homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim
ฮกเกี้ยน

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com


ขอความรู้เรื่องมณฑลฮก เกี้ยน และชาวจีนฮกเกี้ยนด้วยครับ และขอศาลเจ้าชาวฮกเกี้ยนด้วยครับ

Wirat

ตอบ Wirat

มณฑล ฮก เกี้ยนที่คนไทยเรียกกัน มีชื่อเป็นทาง การว่า มณฑลฝูเจี้ยน เป็นมณฑลชายฝั่งทะเลที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โดยชื่อ "ฝู เจี้ยน" มาจากอักษรนำหน้า ชื่อเมืองสองเมืองรวมกันคือ "ฝูโจว" และ "เจี้ยนโอว" ชื่อนี้ตั้งมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง เมืองสำคัญนอกจากเมืองหลวงคือเมืองฝูโจว ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำหมินเจียง ยังมีเมืองเซี่ย เหมิน เป็นเมืองใหญ่ที่สุด ถูกยกระดับเป็นเมืองใหญ่ตั้งแต่ พ.ศ.1930

ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของ สาธารณรัฐประชาชนจีน ภาษาราชการของฝูเจี้ยนจึงเป็นภาษาจีนกลาง แต่ฝูเจี้ยนก็มีภาษาถิ่นมากมาย เป็นภาษาในกลุ่มหมิ่นทั้งหมด

ประกอบ ด้วย 7 ภาษาท้องถิ่น คือ ภาษาหมิ่นเบ่ย หมิ่นตง หมิ่นจง หมิ่นหนาน ผู่เสี้ยน ส่าวเจี้ยง และภาษาฉุงเหวิน 6 ภาษาแรกใช้ในฝูเจี้ยน ส่วนภาษาฉุงเหวินใช้ในมณฑล ไห่หนาน

ทั้งนี้คนไทยมักจะเรียกภาษา หมิ่นหนานว่าภาษาจีนฮกเกี้ยน หรือภาษาแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นภาษาชนิดเดียวกันแต่ต่างสำเนียง ส่วนภาษาฉุง เหวินนั้นมักจะเรียกว่าภาษาไหหลำ



ปัจจุบัน เศรษฐกิจของมณฑลมีรายได้จากผลผลิตในภาคอุตสาห กรรมเบา เช่น กลุ่มอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง ทั้งเป็นศูนย์กลางการค้าเพื่อการส่งออกที่สำคัญ

สินค้านอกจากเครื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและชิ้นส่วน ยังมีเครื่องแต่งกายและรองเท้า ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่มีชื่อเสียง เช่น ส้มของฝูโจว ลำไยจากเมืองผู่เถียน ลิ้นจี่เมืองจางโจว ส้มโอเมืองเซี่ยเหมิน และพื้นที่แนวชายฝั่งของมณฑลยังเอื้อต่อการประมงและเลี้ยงสัตว์น้ำ

สมัย การอพยพครั้งใหญ่ในอดีต ชาวฮกเกี้ยนเป็นหนึ่งในกลุ่ม "ชาวจีนโพ้นทะเล" ล่องเรือจากแผ่นดินใหญ่สู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาถึงทุกวันนี้ เป็นประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต รวมถึงจังหวัดตรัง และปัตตานี และที่ปีนัง สิงคโปร์ กับมีสัดส่วนสูงในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

ในกลุ่มชาวฮกเกี้ยนยังแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย ตามถิ่นฐานเดิมและสำเนียงพูด ได้แก่

1.ชาว ฮกโล่ คือกลุ่มที่อพยพจากทางตอนใต้ของมณฑล เมืองเอกคือเอ้หมึง (เซี่ยเหมิน) พื้นที่ของเขตชาวฮกโล่คือตั้งแต่เมืองเอ้หมึงลงมาจนถึงเขตมณฑลกวางตุ้ง เป็นกลุ่มชาวจีนฮกเกี้ยนที่มีมากที่สุดในบรรดา 2 กลุ่ม สำเนียงพูดเป็นสำเนียงฮกเกี้ยนใต้ หรือหมิ่นหนาน (ฮกโล่ ยังเป็นคำที่ชาวไต้หวันเรียกแทนตัวเองด้วย)

2.ชาวฮกจิว หรือชาวฝูโจว คือกลุ่มที่อพยพมาจากทางตอนเหนือของมณฑล เมืองเอกคือเมืองฮกจิว (ฝูโจว) พื้นที่เขตของชาวฮกจิวคือตั้งแต่ตอนเหนือของมณฑลลงมาจนสิ้นสุดรอยต่อระหว่าง เมืองเอ้หมึง สำเนียงการพูดเป็นสำเนียงฮกเกี้ยนเหนือ ซึ่งไม่ เหมือนกับฮกเกี้ยนใต้เลย

ชาวฮกเกี้ยน เป็นกลุ่มชาวฮั่นกลุ่มแรกๆ ที่อพยพออกมาจากพื้นแผ่นดินใหญ่ไปตามประเทศต่างๆ เนื่องจากเป็นมณฑลที่อยู่ติดทะเลจึงออกจากประเทศได้ง่าย

สำหรับ ประเทศไทย คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นผู้มีฐานะมาทำการค้า แต่ช่วงสมัยกรุงรัตน โกสินทร์ มาแบบเสื่อผืนหมอนใบ ส่วนใหญ่ใช้แรงงานแลกค่าจ้าง ซึ่งสมัยนั้นเรียกว่า กุลี

ฮกเกี้ยน หนักเอาเบาสู้ตามคติต้องสู้ถึงจะชนะ ที่ปลูกฝังกันมายาวนาน การลงหลักปักฐานที่ภูเก็ตของชาวฮกเกี้ยน ก็เริ่มจากเป็นกุลีเหมืองแร่ และเพราะสู้จึงชนะ สร้างเนื้อสร้างตัวจนเป็นคหบดี นอกจากนั้นชาวฮกเกี้ยนยังมีอาชีพประมงและเดินเรือ ด้วยความรู้ทางทะเลเชี่ยวชำนาญจากถิ่นเดิมริมทะเลจีนใต้

ศาสนสถาน สำคัญของชาวฮกเกี้ยนในประเทศไทย อาทิ ศาลเจ้าโจ้วสู่กง-ตลาดน้อย กรุงเทพมหานคร ศาลเจ้าเที้ยนอันเก้ง-ธนบุรี กทม. ศาลเจ้าเซียงกง-กทม. ศาลเจ้าปุดจ้อ-ภูเก็ต ศาลเจ้าเต่งก้องต๋อง-ภูเก็ต ศาลเจ้าซัมเที้ยนเฮ๋วกึ่ง-ภูเก็ต ศาลเจ้าทีก้งตั๋ว-ภูเก็ต ศาลเจ้าเส่งเต็กเบ๋ว-ภูเก็ต ศาลเจ้าไล๋ทู่เต้าโบ้เก้ง-ภูเก็ต ศาลเจ้าลิ้มกอเหนี่ยว-ปัตตานี

รถเข็นช็อปปิ้ง

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com


ถึงน้าชาติ เวลาซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตทีไร ใช้รถเข็นทุกครั้งเพราะสะดวกดี จึงสงสัยถึงที่มา น้าช่วยตอบหน่อยนะคะ

จาก Shopaholic Lady

ตอบ Shopaholic Lady

คนทั่วโลกใช้รถเข็นช็อปปิ้งเป็นส่วนหนึ่งในการจับจ่ายซื้อของไปแล้ว แม้แต่เจ้าหญิงเคต ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ หลังจากเสกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม ก็ทรงใช้รถเข็นช็อปปิ้งใส่สิ่งของที่พระองค์ซื้อและทรงเข็นรถเข็นด้วย พระองค์เองเหมือนสมัยยังเป็นสามัญชน

เว็บไซต์ www.designboom. com บอกที่มาของรถเข็นช็อปปิ้งว่าถือกำเนิดในดินแดนสหรัฐอเมริกา โดย นายซิลแวน โกลด์แมน เจ้าของร้านค้าของชำชื่อ "พิกกี้-วิกลี่" ในรัฐโอกลาโฮมา คิดหาทางออกว่าจะทำอย่างไรให้คนที่มาซื้อของสามารถหอบข้าวของได้มากกว่าเดิม เพราะทันทีที่ลูกค้าหยิบของใส่จนเต็มตะกร้าแล้วก็ตรงดิ่งไปจ่ายเงิน จึงปิ๊งไอเดียจากเก้าอี้พับได้ เพียงใส่ตะกร้าไปตรงที่นั่งและมีมือจับแทนพนักเก้าอี้ ก็ได้นวัตกรรมนี้ขึ้นมา

โกลด์แมนยังต่อเติมล้อให้เคลื่อนที่ได้ด้วย ถือเป็นรถเข็นช็อปปิ้งแบบแรกของโลก จากนั้นโกลด์แมนจึงตั้ง บริษัท โฟลดิ้ง บาสเก็ต แคร์ริเออร์ จำกัด ในปี 2490 เพื่อผลิตและขายรถเข็นดังกล่าว

แต่ปรากฏว่ารถเข็นของโกลด์แมนไม่โดนใจนักช็อปเลย พวกผู้ชายเห็นว่าเขามีกล้ามเป็นมัดๆ ที่จะหิ้วของได้ ส่วนผู้หญิงก็เบื่อกับการเข็นรถเข็นเด็กมาทั้งวัน โกลด์แมนจึงผ่าทางตันด้วยการทำโปสเตอร์โฆษณาขึ้นมา เป็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่เหนื่อยล้าจากการถือของพะรุงพะรังในแขนข้างหนึ่ง ส่วนแขนอีกข้างถือกระเป๋าเงิน พร้อมข้อความว่า "ไม่ต้องทำแบบนี้อีกแล้วที่ร้านค้าที่ได้มาตรฐาน" โดยไม่มีรูปภาพรถเข็นในโปสเตอร์เลย แต่โกลด์แมนมีกลยุทธ์เด็ดโดยว่าจ้างนายแบบและนางแบบเข็นรถเข็นช็อปปิ้งเป็น ตัวอย่างให้นักช็อปเห็นถึงศักยภาพของรถเข็น ปรากฏว่าคราวนี้คนที่มาซื้อของลองใช้นวัตกรรมนี้กันยกใหญ่ ส่งผลให้นายโกลด์แมนกลายเป็นมหาเศรษฐี

ในปีเดียวกับที่รถเข็นช็อป ปิ้งถือกำเนิดนั้น ออร์ลา อี. วัตสัน อยู่ที่รัฐมิซซูรี พัฒนารถเข็นแบบดั้งเดิมให้เป็นรถเข็นที่มีตะกร้าสองชั้นเพื่อเพิ่มความจุใน การใส่สินค้า และออกแบบให้รถเข็นสามารถเสียบซ้อนคันกันได้ เนื่องจากแผ่นด้านหลังของตะกร้าทั้งสองใบจะพับและยกขึ้นได้เมื่อมีรถเข็นอีก คันมาเสียบด้านหลัง

รถเข็นช็อปปิ้งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีหน้าตาเหมือนรถเข็นในห้าง ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ได้รับการออกแบบในช่วง "เบบี้ บูม" หลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งประชากรในสหรัฐเพิ่มจำนวนสูงมาก รถเข็นช็อปปิ้งจึงเพิ่มที่นั่งสำหรับเด็กไว้ด้วย พร้อมเพิ่มสีสันมือจับรถเข็นให้สวยงามน่าใช้

ต่อมา เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน รถเข็นพัฒนาไปอีกขั้นโดยใช้ล้อที่ทำด้วยยางชนิดใหม่ซึ่งไม่ทำให้เกิดรอยเวลา เคลื่อนที่เหมือนรถเข็นรุ่นเก่า ขณะเดียวกันประตูบานเลื่อนอัตโนมัติก็เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7510 ข่าวสดรายวัน


ตรวจสอบอัญมณี


คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com



น้าชาติ ขอทราบหลักเกณฑ์ หรือเทคนิคตรวจสอบเพชรพลอย หรืออัญมณีต่างๆ ว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง

Ming

ตอบ Ming

เอกสารของสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อธิบายถึงเทคนิควิธีการตรวจสอบอัญมณี ว่า ในปัจจุบันอัญมณีมีทั้งที่เป็นของแท้จากธรรมชาติและทำเทียมเลียนแบบธรรมชาติ ซึ่งการทำเทียมนั้นสามารถทำได้เหมือนของธรรมชาติเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากเป็นผู้ที่ไม่เคยศึกษาและมีประสบการณ์ด้านอัญมณีมาโดยตรงอาจไม่สามารถดู รู้ได้เลยว่าอัญมณีชิ้นนั้นเป็นของแท้หรือของเทียม อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบอัญมณีว่าเป็นของแท้หรือของเทียมก็สามารถตรวจสอบได้ แต่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือในการช่วยตรวจสอบ ยิ่งเมื่อบวกกับประสบการณ์ด้านอัญมณีก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่าการตรวจสอบนั้นได้ ผลถูกต้องและชัดเจน

การตรวจสอบอัญมณีทำได้ดังนี้ 1.การตรวจสอบด้วยตาเปล่า แว่นขยาย หรือกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายต่ำ 10-30 เท่า ดูจากลักษณะของสี ความโปร่งแสง การเจียระไน ความวาว รอยตำหนิ การแตกและการประกบอัญมณี 2.การตรวจสอบด้วยกล้องจุล ทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูง 30-200 เท่า เป็นการตรวจสอบวิเคราะห์จำแนกลักษณะชนิดมลทินภายในต่างๆ ของอัญมณี เช่น เป็นอัญมณีสังเคราะห์ อัญมณีเทียม อัญมณีเลียนแบบ อัญมณีธรรมชาติ หรืออัญมณีที่ยังไม่ได้มีการปรับคุณภาพ เป็นต้น

3.การ ตรวจสอบโดยการหาค่าดัชนีหักเหของแสง โดยใช้เครื่องรีแฟรกโตมิเตอร์ ที่ตรวจสอบได้ทั้งอัญมณีที่มีผิวมันราบเรียบและผิวโค้ง โดยจะสามารถหาค่าดัชนีหักเหของแสงในอัญมณีชนิดต่างๆ ค่าที่ได้อาจจะเป็นหนึ่งค่า หรือสองค่า หรือสามค่า หรือเป็นอัญมณีแท้ 4.การตรวจสอบโดยหาลักษณะทางเดินของแสงในผลึก โดยการใช้เครื่องโพลาไรสโคป ซึ่งสามารถหาลักษณะทางเดินของแสงในอัญมณีชนิดนั้นๆ ได้ ผลที่ได้ออกมาจะได้ค่าของสีแฝดที่มีอยู่ในอัญมณี

ยังมีการตรวจสอบ เพิ่มเติมอื่นๆ คือ การตรวจด้วยเครื่องสเปก โตรสโคป เป็นการตรวจสอบการดูดกลืนแสงหรือการเปล่งแสงในช่วงความยาวคลื่นแสงที่สามารถ รับได้ด้วยตาเปล่า เพื่อให้ทราบถึงธาตุที่ทำให้เกิดสีในอัญมณี หรือการย้อมสี, การใช้เครื่องชั่ง หรือการใช้น้ำยาละลายหนัก เพื่อหาค่าความถ่วงจำเพาะของอัญมณีชนิดนั้นๆ, การใช้แสงอัลตราไวโอเลต ตรวจสอบได้จากดูการเรืองแสงของอัญมณีชนิดนั้นๆ เช่น เป็นการเรืองแสงตามธรรมชาติ หรือเป็นการเรืองแสงเพราะการย้อมสี, การตรวจโดยใช้แว่นกรองแสง ช่วยตรวจสอบว่าเป็นอัญมณีสังเคราะห์ หรือเป็นอัญมณีที่ผ่านการย้อมสี และการใช้เครื่องวัดการนำความร้อนเพื่อตรวจและแยกเพชรว่าเป็นเพชรแท้หรือ เพชรเทียม

ปัจจุบันมีการใช้มาตรฐานด้านต่างๆ มาเป็นเครื่องวัดคุณภาพอัญมณี ไม่ว่าจะเป็นเพชร โลหะทองคำ เป็นต้น แต่สำหรับพลอยยังไม่มีมาตรฐานที่เป็นข้อกำหนดบังคับใช้ที่แน่นอน แต่ผู้ซื้อก็มีวิธีที่อาจใช้เป็นมาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพได้ เช่น ลักษณะการกำเนิดของพลอยตามธรรมชาติ ประวัติการปรับปรุงคุณภาพ เป็นต้น

กรณี ที่ผู้ซื้อต้องการซื้อพลอยร่วง (พลอยเม็ดที่ยังมิได้ประกอบเข้าตัวเรือน) หรือพลอยที่ประกอบตัวเรือนแล้ว ถ้าเป็นการซื้อกับผู้ขายที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผู้ซื้อควรนำพลอยเม็ดนั้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบดูเสียก่อน โดยเฉพาะพลอยเม็ดใหญ่ๆ หรือที่มีราคาสูง หลังจากตรวจสอบและได้ผลสรุปเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเป็นพลอยแท้ ผู้ตรวจสอบจะให้หลักฐานเป็นหนังสือใบรับรองการตรวจสอบ (Certificate) หากเป็นการซื้อจากผู้ขายอัญมณีโดยตรง ผู้ซื้อควรให้ทางร้านออกใบรับรองให้ว่าพลอยที่ซื้อนั้นเป็นพลอยแท้ชนิดใด น้ำหนักเท่าใด รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเวลาที่มีปัญหาจะได้มีหลักฐานยืนยันและนำกลับไปคืนที่ร้านได้

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7509 ข่าวสดรายวัน


รถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย


รู้ไปโม้ด
nachart@yahoo.com


อยากรู้เรื่อง รถไฟสายทรานส์ไซบีเรียครับน้า ขอประวัติด้วย

มาลีฮวนน่า

ตอบ มาลีฯ


เจ้า ของสถิติทางรถไฟสายยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทาง 9,288 กิโลเมตร ทรานส์ไซบีเรีย (Trans-Siberian) หรือเรียกกันว่า ทรานส์ซิบ (Transsib) เป็นเครือข่ายรถไฟที่เชื่อมโยงกรุงมอสโก กับดินแดนตะวันออกอันห่างไกลของรัสเซีย รวมถึงมองโกเลีย จีน และทะเลญี่ปุ่น เข้าด้วยกัน สรุปคือเชื่อมรัสเซียฝั่งตะวันตกกับฝั่งตะวันออกนั่นเอง

ย้อน ไปช่วงศตวรรษ 19 สมัยที่ไซบีเรีย ดินแดนตะวันออก ของรัสเซียยังเป็นพื้นที่ไกลลิบที่ไม่ได้รับการสำรวจ และไม่มีการอยู่อาศัยของประชาชนสักเท่าไรนัก ก่อนที่ความหนาวเย็นและสภาพกันดารทำให้มันถูกใช้เป็นคุกคุมขังนักโทษที่ รัฐบาลส่งมาจากฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะนักโทษการเมือง กระทั่งช่วงปลายศตวรรษที่การค้าขายในย่านเอเชียตะวันออกเติบโตกว้างขวาง ถนนเศรษฐกิจจากยุโรปและอเมริกามุ่งตรงสู่ที่นี่ การเปลี่ยน แปลงครั้งสำคัญของไซบีเรียจึงเกิดขึ้น



ยาม นั้นเมืองหลวงของรัสเซียยังเป็นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่อยู่ห่างจากไซบีเรียขนาดไม่ว่าจะควบม้าเร็ว นั่งเลื่อน หรือขี่ม้าตามถนนดิน ต้องใช้เวลา 1 ปีขึ้นไปหากจะเข้าเมืองหลวง นั่นทำให้ดินแดนนั้นเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 จึงบัญชาให้สร้างทางรถไฟขึ้น เชื่อมเมืองท่าวลาดิวอสต�อก ริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น กับนครมอสโก และกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทรงให้ ซาเรวิช นิโคไล อเล็กซานโดรวิช (ต่อมาคือพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2) วางศิลาฤกษ์ที่วลาดิวอสต�อก เมื่อเวลา 10 นาฬิกา วันที่ 19 พฤษภา คม ค.ศ. 1891 บางเอกสารระบุว่า ทางรถไฟสายนี้สร้างตามแนวคิดริเริ่มของ เซอร์เกย์ วิตเต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขณะนั้น

เงินก่อสร้างกู้มาจากฝรั่งเศส ระดมนักโทษ ทหาร ชาวไร่ชาวนา คนงานรถไฟ มาเป็นแรงงาน ผลัดเปลี่ยนกันหลายชุด นับรวมๆ เป็นหลายแสนคน สร้างแล้วเสร็จในปี 1905 ความสำเร็จของเส้นทางสายนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ของรัสเซีย ด้วยเป็นการ เปิดเส้นทาง การพัฒนาและความก้าวหน้าสู่ไซบีเรีย อันเป็นเขตสหพันธ์อันห่างไกล

เส้นทางดั้งเดิมของทรานส์ไซบีเรียเริ่ม ต้นที่เมืองเชลยาบินสก์ วิ่งไปทางตะวันออกสู่เมืองออมส์, นอวอซิบิร์สก์ คราสนอยาสก์ อีร์คุตสก์และชีตา ข้ามไปแมนจูเรีย และวกกลับเข้ามารัสเซีย ก่อนสิ้นสุดที่ วลาดิวอสต�อก แต่ปัจจุบันจุดเริ่มต้นของทรานส์ไซ บีเรียอยู่ที่สถานียารอสลาฟสกีในมอสโก ส่วนสถานีสุดท้ายยังอยู่ที่วลาดิ วอสต�อก โดยแบ่งออกเป็น 4 เส้นทางดังนี้ 1.สายทรานส์ไซบีเรีย จากมอสโกถึงวลาดิวอสต�อก ผ่านทางใต้ของไซบีเรีย เส้นทางนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1891-1916 และเชื่อมโยงกับเส้นทางสายหลักอื่นๆ ในรัสเซียที่เชื่อมกับ 2 เมืองนี้ด้วย เส้นทางสายนี้มีระยะทาง 9,258 กิโลเมตร ผ่าน 8 เขตเวลาโลกที่แตกต่างกัน ใช้เวลาเดินทาง 7 วัน

2.สายทรานส์แมนจูเรีย (Trans-Manchurian) มาบรรจบกับสายทรานส์ไซบีเรียที่เมืองตาร์สกายา ซึ่งห่างจากทะเล สาบไบคาลไปทางตะวันออกประมาณ 1,000 กิโลเมตร จากตาร์สกายา ทรานส์แมนจูเรียนมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้สู่จีนแล้ววิ่งลงไปยังกรุง ปักกิ่ง ประเทศจีน 3.สายทรานส์มองโกเลีย (Trans-Mongolian) มาบรรจบ กับสายทรานส์ไซบีเรียนที่เมืองอูลันอูเด บนฝั่งตะวันออกของทะเล สาบไบคาล จากนั้นมุ่งลงไปทางใต้สู่เมืองอูลานบาตาร์ ก่อนวิ่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่ง

และเส้นทางสายที่ 4 ซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ในค.ศ.1991 หลังจากการก่อสร้างแบบเป็นระยะต่อเนื่องนานถึง 5 ทศวรรษ เป็นเส้นทางวิ่งขึ้นต่อไปทางเหนือ รู้จักกันในชื่อ ไบคาล อามูร์ เมนไลน์ เป็นการขยายเส้นทางของเส้นทางทรานส์ไซบีเรียไปทางตะวันตกของทะเล สาบไบคาลอีกหลายร้อยไมล์ โดยผ่านทะเลสาบนี้ไปถึงขอบด้านเหนือสุดของทะเลสาบ และไปสู่แปซิฟิก ถึงทางเหนือของเมืองคอบา รอฟส�ก, ที่โซเวตสกายากาวาน เส้นทางนี้นำไปสู่พื้นที่ทางเหนืออันสวยงามของทะเลสาบไบคาล

100 ปีลูกเสือไทย

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com


ถึง น้าชาติ

วัน ที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมาเป็น วันลูกเสือแห่งชาติ และทราบว่าปีนี้ครบรอบ 100 ปีลูกเสือไทย จึงอยากรู้ที่มาของลูกเสือโลกและลูกเสือไทยครับ

จาก สิงห์น้อย

ตอบ สิงห์น้อย

เว็บไซต์ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ บอกที่มาของลูกเสือสากลว่า พล.ท. โรเบิร์ต เบเดน โพเอลล์ (Robert Baden-Powell) ตั้งกองลูกเสือขึ้นมาครั้งแรกเมื่อพ.ศ.2451 หลังจากไปรับราชการทหารที่เมืองแมฟิคิงซึ่ง เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษในสหภาพแอฟริกาใต้ ขณะนั้นเกิดสงครามขึ้นกับพวกบัวร์ ในการทำศึกครั้งนั้น พล.ท.โพเอลล์ ฝึกเด็กจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยราชการสงคราม เช่น เป็นผู้สื่อข่าว สอดแนม รักษาความสงบเรียบร้อยภายใน รับใช้ในการงานต่างๆ เช่น ทำครัว ปรากฏว่าได้ผลดีมาก เพราะเด็กที่ได้รับการฝึกเหล่านั้นปฏิบัติหน้าที่ที่รับมอบหมายได้อย่างเข้ม แข็งว่องไว ได้ผลดีไม่แพ้ผู้ใหญ่ และบางอย่างกลับทำได้ดีกว่าผู้ใหญ่เสียอีก

เมื่อ กลับจากราช การสงครามเมืองแมฟิคิงแล้ว พล.ท.โพเอลล์ได้ร่างโครงการอบรมเด็กขึ้น มีหลักการคล้าย ลูกเสือในปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ.2450 จึงทดลองตั้ง Boy Scout (ลูกเสือ) ขึ้นเป็นกองแรกที่เกาะบราวน์ซี โดยเกลี้ยกล่อมเด็กที่เที่ยวเตร่อยู่ในที่ต่างๆ มาอบรมแล้วคอยคุมการฝึกตามโครงการด้วยตนเอง

กระทั่งพ.ศ.2455 รัฐบาลอังกฤษประกาศรับรองฐานะของลูกเสืออังกฤษเป็นทางการพร้อมออกกฎหมายคุ้มครองให้ด้วย

ต่อ มา พ.ศ.2472 พระเจ้าจอร์จ ที่ 5 พระราชทานบรรดาศักดิ์ "บารอน" ให้ พล.ท.โพเอลล์ ทำให้ได้เป็นสมาชิกสภาขุนนาง ตามประเพณีของอังกฤษผู้ที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ตั้งแต่บารอนขึ้นไป จะต้องมีชื่อสถานที่ต่อท้าย ซึ่ง พล.ท.โพเอลล์ เลือกเอา กิลเวลล์ (Gil Well Park) ชื่อของศูนย์ฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือนานาชาติ ทำให้เขาได้ชื่อตามบรรดาศักดิ์ว่า "บารอน เบเดน โพเอลล์ แห่ง กิลเวลล์" แต่คนทั่วไปมักนิยมเรียก ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ ในการชุมนุมลูกเสือครั้งแรกของโลกในปีพ.ศ.2463 ที่ประชุมผู้แทนลูกเสือจากประเทศต่างๆ ประกาศให้ ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ เป็นประมุขของลูกเสือ และเรียกท่านลอร์ดอย่างย่อๆ ว่า บีพี

คติพจน์ที่ท่านลอร์ด บาเดน โพเอลล์ ให้ไว้แก่ลูกเสือก็คือ BE PREPARED (จงเตรียมพร้อม)

สำหรับ ลูกเสือไทย ถือกำเนิดโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะมีพระชนมายุได้ 13 พรรษา เสด็จไปทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษ และทรงทราบเรื่อง ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ ตั้งกองลูกเสือขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก เมื่อพระองค์เสด็จนิวัติสู่ประเทศไทย จึงทรงจัดตั้งกองเสือป่า (Wild Tiger Corps) ขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2454 เพื่อฝึกหัดให้ข้าราชการและพลเรือนเรียนรู้วิชาทหาร รู้จักระเบียบวินัย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จากนั้นอีก 2 เดือน พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทยขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2454 ซึ่งปีนี้ครบรอบ 100 ปี ลูกเสือไทย เมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา

พระองค์ ทรงตั้งกองลูกเสือกองแรกขึ้นที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง (โรงเรียนวชิราวุธราชวิทยาลัย ในปัจจุบัน) และจัดตั้งกองลูกเสือตามโรงเรียนต่างๆ รวมทั้งพระราชทานคำขวัญให้ลูกเสือว่า "เสียชีพ อย่าเสียสัตย์"

ทั่วโลกแบ่งประเภทลูกเสือเป็นแบบอังกฤษและ แบบอเมริกันซึ่งแตกต่างจากแบบอังกฤษเล็กน้อย ไทยยึดถือตามแบบอังกฤษ คือ ลูกเสือสำรอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ และลูกเสือวิสามัญ ในการกล่าวถึงลูกเสือนี้ให้รวมถึงเนตรนารีไว้ด้วย และในปัจจุบัน โรงเรียนอนุบาลหลายแห่งมีหลักสูตร "ลูกเสือบีเวอร์" สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักระเบียบวินัย