homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

“KOI” อร่อยรสญี่ปุ่นสไตล์แคลิฟอร์เนีย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 13:23 น.
บรรยากาศภายในร้าน “KOI”
       “อาหารญี่ปุ่น” เป็นหนึ่งในอาหารต่างชาติที่มีนัก กินชาวไทยชื่นชอบในรสชาติและหน้าตาที่มีสวยงามและสดอร่อย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นอาหารญี่ปุ่นประยุกต์และรสชาติดั้งเดิม
      
       แต่ในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” จะขอพาแฟนๆ คออาหารญี่ปุ่นไปลองลิ้มอาหารญี่ปุ่นอีกหนึ่งสไตล์ที่มีความน่าสนใจ โดยขอพามาที่ร้าน “KOI” (คอย แปลว่า ความรัก) ที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์แคลิฟอร์เนีย เปิดตัวครั้งแรกที่ L.A. ลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แล้วได้เปิดตัว KOI นิวยอร์กและลาสเวกัสในเวลาต่อมา และก็ได้มาเปิดร้าน KOI Bangkok ตั้งอยู่ใจกลาง ซ.สุขุมวิท 20 มานานกว่า 5 ปีแล้ว
บรรยากาศห้องวีไอพี
       ร้าน “KOI” ที่เมืองไทยจะออกแบบตกแต่งร้านสไตล์เอเชีย มีความโมเดิร์นดูเรียบหรูด้วยโทนสีดำแดง และแฝงไว้ด้วยความโรแมนติก แวดล้อมด้วยสวนที่ดูเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว สามารถเลือกนั่งได้ในหลายโซนตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นโซนในสวน หรือจะเป็นภายในห้องกระจกที่มีโต๊ะนั่งสบาย และโต๊ะโซฟา รวมถึงยังมีโต๊ะแบบซูชิบาร์ที่จะได้เชฟทำอาหารด้วย แล้วก็ยังส่วนของชั้น 2 ที่จะมีห้องวีไอพีบริการอีกด้วย
      
       ส่วนเรื่องอาหารที่ร้าน KOI นำเสนออาหารญี่ปุ่นปรุงแต่งด้วยกลิ่นอายสไตล์แคลิฟอร์เนีย ที่ผสมผสานสไตล์ตะวันออก เข้ากับสไตล์ตะวันตกได้อย่างลงตัว และยังคงรสชาติความเป็นญี่ปุ่นไว้ในอาหาร ทั้งด้วยส่วนผสมและหน้าตาของอาหารที่รังสรรค์เป็นเมนูที่มีความโดดเด่นเป็น เอกลักษณ์ มีการนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพ สดๆ และปรุงใหม่ทุกวัน คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และความเป็น KOI ที่เหมือนกันทั่วโลก เสมือนปรุงจากครัวเดียวกัน
Grilled Mixed Sea Food Salad
       เมนูอาหารที่น่าลองลิ้มนั้นมีมากมาย อย่างในมื้อนี้เราขอนำเสนอเมนูจานเด่นประจำร้านที่ถ้ามาแล้วต้องสั่งมากิน กันให้ได้ก็มีอยู่หลายเมนู
      
       เริ่มด้วยเมนูแรก Grilled Mixed Sea Food Salad (580 บาท++) เป็นเมนูใหม่ที่น่ากินมากๆ เพราะเป็นผักสลัดสดๆ มีทั้งหัวไชเท้าญี่ปุ่น แตงกวาสไลด์ หอมแดงสไลด์ มะเขือเทศสีด พริกหวานแดงสไลด์ คลุกเคล้ากับซีฟู้ดหลายอย่าง มีลอบส์เตอร์ กุ้งสด หมึก หอยแมลงภู่ ปลาทะเลเนื้อขาว และหอยเซลล์ ราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้าน กินแล้วผักสลัดกรุบกรอบเข้ากับเครื่องทะเลสดๆ และน้ำสลัดรสกลมกล่อมถูกปาก
Yellowtail Fusion Soy Yuzu & Truffle Oil
       เมนูต่อมาคือ Yellowtail Fusion Soy Yuzu & Truffle Oil (550 บาท++) เป็นเนื้อปลาทะเล Yellowtail ที่แล่มาเป็นชิ้นบางๆ แล้วราดด้วยซอส Soy Yuzu และ Truffle Oil และบนเนื้อปลายังมีหอมซอยกับพริกหวาน เวลากินให้กินทั้งเนื้อปลาและหอมซอยกับพริกพร้อมกันเลย จะสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเนื้อปลาที่มีความหวานสด และได้รสชาติของซอสที่ออกเปรี้ยวนิดๆ กลมกลืนรสชาติเข้ากับเนื้อปลา หอมซอยและพริกได้อย่างลงตัว แล้วยังมียำสาหร่ายญี่ปุ่นให้กินเคียงกันด้วย
Tuna Tartar on Crispy Wontons
       ถัดมาเป็น Tuna Tartar on Crispy Wontons (380 บาท++) หน้าตาชวนกินเป็นเนื้อปลาทูน่าหั่นเป็นลูกเต๋า และมีเนื้ออโวคาโดหั่นเป็นลูกเต๋า คลุกเคล้ากับไข่กุ้งและสไปซี่มายองเนส ใส่มาบนแผ่นเกี้ยวทอดกรอบ ชิมแล้วเคี้ยวกร้วมคำแผ่นเกี๊ยวกรอบกรุบเข้ากับเนื้อปลาทูน่านุ่มหวาและ เนื้ออโวคาโดนุ่มๆ ได้รสชาติน้ำซอสมายองเนสออกรสเผ็ดนิดๆ
Creamy Rock Shrimp Tempura
       และถ้าชอบกินกุ้งต้องสั่งเมนูนี้ Creamy Rock Shrimp Tempura (420 บาท++) เป็นกุ้งตัวโตชุปแป้งทอดกรอบแล้วราดด้วยซอสสไปซี่สูตรพิเศษของทางร้าน กินแล้วกุ้งเนื้อแน่นเคี้ยวเต็มปากเต็มคำกรอบนอกนุ่มในฉ่ำรสซอสสไปซี่กลม กล่อมถูกใจปาก
Kappa Roll
       จากนั้นมาชิมเมนูใหม่ Kappa Roll (420 บาท++) เป็นแตงกวาสดด้านในสอดไส้ปูนิ่ม ปูอัดผสมมายองเนส ไข่กุ้ง สาหร่ายทะเล ผักสลัด อโวคาโด ห่อม้วนเป็นโรลแล้วหั่นมาเป็นชิ้น กินคู่กับซอสปลาไหลปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน ชิมแล้วถูกปากตรงที่แตงกวากรุบกรอบเข้ากับปูนิ่มและไส้ต่างๆ ที่อยู่ข้างในและได้รสซอสปลาไหลกลมกล่อมเข้ากันดี
KOI Dragon Roll
       แล้วก็มากิน Koi Dragon Roll (580 บาท++) ที่ด้านในสอดไส้ด้วยปลาไหล แตงกวา ปูอัดผสมมายองเนส กุ้งทอดเทมปุระอโวคาโด แล้วห่อด้วยข้าวญี่ปุ่นและแผ่นสาหร่ายญี่ปุ่นทอดกรอบ คลุกงาดำ โรยหน้าด้วยกากเทมปุระ ราดด้วยซอสปลาไหลและโรยหน้าด้วยงาขาว แต่งจานด้วยซอสพริก ลิ้มรสชาติแล้วถูกปากเคี้ยวคำโตสัมผัสได้ถึงความกรอบกรุบและนุ่มในด้วยข้าว ญี่ปุ่นนุ่มๆ และไส้ต่างๆ รสกลมกลืนเข้ากับซอสถูกปากดีแท้
Grilled Imported Rack of Lamb
       ส่งท้าย“ตระเวนกิน”ของแนะนำ Grilled Imported Rack of Lamb (1,100 บาท++) เป็นซี่โครงแกะจากออสเตรเลียหมักเกลือพริกไทยก่อนจะนำไปกริลล์จนเนื้อสุกได้ ที่ แล้วราดด้วยซอสสไปซี่เทอริยากิ โรยด้วยงาขาวและหอมซอย เสิร์ฟกับมันฝรั่งบด แล่เนื้อแกะส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากได้รสชาติซอสรสกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นสาปแกะเลย
      
       ถึงแม้จะแนะนำเมนูเด็ดมาก็หลายเมนูแล้ว แต่ก็ยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ Crispy Rice Topped with Spicy Tuna (420 บาท++) Salmon Carpaccio Black Truffle & Ponzu (600 บาท++) Shrimp Dynamite on California Roll (580 บาท++) Miso Bronzed Black Cod Medley of Vegetables (780 บาท++) Imported Angus Tenderloin Tepan Style with Teriyaki Sauce (1,200 บาท++) Crispy Fillo Baklava Style (190 บาท++) และอีกสารพัดเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์แคลิฟอร์เนีย ที่ทางร้าน “KOI” ภูมิใจนำเสนอให้มาลองลิ้มกันด้วยตัวเอง
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “KOI” (คอย) ตั้งอยู่ที่ 26 ซ.สุขุมวิท 20 คลองเตย กทม. การเดินทางถ้ามาจากถนนสุขุมวิทให้ตรงมาจนถึงซ. สุขุมวิท 20 แล้วตรงเข้ามาในซอยจะเห็นร้าน KOI อยู่ด้านขวามือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน มีที่จอดรถให้บริการแบบ Valet Parking เปิดทุกวัน เวลา 18.00 - 23.30 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2258-1590 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.koirestaurantbkk.com และที่ Facebook:http:www.facebook.com/koirestaurantbkk และหากถ้ามากินอาหารที่ร้าน KOI แล้วว่าบอกว่าอ่านมาจากเว็บผู้จัดการ ทางร้านจะมอบส่วนลดให้ 25% (เฉพาะค่าอาหาร)

“Petite Pantry” มีดีอิตาเลียนโฮมเมด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ธันวาคม 2554 15:48 น.
บรรยากาศภายในร้าน Petite Pantry
       “อาหารอิตาเลียน” ถือว่าเป็นอาหารจากชาติตะวันตกที่มีรสชาติดี และถูกปากนักกินชาวไทยไม่น้อยเลย เห็นได้จากการที่มีร้านอาหารอิตาเลียนเปิดให้บริการอยู่มากมาย มีทั้งร้านตามโรงแรม ร้านอาหารใหญ่ๆ ตกแต่งอย่างหรูหรา ไปจนถึงร้านขนาดกลางและร้านขนาดเล็ก ที่เปิดเชิญชวนให้คออาหารอิตาเลียนทั้งหลายได้เลือกเดินทางไปลิ้มรสชาติกัน ได้ตามใจปรารถนา
      
       มาในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอเอาใจแฟนๆ ที่พิสมัยอาหารอิตาเลียนกันสักหน่อย โดยขอพาเดินทางมาที่ซ.สุขุมวิท 49 เพื่อมายังร้าน “Petite Pantry” (พิติท แพนทรี่ แปลว่า ครัวขนาดมินิ) ซึ่งที่นี้เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่ชวนให้มาลิ้มลองเป็นอย่างมาก เพราะว่าด้วยบรรยากาศของร้านที่ชวนนั่งแบบชิลล์ ชิลล์ ตรงตามคอนเซ็ปของร้านที่ว่า บรรยากาศง่ายๆ สบายๆ เป็นกันเอง ราคาไม่แพง (ในย่านสุขุมวิทนี้)
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมเย็นๆ
       บรรยากาศของร้านร่มรื่นชวนนั่ง มีทั้งส่วนของห้องแอร์กรุกระจกใส มีโต๊ะให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ หรือจะเป็นโซนโต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติท่ามกลางแมกไม้รื่นรมย์ แล้วยังมีส่วนของโต๊ะนั่งด้านบน และมีห้องวีไอพีไว้คอยให้บริการจัดเลี้ยงได้อีกด้วย
      
       ส่วนเรื่องของอาหารอิตาเลียนของที่ร้านนี้ เน้นว่าเป็นอิตาเลียนสไตล์โฮมเมด ที่เน้นคัดสรรวัถุดิบที่มีคุณภาพในการนำมาปรุงเป็นอาหารอิตาเลียนจานเด็ดที่ ทางร้านรังสรรค์เมนูคิดมาเป็นสไตล์ของตัวเองโดยเฉพาะ ซึ่งมีเมนูอิตาเลียนอันหลากหลายให้ได้เลือกสั่งมากินกันตามใจชอบ
Calamari Pizza
       และในมื้อนี้เราก็มีเมนูอิตาเลียนจานเด็ดของที่ร้านนี้ ที่ถ้าหากได้มาแล้วแนะนำว่าต้องสั่งมาลิ้มรสกันให้ได้ เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยด้วยของกินเล่นอย่าง Calamari (200 บาท++) เป็นหมึกที่นำมาชุบกับแป้งที่ทางร้านปรุงรสไว้แล้วทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับซอสที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ เคี้ยวหมึกกรอบนอกเนื้อในนุ่มหนึบหนับปากเข้ากับรสชาติซอสรสชาติดี
Caramelized Apple & Walnut Salad
       จานถัดมานำเสนอ Caramelized Apple & Walnut Salad (240 บาท++) เป็นสลัดจานเด่นที่มีแอปเปิ้ลย่างกับเนย มีผักรอคเก็ต มะเขือเทศเชอร์รี่ ราดด้วยน้ำสลัดบาซามิค โรยด้วยวอลนัทและเฟต้าชีส ลิ้มรสสลัดถูกปากกับแอปเปิ้ลหอมหวานเข้ากับผักรอคเก็ต วอลนัท ชีส และน้ำบาซามิครสกลมกล่อมลิ้น
Petite Style Lasagna
       ต่อด้วยเมนู Petite Style Lasagna (320 บาท++) เป็นลาซานญ่าเนื้อหอมๆ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ทำสดๆ ทุกถ้วย โดยทางร้านจะนำเนื้อออสเตรเลียมาปรุงรสตามสูตรเฉพาะ มาทำไปไส้ลาซานญ่าใส่สลับกับชีสเป็นชั้นๆ 3-4 ชั้น และด้านบนโปะด้วยมอสซาเรลล่าชีสแล้วนำเข้าอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมๆ กินแล้วเนื้อนุ่มรสดีนุ่มหนืดชีสถูกปากจริงๆ
Spaghetti Shrimp Japanese Shrimp Roe
       แล้วมาชิม Spaghetti Shrimp Japanese Shrimp Roe (280 บาท++) ที่ถ้าใครชอบกินพาสต้าแนะนำเลยว่าต้องสั่งมาชิม เพราะทางร้านนำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดน้ำมันมะกอก ใส่มะเขือเทศเชอร์รี่ กุ้งสด ไข่กุ้ง และใส่พริกขี้หนูสดเล็กน้อยให้มีรสชาติจัดจ้านขึ้น กินแล้วก็ถูกปากกับเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มเด้งเข้ากับกุ้งและไข่กุ้งมัน ปาก อกรสเผ็ดนิดๆ กำลังดี
Home-Style Baked Sole
       ตามมาด้วยเมนูนี้ Home-Style Baked Sole (260 บาท++) เป็นปลาทะเล Baked Sole ลามาเป็นชิ้นแล้วอบกับไวน์ขาว มะกอก เคเปเปอร์ และมะเขือเทศซันดราย มีเครื่องเคียงเป็นผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง กินปลาเนื้อนุ่มหวานและได้รสชาติของไวน์ขาวที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ถูกปากดีแท้
Cantadina
       และก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งพิซซ่ามากินกันให้ได้ เพราะที่นี่ทำพิซซ่าแบบโฮมเมด มีเตาอบพิซซ่าที่สั่งทำมาโดยเฉพาะ แนะนำให้สั่ง Cantadina Pizza (300 บาท++) เป็นพิซซ่าแบบอิตาเลียนแท้ๆ แป้งบางและอบด้วยเตาถ่านแบบพิเศษสำหรับทำพิซซ่าเท่านั้นทำให้แป้งกรอบทั่ว กัน และมีกลิ่นหอมของไม้ที่ใช้อบด้วย หน้าพิซซ่านี้ใส่เห็ดหอมสด ไส้กรอกอิตาเลียน มอซซาเรลล่าชีส และโรยหน้าด้วยผักรอคเก็ต กินพิซซ่าแป้งบางกรอบหอมชีสและเต็มปากเต็มคำกับเครื่องต่างๆ ที่ใส่มา
ลีลาการทำพิซซ่าแบบโฮมเมด
       เมนูต่างๆ ที่นำเสนอมานี้เป็นเมนูเด่นที่ไม่ควรพลาดต้องสั่งมาลิ้มลองกันให้ได้ แล้วก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ BBQ Chicken Pizza California Style (340 บาท++) Pizza Spicy Clams White Wine Cream Sauce (360 บาท++) Linguini with Crab Meat (320 บาท++) Baked Atichoke Almond Crusted Salmon Trout (600 บาท++) และอีกหลายหลากเมนูอิตเลียนโฮมเมดเลิศรสที่อยากจะชวนให้ผู้ที่ชืนชอบอาหาร อิตาเลียนได้ลองเดินทางมาลองลิ้มกันด้วยตัวเองที่ร้าน “Petite Pantry” แห่งนี้
บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านบน
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “Petite Pantry” (พิติท แพนทรี่) ตั้งอยู่ที่ 55/1 ซ.สุขุมวิท 49 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. การเดินทางถ้ามาจากถ.สุขุมวิท ให้ตรงที่ซ.สุขุมวิท 49 ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆ จนมาถึงวิลล่ามาร์เก็ตจะเห็นร้าน Petite Pantryตั้งอยู่ติดกัน จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลฟัน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. มีที่จอดรถภายในร้าน ทางร้านรับจัดเลี้ยงและมีบริการ Delivery ด้วย โทร. 0-2662-4547

อิ่มกาย สุขใจ ในไออุ่นเพลงแจ๊ส ที่ “Mello Yello”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ธันวาคม 2554 14:58 น. 
บรรยากาศภายในร้าน” Mello Yello”
       การที่ได้มานั่งทอดกาย ปลดปล่อยอารมณ์ พาใจให้เพลินเพลิดไปกับเสียงเพลงแจ๊สอันไพเราะ มันช่างเป็นห้วงเวลาแห่งความสุขเสียจริงเชียว ซึ่งในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” ได้ชวนสมัครพรรคพวกมากินดื่มแบบชิลล์ ชิลล์ กันที่ร้าน “Mello Yello Jazz & More” (เมลโล่ เยลโล่ แจ๊สแอนด์มอร์) ที่ตั้งอยู่ตรงRCA
มีดนตรีขับกล่อมให้ฟังอย่างเพลิดเพลิน
       “Mello Yello” เป็นร้านบาร์ที่ว่าด้วยบรรยากาศที่ ชวนให้มานั่งผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ภายในร้านดูโมเดิร์นตกแต่งอย่างมีสไตล์ลงตัว เน้นความอบอุ่นนั่งสบาย ไม่แออัดและโปร่งโล่ง มีโต๊ะนั่งให้เลือกหลายโซนตามใจชอบ ด้านล่างมีโต๊ะนั่งโซฟานุ่มๆ หลากหลายแบบให้เลือกนั่งตามใจ และมีเวทีที่จะมีนักดนตรีมาเล่นเพลง Jazzให้ฟัง และยังมีเพลงแนวSoul, Funk, Fusion หลากหลายรูปแบบ นำโดยวงของสาว“โอ่ง เมลโล่โมทีฟ-ณัฐชา ปัทมพงศ์” ร่วมด้วยวงดนตรีอีกหลากหลายทั้งไทยและต่างชาติชั้นนำที่จะสลับหมุนเวียนมา เล่นกันทุกวัน ตั้งแต่ 21.00 น. แต่ก่อนหน้านั้นก็จะมีดนตรีเปิดแผ่นหลากหลายแนวแต่จะเน้น Jazzเป็นหลัก ส่วนด้านบนมีมุมโต๊ะนั่งเก๋ๆ และมีโต๊ะพูลให้บริการด้วย แล้วก็ยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้สูดอากาศธรรมชาติกันด้วย
      
       นั่นคือบรรยากาศที่แสนจะชิลล์ ชิลล์ เหมาะแก่การมานั่งกินดื่มกัน ซึ่งเมื่อถามถึงอาหารของที่ร้านนี้ ก็ต้องบอกว่ามีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว เพราะว่ามีอาหารนานาชาติอันหลายหลากให้เลือกลิ้มรส และจะมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งเมนูส่วนใหญ่ทางร้านคิดค้นเมนูคิดมาโดยเฉพาะ และคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดีมาปรุงแต่งเป็นเมนูจานเด็ดเลิศรสที่ชวนลองลิ้ม มากมาย
เกี๊ยวห่อชีส
       “ตระเวนกิน”ขอแนะนำเมนูจานเด่นที่ชวนกิน เริ่มด้วยเมนูกินเล่นเรียกน้ำย่อย เกี๊ยวห่อชีส (90 บาท+) เป็นแผ่นแป้งเกี๊ยวแล้วมีชีสที่ทางร้านคัดมาเป็นพิเศษ ห่อม้วนกับแผ่นเกี๊ยวและทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมะเขือเทศและมายองเนส กินเกี๊ยวเคี้ยวแป้งกรอบกรุบนุ่มหนึบชีสรสดีโดนใจปาก
ไส้กรอก Mello Yello
       ไส้กรอก Mello Yello (120 บาท+) เมนูนี้มีให้กินที่ร้านนี้เท่านั้น เพราะเป็นไส้กรอกสูตรพิเศษที่ทางร้านทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำจากเนื้อหมูล้วนๆ รมควันหมักกับเครื่องเทศและเครื่องปรุงต่างๆ เสิร์ฟมาร้อนๆ กินแล้วไส้กรอกเคี้ยวเด้งปากและนุ่มลิ้นกับเนื้อหมูแน่นๆ รสชาติเข้มข้นเครื่องเทศ กินโดยไม่ต้องจิ้มซอสเลยก็อร่อยแล้ว แต่ทางร้านจะมีซอสพริกมาให้จิ้มเพิ่มรสชาติด้วย
กุ้งชุบแป้งทอด
       ตามมาด้วย กุ้งชุบแป้งทอด (190 บาท+) จานนี้มีทีเด็ดอยู่ที่ทางร้านนำกุ้งแชบ๊วยสดๆ ตัวโตเอามาชุบแป้งที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ แล้วทอดจนกุ้งสุกเหลืองกรอบ มีผัดสลัดรองจานมาด้วย กินกุ้งชุบแป้งทอดหอมๆ แป้งกรอบกำลังดี กุ้งเนื้อแน่นเต็มปากเต็มคำ กินคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยหวานๆ ถูกปากดีจริง
ลาบหมูทอด
       แล้วก็มาชิม ลาบหมูทอด (120 บาท+) หน้าตาจิ้มลิ้มชวนกิน เป็นลาบหมูที่ปรุงมาแบบครบเครื่องลาบเต็มสูตร และก็ปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ ทอดกรอบ กินแล้วลาบกรอบนอกแต่เนื้อในนุ่มเนื้อหมูที่ออกรสชาติลาบเข้มข้นแบบถึง เครื่อง กินคู่กับผักสดๆ
คาโบนาร่า
       จากนั้นสลับรสชาติมากินอาหารฝรั่งบ้าง เป็น คาโบนาร่า (170 บาท+) ที่ทางร้านนำเอาเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับครีมซอสคาโบนาร่าสูตรพิเศษที่ทางร้าน ปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ และใส่แฮม โรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบ ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเส้นเหนียวนุ่มชุ่มรสชาติครีมซอสคาโบนาร่าที่ หอมออกรสกลมกล่อม
สเต็กเนื้อ
       และถ้าใครชอบกินเนื้อแนะนำให้สั่ง สเต็กเนื้อ (480 บาท+) เป็นเนื้อวัวส่วนสันนอกที่ทางร้านคัดเป็นอย่างดี หมักกับเครื่องหมักสูตรพิเศษของทางร้าน แล้วนำมากริลล์ เลือกระดับความสุกของเนื้อได้ตามใจชอบ เสิร์ฟพร้อมกับเฟรนช์ฟราย และผักลวก แล่เนื้อส่งเข้าปากได้กลิ่นหอมของเครื่องหมักขึ้นจมูก เนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากมีความฉ่ำของเนื้อที่ดี รสชาติถึงเครื่องหมักถูกปากดีแท้
Mello Yello Mocktails
       แล้วเดี๋ยวจะหาว่ามีแต่อาหารไม่มีเครื่องดื่มมานำเสนอหรืออย่างไร ขอแนะนำเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วสร้างความสดชื่นให้กับร่างกาย และเป็นเครื่องดื่มตัวเด่นของทางร้าน นั่นคือ Mello Yello Mocktails (แก้วละ 200 บาท+) ซึ่งมีอยู่ 3 รสชาติ ให้เลือกสั่งมาดื่มกัน มี Mello’s Blue Sapphire น้ำสีฟ้า Mello’s Ruby น้ำสีแดง และMello’s Topaz น้ำ สีส้ม ซึ่งแต่ละตัวจะมีส่วนผสมของน้ำลิ้นจี่ ใส่น้ำหวานที่ทำให้เกิดสีต่างๆ และปั่นรวมกับน้ำแข็งพร้อมกับใส่เยลลี่ลงไปปั่นรวมด้วย ตกแต่งด้วยชิ้นส้มและเชอร์รี่ ดื่มแล้วหอมหวานสดชื่นมากๆ
บรรยากาศโต๊ะนั่งรับลมด้านนอก
       นอกจากเมนูและเครื่องดื่มที่นำเสนอไปแล้วนั้น ก็ยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีกมากมาย อาทิ ยำเนื้อ Mello yello (170 บาท+) ยำถั่วสมุนไพร (90 บาท+) ปีกไก่ทอด Mello yello (120 บาท+) เปาะเปี๊ยะแฮมชีส (130 บาท+) น้ำผลไม้ปั่นต่างๆ (80-100 บาท+) ฯลฯ
       เอาเป็นว่าหากใครกำลังเมียงมองหาสถานที่แฮงเอาท์แบบชิลล์ ชิลล์ มีอาหารรสดีให้กินแกล้มเข้ากับบรรยากาศ และมีเพลง Jazz ให้ฟังแบบเพลิดเพลิน ขอแนะนำให้ตรงมาที่ “Mello Yello Jazz & More”
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “Mello Yello Jazz & More” (เมลโล่ เยลโล่ แจ๊สแอนด์มอร์) ตั้งอยู่ที่ 29/70-72 RCA โซน S ถ.พระราม 9แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. การเดินทางสามารถมาได้ 2 ทาง หากมาทางถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เข้ามาในถ.RCA แล้วเลี้ยวซ้าย ขับเลยร้านตักสุรามา Mello Yello จะอยู่ซ้ายมือ หรือถ้ามาทางถ.พระรามเก้าให้วิ่งผ่านร้าน Route66 มาประมาณ 50 ม. Mello Yello จะอยู่ขวามือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจนเปิดจันทร์-เสาร์ (หยุดทุกวันอาทิตย์) เวลา 19.00 -ครัวปิด 24.00 น. โทร. 0-2203-0423, 0-2641-4283 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/melloyellojazz