเนื้อจะเห็นเนื้อขาว ราวกับเนื้อสาวแรกรุ่น
        ไก่พวกนี้เอามาต้มแล้วจะได้นำมันใช้นุ่งข้าวใหม่จะมีกลิ่นหอมของสาปไก่ จิ้มกับซีอิ๊วหวาน หรือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว พริก ขิง หมดเป็นจาน...จาน หรือหมดเป็นตัว...ตัว แทบไม่รู้เนื้อรู้ตัว มารู้อีกทีตอนจ่ายสตางค์
"ไก่สามพันธุ์" มีพันธุ์ไก่บ้าน พันธุ์ไก่เตี้ย และพันธุ์ไก่ชน "นายโฮ" คิดค้นเอง ทางการรับรอง
       "นายโฮ"...เจ้าของร้านเป็นจีนไหหลำแต่เดิมบ้านอยู่สิงคโปร์ ดันผ่ามาเที่ยวเมืองไทยแล้วหาทางกลับบ้านไม่เจอ สุดท้ายก็เลยต้องมาอยู่เมืองไทย มาตายที่นี่ เพราะสาวไทยเอาไว้อยู่
        "นายโฮ" พกวิชาข้าวมันไก่ซึ่งเป็นสูตรของเขาเองติดตัวมาด้วย ก็เลยทำข้าวมันไก่ขาย แต่นาโฮทำอย่างมืออาชีพก็คือ
        เลี้ยงไก่เอง ขุนไก่เอง ทำไก่เอง แล้วก็ขายข้าวมันไก่เอง เก่งทุกอย่าง
        ข้าวมันไก่ของ "นายโฮ" จึงไม่ใช่ไก่ฟาร์มที่เนื้อเหมือนกระดาษ แล้วพิสดารกว่านั้น ไก่ที่นายโฮเลี้ยงเป็นไก่พันธุ์พิเศษที่เพิ่งจะมีเลี้ยงเมืองไทย ด้วยภูมิปัญญาของเขาที่ทางการยอมรับแล้วก็ตั้งชื่อพันธุ์ให้ว่า..."ไก่สาม พันธุ์"
       "ฟาร์มไก่สามพันธุ์"
       หลังร้าน "นายโฮ"
       ไก่สามพันธุ์ที่ว่า ประกอบด้วยไก่พันธุ์จีนที่เรียกว่า "ไก่ตะเภา" ที่มาจากเกาะไหหลำ "ไก่พันธุ์เนื้อ" เป็นพันธุ์ที่ฝรั่งผสมเพื่อทำอาหาร และไก่พันธุ์บ้านแบบไทยก็คือ "ไก่ชน"
        ไก่สามพันธุ์ที่นายโฮคิดค้นเลี้ยงขึ้นเองจึงเป็นไก่ที่ทำข้าวมันไก่อร่อย ชนิดหากินที่ไหนไม่ได้
      
        และก็เพราะเลี้ยงไก่พันธุ์พิสดารเอาไว้ขาย ข้าวมันไก่นายโฮก็ไม่ได้มีขายตลอดทั้งปี เมื่อขุนไก่รุ่นไหนได้ที่ก็จะเอามาทำขาย ถ้าไก่หมดรุ่นแล้วก็ต้องรอต่อไปเป็นเดือน
        ก็เพราะทำข้าวมันไก่ไม่เหมือนใคร ใครที่ตั้งใจจะไปกินจะต้องโทรศัพท์ถามไถ่กันเสียก่อนว่า..."ตอนนี้มีไก่ขายหรือยัง"
        ถ้ายังไม่มีไก่ได้ที่ก็ไม่ขาย เป็นซะอย่างนี้ คนที่ไปกินจึงต้องทำใจ แต่ถ้ากินก็จะต้องว่าได้ใจ...ข้าวมันไก่ "นายโฮ" อร่อยเยี่ยมไร้เทียมทานจริง...จริงครับ...
      
       *****************************************
       สอบถาม "นายโฮ" ว่าวันนี้จะมีไก่ขายหรือไม่มี โทรถามได้ที่ 034-812-444,081-776-7329

“แพอาหารกู๊ดวิว” นั่งชิลล์ อร่อยรส กลางแมกไม้ริมเจ้าพระยา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2554 13:06 น. 
บรรยากาศร้านแพอาหารกู๊ดวิว
       “อยุธยา” เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ชวนให้มาเที่ยวไหว้พระทำบุญเป็นอย่างมาก เพราะว่าอยุธยาเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีวัดมากมาย มีวัดวาอารามสำคัญๆ ให้มากราบไหว้ขอพรกัน “ตระเวนกิน” เองก็ขอใช้วันหยุดว่างๆ มาเที่ยวไหว้พระทำบุญ สะเดาะเคราะห์ เสริมสิริมงคลให้กับตัวเองเสียหน่อย
      
       พอหลังจากที่ได้ตระเวนไหว้พระจนอิ่มบุญอิ่มใจกันเต็มที่แล้ว แน่นอนว่าเราก็ต้องขอหาอาหารใส่ท้องให้อิ่มกระเพาะกันด้วย และเมื่อมาถึงอยุธยาทั้งทีเราก็ต้องขอหาร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆ แบบได้นั่งกินข้าวอยู่ริมน้ำท่ามกลางธรรมชาติอันรื่นรมย์
โต๊ะนั่งสบายๆ ชมวิวสะพาน
       และเราก็เลือกที่จะขอมาฝากท้องอิ่มกับอาหารรสดี ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งสบายๆ กันที่ “แพอาหารกู๊ดวิว” ที่ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ที่ร้านนี้มีมุมโต๊ะนั่งให้เลือกแบบหลากหลาย ถ้าใครชอบนั่งกินข้าวรับลมเย็นๆ และได้ชมวิวสะพานสวยๆ ก็มีให้เลือกนั่ง แถมยังมีวงดนตรีมาเล่นเพลงเพราะๆ ให้ฟังอย่างเพลิดเพลินในทุกวันช่วงเย็นๆ หรือจะนั่งบนแพชมวิวสายน้ำไหลเอื่อยพาให้เย็นใจ และมีส่วนเทอเรสที่มีโต๊ะนั่งสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติแมกไม้ที่ชวนนั่งไม่แพ้กัน
      
       เมื่อได้มุมชวนนั่งแล้ว แน่นอนว่าอาหารของที่นี่ก็น่ากินเช่นกัน เพราะว่าทางร้านมีอาหารไทยพื้นบ้าน แบบรสจัดจ้านบริการให้เลือกกินหลายหลากกว่า 100 เมนู และในมื้อนี้เราก็ได้เลือกเมนูจานเด็ดทั้งนั้นมากินกัน
เห็ดเออรินจิผัดพริกไทยดำ
       ประเดิมจานแรกด้วย เห็ดเออรินจิผัดพริกไทยดำ (180 บาท) ทางร้านนำเห็ดเออรินจิญี่ปุ่น เอามาผัดกับเครื่องพริกไทยดำที่โขลกเอง ผัดใส่กุ้ง หอมใหญ่ ต้นหอม พริกสามสี แครอท และพริกไทยสด ชิมแล้วเห็ดเคี้ยวนุ่มออกรสร้อนแรงเครื่องพริกไทยดำหอมๆ กุ้งเนื้อหวานดี กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ สุดยอดขอบอก
ห่อหมกมะพร้าวอ่อน
       เมนูถัดมาเป็น ห่อหมกมะพร้าวอ่อน (200 บาท) เสิร์ฟมาแบบมะพร้าวทั้งลูก เป็นห่อหมกที่ทางร้านโขลกพริกแกงเอง ใส่เครื่องทะเลอย่างกุ้ง หมึก ปลา ลูกชิ้นปลา และนำมาใส่ลงในมะพร้าวอ่อนนึ่งจนสุก ลิ้มรสเนื้อห่อหมกรสเข้มข้น แถมยังได้ขูดเนื้อมะพร้าวอ่อนกินด้วย
ผัดฉ่าปลาคัง
       แล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งเมนูปลาแม่น้ำอย่าง ผัดฉ่าปลาคัง (150 บาท) มากินกัน เพราะทางร้านนำปลาคังสดๆ มาแล่เป็นชิ้นพอดีคำเลาะเอาก้างออก แล้วนำมาผัดฉ่าแบบครบเครื่อง สีสันจัดจ้านมาก กินแล้วก็ถูกปากกับเนื้อปลาคังนุ่มหวานไม่คาวปาก ได้รสชาติเครื่องผัดฉ่าออกเผ็ดลิ้นถึงใจ
ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน
       ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน (240 บาท) เมนูนี้ใครชอบกินปลาเนื้ออ่อนต้องสั่งมาลิ้มรสให้ได้ เป็นปลาเนื้ออ่อนตัวใหญ่เอามาทอดหรือนึ่ง (เลือกสั่งได้) และก็มีน้ำฉู่ฉี่แบบเข้มข้นที่ทางร้านโขลกเครื่องแกงเองแล้วนำมาผัดกับกะทิ ตามสูตรเด็ดเฉพาะ ราดมาบนตัวปลาเนื้ออ่อน กินแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติฉู่ฉี่ที่เข้มข้นเครื่องแกงหอมมันกะทิ เข้ากันดีกับเนื้อปลานุ่มๆ
ปลาช่อนลุยสวน
       ปลาช่อนลุยสวน (220 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูปลาที่น่าลิ้มลอง ทางร้านนำปลาช่อนสดๆ มาทอดกรอบ แล้วก็ทำน้ำราดที่มีสารพัดเครื่องสมุนไพรไทยต่างๆ ปรุงรสเข้ากับน้ำราดที่ปรุงเคี่ยวตามสูตรเด็ด ชิมปลาเนื้อกรอบนอกนุ่มในชุ่มรสชาติน้ำราดจัดจ้าน แถมยังมีผักสดนานาชนิดมาให้กินเคียงกันด้วย
ต้มยำปลาม้า
       และมาปิดท้ายมื้ออิ่มด้วย ต้มยำปลาม้า (150 บาท) ถูกเสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ เป็นต้มยำน้ำใส ที่ใส่เนื้อปลาม้าแล่เอาแต่เนื้อไม่มีก้างมาต้มยำ ใส่เห็ดฟาง ผักชีฝรั่ง ซดน้ำซุปร้อนๆ ชุ่มชื่นโล่งคอ รสเปรี้ยว เผ็ด แซบถึงใจ ส่วนเนื้อปลาม้านุ่มหวานไม่คาวเลย
บรรยากาศโต๊ะนั่งในแพ
       แต่ถ้าหากมากันหลายๆ คนเมนูแค่นี้อาจจะยังไม่อิ่มพอ ขอแนะนำว่ายังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนลิ้มรสอีก อาทิ กุ้งแม่น้ำเผา (กิโลกรัมละ 1,000 บาท) แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อนทอด (220 บาท) แกงคั่วหอยขม (120 บาท) หมึกไข่นึ่งมะนาว (130 บาท) ส้มตำปูกะตอย (85 บาท) และอีกสารพัดเมนูอาหารไทยรสจัดจ้านที่ชวนให้มาลองลิ้มกันได้ที่ร้าน “แพอาหารกู๊ดวิว” ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยุธยาใกล้ๆ นี่เอง
“แพอาหารกู๊ดวิว” ตั้งอยู่ ที่ 3/6 หมู่ 4 ต. บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา การเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าจ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านวัดพนัญเชิง ตรงมาทางสะพานเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี ให้ลอดใต้สะพาน สังเกตป้ายชื่อร้านอาหารกู๊ดวิว ขับตรงไปจนถึงร้านอาหารกู๊ดวิว มีที่จอดรถด้านในร้าน เปิดทุกวัน โทร. 0-3570-3166, 08-1626-3850, 08-1693-7123 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.goodviewayutthaya.com