homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

"หลกหลั่ก"...สเต็กเขมร ที่ "ช้างปาร์ครีสอร์ท" เกาะช้าง ตราด / แม่ช้อยนางรำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2552 16:29 น.
โดย : แม่ช้อยนางรำ
ความสุขของคนได้เปิบ "หลกหลั่ก" หน้าจะบานเป็นกะละมังอย่างนี้
       "สามสิบกว่าปี..อยู่ที่เขมรก่อนแตก
       เคยเปิบอาหารแปลก "เนื้อหลกหลั่ก"
       ก็เพิ่งจะไปเปิบ "สเต็กเขมร" กันคราวนี้"

      
       อีชั้น...มีน้องบุญธรรมกับเขาเหมือนกันนะเจ้าค่ะ
      
       น้องคนที่อีชั้นจะเขียนให้เจ้านายรู้จักชื่อว่า ... "นายอู๋"
      
       นายอู๋...หรือคุณ "จักรรบ โชติดำรง" คนนี้เป็นลูกชายของ "พล.ต.ท.เจริญ โชติดำรง" อดีตผู้การธนบุรี มือปราบคนดังที่บรรดาเจ้าพ่อมือปืนทั้งหลายรู้จักท่านดี
      
       "เฮียแคล้ว ธนิยะกุล" ยังเรียกท่านว่าพ่อ
      
       แล้วท่านก็เมตตารับอีชั้นไว้เป็นลูกบุญธรรม
      
       เพราะฉะนั้น "นายอู๋" ลูกชายคนเล็ดของท่านก็เป็นเสมือนน้องชายของอีชั้นเหมือนกันใช่มั๊ยเจ้าค่ะ?
      
       "นายอู๋" หรือคุณจักรรบ(ชื่อแปลกที่ซู้ด) คนนี้เป็นเจ้าของ "ช้าง ปาร์ค รีสอร์ทแอนด์ สปา" อยู่บนเกาะช้าง เมืองตราด
      
       จะว่าไปแล้วนายอู๋คนนี้ล่ะ เป็นคนบุกเบิกเกาะช้างให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน
"หลกหลั่ก" สเต็กเขมรที่ขแมร์ทำเลียนสเต็กฝรั่งเศส
       จนกระทั่งได้ทำเลสวย..สวยที่สุดของเกาะช้าง สร้างเป็นรีสอร์ท อยู่แถวที่เขาเรียกกันว่า "ไก่แบ้"
      
       เวลาอีชั้นไปเกาะช้าง ก็ต้องพักช้างปาร์คของน้องชายคนนี่ล่ะเจ้านาย
      
       สะดวกสบาย โดยเฉพาะเรื่องเรือข้ามฟากละก็ให้บอกที่ท่าเรือ "เซ็นเตอร์ พอยท์" น้องชายอีกคนดูแลชื่อว่า "นายป๋อง" จะให้ออกเมื่อไหร่ย่อมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
      
       (ไม่เชื่อเจ้านายโทรไปคุยกับเขาก็ได้ที่ 08-9093-3114)
      
       ที่สำคัญ เรื่องอาหารทะเลที่ "ช้างปาร์ค" ไม่เคยผิดหวัง อย่างกั้งแก้วตัวโต..โต กุ้งลายเสือบางคนเรียกว่า "กุลาดำยักษ์" ที่นี่มีไม่เคยขาด ขอแนะนำให้เจ้านายได้รู้จัก
      
       
กุ้งลายเสือ (TUGER PRAWN)
       ที่ "เกาะช้าง" เมืองตราด
       

       เป็นกุ้งท้องถิ่นของทะเลตราด มีขนาดใหญ่ตัวใหญ่สุดเคยพบตัวเกือบกิโลก็ยังมีแต่ที่ "ช้างปาร์ค รีสอร์ทแอนด์สปา" จะคิดขาด 3-4 ตัวกิโล ซึ่งเป็นขนาดกำลังกิน จะเอามาย่างกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือจะมาต้มยำทำแกงอะไรอร่อยทั้งนั้น

      
       ก็อย่างที่เรียนเจ้านายไปเกาะช้างก็จะต้องพักที่ "ช้างปาร์ค รีสอร์ท" เพราะที่พักเขายอด อาหารก็อร่อย..ช้อยการันตี
"ช้างปาร์ค รีสอร์ท แอนด์ สปา" ที่เดียวบน "เกาะช้าง" ที่มี "หลกหลั่ก" หรือ สเต็กเขมร” ให้เปิบรับประทาน
       และที่สำคัญ ที่ "ช้าง ปาร์ค" ฏ็มีอาหารท้องถิ่นที่ทั่วเกาะ หรือทั่วเมืองตราดไม่มี แล้วอีชั้นก็อยากให้เจ้านายได้ลองกัน
      
       เมนูที่ว่าจานนั้นคือ... "หลกหลั่ก"
       

       เจ้านายอย่างเพิ่งเลิกหลั่ก กับอาหารชื่อแปลกจานนี้ เพราะไม่ใช่เป็นอาหารไทย
      
       เป็นอาหารเขมร ที่คนขะแมร์ดัดแปลงมาจากสเต็กฝรั่งเศส สมัยที่เป็นอาณานิคมเมืองขึ้นไง อร่อยแบบเขมรที่ไทยก็กินได้
      
       "หลกหลั่ก" ใช้เนื้อวัวเลือกเฉพาะสันใน นิ่ม..นุ่ม หมักด้วยน้ำปลากับมะนาวได้ทีแล้วจึงเอาไปผัดใส่พริกไทย รากผักชี แต่ที่แปลกก็คือมีถั่วลิสงโขลกละเอียดใส่ ไม่มีพริกเพราะคนเขมรไม่กินเผ็ด
      
       ทำง่าย...ง่ายแต่ก็อร่อยได้ด้วยรสชาติที่เจ้านายทายไม่ได้ว่าจะอร่อยอย่างไร?
      
       แต่สมัยที่อีชั้นไปเมืองเขมรเป็นปี ก็ได้พึ่งเจ้าหลกหลั่กที่ว่าเวลาคิดถึง..ซูเต็กบ้านเรา!!
      
       แล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะได้กินอีกคราวนี้ ก้เมื่อมาเกาะช้าง เมืองตราดคราวนี้
      
       "หลกหลั่ก" กินเปล่า....เปล่า หรือกินกับข้าวสวนร้อน..ร้อน รวมทั้งขนมปังแบบฝรั่งเศสที่เรียกว่า "บาเก็ต" ได้ทั้งนั้น แต่ที่สำคัญ
       ถ้าไม่ไปกินที่เมืองเขมร ก็ต้องมากินที่ "ช้าง ปาร์ค รีสอร์ค" เกาะช้าง เมืองตราด
      
       ถ้าเจ้านายเจอ "นายอู๋" น้องชายอีชั้นกิน "หลกหลั่ก" แล้วจะขอให้เขาแถมผัดไทยสูตรเกาะกง ที่เคยเป็นของเราแต่ถูกจักรดิวรรดิ์นิยมฝรั่งเศสมันแยกเอาไปก็ยังไหว
      
       ไง...ไงก็อย่าลืม "กุ้งลายเสือ" เสียล่ะ
      
       สด..สด ใหม่..ใหม่ ทั่วเมืองไทย กุ้งลายเสือเกาะช้างใหญ่ที่สุด
      
       ...แต่ถ้าจะอร่อยสุด...สุดทั่วเกาะช้าง อยู่ที่ช้างปาร์คเจ้าค่ะ เจ้านาย
      
       *********************************************************
       *********************************************************
      
       
ติดต่อ "ช้างปาร์ค รีสอร์ทแอนด์สปา" ได้ที่ 118/4 วิภาวดี 2 ดินแดง กทม.10400 โทร 0-2692-0121 โทรสาร 0-2692-0663

"ปลาช่อน 6 ริ้ว" หมู่บ้านวอ แม่น้ำสะโตง/ สันติ เศวตวิมล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2554 15:29 น.
โดย : สันติ เศวตวิมล
"แม่น้ำสะโตง" ช่วงหมู่บ้านวอ ก่อนไหลลงอ่าวเมาะตะมะ
       หมู่บ้านวอ...อยู่ริมแม่น้ำสะโตง รัฐมอญ
       แม่น้ำสะโคง...เป็นแม่น้ำประวัติศาสตร์ไทยรบพม่า
       ที่นี่...มี "ปลาช่อนแห้ง" ดังเรียกว่า "ปลาช่อน 6 ริ้ว
      
       ใครที่เคยไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวน รัฐมอญ เมืองพม่า คงจะตื่นตากับแม่น้ำสะโตง
      
       แม่น้ำประวัติศาสตร์ที่ "สมเด็จพระนเรศวร" ทรงปืนต้นข้ามแม่น้ำยี้ไปถูก "สุรกรรมา" แม่ทัพพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง
      
       เมื่อตอน "ป้าช้อย" พาผมไปไหว้พระธาตุ ที่ตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ ตั้งหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผาทำท่าจะตกลงมาให้ได้ แต่ก็ไม่ตกลงมาสักกะที เป็นร้อย...ร้อยปี ผมก็ตื่นเต้นเพราะกลัวว่า...ผมจะไปผลักพระธาตุเขาตกลงมา
"แม่ค้าปลาช่อน" ไม่รู้ว่าเป็นมอญหรือพม่า
       เพราะตอนที่ผมเอามือไปดันก้อนหินที่มีองค์พระธาตุตั้งก็สั่น...สั่น ทำท่าว่าเลื่อนลั่น ผมรีบชักมือกลับทันควัน ถ้าพระธาตุตกลงมา
      
       ผมคงติดคุกพม่าหัวโต!!
      
       ผมไปไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" หลายครั้ง คือมากกว่าสิบคราว จนกระทั่งเพื่อนพม่าบอกว่า ไม่ต้องมาอีกก็ได้ เพราะว่า
      
       คนพม่าไหม้พระธาตุอินทร์แขวนสามครั้ง เขาก็ว่าจะได้ขึ้นววรรค์แล้ว
      
       แต่ถ้าผมไปมากกว่าสิบคราว ประเดี๋ยวสวรรค์หมั่นไส้ พอดีพอร้ายไม่ได้ขึ้นสวรรค์ อาจจะตกสวรรค์ก็ได้...พม่ามันว่าอย่างนั้น
      
       อย่างที่ผมเขียนเรียนท่านว่า
      
       เวลาไปไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" ก็จะต้องผ่านแม่น้ำสะโตงที่กว้างใหญ่ มองคล้ายแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงจะออกปากอ่าวไทย
      
       แม่น้ำสะโตงก็ไหลออกอ่าวเมาะตะมะเหมือนกัน
      
       ก่อนจะข้ามสะพานเหล็กที่สร้างสมัยอังกฤษปกครองมองดูแล้วคล้ายกับสะพานสมัยสงครามโลก เราก็จะผ่านหมู่บ้านเล็ก...เล็กที่ชื่อว่า "วอ"
      
       หมู่บ้านที่ว่านี้ไง ผ่านไปทีไรจะเห็นรถราจอดกันแน่นหน้าหมู่บ้าน รถราติดกันเสียเวลาเป็นชั่วโมง เพราะใครมาถึงที่นี่ก็จะต้องลงไปซื้อ "ปลาช่อนแห้ง" ที่พม่าบอกว่า
      
       ปลาช่อนแห้ง บ้านวอ ริมแม่น้ำสะโตง เขตแคว้นแดนมอญที่ว่านี้ เป็นปลาช่อนที่ดีที่สุดในเมืองพม่า
      
       เขาเรียกกันว่า "ปลาช่อนนาหยั่น"
      
       หรือจะเรียกเป็นภาษาพม่าก็ต้องออกเสียงว่า "นาหยั่นจอ"
      
       เอาละ ก็เป็นว่า
"ร้านขายปลาช่อนแห้ง" ริมถนนสายหงสา-พระธาตุอินทร์แขวน
       ทุกครั้ง...ทุกคราที่ผมมาไหว้ "พระธาตุอินทร์แขวน" ผมจะต้องแวะซื้อปลาช่อนบ้านวอ ถ้าไม่ซื้อ "ยี่หว่า ยาหยี"...เจ้าของร้านกาแฟ "แม่ช้อย ดอยหลวง" ในซอยเรวดี นนทบุรี เป็นต้องโวยวาย เพราะเมนูดังประจำร้านก็คือ "ปลาช่อนหงสา"
      
       เป็นอาหารโบราณของพวกพม่ารามัญทำกินกันตั้งแต่โบร่ำโบราณ เวลายกทัพจับศึกไปตีเมืองไหน เป็นต้องทำ "ปลาช่อนหงสา" ใส่เป็นเสบียงกรัง คลุกกับข้าวกินกันได้ไม่เบื่อ
      
       ปลาช่อนนาหยั่น
      
       "หกริ้ว"
      
       ที่คนพม่านิยมซื้อปลาช่อนที่บ้านวอก็เพราะว่า ปลาช่อนที่นี่ตัวใหญ่ เมื่อผ่าอกมาเป็นปลาแห้งก็จะได้หกริ้ว(โปรดสังเกตจากรูปจะเห็นชัด) แต่ถึงอย่างไรก็ยังเล็กกว่าปลาช่อนแห้งที่ฉะเชิงเทรา ที่เขาเรียกกันว่า "แปดริ้ว" ก็เพราะสมัยหนึ่งปลาช่อนแห้งที่บ้านเรามีถึง 8 ริ้ว...แต่เดี๋ยวนี้ได้แค่ 2 นิ้วก็โอเคแล้ว
      
       คนพม่ากินปลาช่อนแบบบ้านเรา คือเอาไปย่าง เอาไปเผาหรือเอาไปทอด แต่ถ้าจะให้อร่อยยอด ก็จะต้องเอาไปทำ "ปลาช่อนหงสา"
       "หงสา"...ก็คือชื่อเมืองหงสาวดี เมืองหลวงของมอญในอดีต ปัจจุบันพม่าเรียกว่าเมือง "พะโค"
      
       วิธีทำก็เอาปลาช่อนไปทอดให้กรอบ แล้วเอาน้ำพริกกุ้งพม่าที่เรียกว่า "ปาลาฉ่อง" ผัดคลุกเคล้าไปทั่วทั้งตัว รสชาติจะออกเผ็ด...เผ็ด เค็ม...เค็ม พม่าไม่กินเปรี้ยว กินหวาน แต่อาหารจานนี้ขึ้นชื่อจะกินให้อร่อยต้องไปที่เมืองหงสาวดี
      
       หรือที่ร้าน "แม่ช้อยดอยหลวง" ซอยเรวดี นนทบุรี
      
       แต่ไม่ได้มีให้กินทุกวันหรอกครับ เวลาผมไปทำทัวร์เมืองพม่าทีก็จะต้องหอบปลาช่อนบ้านวอกับน้ำพริกกุ้งปาลาฉ่อง เมืองหงสาวดีกลับมาทำขาย
      
       ไปเมื่อไหร่ จะรายงานให้รู้กัน รับรองว่าทั่วแคว้นแดนไทยไม่มีใครทำขายกัน

“Petite Pantry” มีดีอิตาเลียนโฮมเมด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ธันวาคม 2554 15:48 น.
บรรยากาศภายในร้าน Petite Pantry
       “อาหารอิตาเลียน” ถือว่าเป็นอาหารจากชาติตะวันตกที่มีรสชาติดี และถูกปากนักกินชาวไทยไม่น้อยเลย เห็นได้จากการที่มีร้านอาหารอิตาเลียนเปิดให้บริการอยู่มากมาย มีทั้งร้านตามโรงแรม ร้านอาหารใหญ่ๆ ตกแต่งอย่างหรูหรา ไปจนถึงร้านขนาดกลางและร้านขนาดเล็ก ที่เปิดเชิญชวนให้คออาหารอิตาเลียนทั้งหลายได้เลือกเดินทางไปลิ้มรสชาติกัน ได้ตามใจปรารถนา
      
       มาในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอเอาใจแฟนๆ ที่พิสมัยอาหารอิตาเลียนกันสักหน่อย โดยขอพาเดินทางมาที่ซ.สุขุมวิท 49 เพื่อมายังร้าน “Petite Pantry” (พิติท แพนทรี่ แปลว่า ครัวขนาดมินิ) ซึ่งที่นี้เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่ชวนให้มาลิ้มลองเป็นอย่างมาก เพราะว่าด้วยบรรยากาศของร้านที่ชวนนั่งแบบชิลล์ ชิลล์ ตรงตามคอนเซ็ปของร้านที่ว่า บรรยากาศง่ายๆ สบายๆ เป็นกันเอง ราคาไม่แพง (ในย่านสุขุมวิทนี้)
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมเย็นๆ
       บรรยากาศของร้านร่มรื่นชวนนั่ง มีทั้งส่วนของห้องแอร์กรุกระจกใส มีโต๊ะให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ หรือจะเป็นโซนโต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติท่ามกลางแมกไม้รื่นรมย์ แล้วยังมีส่วนของโต๊ะนั่งด้านบน และมีห้องวีไอพีไว้คอยให้บริการจัดเลี้ยงได้อีกด้วย
      
       ส่วนเรื่องของอาหารอิตาเลียนของที่ร้านนี้ เน้นว่าเป็นอิตาเลียนสไตล์โฮมเมด ที่เน้นคัดสรรวัถุดิบที่มีคุณภาพในการนำมาปรุงเป็นอาหารอิตาเลียนจานเด็ดที่ ทางร้านรังสรรค์เมนูคิดมาเป็นสไตล์ของตัวเองโดยเฉพาะ ซึ่งมีเมนูอิตาเลียนอันหลากหลายให้ได้เลือกสั่งมากินกันตามใจชอบ
Calamari Pizza
       และในมื้อนี้เราก็มีเมนูอิตาเลียนจานเด็ดของที่ร้านนี้ ที่ถ้าหากได้มาแล้วแนะนำว่าต้องสั่งมาลิ้มรสกันให้ได้ เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยด้วยของกินเล่นอย่าง Calamari (200 บาท++) เป็นหมึกที่นำมาชุบกับแป้งที่ทางร้านปรุงรสไว้แล้วทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับซอสที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ เคี้ยวหมึกกรอบนอกเนื้อในนุ่มหนึบหนับปากเข้ากับรสชาติซอสรสชาติดี
Caramelized Apple & Walnut Salad
       จานถัดมานำเสนอ Caramelized Apple & Walnut Salad (240 บาท++) เป็นสลัดจานเด่นที่มีแอปเปิ้ลย่างกับเนย มีผักรอคเก็ต มะเขือเทศเชอร์รี่ ราดด้วยน้ำสลัดบาซามิค โรยด้วยวอลนัทและเฟต้าชีส ลิ้มรสสลัดถูกปากกับแอปเปิ้ลหอมหวานเข้ากับผักรอคเก็ต วอลนัท ชีส และน้ำบาซามิครสกลมกล่อมลิ้น
Petite Style Lasagna
       ต่อด้วยเมนู Petite Style Lasagna (320 บาท++) เป็นลาซานญ่าเนื้อหอมๆ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ทำสดๆ ทุกถ้วย โดยทางร้านจะนำเนื้อออสเตรเลียมาปรุงรสตามสูตรเฉพาะ มาทำไปไส้ลาซานญ่าใส่สลับกับชีสเป็นชั้นๆ 3-4 ชั้น และด้านบนโปะด้วยมอสซาเรลล่าชีสแล้วนำเข้าอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมๆ กินแล้วเนื้อนุ่มรสดีนุ่มหนืดชีสถูกปากจริงๆ
Spaghetti Shrimp Japanese Shrimp Roe
       แล้วมาชิม Spaghetti Shrimp Japanese Shrimp Roe (280 บาท++) ที่ถ้าใครชอบกินพาสต้าแนะนำเลยว่าต้องสั่งมาชิม เพราะทางร้านนำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดน้ำมันมะกอก ใส่มะเขือเทศเชอร์รี่ กุ้งสด ไข่กุ้ง และใส่พริกขี้หนูสดเล็กน้อยให้มีรสชาติจัดจ้านขึ้น กินแล้วก็ถูกปากกับเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มเด้งเข้ากับกุ้งและไข่กุ้งมัน ปาก อกรสเผ็ดนิดๆ กำลังดี
Home-Style Baked Sole
       ตามมาด้วยเมนูนี้ Home-Style Baked Sole (260 บาท++) เป็นปลาทะเล Baked Sole ลามาเป็นชิ้นแล้วอบกับไวน์ขาว มะกอก เคเปเปอร์ และมะเขือเทศซันดราย มีเครื่องเคียงเป็นผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง กินปลาเนื้อนุ่มหวานและได้รสชาติของไวน์ขาวที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ถูกปากดีแท้
Cantadina
       และก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งพิซซ่ามากินกันให้ได้ เพราะที่นี่ทำพิซซ่าแบบโฮมเมด มีเตาอบพิซซ่าที่สั่งทำมาโดยเฉพาะ แนะนำให้สั่ง Cantadina Pizza (300 บาท++) เป็นพิซซ่าแบบอิตาเลียนแท้ๆ แป้งบางและอบด้วยเตาถ่านแบบพิเศษสำหรับทำพิซซ่าเท่านั้นทำให้แป้งกรอบทั่ว กัน และมีกลิ่นหอมของไม้ที่ใช้อบด้วย หน้าพิซซ่านี้ใส่เห็ดหอมสด ไส้กรอกอิตาเลียน มอซซาเรลล่าชีส และโรยหน้าด้วยผักรอคเก็ต กินพิซซ่าแป้งบางกรอบหอมชีสและเต็มปากเต็มคำกับเครื่องต่างๆ ที่ใส่มา
ลีลาการทำพิซซ่าแบบโฮมเมด
       เมนูต่างๆ ที่นำเสนอมานี้เป็นเมนูเด่นที่ไม่ควรพลาดต้องสั่งมาลิ้มลองกันให้ได้ แล้วก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ BBQ Chicken Pizza California Style (340 บาท++) Pizza Spicy Clams White Wine Cream Sauce (360 บาท++) Linguini with Crab Meat (320 บาท++) Baked Atichoke Almond Crusted Salmon Trout (600 บาท++) และอีกหลายหลากเมนูอิตเลียนโฮมเมดเลิศรสที่อยากจะชวนให้ผู้ที่ชืนชอบอาหาร อิตาเลียนได้ลองเดินทางมาลองลิ้มกันด้วยตัวเองที่ร้าน “Petite Pantry” แห่งนี้
บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านบน
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “Petite Pantry” (พิติท แพนทรี่) ตั้งอยู่ที่ 55/1 ซ.สุขุมวิท 49 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. การเดินทางถ้ามาจากถ.สุขุมวิท ให้ตรงที่ซ.สุขุมวิท 49 ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆ จนมาถึงวิลล่ามาร์เก็ตจะเห็นร้าน Petite Pantryตั้งอยู่ติดกัน จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลฟัน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. มีที่จอดรถภายในร้าน ทางร้านรับจัดเลี้ยงและมีบริการ Delivery ด้วย โทร. 0-2662-4547

เคี้ยวมันๆ กับ “อโวคาโดผัดน้ำมันงา” / กุ๊กเล็ก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2552 14:21 น.

โดย : กุ๊กเล็ก


       เมื่อวันก่อนได้ไปเดินช้อปปิ้งกับเพื่อนสาว แล้วเผอิญเห็นผลอโวคาโดมันเตะตาเข้า ใจก็นึกอยากเคี้ยวเนื้อมันๆของเจ้าอโวคาโดนี้ เลยตัดสินใจซื้อมาสนองอารมณ์สักมื้อ เมื่อกลับมาบ้านก็จัดแจงตระเตรียมส่วนผสมอื่นให้พร้อมสรรพ เพื่อจะทำเมนู “อโวคาโดผัดน้ำมันงา” ให้หายอยาก
      
       
ส่วนผสม
       อโวคาโด 1 ผล
       พริกหวาน 1 ผล
       น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
       เกลือ 1/4 ช้อนชา
       น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
       ผักบุ้งจีน ตามชอบใจ
       น้ำต้มสุก เล็กน้อย
       

       ส่วนผสมครบมือแล้วก็ระเบิดความมันโดยการล้างผักให้สะอาด ปอกเปลือกอโวคาโดแล้วหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ จากนั้นเด็ดยอดอ่อนและใบของผักบุ้งจีน ฝานพริกหวานเป็นแว่นเรียงบนจานเพื่อความสวยงาม แล้วก็ผสมน้ำมันงา น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากันดี เรียบร้อยแล้วก็หันมาตั้งน้ำมัน นำอโวคาโดลงผัดพอหอม เติมน้ำต้มสุกเล็กน้อยแล้วผัดต่อจนอโวคาโดเหลืองสุก ใส่ผักบุ้งจีนลงผัดตามแล้วรีบปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่ผสมไว้ ผัดให้ทั่วจนผักสลดแล้วรีบยกขึ้นตักราดบนจานที่วางเรียงด้วยแว่นพริกหวานให้ สวยงามพร้อมเสิร์ฟได้เลย

เผ็ดร้อนสะใจ กับ "น้ำพริกนรกกุ้ง" / กุ๊กเล็ก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 เมษายน 2552 12:03 น.
 โดย : กุ๊กเล็ก


       พายุฤดูร้อนที่พัดผ่านบ้านเมืองของเราในช่วงที่ผ่านมานี้ช่วยลด อุณหภูมิความร้อนให้เบาบางลงไปได้บ้าง และหลังจากที่พายุผ่านพ้นไป คราวนี้แหละเราก็จะได้สัมผัสกับความร้อนที่แท้จริงของเดือนที่ร้อนที่สุดใน รอบปีอย่างเดือนเมษายนกันจริงๆจังๆแล้ว อย่ากระนั้นเลย “กุ๊กเล็ก” ขอเสนอเมนู “น้ำพริกนรกกุ้ง” เพิ่มความร้อนระอุกันให้สุดๆ ไปเลยดีกว่า
      
       
ส่วนผสม
      
       กุ้งแห้ง 1 ถ้วย
       พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
       หอมแดง 10 หัว
       กระเทียม 5 หัว
       กะปิเผา 2 ช้อนชา
       มะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
       

       มาเริ่มลงมือทำน้ำพริกนรกกุ้งกันเลยดีกว่า เริ่มนำพริกขี้หนูแห้งไปคั่วให้หอม ไม่ว่าใครจะกินเผ็ดมากหรือเผ็ดน้อย อยากได้นรกขุมไหนก็เพิ่ม-ลดจำนวนพริกได้ตามชอบ เสร็จแล้วนำพริกคั่วนั้นมาโขลกรวมกับกระเทียมและหอมแดงให้ละเอียด เพิ่มรสชาติให้น้ำพริกนรกด้วยกะปิเผาหอมๆ โขลกจนได้ที่แล้วก็เอากุ้งแห้งลงไปออกแรงโขลกต่อให้ละเอียดเข้ากันดี ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยมะขามเปียกและน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วลองชิมรสให้ถูกใจ
      
       จากนั้นหันไปตั้งกระทะให้ร้อน นำเอาส่วนผสมทั้งหมดที่เราโขลกเอาไว้ลงไปคั่วไฟอ่อนๆ จนน้ำพริกนรกนั้นแห้งดี ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กินกับผักสด หรือไข่ต้มไข่เจียว หรือจะกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆเพียงอย่างเดียว ก็อร่อยเหาะ และหากเก็บไว้ในภาชนะมีฝาปิดมิดชิดแช่ตู้เย็นไว้ก็เป็นเสบียงเก็บไว้กินได้ เป็นอาทิตย์ๆเลยล่ะ